ห้องรับแขกของตระกูลอัศวาวิชัยแน่นขนัดไปด้วยคนจำนวนมาก บรรดาเจ้านายทั้งหลายต่างนั่งประจำที่อยู่บนโซฟา เริ่มจาก อัคชัย เจ้าของบ้าน ที่นั่งอยู่ตรงกลางขนาบข้างด้วยลูกสาวและภรรยาที่นั่งอยู่ทางด้านซ้ายและขวา ส่วนโจกท์และจำเลย ทั้งสองคนนั่งอยู่บนโซฟาเล็กที่หันหน้าเข้าหากัน ฟ้าครามนั่งไขว่ห้างด้วยท่าสบายๆ ในขณะที่จันทร์เจ้าเอยนั่งตัวลีบเล็กจนแทบจะมุดเข้าไปอยู่ในโซฟา
คนสวนและสาวใช้ค่อยๆทยอยกันเข้ามานั่งบนพื้นพรมหน้าโซฟาตัวใหญ่เพื่อรอดูละครฟอร์มยักษ์ที่ฉายมายาวนานนับ 10 ปี
" มันเกิดอะไรกันขึ้น ทำไมน้องถึงต้องร้องให้ช่วยด้วยฮึตาคราม " เจ้าของบ้านเปิดประเด็นขึ้นเมื่อมากันครบแล้ว
" พ่อก็ถามลูกสาวตัวดีของพ่อสิ อยู่ๆก็จะเอาไม้มาตีผม ดีนะที่ไหวตัวทันก่อน " ฟ้าครามโบ้ยความผิดให้หญิงสาวร่างเล็กที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
" ตกลงแล้วเกิดอะไรขึ้นหรอน้องเอย บอกลุงได้ไหม " อัคชัยเปลี่ยนน้ำเสียงให้นุ่มนวลขึ้นเมื่อหันไปทางหญิงสาว
แหมมม ทีนี้นะเสียงอ่อนขึ้นมาเชียว
ฟ้าครามค่อนแคะในใจ
" เอยไม่ทราบว่าพี่ฟ้าครามกลับมาแล้ว พอเห็นมีคนมาด้อมๆมองๆอยู่ในสวนก็เลยคิดว่าเป็นโจรค่ะ " หญิงสาวอธิบายเหตุผลออกไป
" ก็เลยหยิบไม้จะเอามาฟาดหัวฉันงั้นสิ " ชายหนุ่มพูดต่อให้ด้วยน้ำเสียงกระแทกแดกดัน
" แต่เอยก็ไม่ได้ตีพี่นะคะ " ร่างบางรีบแก้ต่างให้ตัวเองทันที
" แต่เธอก็กระทืบเท้าฉัน ดูซิเนี้ย มันยังเจ็บอยู่เลย " ร่างสูงยกเท้าขึ้นมาในระดับใบหน้าหญิงสาว
" ตาคราม...เอาเท้าลง " ผู้เป็นพ่อดุเข้าให้ ทำให้ชายหนุ่มจิ๊ปากอย่างขัดใจ
" แต่พี่ฟ้าครามก็... " หญิงสาวกำลังจะเถียงต่อแต่พอเห็นหน้าทุกคนที่กำลังรอฟังอยู่ ก็รู้สึกกระดากอายขึ้นมา จนต้องกลืนคำพูดเหล่านั้นลงท้อง
" ฉันทำไม " พอเห็นว่าหญิงสาวอายเกินกว่าที่จะพูดชายหนุ่มก็ได้ใจ เดาะลิ้นยักคิ้วอย่างกวนประสาททันที
" ก็... " จันทร์เจ้าเอยอ้ำอึ้ง เธออยากจะพูดนะ แต่เรื่องแบบนี้ใครเขาจะเอามาพูดให้คนอื่นฟังได้ล่ะ เธอก็อายเป็นเหมือนกันนะ
" เอ้า...ถ้าไม่พูดคนอื่นก็ไม่รู้หรอกนะว่าฉันทำอะไรเธอ " ฟ้าครามยกมือขึ้นกอดอกอย่างคนที่มีชัยเหนือกว่า
เขารู้ดีว่าผู้หญิงหน้าบางอย่างจันทร์เจ้าเอยไม่กล้าเอาเรื่องแบบนี้ขึ้นมาพูดให้ตัวเองอายได้หรอก
" ตาครามทำอะไรหนู บอกลุงมาได้เลย เดี๋ยวลุงจัดการให้ "
" เอ่ออ... " หญิงสาวทราบดีว่าคุณลุงรักเธอเหมือนลูกคนหนึ่ง ตลอดเวลาที่ผ่านมาทั้งคุณลุง คุณป้า พี่ฟ้าพราวก็รักและเอ็นดูเธอเหมือนคนในครอบครัวมาโดยตลอด ถ้าเขารู้ว่าฟ้าครามทำอะไรเธอก็คงทวงความยุติธรรมให้แน่ๆ
แต่เรื่องแบบนี้ไม่ว่ายังไงเธอก็พูดไม่ได้จริงๆ
" โอ้ยยย อ้ำอึ้งอยู่ได้ ก็บอกไปสิว่าฉันจับนมเธอ แค่นี้ไม่กล้ารึไง " ฟ้าครามหมดความอดทนเลยพูดออกมาให้แทน
" พี่ฟ้าคราม! " ใบหน้าหญิงสาวแดงเถือกไปด้วยความอับอาย เธอลุกขึ้นยืนแล้วเดินหนีไปทันทีที่คนอื่นมองมา หญิงสาวรีบวิ่งหนีเข้าห้องไป ในจังหวะนั้นก็ได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจดังตามมาทีหลัง
" ฮ่าฮ่าฮ่า "
ป้าบ!
มือใหญ่ฟาดลงบนหัวของลูกชายคนโตอย่างแรง อัคชัยมองหน้าลูกอย่างโมโห
" โอ้ย! พ่อ..ผมเจ็บนะ " ชายหนุ่มลูบหัวตัวเองปรอยๆ
" นี่แกไปทำลามกกับน้องหรอฮะไอ้คราม! " เขายืนชี้หน้าชายหนุ่มอย่างเหลืออด
อุตส่าห์ส่งไปเรียนต่อเมืองนอกเมืองนามาตั้ง 10 ปี กลับมาแทนที่จะดูเป็นผู้ใหญ่ เป็นที่พึ่งของน้องๆได้ แต่นี่อะไร ยังมีนิสัยเหมือนเด็กๆ ชอบแกล้งคนอื่นอยู่เหมือนเดิม
" มันมืด ผมไม่ได้ตั้งใจจับซักหน่อย ทำอย่างกับผมอยากจับลูกสาวคนโปรดของพ่อตายแหละ สวยก็ไม่สวย ผอมก็ผอม คนที่ชอบคงเป็นคนตาบอดล่ะมั้ง "
" โหห นี่ขนาดดาวมหาลัยพี่ยังบอกว่าไม่สวย คนที่จะสวยในสายตาพี่ต้องเป็นนางฟ้าหรอคะ " น้องสาวอดไม่ได้ที่จะแขวะพี่ชายสักที
จันทร์เจ้าเอยนับว่าเป็นดาวในหมู่ดาวอีกที เธอมีใบหน้าที่สวยจิ้มลิ้ม เครื่องหน้าทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นตา จมูก ปาก เหมาะเจาะเข้ากันดีไปหมด แถมยังมีดวงตาที่โดดเด่นและมีเสน่ห์ ทำให้หนุ่มๆในมหาวิทยาลัยต่อคิวเข้ามาจีบจนหัวกระไดบ้านไม่แห้ง
" ยัยนี่น่ะหรอดาวมหาลัย คัดเลือกจากอันดับท้ายหรอ "
" จ้าาา แซวไปเถอะ เดี๋ยวจะคอยดูว่าแฟนพี่มันจะสวยเหมือนนางฟ้านางสวรรค์สักแค่ไหนกันเชียว " ฟ้าพราวพูดอย่างหมั่นไส้
" เราน่ะตาคราม อย่าลืมไปขอโทษน้องเค้าด้วยล่ะ " มารดาเอ่ยเตือน
" ทำไมผมต้องไปขอโทษด้วยล่ะครับแม่ ผมไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย " ร่างสูงหันไปออดอ้อนมารดา เพราะรู้ดีว่ายังไงแม่ก็ต้องตามใจเขาอยู่ดี
" ไม่ได้ตั้งใจก็ไปขอโทษสักนิดก็ยังดี อยู่บ้านเดียวกันจะทะเลาะกันไปทำไม "
" ก็ได้ครับถ้าผมว่างอ่ะนะ แต่ตอนนี้ผมต้องเตรียมตัวไปบริษัทล่ะ รักแม่นะครับ "
ร่างสูงยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มมารดาเพื่อเอาอกเอาใจเธอ ก่อนจะขอตัวไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปทำงาน
" ตาครามนี่ถ้าปล่อยให้ดูแลน้องๆจะไหวไหมเนี้ย " อัคชัยมองตามลูกชายคนโตอย่างหนักใจ
" รอให้ตาครามโตกว่านี้อีกหน่อย ก็คงจะรู้เรื่องมากขึ้นล่ะมั้งคะ "
" แต่นี่มันจะ 30 แล้วนะ ไม่ใช่ 13 "
" เอาเถอะค่ะคุณ ดูๆกันไปก่อน ถ้าไม่ได้จริงๆก็หาใครสักคนมาดูแลสองสาวก็พอแล้ว ลูกชายเพื่อนคุณก็ออกจะเยอะแยะนี่คะ "
" ก็คงต้องทำแบบนั้นแหละ "