บทที่1 ทำไมถึงเป็นคุณ

1995 Words
บทที่1 ทำไมถึงเป็นคุณ “นี่คุณ” เนตรนลินกวาดสายตามองใบหน้าของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีทางพฤตินัยด้วยความสับสนไม่เข้าใจ “ทำไมถึงเป็นคุณ” “ถ้าไม่ใช่ฉัน คนที่นอนอยู่ข้าง ๆ เธอตอนนี้คงเป็นไอ้เดนสังคมหรือไม่ก็ไอ้แมงดาขี้ยาไปแล้ว” คนที่สร้างความตกใจให้แก่เนตรนลินเอ่ยบอกก่อนที่จะยื่นเช็คใบนั้นให้ “เอาไปบริจาคแล้วกรวดน้ำคว่ำขันกันไปเลย แล้วต่อไปพวกเขาจะไม่มีสิทธิ์มาเกี่ยวข้องกับเธออีก จะพินาศย่อยยับยังไงก็ไม่เกี่ยวกับเธอ จำไว้” “นี่มัน โอ๊ย นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย นี่มันคราวซวยอะไรของฉันเนี่ย อยู่ ๆ ก็ถูกแม่เลี้ยงกับน้องวางแผนจ้างคนมามอมยา เช้ามาคุณย่าก็ตัดขาด คู่หมั้นก็ถอนหมั้น แล้วคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ ยังเป็นเจ้าพ่อมาเฟียอีก บ้าไปแล้ว” “ก็ดีแล้วนิเธอจะได้หมดเวรหมดกรรมจากบ้านนั้นสักที” ชายหนุ่มเอ่ยบอกก่อนที่จะล้มตัวลงนอนอีกครั้งไม่ใส่ใจกับเช็คที่หญิงสาวไม่รับไป “แล้วฉันจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ ห้องนี่คุณย่าก็ซื้อให้ เดี๋ยวท่านก็คงให้คนมาไล่ฉันออก” คนถูกตัดขาดเอ่ยด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ณ ตอนนี้เธองุนงงไปหมดแล้ว ชีวิตเธอเจออะไรอยู่ ถูกคนมอมยาปลุกเซ็กส์ เช้าวันถัดมาก็ถูกคุณย่าตัดขาด คู่หมั้นถอนหมั้น แล้วหันไปดูดี ๆ อีกทีไอ้คนที่นอนข้าง ๆ ดันไม่ใช่คนที่มอมยาเธอแต่เป็นเจ้าพ่อมาเฟียเชื้อสายไทยที่มีทั้งบาร์ ไนน์คลับ และคาสิโนที่ทำกำไลมหาศาลในลาสเวกัส รวยเข้าขั้นเจ้าพ่อมาเฟียมหาเศรษฐีแห่งเมืองคนบาป ชีวิตเธอเจอเรื่องอะไรอยู่เนี่ย “ก็ไปอยู่บ้านฉันไง ถึงยังไงเธอก็ได้ฉันเป็นผัวแล้ว” เจ้าพ่อมาเฟียเจ้าของคาสิโนแห่งใหญ่ในเมืองคนบาปอย่างปฐพี คีรีราชโภคิน หรือ ดิน เอ่ยบอกแล้วก็รวบร่างบางมานอนลงข้าง ๆ “นอนซะ อย่าเพิ่งคิดอะไรมาก ตื่นมาอีกทีค่อยคุยกัน ตอนนี้ฉันง่วง และฉันเพิ่งจะได้นอนไปเมื่อตอนตี4นี้เอง ฉันต้องการพักผ่อน” แต่มีหรือเนตรนลินจะหลับตานอนได้ เธอต้องการจะรู้เรื่องราวทั้งหมดเสียก่อน เธอต้องรู้ “ไม่ เราต้องคุยกันตอนนี้ นี่คุณดิน คุณต้องบอกฉันมาก่อนว่าทำไมถึงเป็นคุณ นี่คุยกันก่อนสิ” “ก็บอกว่าค่อยคุยไง” “แต่ฉันจะคุยตอนนี้” ถึงเนตรนลินจะยืนกรานเช่นนั้นแต่ปฐพีกลับไม่ตอบรับสิ่งใดกลับมา ชายหนุ่มหลับไปแล้ว หลับไปอย่างไม่สะทกสะท้านและไม่รู้สึกอะไรกับเหตุการณ์ก่อนนี้แม้แต่น้อย เนตรนลินถอนใจอย่างอัดอั้นก่อนที่จะทิ้งตัวนอนลงข้าง ๆ เธออยากจะรู้แต่ร่างกายเธอก็เหมือนจะรุม ๆ อาการเมื่อยขบและปวดหัวกำลังเล่นงานเธอหนักขึ้นเรื่อย ๆ เธอควรจะพักเสียก่อน ดีขึ้นแล้วค่อยถามปฐพีก็คงจะอยู่ตอบเธออยู่ดีนั่นแหละ เพราะอย่างไรเสียเขาก็ไม่เคยทอดทิ้งเธอ... เธอได้รู้จักกับปฐพีที่ลาสเวกัสเมื่อ12ปีก่อนเพราะเธอถูกส่งไปเรียนต่ออเมริกาตั้งแต่อายุ13และได้รู้จักมารี บีเกอร์อาจารย์สาวชาวอเมริกันที่เปรียบดั่งแม่และเป็นดั่งเพื่อน อาจารย์ที่ปรึกษาและพี่สาวของเธอ เธอมักจะตัวติดกับมารีเสมอจึงได้รู้จักปฐพีหรือที่รู้จักกันในนามแดนนี่ แมคโคเนลตั้งแต่เธออายุเพียง13 ปฐพีเป็นคนรักของมารีทั้งคู่รักกันมากแต่แล้ว5ปีก่อนมารีก็จากไปเพราะคู่อริของเขา ตั้งแต่นั้นมาเธอจึงไม่ได้พบเจอปฐพีอีก แต่เขาก็ส่งคนคอยดูแลเธอตามที่มารีขอไว้ก่อนจากไปเสมอมาไม่เคยทอดทิ้งน้องสาวนอกไส้ของคนรักแม้แต่วินาทีเดียว ดังนั้นแล้วเธอจึงไม่คิดว่าที่ปฐพีมาปรากฏในห้องนี้เพราะเขามีแผนร้ายหรือไม่หวังดีต่อเธอ แต่เธอไม่รู้ว่าเรื่องราวมันเป็นมาเป็นไปอย่างไรกันแน่ก็เท่านั้น กว่า3ชั่วโมงที่เนตรนลินหลับไป หญิงสาวตื่นขึ้นมาด้วยอาการขบเมื่อยที่ยังไม่หายไปแต่ไม่มีอาการปวดหัวอีกและตัวก็ไม่ร้อน แล้ว แต่ทว่าเธอกลับพบว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในห้องของตัวเองหนำซ้ำยังใส่เสื้อผ้าชุดใหม่เรียบร้อยอีกด้วย “ตื่นแล้วเหรอคะ หิวหรือเปล่า?” เสียงหวานดังขึ้นพร้อมกับร่างบอบบางที่มีใบหน้าหวานแต่ก็คล้ายคลึงกับปฐพีที่ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเดินมานั่งข้าง ๆ “พี่ชื่อปีย์วราค่ะ เรียกพี่ดาวก็ได้ พี่เป็นพี่สาวฝาแฝดของดินน่ะค่ะ” “พี่สาวฝาแฝด? เอ่อ ที่นี่ที่ไหนเหรอคะ แล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” คนเพิ่งตื่นถามด้วยใบหน้างุนงง คนที่แนะนำตัวว่าชื่อปีย์วราคลี่ยิ้มเอ็นดูก่อนจะบอกเล่าให้ฟัง “ที่นี่เป็นบ้านของเราค่ะ แล้วต่อไปก็จะเป็นบ้านของคุณด้วย” “บ้านของฉัน?” “ใช่ค่ะ เพราะว่าคุณกำลังจะเข้ามาเป็นคนในครอบครัวของเราไงคะ ว่าแต่คุณหิวไหม ถ้าหิวแล้วเราลงไปข้างล่างดีกว่าค่ะ คุณแม่รอทานข้าวอยู่แหนะ” ปีย์วราเอ่ยแล้วก็ลุกขึ้นจูงมือเนตรนลินออกจากห้องลงไปยังด้านล่างของบ้าน บ้านที่ปีย์วราพูดถึงนั้นเนตรนลินแทบอยากจะเอ่ยค้านเพราะถ้าเรียกจริง ๆ แล้วควรจะเป็นคฤหาสน์เสียมากกว่า เพราะทั้งกว้างใหญ่และหรูหรา เครื่องเรือนแต่ละชิ้นราคาไม่ต่ำกว่าหนึ่งแสนและดูอย่างไรก็หรูหราและใหญ่โตกว่าบ้านเธอที่บอกว่าเป็นผู้ดีเก่าเสียอีก เมื่อเดินมาถึงห้องรับแขกเนตรนลินก็ได้พบกับคุณหญิงประภาพร คีรีราชโภคินคุณแม่ของปฐพีและปีย์วรา หญิงชรามีท่าทีต้อนรับและเมตตาปรานีส่งมาให้จนหญิงสาวรู้สึกสบายใจขึ้น การรับประทานอาหารผ่านไปอย่างราบรื่นแต่หลังจากนั้นคุณหญิงประภาพรก็เริ่มต้นบทสนทนาที่ทำให้เนตรนลินต้องร้องไห้ทั้งที่บอกตัวเองมาตลอดให้เข้มแข็งไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไร “ดินเขาบอกแม่หมดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับหนู ต่อไปนี้ก็คิดว่าที่นี่เป็นบ้านของหนูนะลูก ในเมื่อพวกเขาตัดขาดกับหนูแล้วหนูก็ไม่จำเป็นจะต้องไปแคร์ ที่นี่ยินดีต้อนรับและพร้อมจะดูแลหนู” “แต่นาได้ยินว่าคุณหญิงไม่ถูกกับคุณย่า คุณหญิงไม่รังเกียจหนูเหรอคะ?” หญิงสาวเอ่ยถามพร้อมกับน้ำตาที่กลั่นไม่อยู่ ทำไมคนที่มีเมตตากับเธอและเอื้อเฟื้อไม่ชิงชังเธอจึงเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัว และไม่เคยรู้จักกันมาก่อน “ก็จริงที่แม่ไม่ชอบคุณหญิงวาริณี แต่ที่ไม่ชอบก็เพราะแม่เป็นเพื่อนกับเนื้อทองแม่ของหนู แม่ไม่ชอบที่คุณหญิงวาริณีโขกสับเนื้อทองและบีบคั้นจนเนื้อทองต้องจบชีวิตลง หนูเป็นลูกสาวของเนื้อทองแม่จะเกลียดหนูทำไมล่ะ” คุณหญิงประภาพรเอ่ยบอกถึงสาเหตุที่ทำให้นางปรานีหญิงสาวและสาเหตุที่ทำให้เกลียดคุณหญิงวาริณี นางเป็นเพื่อนกับแม่ของเนตรนลินมาตั้งแต่เด็กจึงทนไม่ได้ที่เพื่อนรักถูกแม่สามีตั้งแง่รังเกียจเพราะเป็นเด็กกำพร้านางจึงไม่ถูกกับบ้านนั้นมาตั้งแต่แม่ของหญิงสาวจากไป ไม่นึกไม่ฝันว่าวันหนึ่งนางจะได้เจอกับลูกสาวของเพื่อนโดยไม่ต้องทำอะไรเลย ต่อจากนี้ไปนางจะไม่ให้ใครมาทำร้ายเนตรนลินและจะไม่ยอมให้เธอจากไปไหนแน่นอน “หนูจำไว้นะหนูนาต่อไปนี้หนูไม่ใช่หลานสาวของคุณหญิงวาริณีอีกแล้ว หนูไม่ต้องไปสนใจคุณหญิงวาริณีหรอกนะ ต่อไปนี้หนูอยู่ที่นี่ หนูเป็นสะใภ้คีรีราชโภคินไม่ต้องไปสนใจคนพวกนั้น อีกไม่นานแม่อมราลูกสะใภ้คนดีของยัยคุณหญิงนั่นก็จะพาความพินาศล่มจมไปให้แล้ว” คุณหญิงประภาพรเอ่ยบอกพร้อมกับโอบกอดหญิงสาวด้วยความปราณีที่ออกมาจากใจ “คุณป้าหมายความว่ายังไงคะ?” เนตรนลินถามอยากนอบน้อม “พินาศล้มจม หมายความว่ายังไง” “หนูยังไม่ต้องรู้หรอก ไว้ถึงเวลาหนูก็จะรู้เอง ตอนนี้หนูรู้เพียงแค่ว่าหนูเป็นสะใภ้ของแม่ เรียกแม่ว่าแม่และเรียกพี่ดาวว่าพี่ก็พอ” “สะใภ้?” “ก็ใช่สิลูก หนูเป็นเมียตาดินก็คือลูกสะใภ้ของแม่ ไม่ต้องพูดจ้ะ ดินเขาบอกแม่ว่าหนูเป็นเมียเขาแล้วก็คือตามนั้น” คนยกตัวเองเป็นแม่สามีเอ่ยบอก “ซึ่งแม่ก็ยินดีเป็นอย่างมากและไม่ขัดข้องอะไร” “ใช่จ้ะ” ปีย์วราแทรกขึ้นก่อนที่จะส่งยิ้มให้ “ดูเหมือนนายังสงสัย ถ้ายังสงสัยอะไรเอาไว้รอถามดินดีกว่านะ ดินเข้าไปบริษัทเดี๋ยวเย็น ๆ เขาก็กลับแล้ว” “ค่ะ รอถามแน่ นามีอีกหลายเรื่องที่ต้องถามคุณดิน แต่คุณป้า...” ไม่ทันพูดจบก็ต้องหุบปากฉับเมื่อถูกส่งสายตาดุมาให้ “คุณแม่จ้ะ” “เอ่อ คุณแม่ แต่คุณแม่กับพี่ดาวจะไม่ขัดข้องอะไรใช่ไหมคะถ้านาจะออกไปจากบ้านนี้ถ้าคุยกับคุณดินจบ” หญิงสาวลองถามแต่แล้วคำตอบที่ได้มาก็ทำให้เธอแทบกลั่นยิ้มไม่อยู่ “ขัดข้องจ้ะ หนูจะอยากอยู่ไหมแม่ไม่รู้แต่แม่ต้องการให้หนูอยู่ที่นี่เป็นสะใภ้ของแม่ ถ้าหนูคิดจะไปก็คงต้องไฝว้กับคุณแม่ของเจ้าพ่ออย่างแม่สักตั้ง” “โธ่ ทำไมคุณแม่ถึงได้ใจดีกับนาขนาดนี้คะ ถ้าเป็นคนอื่นที่ลูกชายพาใครก็ไม่รู้เข้ามาในบ้านคงจะไล่ออกไปตั้งแต่มาถึงแล้ว” เนตรนลินขาดแม่ตั้งแต่อายุ5ขวบ ในบ้านไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนดีกับเธอเลยดังนั้นแล้วเมื่อมาเจอผู้หญิงที่ใจดีแบบนี้เธอก็อยากที่จะรักษาไว้ให้อยู่กับเธอและดีกับเธอไปนาน ๆ “ก็ลูกชายแม่ปู่ยี้ปู่ยำหนูนิแม่จะไล่ได้ยังไงล่ะ ถ้าจะไล่ก็ไล่ไอ้ตัวดีดีกว่าต่อไปนี้แม่จะดูแลหนูเอง จะไม่มีใครมาไล่หนูได้และไม่มีใครทำอะไรหนูได้แม้แต่ไอ้ตัวดี หนูเป็นลูกสะใภ้แม่ เก็ทไหมลูก” คุณหญิงประภาพรเอ่ยพร้อมกับกอดหญิงสาวอีกรอบ “เก็ทค่ะ เก็ทมากด้วย ต่อไปนี้ไล่ให้ไปหนูก็ไม่ไปนะคะ” หญิงสาวเอ่ยบอกก่อนที่ทั้งสามจะหัวเราะกันอย่างมีความสุข เนตรนลินไม่ใช่สาวเจ้าน้ำตาที่เจอเรื่องราวเหล่านี้แล้วจะร้องไห้ฟูมฟาย เธอเป็นคนเข้าใจอะไรง่ายในเมื่อคุณหญิงประภาพรต้องการให้อยู่เธอก็ต้องอยู่ เพราะต่อให้หนีออกไปท่านก็คงจะส่งคนไปจับกลับมาอยู่ดี ส่วนเรื่องของเธอกับปฐพีถึงจะยังงุนงงว่ามันเกิดอะไรขึ้นแต่ถ้าเธอกลายเป็นเมียเขาไปแล้วก็คงจะต้องอยู่ที่นี่ไปจนกว่าเขาจะไล่เพราะเธอก็ไม่มีที่ไปที่ไหนแล้ว โลกนี้ไม่มีคุณแม่เนื้อทอง ไม่มีมารี ที่พึ่งของเธอจึงเหลือแค่ครอบครัวคีรีราชโภคินเท่านั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD