EP 19

1136 Words
“ผมจะเปลี่ยนจากเอากระเบื้องไปมุงหลังคาชิงช้าคุณแจม เป็นทำระแนงไม้แทนนะครับ แล้วจะไปหาสร้อยอินทนิลมาปลูกไว้ให้เลื้อยไปตามเสา เวลามันเป็นดอกห้อยลงไปแล้วสวยดี” น้ำเสียงของเขามีแววสดใสกว่าหลายๆ วันที่วิวรรญาเคยได้ยิน จนต้องหันมามองด้วยความสงสัย ว่าเพราะได้เสื้อหรือเพราะอะไรกันแน่ “แต่ผมคงจะต้องลาดพื้นตรงใต้ชิงช้าก่อน กลัวงูจะมานอนรอคุณแจมอีกเวลาหญ้าขึ้นสูงๆ” ดวงหน้าสวยใสเผลอยิ้มออกมา เมื่อเห็นแววตากระตือรือร้นดังเดิมของเขากลับมาอีกครั้ง แต่ก็เป็นเพียงยิ้มแค่เวลาสั้นๆ แล้วก็หันไปหาแกงในหม้อต่อ เพราะไม่อยากให้เขาจับสังเกตได้ ว่าในหัวใจดวงน้อยกำลังตื่นเต้นกับคำบอกเล่าของเขาอยู่ และเมื่อท่าทีของคนสวนหนุ่มกลับมาเป็นปกติแล้ว หลานสาวเจ้านายก็ต้องพยายามปรับตัวปรับใจให้เป็นปกติเหมือนเมื่อก่อนด้วยเช่นกัน เมื่อได้คิดว่ามิตรภาพที่กำลังงอกเงยเติบโตสวยงามให้กันเงียบๆ อยู่นี้นั้น อีกไม่นานมันก็จะเหี่ยวแห้งและโรยราไปอย่างแน่นอน เมื่อต่างคนก็ต่างต้องหันหลังให้กัน ตัวเองก็จะต้องแต่งงาน ส่วนเขาก็จะต้องกลับไปสร้างชีวิตใหม่ที่บ้านเกิด วิวรรญากล้าบอกตัวเองได้ ณ เวลานี้ว่านี่ยังไม่ใช่ความรัก มันอาจจะเป็นเพียงความพึงพอใจ ประทับใจ ถูกใจที่กำลังจะก้าวข้ามไปหาคำว่า ‘รัก’ ก็เท่านั้น หรือถ้ามันข้ามมาแล้ว เธอก็เชื่อว่ามันจะยังมาไม่ไกลเกินไปนัก ไม่ไกลเกินที่ตัวเองจะหันหลังกลับไปยืนอยู่ที่เดิมไม่ได้ จึงเฝ้าพร่ำเตือนใจอยู่เสมอๆ ให้ระมัดระวังตัวเองทุกฝีก้าว   แต่ไม่มีใครเอาชนะโชคชะตาได้ ไม่มีมนุษย์หน้าไหนที่จะฝืนหรือเมินเฉยต่อพรหมลิขิต ที่ฟ้าได้ขีดเขียนเอาไว้เรียบร้อยแล้วได้ แม้กระทั่งหญิงสาวที่พยายามจะไม่เดินตามรอยแม่ หญิงสาวที่พยายามควบคุมหัวใจและความประพฤติของตัวเองให้อยู่ในกรอบ อยู่บนพื้นฐานความเหมาะสมอย่าง วิวรรญา ไวทยาสกุล หลังกลับจากทำงานในหลายๆ วันถัดมา ซึ่งจะต้องทำมื้อเย็นรอลุงกับป้าที่ไปตระเวนซื้อของมาไว้ขายตามปกติที่ของในสวนตัวเองขาดหรือโตไม่ทันขาย ยำหัวปลีเป็นหนึ่งในสามเมนูที่ลุงบ่นอยากกินตามเคย และหลานสาวก็มักจะรีบจัดหาให้ตามเคย กางเกงขายาวสีดำที่สวมทับชายเสื้อแขนกุดผ้าชีฟองสีขาวบางเบายังคงห่อหุ้มกายสาวไว้ สูทพอดีตัวสีดำถูกถอดพาดไปกับพนักเก้าอี้ตรงโต๊ะอาหารเท่านั้น ก่อนจะหิ้วถุงของสดตรงเข้าครัว เดินออกไปชะเง้อหาคนสวนหนุ่มที่มักจะทำงานอยู่ไม่ห่างในยามเย็นๆ เช่นนี้ แต่กลับไม่มี มือถือก็โทรติดต่อไม่ได้ เลยตัดสินใจเดินไปเมียงมองหาหัวปลีที่คิดว่าจะตัดได้แล้วไม่นานก็เจอหัวที่ต้องใจ แต่ปัญหาคือกล้วยสูงเกินกว่าจะเอาลงมาเองได้ อากาศก็ครื้มฟ้าครื้มฝน ลมเริ่มพัดกรรโชกมาเป็นระยะๆ เลยต้องรีบเดินหาคนช่วย กว่าจะเจอก็นานหลายนาที เพราะไปแอบนั่งลับมีดอยู่ในโรงเก็บของหลังกระท่อม ลินรีบแบกมีดขอเดินตามร่างผอมบางมาทันที เพราะกลัวฝนจะตกลงก่อน “หัวนี้ตัดไม่ได้ครับคุณแจม มันยังไม่สุดลูกเลย” เขาหันไปบอกและอมยิ้มน้อยๆ ด้วยความขำที่หลานชาวสวนแท้ๆ แต่กลับไม่รู้เรื่องกล้วยเอาเสียเลย “อ้าว! เห็นมันหัวใหญ่นึกว่าตัดได้แล้ว งั้นหัวโน้นล่ะ” มือบางชี้ไปหากอกล้วยที่มองเห็นแต่ไกล ทั้งสองเลยเดินไปอย่างเร่งเร็วเมื่อฟ้าฝนไม่เป็นใจนัก ลินใช้มีดขอตัดหัวแรกลงมา แล้วก็เดินหาอีกเมื่อคนปรุงอาหารเกรงว่าจะไม่พอกิน กว่าจะได้ก็เดินลึกและเลยกระท่อมไปหลายสิบเมตร พอเก็บหัวปลีมาถือได้คนละหัวเท่านั้นฝนก็ตกลงมาทันที “เข้าไปหลบในกระท่อมก่อนครับ เดี๋ยวคุณแจมเปียก” ลินร้องบอกเมื่อกระท่อมอยู่ใกล้กว่าบ้านที่ต้องวิ่งไปอีกไกล และด้วยความเป็นคนกลัวเสียงฟ้าคำรามร้องและแสงสายฟ้าฟาดเปรี้ยงปร้างเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำให้วิวรรญาทำตามคำบอกของเขาทันที ฝนตกกระหน่ำหนักราวกับฟ้ารั่ว แถมแผดเสียงร้องอึกทึกกึกก้องจนเจ้าของร่างบางกลัวแทบใจจะขาด แต่ก็ไม่อยากแสดงอาการออกมากนอกจากยืนกอดอกลูบแขนไปมาเพราะความหนาว อีกทั้งเสื้อที่เป็นผ้าบางเบาสีขาวอีกนั้น เวลาถูกน้ำแล้วจะลู่ติดผิวกายเผยให้เห็นด้านในได้อย่างทะลุปรุโปร่งจนต้องหันหลังให้ชายหนุ่มที่ยืนอยู่คนละมุมกระท่อม แต่เขาก็ยืนเฉยได้ไม่นานเมื่อเห็นอาการหนาวของหลานสาวเจ้านาย ผ้าห่มผืนบางที่ใช้ประจำจึงถูกคว้าขึ้นมาแล้วเดินไปหาคนที่ยืนกอดอกหันหลังให้ทันที อยากจะห่มให้ใจจะขาด แต่ก็ไม่กล้า เลยเดินอ้อมไปเบื้องหน้ายื่นให้แทน วิวรรญาอยากจะยื่นมือไปรับไม่น้อย ติดตรงที่เสื้อเปียกฝนและลู่แนบเนื้อจนอดหวาดหวั่นไม่ได้ว่าเขาจะเห็นในสิ่งที่หวงแหนเอาไว้ แน่นอนว่าชายหนุ่มตรงหน้าเข้าใจ จึงเป็นคนคลี่ผ้าออกแล้วเอื้อมแขนมาห่มให้เจ้าของร่างบางที่ยืนกอดอกอยู่อย่างนั้นแทน และแม้ตั้งใจจะรีบห่ม แล้วรีบผละจากกายสาวที่หอมกรุ่นสักแค่ไหน แต่ขาก็ไม่ยอมทำตาม มือก็อ้อยอิ่งอยู่กับผ้าที่ค่อยๆ คลุมให้ร่างที่เหน็บหนาวประหนึ่งไม่อยากจะจากไปไหน และแค่เพียงเผลอส่งสายตาจ้องมองดวงหน้าสวยริมฝีปากซีดแค่ชั่วเสี้ยวนาทีเท่านั้น หัวใจของเขาก็เต้นระทึกจนแทบจะหลุดออกมานอกอกให้ได้ ยิ่งมีดวงตาคู่สวยจ้องมองมาหาจนสองสายตาได้ประสานกันด้วยแล้ว ฝ่ามืออุ่นของเขาก็เผลอยกไปประคองแก้มขาวนุ่มขึ้นอย่างแผ่วเบา แล้วกายกำยำก็เผลอโน้มไปหากายนุ่ม ริมฝีปากอุ่นก็เผลอก้มลงไปประทับจูบกับริมฝีปากขาวซีด เย็นเฉียบในที่สุด 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD