“เดินทางปลอดภัยนะจ๊ะแจม แล้วก็อย่าลืมเอาเป็ดย่างเจ้าอร่อยให้น้าปิ่นไปให้พ่อเราด้วยล่ะ อีกสองตัวเป็นของพ่อธีรกับของพ่อซี ไปถึงออฟฟิศเอาใส่ตู้เย็นไว้ก่อนนะ กลับบ้านค่อยหิ้วไปด้วย อย่าลืมล่ะ ผักในกล่องโฟมก็เหมือนกัน อย่าลืมซื้อน้ำแข็งก้อน หรือไม่ก็เอาเข้าตู้เย็นด้วย ป้าล้างให้แล้ว แค่หาน้ำสลัดมาก็พอ”
อรพินสั่งหลานนอกไส้ยาวยืด จนสามีที่ยืนรื้อของลงจากหลังกระบะต้องหันมามอง เพราะทั้งสองหยุดขายของทุกวันจันทร์ นับตั้งแต่หลานแต่งงานไปแล้ว เพื่อจะได้พักผ่อน
“ค่ะป้า งั้นแจมไปนะคะ สวัสดีค่ะ”
ธีรนันท์เองก็ยกมือไหว้เจ้าของบ้านทั้งสอง ก่อนจะเดินไปเปิดประตูรถให้เจ้านาย แล้วรีบอ้อมไปขับออกไปโดยเร็ว เพราะกลัวจะไปไม่ทันเวลางาน พอถึงออฟฟิศ ต่างคนก็ต่างแยกย้ายไปทำงานของตัวเอง
“คุณแจมครับ คุณมาลาไม่ได้มาทำงานนะครับ เห็นว่าท่านไม่สบายครับ แต่ไม่เป็นอะไรมาก ไข้หวัดเท่านั้น ตอนนี้นอนพักอยู่บ้านครับ”
ตกบ่ายนึกขึ้นได้เลยเดินมาบอกเจ้านาย ที่นั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศแทบไม่ได้ปลีกตัวไปไหน
“เหรอคะ งั้นบ่ายๆ เราค่อยแวะเอาของฝากไปให้ก็ได้ค่ะ แจมจะได้ซื้อของบำรุงด้วย”
“ครับ สามโมงเราเจอกันที่รถเลยนะครับ ผมจะให้เด็กยกของในตู้เย็นไปรอเลย จะได้ไม่เสียเวลา”
“ค่ะ”
วิวรรญายิ้มให้ผู้ช่วยหนุ่มอย่างขอบคุณในความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ทุกเรื่อง นับตั้งแต่ก้าวเข้ามาทำงานแทนพ่อกระทั่งวันนี้ ธีรนันท์ก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยแม้แต่นิดเดียว
จนบางครั้งเผลอคิดไปว่ามีพี่ชายที่แสนดีอยู่ข้างๆ คอยเอาใจใส่ คอยห่วงใยอยู่ยังไงยังงั้น วิวรรญาไม่เคยรู้สึกอึดอัดใดๆ เพราะเขาไม่เคยแสดงท่าทีในเชิงชู้สาวให้เห็นสักครั้ง แต่กลับเป็นคนพูดน้อย เจียมเนื้อเจียมตัว สุภาพเรียบร้อย นั่นทำให้คิดถึง
‘นายลิน’
คนสวนผู้ต่ำต้อยได้ทุกครั้งเมื่ออยู่ใกล้เขา จนอดอยากจะย้อนเวลากลับไปอยู่ตอนที่มีนายลินอยู่ใกล้ๆ หลายต่อหลายครั้ง แต่จะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อ
‘นายลิน’
กลายเป็นอดีตอันแสนขมขื่นไปแล้ว แต่กลับจะต้องเผชิญกับคนหน้าเหมือนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน นั่นก็คือ
‘นายปาลิน’
ผู้มั่งคั่งไปด้วยข้าวของเงินทอง และผู้หญิงเท่านั้น ชื่อนี้ทำเอาผู้บริหารสาวต้องปวดใจขึ้นมา จนต้องก้มลงไปหางาน เพื่อจะได้รีบทำรีบเสร็จรีบไปเยี่ยมพ่อ
“คุณท่านนอนพักอยู่บนห้องค่ะคุณแจม แต่คงจะตื่นแล้วล่ะค่ะ เพราะคุณปิ่นเพิ่งยกของว่างไปให้เมื่อไม่นานนี่เองค่ะ คุณแจมจะรับด้วยหรือเปล่าคะ ป้าจะได้จัดขึ้นไปให้ด้วยเลย”
แม่บ้านรายงานเมื่อทั้งสองไปถึงบ้าน
“ก็ได้ค่ะป้า แต่เอาผักกับเป็ดย่างไปเก็บก่อนนะคะ ป้ากับลุงฝากมาให้คุณพ่อค่ะ”
วิวรรญาหันไปหาธีรนันท์ที่หิ้วกระเช้าของบำรุงใบใหญ่ยืนอยู่ไม่ห่าง ก่อนจะเดินนำขึ้นไปชั้นบน เลี้ยวขวาไปหาห้องพ่อด้วยความรักและคิดถึง เพราะไม่ได้เห็นหน้ามาหลายวันแล้ว เพราะมัวแต่ยุ่งเรื่องงาน
จนอดรู้สึกผิดไม่ได้ ที่ละเลยหน้าที่ลูกที่ดีที่ควรจะแวะเวียนมาเยี่ยมเยือนพ่อบ่อยๆ นี่ถ้าป้าไม่ฝากของมาให้ วันนี้ตัวเองก็ยังจะยังนั่งทำงานอยู่ออฟฟิศ ค่ำมาก็รีบกลับบ้าน ที่ไม่เคยรู้สึกว่ามันเป็นบ้านของตัวเองสักทีเป็นแน่
มือบางกำลังจะเคาะประตูอยู่แล้ว แต่ก็เห็นว่าประตูแง้มอยู่ก่อนหน้า จะเปิดเข้าไปเลยก็เกรงว่าพ่อกับแม่เลี้ยงอาจจะยังไม่อยากให้ใครไปกวน หันไปมองคนข้างๆ ก็ให้สัญญาณเคาะ แต่ยังไม่ทันจะได้ยกมือด้วยซ้ำเสียงพ่อกับแม่เลี้ยงคุยกันก็ดังเล็ดรอดออกมา
“เธอจะต้องคอยสอดส่องความเป็นไปในออฟฟิศแล้วเอามาบอกฉันเรื่อยๆ นะ โดยเฉพาะเรื่องของนายซีกับยัยแจม ตอนนี้เป็นยังไงล่ะ รักกันดีอยู่หรือเปล่า นายซีหลงยัยแจมหัวปรักหัวปรัมมากพอจะแอบยกหุ้นในบริษัทกลับมาให้หรือยัง หรือว่ายัยแจมเองเป็นฝ่ายหลงนายซี เธอต้องรู้ ต้องดูให้ออก”
“ก็ปกติดีนี่คะ แต่พักหลังๆ นี้คุณซีงานคงจะยุ่งค่ะ ไม่ค่อยได้มารับหนูแจมเหมือนเมื่อก่อน หนูแจมก็มัวแต่ทำงานหนัก กลับบ้านก็ค่ำๆ มืดๆ และส่วนใหญ่พ่อธีรจะไปรับส่งนะคะ แต่ปิ่นดูแล้วไม่มีเชิงชู้สาวหรอกค่ะ รับรองได้”
“เธอจะมั่นใจขนาดนั้นได้ยังไง ลืมไปแล้วเหรอว่าแม่ยัยแจม มันเลวมันร่านยังไง มีผัวอย่างฉันดีๆ ไม่ชอบ แต่ใฝ่ต่ำไปเป็นชู้กับคนสวน จนป่านนี้ฉันยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำ ว่าตกลงยัยแจมเป็นลูกฉันหรือว่าลูกไอ้คนสวนนั่น”
“เอ่อ! ทำไมคุณพี่คิดอย่างั้นล่ะคะ คุณแจมก็มีเค้าของคุณพี่อยู่บ้างนะคะ ต่อให้เหมือนแม่ยังกับแกะก็เถอะค่ะ หรือถ้าคุณพี่ไม่มั่นใจขนาดนั้น ทำไมไม่พาคุณแจมไปตรวจดีเอ็นเอเลยล่ะคะ เรื่องจะได้จบๆ ไป คุณพี่ก็จะได้ไม่ต้องมากังวลอยู่แบบนี้ไงคะ”
“เธอไม่ต้องมาแนะนำฉันหรอก เรื่องนั้นฉันตรวจแน่! แต่ต้องไม่ใช่ตอนนี้ ฉันจะรอให้ยัยแจมทำให้นายซีหลงจนยกหุ้นให้ก่อน รอให้บริษัทเราเป็นไทย หรือฉันได้กลับไปบริหารก่อน หลังจากนั้นค่อยพายัยแจมไปตรวจ ปัญหาคาใจฉันมาเกือบยี่สิบปีจะได้คลี่คลายสักที”
“แล้วถ้าเกิดคุณแจมไม่ใช่ลูกคุณพี่ล่ะคะ จะทำยังไง”
“ฉันก็จะตัดขาดความเป็นพ่อลูก และไม่ให้ใช้นามสกุลฉันน่ะสิ เก็บไว้ทำไมลูกชู้”
“ไม่สงสารคุณแจมเหรอคะ”
“ทำไมฉันจะต้องสงสารด้วย! ไม่มีผู้ชายหน้าไหนจะเลี้ยงลูกชู้หรอก หรือถ้าพี่เจียงกับพี่พินอยากจะเอาไปเลี้ยงเป็นลูกต่อก็แล้วแต่ ฉันก็แค่ยัดเงินให้ไปไว้ใช้สักก้อนเป็นรางวัลที่ทำให้สถานะบริษัทกลับมาดีได้เท่านั้น แล้วก็ต่างคนต่างอยู่”