“ฉันกินเองได้ค่ะ คุณไปทำงานเถอะ”
แต่เมียไม่ใคร่อยากจะยอม แม้ไม่มีแรงนัก ส่วนสามีนั้นก็ไม่ยอมแน่นอน เลยรีบพากายไปนั่งบนเตียง ขยับถาดมาหา แล้วตักโจ๊ะกที่มีเม็ดแปะก๊วย และไข่เยี่ยวม้าลอยหน้ามาด้วยเขาเหยาะซีอิ๊วขาวกับพริกไทยป่นลงไปอย่างคล่องงาน
“โจ๊กชามนี้อร่อยสุดๆ เพราะผมสั่งให้แม่ครัวทำสุดฝีมือ รับรองว่าคุณไม่ต้องเสียเวลาเคี้ยวให้เมื่อย เนื้อโจ๊กเนียนมาก กินคู่กับแปะก๊วยและไข่เยี่ยมม้า แถมมีเครื่องในนุ่มๆ ด้วยแล้ว รับรองคุณจะหายป่วย เร็วสิ! อ้าปาก”
ลองได้บรรยายสรรพคุณมากมายขนาดนี้ คงไม่คิดจะให้กินเองแน่ คนป่วยเลยอ้าปากรับตามเดิม อาการขมปากยังมีอยู่ แต่ก็น้อยกว่าเมื่อวานแล้ว เลยกินได้หลายคำกว่าเมื่อวานขึ้นมาหน่อย
“ผมมีประชุมเช้า เสร็จงานแล้วผมจะรีบกลับนะ มีอะไรก็บอกเด็กรับใช้ได้ ผมไปล่ะ”
แก้มนุ่มถูกผู้เป็นสามีหอมอย่างรวดเร็ว และผละไปอย่างรวดเร็ว หลังป้อนข้าวป้อนน้ำป้อนยา แล้วพาเมียนอนลงกับเตียงเสร็จสรรพ คนเป็นเมียอยากจะยิ้ม แต่ก็ยิ้มไม่ออก
อยากจะร้องไห้แต่ก็ร้องไห้ไม่ออก เพราะเดาไม่ถูกว่าทำไมเขาถึงได้หันมาทำดีกับผู้หญิงที่ไร้ค่าในสายตาเขาอีกครั้ง หลังจากทิ้งขว้างให้นอนอ้างว้างมาเป็นแรมเดือน
ส่วนตัวเองกลับไปสำเริงสำราญอยู่กับสาวอีกคน ที่จนป่านนี้แล้ว วิวรรญายังไม่ได้เห็นหน้าเลยนับตั้งแต่วันนั้น ไม่รู้จะทำหน้ายังไงถ้าได้เผชิญหน้ากันอีก ไม่คิดไม่ฝันว่าจะต้องมาแบ่งปันสามีให้คนอื่นใช้ในชีวิต
ความเหนื่อยอ่อนจากอาการป่วยไข้บอกให้ตัวเองหยุดคิด บอกให้ลืมเรื่องของเขา จะได้หลับ จะได้พักผ่อน จะได้หาย จะได้รับกลับไปทำงาน
แต่!!!
พอคิดถึงเรื่องงานขึ้นมา ก็คิดถึงพ่อขึ้นมาได้ไม่ยากเย็น แล้วความคิดก็ล่องลอยไปถึงเรื่องในวันวาน ที่ไหลผ่านเข้าหู ไปหมุนวนเวียนอยู่ในหัวจนยากจะสลัดทิ้งได้ กับประโยคบาดใจลูกเหล่านั้น
‘ตรวจแน่! แต่ต้องไม่ใช่ตอนนี้ ฉันจะรอให้ยัยแจมทำให้นายซีหลงจนยกหุ้นให้ก่อน รอให้บริษัทเราเป็นไทย หรือฉันได้กลับไปบริหารก่อน หลังจากนั้นค่อยพายัยแจมไปตรวจ ปัญหาคาใจฉันมาเกือบยี่สิบปีจะได้คลี่คลายสักที’
‘ฉันก็จะตัดขาดความเป็นพ่อลูก และไม่ให้ใช้นามสกุลฉันน่ะสิ เก็บไว้ทำไมลูกชู้’
‘ไม่! ไม่มีผู้ชายหน้าไหนจะเลี้ยงลูกชู้หรอก ถ้าพี่เจียงกับพี่พินอยากจะเอาไปเลี้ยงเป็นลูกต่อก็แล้วแต่ ฉันก็แค่ยัดเงินให้ไปไว้ใช้ล้านสองล้านเป็นรางวัลที่ทำให้สถานะบริษัทกลับมาดีได้เท่านั้น แล้วก็ต่างคนต่างอยู่’
น้ำตาที่ห่างหายมาหนึ่งวันกับหนึ่งคืน เริ่มหวนกลับมาหาอีกครั้ง เมื่อความเสียใจรุมเร้าเข้ามาเล่นงานอีก อยากจะหลับ อยากจะลืม แต่ไม่อาจจะทำได้ การร้องไห้เพื่อปลดปล่อยดูเหมือนจะเห็นหนทางดีที่สุด ที่คนป่วยคิดได้
จึงปล่อยให้ตัวเองร้องไห้ให้สาสมใจ ร้องไห้ออกมาให้พอ ร้องไห้ให้ความว่างเปล่าในชีวิตที่หลงคิดว่ามีพ่อ มีแม่เหมือนคนอื่น แม้จะแยกกันอยู่แต่พ่อแม่ก็รักลูกคนนี้ไม่น้อย และลูกคนนี้ก็เคยแอบหวังว่าพ่อกับแม่จะได้หวนกลับมาหากัน
กลับมาอยู่ด้วยกัน มาใช้ชีวิตด้วยกัน มาสร้างครอบครัวที่อบอุ่นด้วยกันอีกครั้ง มีน้องตัวน้อยๆ ให้พี่คนนี้ได้ดูแลเหมือนคนอื่นบ้าง แต่ทุกอย่างที่วาดหวังไว้ กลับพินพังลงครั้งแล้วครั้งเล่า
พินพังครั้งแรก คือพ่อมีเมียใหม่ มีลูกใหม่ไปแล้ว เคราะห์ดีที่เมียกับลูกใหม่ของพ่อ ก็ไม่ได้รังเกียจเดียจฉันลูกเมียเขาของพ่อเช่นเธอ เหมือนในหนัง ในละครเลยสักนิด แต่ทั้งสองต่างเป็นคนดี
พินพังครั้งที่สอง คือการได้เห็นแม่มีสามีใหม่ มีลูกคนใหม่ และลูกกับสามีแม่ก็ไม่เคยได้ล่วงรู้ ว่าแม่มีลูกคนนี้อยู่บนโลกด้วยซ้ำ มันผิดแผกจากที่ในหนังในละครสร้างขึ้นมาที่ว่าแม่จำใจต้องทอดทิ้งลูกไป
เพราะเหตุการณ์บังคับ แต่แม่กลับทอดทิ้งไปมีชีวิตใหม่ที่สดใสและสุขสบาย ไม่ยอมหันหลังกลับมามองลูกคนนี้เลยแม้เพียงหางตา ลูกสู้อุตส่าห์ดั้นด้นออกตามหาแม่ด้วยความยากลำบาก
แต่แม่กลับไม่มีแม้แต่แววชื่นชมยินดีเลยสักนิดเดียว มิหนำซ้ำยังผลักไสลูกคนนี้ออกจากชีวิตอย่างไม่ไยดีเลย และพินพังครั้งที่สาม ซึ่งวิวรรญาอยากให้มันเป็นครั้งสุดท้าย
นั่นคือการได้รู้ว่าพ่อยังคงคลางแคลงใจ ในสายเลือดที่มีในตัวลูก ว่าจะเป็นของตัวเองหรือของคนสวนชู้รักของแม่กันแน่ ไม่เคยคาดสักนิด ว่าความคิดเหล่านี้จะฝังอยู่ในใจพ่อมานานเกือบยี่สิบปี
ไม่เคยคิดสักนิดว่าตัวเองจะไม่ใช่ลูกของพ่อ แต่ตอนนี้จำใจจะต้องยอมรับแล้ว ในเมื่อพ่อไม่แน่ใจ นั่นก็หมายถึงว่า
‘วิวรรญา ไวทยาสกุล’ คนนี้ อาจจะกลายไปเป็น ‘วิวรรญา ...’ ที่ไร้นามสกุล เพราะไม่รู้ว่าคนสวนคนนั้นเป็นใคร มาจากไหน ตอนนี้ไปอยู่แห่งหนไหน
อาการสะอึกสะอื้นไห้เกิดขึ้นเป็นระยะๆ กระทั่งลูกไร้พ่อขาดแม่เหนื่อยอ่อน แล้วผล็อยหลับไปพร้อมกับคราบน้ำตาอีกครั้ง หลังจากที่เมื่อวานเสียน้ำตาไปแทบจะหมดจากตัวแล้วก็ว่าได้
“เอ่อ! อาตี๋เล็ก พรุ่งนี้อย่าลืมมากินมื้อเย็นแบบคืนนี้ด้วยนะ ไม่มีเวลาไปเทคแคร์ลูกค้าก็ไม่เป็นไร ป๊าหยวนให้เพราะเห็นว่าเมียแกป่วย แต่อย่าลืมว่าลูกค้าคนสำคัญมา ห้ามเบี้ยว ต่อให้เมียแกจะป่วยหนักยังไงแกก็ต้องมา ป๊าหยวนตอนกลางวันให้แกด้วยการส่งอาหมวยกับพ่อพัฒน์ไปทำหน้าที่แทนแกแล้ว”
หลังส่งแขกพิเศษเข้าห้องแล้ว ผู้พ่อรีบหันมาบอกด้วยท่าทีขึงขัง ก่อนลูกจะรีบเผ่นกลับบ้านไปหาเมียที่ยังไม่หายป่วยดีสักที ทั้งที่ก็นอนพักมาสี่ห้าวันแล้ว ลูกเลยพลอยทำงานไม่เต็มที่เพราะต้องรีบกลับไปดูแล