“ไอ้ก่ำ! ไอ้ก่ำๆ ๆ หายหัวไปไหนหมดวะ เอารถออกกูจะไปทำงาน”
ตามด้วยเสียงดังลั่นบ้านจนสะเทือนถึงห้องรับแขกที่ทั้งสองนั่งอยู่ ดาราวดีกอดแม่ไว้ด้วยความสงสารที่ต้องเป็นเมียอยู่ใต้อำนาจผัวมานานแสนนาน คิดๆ แล้วตัวเองก็โชคดีไม่น้อยที่สามีให้เกียรติและไม่เคยทำเหมือนพ่อทำกับแม่แบบนี้
“แยมไปเป็นเพื่อนแม่หน่อยนะ แม่ไม่กล้าไปคนเดียว”
ดาราส่งน้ำเสียงสีหน้าอ้อนวอนจนลูกยอมใจอ่อน อีกทั้งก็อยากจะไปดูพี่ต่างแม่ แม้จะไม่ได้สนิทสนมกันมากมายนัก แต่ก็ไม่ได้จงเกลียดจงชังกันเหมือนลูกคนละแม่บ้านอื่นๆ ด้วยเพราะดาราวดีรู้ดีว่าพี่สาวกำลังจะต้องตกไปอยู่ในภาวะไม่เต็มอกเต็มใจเพียงเพราะต้องการเงินมาช่วยพ่อเท่านั้น
“นึกว่าสงสารน้ากับสงสารคุณพ่อ ที่กำลังกลุ้มใจเถอะนะจ๊ะหนูแจม ตอนนี้เฮียซ้งโกรธมากจนไม่ยอมรับสายคุณพ่อเลย”
วิวรรญาจ้องมองหน้าแม่เลี้ยงที่อ้อนวอนหลายต่อหลายรอบนับตั้งแต่มาถึง จนหัวใจที่กำลังโกรธเคืองระคนเจ็บช้ำจากคนหลอกลวงต้องมีความสงสารปะปนเข้ามาด้วย
แต่ก็ไม่รู้จะตัดสินใจยังไง เลยหันไปหาลุงป้ากับสองเพื่อนที่แวะเวียนมาหาก่อนหน้าดาราจะมาถึงไม่นานนัก
“ไหนๆ เราก็จะช่วยพ่อแล้ว ก็ช่วยให้มันจบๆ ไปเถอะนะแจม ลืมๆ เรื่องนายนั่นซะ คิดเสียว่าทำเพื่อพ่อกับกิจการของครอบเราก็แล้วกันจะได้สบายใจ”
เกรียงไกรไม่รู้จะเอ่ยคำไหนได้นอกจากคำนี้
“อันที่จริงป้าว่าก็ไม่แย่เท่าไหร่หรอกนะแจม นายปาลินทายาทเศรษฐีอุตส่าห์ยอมปลอมตัวมาเป็นคนสวนตั้งหกเดือน เพื่อสืบดูว่าคนที่จะแต่งงานด้วยเป็นยังไง ถ้าเขาใจเย็นยอมอดทนได้ขนาดนี้ก็แปลว่าเขาไม่ใช่คนนิสัยย่ำแย่สักเท่าไหร่เลย ถ้าป้าเป็นแจมแล้วลุงมาทำแบบนี้ ป้าจะดีใจมากกว่าเสียใจซะอีกนะ”
อรพินรีบสมทบเพื่อให้กำลังใจหลานสาว
“และอย่างน้อยๆ แจมก็ได้สามีหล่ออย่างนายลิน และได้คนร่ำรวยอย่างคุณปาลินมาครอบครองนะแจม ถ้านายลินบอกว่ารักแจมยังไง คุณปาลินก็น่าจะรักแจมอย่างนั้นล่ะมั้งเราว่า คนเราจะเปลี่ยนหัวใจเหมือนเปลี่ยนฐานะได้กันง่ายๆ ที่ไหน โดยเฉพาะหัวใจที่กำลังมีความรัก”
ทาริกาเองก็อยากให้เพื่อนเปลี่ยนมุมมองในเรื่องที่เกิดขึ้นเช่นกัน
และเมื่อมีหลายต่อหลายเสียงสนับสนุนกระตุ้นให้หัวใจที่กำลังขุ่นมัว ยอมคิดทบทวนอีกวาระ และไม่รู้ว่าเพราะความอยากจะช่วยพ่อ ช่วยกิจการของครอบครัวที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองมีความสำคัญอยู่ในระดับไหน
หรือเพราะความคิดที่เป็นบวกต่ออดีตคนสวนหนุ่มและกำลังจะมาเป็นสามีในอนาคต ว่าเขาทำไปทั้งหมดนั้นเพราะมีความรักเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างไม่ต้องสงสัยกันแน่ ที่เรียกร้องให้คนหัวอ่อน
คนที่อยากมีความสำคัญในสายตาพ่อต้องยินยอมขึ้นรถมากับสองเพื่อนที่อาสาจะเป็นสารถีให้ทั้งขาไปขากลับได้ ของฝากแถวหนองมน ที่ดาราเป็นคนเสนอความคิดถูกซื้อหาไปให้ประมุข
แม้วิวรรญาจะไม่เห็นด้วยนัก เพราะมันเล็กน้อยด้อยราคาหากจะเปรียบกับฐานะของเขา กระนั้นมือบางก็ยังยอมถือกล่องกระดาษสวยงามด้านในมีฮ่อยจ๊อเจ้าอร่อยจากมือน้องต่างแม่หลังจากลงรถไปนั่นเอง สองเพื่อนหิ้วถุงสารพัดเดินตามไปไม่ห่าง แต่ยังไม่ทันได้เข้าไปในตัวบ้านด้วยซ้ำ
“คุณพี่กับคุณซีกำลังไปดูช่างตกแต่งภายในเรือนหอค่ะ เพิ่งพากันกลับจากประชุมบอร์ดเมื่อไม่นานมานี้เอง ยังไม่ได้เข้าบ้านเลยก็ตรงไปดูบ้านก่อนแล้วเห็นว่าช่างจะถามเรื่องห้องนอนแขกหรือห้องอะไรนี่ล่ะค่ะ คุณปิ่นพาเด็กๆ เข้าไปนั่งรอในบ้านก่อนสิคะ เดี๋ยวมาลาจะให้เด็กไปตามเองค่ะ”
มณีมาลากับอนัญญาหลานสาวก็เดินออกมาต้อนรับขับสู้ด้วยความเป็นมิตร
“อืม! อย่าดีกว่าค่ะ ตอนนี้คงจะกำลังคุยกับช่างอยู่ เดี๋ยวพวกเราเดินไปหาเฮียเองดีกว่าค่ะ หนูแจมจะได้เห็นเรือนหอด้วย เผื่อคุณซีจะอยากขอความคิดเห็นด้วย”
เพราะดาราคิดว่านี่จะทำให้สองหนุ่มสาวที่กำลังมีรอยปริร้าวนิดๆ มีโอกาสประสานกันให้ดีขึ้นเร็วขึ้นมากกว่า
“งั้นก็ดีสิคะ ว่าที่เจ้าสาวจะได้ไปออกความคิดช่วยว่าที่เจ้าบ่าวเลย เดี๋ยวมาลากับยัยอีฟพาไปค่ะ”
มณีมาลายิ้มรับกับความเห็นนี้และเดินไปตามถนนคอนกรีตเล็ก จากบ้านใหญ่ไปหาเรือนหอก็หลายสิบเมตร และนั่นทำให้สองพ่อลูกที่เพิ่งคุยกับช่างตกแต่งภายในเสร็จไม่มีโอกาสได้รับรู้ว่าใครมาหา
ประมุขถึงได้เอ่ยเรื่องส่วนตัวกับลูกชายเมื่อช่างออกไปทำงานต่อแล้ว
“แกนี่มันแผนสูงและมีเวลาว่างมากเลยนะอาตี๋เล็ก! ถึงได้ทิ้งการทิ้งงานไปเป็นคนสวนให้เขาใช้เปล่าๆ ปลี้ๆ ตั้งหลายเดือนโดยที่ป๊าไม่รู้ไม่ระแคะระคายสักนิด ดีนะที่เจ้าฌานยอมมาปลอมตัวเป็นแกให้พลางๆ ก่อน ไม่งั้นแผนเตรียมฮุบบริษัทเฮียไจ้คงไม่สำเร็จหรอก ทีหลังแกก็ช่วยบอกให้ฉันรู้บ้างสิว่าจะทำอะไร ไม่ใช่ปล่อยให้ป๊าลุ้นว่าแกจะโผล่มางานหมั้นตอนไหน หรือจะต้องให้เจ้าฌานไปหมั้นแทนแกก่อน”
“ถ้าบอกแล้วป๊าจะยอมให้ผมทำเหรอครับ แค่ลำพังขอไปเป็นทหารปีเดียวป๊าก็ด่าแล้วด่าอีก ขืนบอกว่าจะไปสืบดูคนที่ป๊าสั่งให้ผมแต่งงานด้วย ป๊าคงฉีกผมเป็นชิ้นๆ แน่เลย สู้หายไปเงียบๆ จะดีกว่า ยังไงๆ ผมก็ส่งข่าวบอกว่าอยู่สุขสบายและจะมาให้ทันงานหมั้นผ่านไอ้ฌานอยู่แล้ว ป๊าจะนั่งลุ้นทำไมล่ะครับ”
ลูกตอบพ่อไปด้วยท่าทีสบายๆ
“เอ่อ! มันก็จริง ว่าแต่ป๊าเสียดายอยู่แค่หน่อยเดียวเท่านั้นล่ะ”
“อะไรครับ”
“ก็แกอุตส่าห์ปลอมตัวไปหว่านเสน่ห์ใส่ลูกเฮียไจ้หลงรักได้ขนาดนั้น ทำไมแกไม่รวบหัวรวบหางเอาเป็นเมียซะเลยล่ะวะ ฉันจะได้ไมต้องควักเงินเป็นสิบๆ ล้านไปอุดรอยรั่วให้เปลือง แล้วอยู่ที่นั่นตั้งหกเดือนนี่มีโอกาสท้องได้สูงนะ ทีนี้งานต่งงานแต่งก็ไม่ต้อง เราจะว่ายังไงเอายังไงฝ่ายนั้นก็ต้องยอมอยู่วันยังไงค่ำแล้ว”