EP 35

1176 Words
ความใจเย็นกับความอดทนของเขาเริ่มลดน้อยลง เมื่อไม่ว่าจะทำยังไง จะพูดจะอธิบายอะไร สุดท้ายก็ได้แต่ความเย็นชากลับมาหา จนเผลอส่งประโยคย้ำเตือน ส่งน้ำเสียงหนักแน่น และเผยความหยิ่งผยองในตัวที่มีออกมาให้เธอได้เห็น และแน่นอนว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นกับเขาเลยตลอดเวลาที่สมบทบาทนายลินอยู่ “ถูกของคุณ คนมีเงินมากมายอย่างคุณ อย่างพ่อคุณ จะเอาไปโยนใส่หัวใครก็ได้ทั้งนั้น รวมทั้งหัวฉันหัวพ่อฉันและหัวของทุกคนที่อยู่รอบข้างฉันด้วย พวกคุณถนัดงานแบบนี้อยู่แล้วนี่ เอาเงินก้อนโตโยนให้ไปใช้จนตายใจก่อน แล้วค่อยตามไปจัดการเชือดทีหลัง ความจริงคุณไม่จำเป็นจะต้องเสียเวลาไปแสดงเป็นนายลินก็ได้ แค่เพียงบอกฉันตรงๆ ว่าต้องการอะไรก็พอ เพราะยังไงๆ ฉันกับคุณพ่อและทุกคนก็จะต้องก้มหัวให้เงินของคุณอยู่แล้ว ในเมื่อเราไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้คุณจะทำอะไรกับฉันกับทุกคนในบ้านฉันก็เชิญ คุณทำได้อยู่แล้ว ในเมื่อเราหลวมตัวคุณเอาเงินคุณมาแล้วนี่ คุณจะเรียกค่าเสียหายค่าชดใช้จากฉันยังไงก็เชิญตามสบาย จะข่มเหงหรือจะข่มขืนเมียที่คุณเหมือนได้มาฟรีๆ ยังไงก็ได้ คุณมีสิทธิ์จะทำ จะตักตวงให้สมกับเงินที่คุณเสียไป แต่ฉันก็มีสิทธิ์จะเก็บความรักของฉันเอาไว้จนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายของฉัน” อีกแล้วที่เธอไม่อาจจะหักห้ามน้ำตาเอาไว้ได้ จึงปล่อยให้มันไหลรินออกมา เพียงแค่ในจินตนาการว่าจะมีเขาเข้ามาข่มเหงจิตใจและย่ำยีศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงยังไงเท่านั้น และอีกแล้วน้ำตาของเธอทำให้เขาตกใจจนล่าถอยออกห่างไปถึงสองก้าว ก่อนจะเอ่ยออกไปด้วยหัวใจที่เจ็บปวดไม่แพ้กัน “แจม! นี่ตกลงคุณเกลียดผมจริงๆ เกลียดจนจะไม่ยอมรับฟังคำอธิบายของผมเลยใช่มั้ย บอกผมมาหน่อยสิว่าผมจะต้องทำยังไงคุณถึงจะเชื่อว่าที่ผมทำไปทั้งหมดเพราะความรักที่มีต่อคุณเท่านั้นไม่มีอะไรจะแอบแฝงอยู่เลย” “พิสูจน์มาสิ พิสูจน์ให้ฉันเห็นว่าคุณไม่ได้เป็นอย่างที่ฉันคิดและเข้าใจ พิสูจน์ว่าคุณกับพ่อคุณไม่ได้มีแผนจะฮุบบริษัทของพ่อฉันอย่างที่ฉันได้ยินมาเต็มสองหูของตัวเอง” นี่จึงเป็นโอกาสทองที่จะหยิบยื่นข้อเสนอให้เขาตามที่พ่อบอกเอาไว้ “คุณจะให้ผมทำยังไง พิสูจน์ยังไงผมก็ยินดีทำทั้งนั้น ถ้ามันจะทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้นและใช้ชีวิตคู่ด้วยกันโดยไม่มีความหวาดระแวงจากคุณ” และเมื่อเดินมาถึงทางตัน คนอย่างปาลินก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้มีทางออกด้วยกันทั้งสองฝ่าย “แต่งตั้งให้ฉันเป็นผู้บริหารงานทุกอย่างในบริษัทคุณพ่อ เพื่อให้ฉันสบายใจว่าคุณจะไม่แอบทำอะไรไม่ซื่อกับพวกเรา” “ได้! ผมจะจัดการให้ แต่ผมคงจะขัดป๊าเรื่องที่ท่านคงจะต้องให้ผมหรือไม่ก็ใครสักคนไปคอยตรวจสอบการทำงานของพวกคุณไม่ได้หรอกนะ ถ้าคุณยอมรับตรงนี้ได้ผมก็ยินดี นี่ใช่มั้ยที่คุณอยากได้และต้องการจากพวกเรา ความจริงคุณแค่บอกผมมาตรงๆ ก็ได้ คุณไม่จำเป็นต้องเสียเวลาหลั่งน้ำตาให้เหนื่อยเลยสักนิด” สิ้นคำเขาก็เดินไปเปิดตู้คว้าชุดนอนกับผ้าขนหนูติดมือออกมา ก่อนจะหันกลับไปหาคนยืนแน่นิ่งอยู่กลางห้องที่เดิม “ผมจะไปนอนห้องอื่น คุณจะได้สบายใจว่าผมจะไม่กลับคำพูดที่ให้ไว้กับคุณ และถ้าผมทำตามที่พูดเอาไว้ได้แล้ว ผมหวังว่าคงจะได้ความเป็นธรรมให้ตัวเองได้บ้างนะ” แล้วเขาก็เดินออกจากประตูไป “โจรอย่างพวกคุณไม่จำเป็นต้องมองหาความเป็นธรรมหรอก เพราะต่อให้มันมีอยู่รอบกาย พวกคุณก็ไม่มีมันซึมซับเอามาได้หรอก” วิวรรญาส่งประโยคนี้ตามหลังไปแม้ประตูจะปิดลงแล้วและรู้ว่าเขาจะไม่ได้ยินมันก็ตามที   ตอนเจ็บก็จำใจทน   ร่างอรชรในชุดเดรสแขนสั้นสีเลือดหมูมีกระดุมผ่าหน้าจากระดับอกลงไปจนถึงชายเข่ากำลังยืนเอาไหล่พิงหน้าต่างมองไปยังสนามหญ้าอันเขียวขจีและสดใส ผิดกับคนมองที่ต้องหันไปหาประตูเมื่อมีเสียงเคาะสองสามครั้ง ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นใคร ปาลินเบี่ยงกายเข้ามาอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ตัวต้องเฉียดกับคนยืนจับลูกบิดเอาไว้พร้อมกับเบือนหน้าไปทิศทางอื่น เขายังคงใส่ชุดเดิมจากเมื่อคืนนี้ แต่ในมือมีซองสีขาว ก่อนจะยื่นให้วิวรรญาที่ผละห่างจากประตูมาแล้ว ส่วนเขาเดินไปยืนมองออกไปนอกหน้าต่าง หันหลังให้คนในห้อง ที่กำลังจะเปิดออกดู แต่เขาก็ชิงบอกก่อน “จดหมายแต่งตั้งคุณเข้าไปทำงานในตำแหน่งเดียวกับพ่อคุณ อำนาจบริหารในระดับปฏิบัติการคุณมีเต็มที่ แต่ถ้าเป็นระดับนโยบายแล้วคุณจะต้องได้รับความเห็นชอบจากผม จากป๊าและคณะบอร์ดอีกกึ่งหนึ่งจากทั้งหมดที่มี” “...” “เจ็ดหมื่นสำหรับเงินเดือนผู้บริหารฝึกหัด ถ้าผ่านโปรหกเดือน หรือเร็วกว่านั้นถ้าฝีมือคุณเป็นที่ยอมรับของจากบอร์ดกึ่งหนึ่ง จะขึ้นไปเป็นแสนห้า” “...” “คุณมีสิทธิ์และมีอำนาจจะอนุมัติวงเงินสองแสนบาทจากวันแรกที่เข้าไปทำงานนับไปอีกสามเดือน จะปรับเป็นสามแสน แต่ถ้าเป็นหนึ่งล้านขึ้นไปต้องมีลายเซ็นผมร่วมด้วย ถ้าห้าล้านต้องมีป๊าอนุมัติด้วย ถ้าเลยนั้นจะต้องมีลายเซ็นบอร์ดอีกสามคน” “...” “บริษัทเราจะไม่เอาระบบครอบครัวมาใช้ในงาน ถึงป๊าจะมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดก็ตาม แต่ท่านก็ยังเคารพและรับฟังความคิดเห็นของคณะบอร์ดที่ร่วมกันสร้างบริษัทมาจนเป็นปึกแผ่นได้ขนาดนี้” “...” “ผมทำให้คุณได้แค่นี้ล่ะ ถ้านี่คือสิ่งที่คุณหรือพ่อของคุณอยากได้ เพื่อแลกกับการพิสูจน์ตัวผมเอง” สิ้นคำเขาก็ผละออกจากหน้าต่าง คว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป ส่วนอีกคนกลับเดินไปยืนแทนที่เขาแล้วมองออกไปด้วยหัวใจเหม่อลอย หม่นหมอง และเศร้าเหงามากที่สุดในชีวิตที่เคยรู้สึกมาก็ว่าได้ 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD