ยังได้กลิ่นสีน้อยๆ ติดจมูกอยู่เลยด้วยซ้ำ ห้องรับแขกมีโซฟาราคาคงหลายหมื่น แต่ยังไม่มีแจกันสวยหรูกับดอกไม้มาปักไว้ ห้องนั่งเล่นมีโซฟาไว้แทบจะรอบผนังทั้งสามด้าน
ทีวีจอแบนใหญ่ยักษ์กับเครื่องเล่นดีวีดีและลำโพงอันมหึมาราคาทั้งชุดคงจะไม่น้อย แต่ตอนนี้ไม่มีใครอยากใช้ ห้องอาหารมีโต๊ะยาวเป็นไม้เนื้อดีพร้อมเก้าอี้สิบตัวตั้งอยู่ใต้โคมไฟเรียบหรู
ผนังเป็นประตูกระจกบานเลื่อนเดินออกไปสนามหญ้าได้ดูเหมือนยังไม่เคยถูกใช้งานเลยด้วยซ้ำ ถัดไปเป็นห้องครัวและห้องซักล้างมีประตูเดินทะลุไปยังสวนหลังบ้านที่ยังว่างเปล่าไม่มีต้นไม้ใดๆ
ปลูกไว้ จนอยากจะเอาพืชผักสวนครัวของลุงมาปลูก หากนี่คือบ้านของตัวเองที่บังเอิญโชคดีได้อยู่กับชายที่ตัวเองรัก มันคงจะทำให้มีความสุขไม่น้อย และเมื่อปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปถึงนายลินคนหลอกลวงแล้ว
ร่างอรชรในชุดเดรสสั้นก็เดินเร็วๆ กลับจากประตูหลังบ้านผ่านลิฟต์ไปอย่างไม่แยแส ก่อนจะวิ่งฉับๆ ขึ้นบันไดไปหาชั้นสามแล้วตรงเข้าห้องตัวเองทันที เพื่อหลีกหนีความเจ็บปวดจากรักสุดท้าย
ที่กลับกลายเป็นรักไร้ค่าไร้ราคาในสายตาของเขา ไม่นานเจียก็มาเคาะประตูห้องแล้วยื่นคู่มือที่เป็นเหมือนอัลบั้มรูปขนาดกลางมาให้พร้อมกับวิทยุสื่อสาร
“คุณท่านกับคุณมาลาจะอยู่ชั้นแปดแค่สองคนค่ะ ชั้นเจ็ดมีคุณโซดากับคุณซีค่ะ แต่อีกหน่อยคุณอีฟจะย้ายขึ้นจากชั้นหกไปอยู่ห้องคุณซีแทน ส่วนชั้นสี่ถึงชั้นหกเป็นห้องพักแขกทั้งหมดค่ะ คุณท่านมีแขกต่างชาติมาพักบ่อยค่ะ ชั้นสามเป็นห้องประชุม และห้องทำงานสำหรับแขกจะลงมาใช้ ชั้นสองเป็นห้องเธียเตอร์คาราโอเกะ กับฟิตเนสค่ะ ชั้นล่างก็มีห้องรับแขกห้องอาหารกับห้องน้ำชา ห้องใต้ดินก็จะมีห้องไวน์ ห้องเก็บของ ส่วนบนดาดฟ้าจะมีสนามเทนนิส แล้วมีห้องอาหารไว้สำหรับต้อนรับแขกที่คุณท่านสนิทจริงๆ เท่านั้น นี่เป็นชื่อคนงานกับเบอร์มือถือ เบอร์ภายในและรายละเอียดงานและความรับผิดชอบค่ะ คุณแจมจะถามหรือจะเอาอะไรก็โทรตามนี้เลยค่ะ หรือไม่ก็โทรหาเจียคนเดียวพอ คุณซีก็ทำแบบนั้นเพราะขี้เกียจจำเบอร์คนอื่น เจียเลยรู้ว่าคุณซีชอบอะไรไม่ชอบอะไร คุณท่านเลยให้มาประจำอยู่ตึกแดงคอยดูแลคุณสองคนนี่ล่ะค่ะ ด้านหลังจะเป็นเมนูอาหารแต่ละอาทิตย์นะคะ คุณแจมจะได้รู้ว่ามีอะไรกินบ้าง และถ้า...”
“ขอบคุณเจียมากจ้ะ เดี๋ยวฉันดูต่อเอง เจียไปทำงานเถอะ”
วิวรรญารีบตัดบท เมื่อสาวใช้ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดสาธยายความมั่งมีของเจ้านายเลย มือบางรับววิทยุสื่อสารมาถือไว้แค่นั้น เพราะไม่คิดจะติดต่อใครในบ้านนี้อยู่แล้ว
“ฝากบอกเจ้านายเจียด้วยก็แล้วกันว่าฉันไม่หิวจะนอนเลย แล้ววันหลังเจียก็จัดขึ้นมาไว้บนนี้ให้ฉันก็แล้วกันนะ ฉันไม่ลงไปกินข้างล่าง”
พอๆ กับตอนค่ำที่จำต้องตัดบทสาวใช้แล้วปิดประตูห้องทันที เมื่อถึงเวลาอาหารแล้วไม่ได้ลงไป เจียเลยถูกปาลินสั่งให้ขึ้นมาตาม เพราะยังไม่พร้อม ยังไม่สะดวกใจ ยังไม่รู้สึกปลอดโปร่งเวลาต้องไปนั่งเผชิญหน้ากับเขาบนโต๊ะอาหารหรือที่ไหนๆ ก็ตามที
ตีห้าครึ่งเป็นเวลาที่วิวรรญาลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปทำงาน เพราะต้องเผื่อเวลาไว้เดินออกไปปากซอยประมาณยี่สิบนาที จากการลองคำนวณดูเมื่อวานตอนไปซื้อของ
ในเมื่อตัวเองไม่มีรถไว้ใช้ การจะให้ไปเอ่ยปากรบกวนใครๆ ในบ้านนี้เป็นเรื่องที่คิดจะทำลำดับท้ายๆ หกโมงครึ่งก็แต่งตัวเสร็จแล้วรีบลงไปชั้นล่างแล้วออกจากเรือนหอ โดยไม่สนใจว่าคนอยู่ชั้นบนจนนิดเดียว
แม้จะเคยเดินมาหนหนึ่งแล้ว แต่จากบ้านไปหาปากซอยถือว่าไกลพอสมควร โชคดีแท็กซี่มาเร็ว เกือบแปดโมงก็ถึงที่ทำงานแล้ว ไกรเดชมารอลูกสาวตั้งแต่เช้า แม้เขาจะหมดสิ้นอำนาจบริหารในนี้แล้ว
แต่ก็จะต้องมาในช่วงโอนถ่ายงานให้คนใหม่ ซึ่งเขาก็ดีใจที่เป็นลูกสาวตัวเอง ธีรนันท์คือคนที่เขาตระเตรียมไว้สอนงานให้ผู้บริหารมือใหม่ที่จะต้องเข้าไปนั่งประจำในห้องทำงานพ่อในตำแหน่งของพ่อ
แม้ใจจะไม่อยากทำสักแค่ไหน แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ถ้าจะต้องปล่อยให้คนอื่นเข้ามาเตรียมฮุบทุกอย่างไป
“แจมขอห้องอื่นได้หรือเปล่าคะคุณพ่อ ห้องนี้มันใหญ่ไปค่ะ”
แต่เรื่องห้องนี่ขอเอาไว้ เพราะไม่อยากทำร้ายจิตใจพ่อ อีกทั้งไม่อยากได้ห้องโอ่อ่าเกินไปนัก ถึงได้ลงทุนออกปาก
“งั้นเปลี่ยนห้องกับปิ่นก็แล้วกัน จะได้ไม่ต้องเสียเวลาจัดใหม่”
ซึ่งคนเป็นพ่อก็ไม่ขัดอะไร เพราะดารายังคงอยู่ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลต่อไป ไม่มีการโยกย้ายหรือหาคนมาแทนเฉกเช่นตัวเขาแต่อย่างใด วิวรรญารับคำอย่างไม่เกี่ยงงอน
ดาราก็ไม่ว่าอะไร จึงรีบให้คนมาช่วยย้ายข้าวของออกไปจากห้อง จะได้รีบทำงานที่มีเรื่องอีกมากมายให้เรียนรู้ แต่ก็นั่งฟังธีรนันท์สอนงานได้ไม่ถึงยี่สิบนาทีด้วยซ้ำ
ไกรเดชก็ได้รับโทรศัพท์จากประมุขว่ากำลังจะเข้าไปเพื่อเรียกประชุมผู้บริหารทุกฝ่ายเป็นครั้งแรก เพื่อหาแนวทางการบริหารจัดการให้บริษัทที่เผชิญกับภาวะขาดทุนลุกขึ้นมาทำกำไรให้
“จะมาก็ไม่แจ้งล่วงหน้า เกิดอยู่ไม่ครบจะทำยังไงล่ะทีนี้”
เขาบ่นเล็กน้อยต่อหน้าลูกกับผู้ช่วย ซึ่งทั้งสองได้แต่หันไปมองหน้ากันเท่านั้น ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงประมุขก็นำทีมงานหัวกะทิถึงห้าคนเข้ามาเรียบร้อยแล้ว
บรรยากาศในห้องประชุมใหญ่เป็นไปเหมือนมีสองฝักสองฝ่าย คนมาใหม่ก็นั่งอีกฟากของโต๊ะส่วนคนเก่าก็นั่งอีกฟาก รวมทั้งวิวรรญาด้วยที่นั่งติดกับธีรนันท์
เพื่อเวลามีคำถามจะได้หันไปหาได้ทันท่วงที โดยไม่สนสายตาสามีที่มักจะมองข้ามโต๊ะมาหาบ่อยครั้ง เพราะแม้แต่ใบหน้าเขาเธอก็ยังไม่อยากเห็นด้วยซ้ำ