EP 45

1160 Words
เขาก็จำต้องคว้าสูทที่พาดไว้หลังเบาะขึ้นมาสวมใส่ ส่วนปาลินนั้นไม่ได้พูดอะไรนอกจากหันไปหาสาวข้างๆ แล้วผายมือออกเช่นสุภาพบุรุษก่อนจะเดินช้าๆ ไปด้วยกัน “คุณแจมคงไม่ว่าอีฟนะคะที่มากับคุณซี ก็คุณน้าน่ะสิคะให้มาเพราะคุณโซดาไปสเปนกับคุณท่านจะกลับพรุ่งนี้โน่นล่ะค่ะ” อนัญญาเกรงกลัวจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่ “อ้อ! ไม่หรอกค่ะ” เจ้าของร่างระหงในชุดราตรีไหล่เดี่ยวยาวไปถึงข้อเท้าตัดเย็บด้วยผ้าชีฟองสีงาช้าง ตรงเอวมีผ้าซาตินสีทองคาดเป็นโบสวยงามเอาไว้ตอบออกมาแค่นั้น แล้วเดินอย่างสง่างามตามสามีไปในร้านอาหารหรูหราที่มีแขกหนุ่มใหญ่วัยสามสิบห้าควงสาวนัยน์ตาสีฟ้าซึ่งเป็นสีเดียวกับชุดมานั่งรอแล้ว ปาลินทักทายและแนะนำตัวเองพร้อมกับทุกคนให้แขกรู้จักด้วยภาษาฝรั่งเศสคล่องปรื๋อ นั่นทำให้วิวรรญาอดขุ่นเคืองขึ้นมาไม่ได้อีกที่จนแล้วจนรอดตัวเองก็ยังเป็นคนโง่อยู่ดีที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสามีเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ก็พยายามเก็บกดเอาไว้ภายในจนอาหารเสร็จสิ้นลง และไปต่อในผับหรูหราอยู่ไม่ห่างร้านอาหารนัก “คุณซีจะว่าอะไรหรือเปล่าครับถ้าผมจะขอควงภรรยาคนสวยของคุณไปเต้นรำสักเพลง” ส่วนคนเป็นสามีก็ใช่ว่าจะชอบใจนักเมื่อแขกขอขนาดนี้ แต่ก็จำใจต้องยิ้มออกมาอย่างไม่ถือสาอะไร และเพื่อเป็นการรักษามารยาท เขาก็โค้งแฟนสาวของแองตวลออกไปในเวลาไล่เลี่ยกัน พร้อมกับพูดคุยด้วยอย่างเป็นกันเอง เพราะไม่มีปัญหาเรื่องภาษาเหมือนวิวรรญาที่เลิกคิ้วหลายครั้งเมื่อแองตวลถาม “ผมลืมไปว่าคุณไม่พูดภาษาฝรั่งเศส งั้นก็คุยกันภาษาอังกฤษแทนก็แล้วกันนะครับ” วิวรรญาถึงกับยิ้มกว้างออกมาด้วยความขำ เพราะนั่นถึงพอจะคุยกันรู้เรื่องหน่อย และการยอมรับกับแขกตรงๆ ว่าตัวเองเต้นรำไม่เก่งก็ทำให้วิวรรญาได้คะแนนนิยมขึ้นมาอีกระดับ “ผมชอบคนพูดตรงๆ จริงใจๆ ครับ ได้ก็คือได้ไม่ได้ก็คือไม่ได้ แบบนี้พวกเราคงจะทำการค้าด้วยกันได้นะครับ จะเสียดายก็แต่ทำไมผมถึงติดต่อคุณประมุขช้าไปตั้งสามสี่เดือนนั่นล่ะครับ ไม่อย่างนั้นผมเชื่อว่าคุณปาลินคงจะได้เจอคู่แข่งอย่างผมที่จะตามจีบคุณเข้าให้แล้วล่ะครับ เขาโชคดีมากๆ ที่มีคุณ” นี่ก็เป็นคำบอกตรงๆ จริงใจๆ ที่แขกรู้สึกตั้งแต่แรกเห็นวิวรรญาเดินเข้ามาหาแล้วนั่นเอง เมื่อเจอคำบอกแบบนี้เข้า ถึงกับก้าวเท้าไปไม่ถูกเลยทีเดียว กระนั้นก็ยังฝืนยิ้มให้ชายตรงหน้าอย่างมีมารยาทอยู่ดี ทว่านั่นกลับทำให้คนเป็นสามีที่เฝ้ามองมาหาคนทั้งสองไม่ห่างหายเกิดไม่ชอบใจนัก รวมทั้งตอนกลับที่เมียเดินไปนั่งรถกับผู้ช่วยหนุ่มแทนที่จะมานั่งไปกับเขาด้วย ช่างสร้างความขุ่นเคืองในใจให้เขาขึ้นอีกระดับ รวมทั้งในอีกหลายๆ ครั้งที่ปาลินจะต้องพาเมียมาเทคแคร์แขกกระเป๋าหนักตามคำสั่งพ่อ เขาก็ไม่ชอบใจเอามากๆ เวลาเห็นเมียยิ้มหวานๆ ให้แขกไม่มีขาดตกบกพร่อง ผิดกับเวลามองเขาคนละเรื่อง เมียมักจะตีหน้าเรียบเฉย สายตาหมางเมินมาหาเป็นนิจ ตลอดเวลาห้าเดือนเต็มๆ ที่เป็นผัวเมียกัน ไม่มีเลยสักครั้งที่เขาจะได้รับรอยยิ้มจากเมีย หรือถ้ามีก็จะเป็นยิ้มเยาะเย้ย เหยียดหยัน ตามด้วยถ้อยคำถากถางเหน็บแนมอยู่เป็นนิจอีกเช่นกัน   “แกนี่มันไม่ได้เรื่องเลยนะอาตี๋เล็ก! อะไรกันมีเมียมาตั้งจะครึ่งค่อนปีแล้วยังเผด็จศึกไม่ได้สักที ในเมื่อไม่เต็มใจทำไมแกไม่ปล้ำซะเลยล่ะ ให้มันรู้ไปเลยว่าเมียที่ไม่ทำหน้าที่เมียจนผัวต้องปล้ำนี่จะเป็นยังไง” ประมุขว่าลูกทีเล่นทีจริงขณะนั่งกินมื้อเย็นร่วมกับสมาชิกในบ้านอย่างครบครัน จะขาดก็แต่สะใภ้ที่ทุกเย็นวันศุกร์จะกลับบ้านบึงทุกอาทิตย์ เช้าวันจันทร์ก็จะตรงเข้าออฟฟิศเลย จะกลับบ้านอีกทีก็ค่ำมืด ซึ่งประมุขไม่ชื่นชอบพฤติกรรมนี้นัก แต่ไม่อยากจะยุ่งมาก หากไม่ได้ยินเมียเอ่ยปากบอกเรื่องการแยกห้องกันนอนของลูก “เอางั้นเลยเหรอครับป๊า อย่าบอกนะครับว่าพวกผมเกิดมาได้เพราะป๊าปล้ำม๊าทำเมียน่ะ” ถ้าเป็นพี่ชายคนโตได้ฟังประโยคนี้ของพ่อคงจะขุ่นเคืองไม่น้อย แต่สำหรับปาลินแล้วยืนอยู่กึ่งกลางระหว่างพี่ชายกับน้องสาว นั่นคือใจเย็น เชื่อฟังคำพ่อ รับฟังเหตุผลของพ่อกว่าพี่ชายมาก แต่ก็ไม่อ่อนปวกเปียกจนพ่อจะสั่งได้ทุกเรื่องเหมือนน้องสาว เขาจะลุกขึ้นมาขัดถ้าเรื่องนั้นรับไม่ได้และจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นในชีวิต “อ้าว! ถ้าไม่ทำอย่างนี้แล้วแกจะนอนกับเมียได้เหรอ ว่าแต่ไอ้ที่แยกห้องนอนกับแกเนี๊ยะ เพราะโกรธ เพราะเกลียด หรือเพราะอยากจะให้แกไปง้อไปงอนไปออดอ้อนเอาอกเอาใจกันแน่ แกไม่ลองทำบ้างล่ะเหมือนที่เป็นไอ้ลินคนสวนทำไง ไหนแกบอกว่าเมียแกแทบจะแก้ผ้าให้ด้วยซ้ำไม่ใช่เหรอ” ประมุขสนุกกับการให้คำแนะนำลูก พอๆ กับสนุกกับอาหารในปากที่ใช้ตะเกียบทองเหลืองคีบอย่างคล่องแคล่ว “ป๊าก็พูดเกินไป” ปาลินที่กำลังอร่อยกับอาหารมองพ่อด้วยใบหน้ายิ้มน้อยๆ ก่อนจะหันไปมองสองน้าหลานที่นั่งกินเงียบๆ ไม่กล้าพูดอะไรออกมาถ้าพ่อเขาไม่เป็นคนหันไปถามก่อน “อ้าว! ก็ไหนหยี่แปะบอกว่าอาเจ้รักนายลินไงล่ะ และยอมให้นายลินแตะเนื้อต้องตัวได้จนเกือบจะได้เป็นเมียหยี่แปะจริงๆ แล้วป๊าจะพูดเกินไปตรงไหนกันล่ะ” ไม่เหมือนน้องสาวของเขาที่มีอิสระจะพูดอะไรก็ได้ เมื่อที่นี่คือบ้านและอยู่ต่อหน้าพี่กับพ่อ ผิดกับสองน้าหลานที่อยู่เหมือนผู้อาศัยแม้จะเป็นเมียพ่อก็ตาม แต่พ่อก็ตั้งขอบเขตเอาไว้อย่างชัดเจนว่าจะทำอะไรได้ขนาดไหน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD