“แล้วจะเอายังไงต่อดีล่ะลิน หรือจะรอให้ฉันพาไปหานายจ้างที่อื่นก่อน หรือจะให้ส่งกลับไปหาท่านผู้พัน”
“ผมอยากทำไร่ทำสวนมากกว่าครับ ถ้าคุณลุงจะกรุณาสอนงานให้ ผมขอแค่ที่อยู่กับอาหารสามมื้อแลกกับงานก็พอครับ ผมจะรบกวนอยู่ด้วยไม่เกินหกเดือนหรอกครับ ได้ความรู้แล้วผมก็จะกลับไปทดลองทำที่บ้านผมครับ”
เกรียงไกรมองทหารหนุ่มที่รู้จักพูดและมีสัมมาคารวะแล้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจเพียงคนเดียวโดยไม่รอถามเมีย
“ฉันคงจะทำอย่างนั้นกับนายไม่ได้หรอกนะ งั้นเอาเป็นว่าฉันให้วันละสองร้อยกับที่อยู่ที่กินก็แล้วกัน ฉันเองก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร งานสวน งานไร่ก็หนักอยู่นะ ไม่เป็นเวล่ำเวลาเหมือนทำงานอย่างอื่น ต้องตื่นเช้านอนดึกเป็นบางครั้ง ถ้านายรับตรงนี้ได้ฉันก็จะสอนวิชาความรู้ให้เท่าที่ฉันมี”
“ขอบพระคุณครับคุณลุง”
หทารหนุ่มยกมือไหว้อย่างนอบน้อม ซึ่งนั่นเป็นอะไรที่เกรียงไกรชอบไม่น้อย เพราะรักคนว่านอนสอนง่าย พูดหรือเตือนอะไรให้เชื่อฟัง และที่สำคัญคงจะไม่เป็นภัยกับหลานสาวตัวเอง เหมือนคนงานคนก่อนที่ต้องหาเหตุให้ออกโทษฐานมีสายตาไม่น่าไว้วางใจเวลามองหลานสาว
“บ้านฉันกินกันง่ายๆ อยู่กันแค่สามคน แล้วก็นอนบนบ้านแค่สามคน ส่วนคนงานก็จะให้ไปนอนที่กระท่อมท้ายสวนโน่นแน่ะ ฉันจะพานายไปดูก่อน มีอะไรขาดเหลือจะได้มาเอาตอนมากินมื้อเย็นนะ”
เกรียงไกรเดินนำทหารหนุ่มไปยังท้ายสวนหลังจากส่งกำนันขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว
“ครับคุณลุง”
คนเดินตามรับคำสั้นๆ ขณะหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็กๆ เดินไปกระท่อมที่ห่างจากบ้านลึกเข้าไปเกือบสี่ร้อยเมตร สร้างจากไม้เนื้อดีหลังกะทัดรัดน่าอยู่ไม่น้อยถ้าไม่ติดตรงที่ฝุ่นเกาะอยู่เต็ม
“คงต้องปัดกวาดเอาหน่อยนะ อุปกรณ์ก็อยู่ในนี้ล่ะมีครบหมด เดี๋ยวตอนไปกินข้าวที่บ้านค่อยหอบเครื่องนอนลงมา ที่นี่จะกินมื้อเย็นกันประมาณทุ่มครึ่งนะ และมีป้าพินกับยัยแจมทำกับข้าว แต่มื้อเช้ากับเที่ยงส่วนใหญ่ก็ไม่ได้กินด้วยกัน นายต้องตื่นตอนตีสามไปช่วยขนของที่จะไปขายที่ตลาดใส่รถแล้วก็ขับมอเตอร์ไซคล์ตามไปช่วยจัดแผง กลับมาก็นอนพักชดเชยที่ให้ตื่นเช้า แล้วก็เริ่มงานสวนตามแต่จะมีอะไรให้ทำ สายๆ ฉันถึงจะกลับจากตลาด เอาคร่าวๆ แค่นี้ก่อนก็แล้วกัน อยู่ๆ ไปเดี๋ยวก็รู้งานเองล่ะ”
“ครับคุณลุง”
แม้นายจ้างจะอธิบายยืดยาว แต่ลูกจ้างก็รับคำสั้นๆ พร้อมกับถลกขากางเกงขึ้นเพื่อทำการปัดกวาดเช็ดถูกกระท่อมน้อย เกรียงไกรเห็นท่าทางแล้วก็ยิ้มน้อยๆ อย่างพึงพอใจก่อนจะเดินกลับบ้าน ทุ่มกว่าๆ คือเวลาที่ทหารหนุ่มเดินมาด้อมๆ มองๆ อยู่ประตูหลังครัว เหมือนจะเกรงกลัวเจ้านายอยู่กลายๆ
“เข้ามาสิจ๊ะ แกงเพิ่งจะเสร็จกำลังจะตักพอดีเลย”
อรพินเห็นเข้าเลยกวักมือเรียกอย่างเป็นกันเอง หลังจากที่สามีบอกรายละเอียดให้รับรู้แล้ว
“มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ”
ทหารหนุ่มที่อยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงวอร์ม เอื้อนเอ่ยอย่างนอบน้อมถ่อมเนื้อถ่อมตัว และจ้องมองอรพินเพียงคนเดียว ไม่แม้แต่จะชายตาไปหาหลานสาวคนสวยของเจ้านายที่กำลังตักข้าวใส่จานอยู่ไม่ห่างแม้แต่นิดเดียว ผิดจากคนงานคนก่อนหลายเท่านัก อรพินจึงพึงใจนิดๆ ขึ้นมา
“ยกชามแกงไปที่โต๊ะเลยก็ได้ ว่าแต่ชื่ออะไรนะเราน่ะ เมื่อกี้ก็ลืมถามลุง”
“ลินครับคุณป้า”
อรพินยิ้มออกมาด้วยความขำ
“ทีหลังเรียกฉันว่าป้าพินก็ได้ ไม่ต้องคุณเคินอะไรหรอก คนบ้านสวนบ้านไร่ไม่ใช่คุณนงคุณนายที่ไหน ส่วนนั่นก็ยัยแจมหลานคนเดียวของฉัน”
“สวัสดีครับคุณแจม” วิวรรญาวางจานข้าวแล้วรับไหว้ลูกจ้างหนุ่มแทนไม่ทัน
“ทีหลังไม่ต้องไหว้ฉันก็ได้นะนายลิน”
แล้วก็บอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบใบหน้ายิ้มน้อยๆ ก่อนจะกลับไปเป็นปกติแล้วถือถาดจานข้าวเดินออกไป ลูกจ้างคนใหม่ถูกเกรียงไกรเรียกให้ไปนั่งร่วมโต๊ะโดยไม่มีใครว่าอะไร
เพราะต่างก็อยากจะดูท่าทางว่าเป็นยังไง มื้อต่อไปจะให้กินด้วยกันอีกไหม หรือจะต้องให้มาตักไปนั่งกินคนเดียวที่กระท่อมเหมือนคนงานคนก่อนๆ อีก
แล้วทุกคนต่างก็เห็นด้วยกันในใจแทบทั้งสิ้นว่า พึงใจในกิริยามารยาทของทหารหนุ่มคนนี้ไม่น้อย เพราะพูดน้อย ไม่มีใครถามก็ไม่พูดตักอาหารก็ไม่ได้ตักของดีๆ ไปกองใส่จานตัวเองจนไม่หลงเหลือให้เจ้านาย
ตรงกันข้ามกลับตักนิดเดียว กินก็เรียบร้อยไม่มูมมาม วิวรรญาอดสงสารท่าทีนอบน้อมเจียมเนื้อเจียมตัวของทหารหนุ่มผิวคล้ำไม่ได้ และแม้จะไม่กล้าจ้องมองเพศตรงข้าม
ซึ่งจะผิดวิสัยสตรีที่ดีซึ่งลุงกับป้าจะเฝ้าพร่ำสอนมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยแล้วนั้น วิวรรญาก็ยังรับรู้ได้ว่าลูกจ้างใหม่มีหน้าตาที่หล่อเหลาไม่น้อย แม้ผิวจะคล้ำเพราะคงจะผ่านการฝึกอยู่กลางแดดมานั่นเอง
ส่วนรูปร่างนั้นก็กำยำล่ำสัน สูงไม่น่าจะต่ำกว่าร้อยแปดสิบเป็นแน่ และถ้าเป็นลูกคนร่ำคนรวย นายคนนี้ก็คงจะมีสาวๆ มาห้อมล้อมเป็นทิวแถว แต่โชคร้ายที่เป็นแค่หนุ่มกำพร้าแม่
และพ่อแต่งงานใหม่ มีลูกใหม่ และถ้าจะเดาไม่ผิดนั้น ผู้พ่อก็คงจะไม่ได้สนใจไยดีกับเขามากมายนัก ปลดประจำการแล้วถึงไม่อยากรีบกลับบ้านเหมือนทหารเกณฑ์คนอื่นๆ
วิวรรญาอดเอาชะตาชีวิตของเขามาเปรียบเทียบกับตัวเองไม่ได้ เพราะมันช่างคล้ายคลึงกันเหลือเกิน มีพ่อที่ให้ความสนใจกับเมียใหม่ ลูกคนใหม่ จนไม่สนใจลูกคนนี้ถึงขนาดออกปากยกให้พี่ชายกับพี่สะใภ้เอามาเลี้ยงดู
ตั้งแต่เลิกรากับเมียคนแรกไปแล้ว ผิดกันก็ตรงที่แม่ของชายหนุ่มจากไปเพราะมีความตายเข้ามาพราก ไม่เหมือนแม่ของตัวเอง ที่จากไปเพราะมีเรื่องผู้ชายเข้ามาเกี่ยวข้อง