“โอเคๆ พวกเราขอโทษ ใครจะไปรู้ว่านายปาลินผู้มากด้วยเสน่ห์ต่อเพศหญิงจะจนแต้มคิดอะไรไม่ออกกับอีแค่ถูกเมียบอกว่าเกลียดแทนคำว่ารักเท่านั้น กระบวนการเอาใจหญิงที่แกเคยมีมันหายไปไหนหมดล่ะ ทำไมไม่งัดขึ้นมาใช้ ดอกไม้ช่อโต ข้าวของมีค่า พาไปดินเนอร์ร้านหรู บรรยากาศดีๆ น่ะ ไม่เคยทำเหรอเมื่อก่อนน่ะ แค่นี้ทำเป็นมานั่งกลุ้มไปได้”
“แกว่างั้นเหรอ แล้วถ้าส่งช่อดอกไม้ไปให้เขาจะไม่โกรธฉันเหรอ”
“ก็ลองสิไม่เชื่อฉันนัก”
ปาลินหันไปหาเพื่อนแล้วทำท่าครุ่นคิดนิดหนึ่ง ก่อนจะล้วงมือถือในกระเป๋ากดไปหาเลขาให้ช่วยจัดการให้
‘คุณแจมไม่กลับเข้าออฟฟิศ แล้วก็ไม่กลับบ้านด้วยค่ะคุณซี เพราะวันนี้วันศุกร์ ปกติคุณแจมจะไปกลับบ้านบึงอยู่แล้วค่ะ’
“โอเคครับ ขอบคุณมาก”
แล้วก็วางสายด้วยใบหน้าเจื่อนสนิท
“เขาคงไม่อยากได้อะไรจากฉันหรอก ขนาดกลับบ้านยังไม่คิดจะบอกสักคำเลย”
ตามด้วยประโยคตัดพ้อ จนเพื่อนต่างหันมองเป็นตาเดียวกัน
“แจม! ป้าว่าไม่ต้องมานั่งช่วยหรอก ขับรถมาก็เหนื่อยพออยู่แล้ว”
อรพินหันไปมองร่างบอบบางที่เดินลงมาในชุดเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นคุ้นตา พร้อมกับตรงมานั่งลงเพื่อช่วยงานเหมือนทุกครั้งไม่เคยเปลี่ยนแปลง แม้หลานนอกไส้จะแต่งการแต่งงานได้สามีร่ำรวยไปแล้วก็ตามที
“ป้ากับลุงก็เหนื่อยเหมือนกันค่ะ”
แต่อีกคนก็ยืนยันเสียงหนักแน่นแล้วลงมือทำงานที่คุ้นเคยมาตลอดชีวิตอย่างไม่เกี่ยงงอน ไม่ถึงชั่วโมงสองป้าหลานก็หันไปมองแสงไฟจากหน้ารถที่แล่นเข้ามาในบ้าน เกรียงไกรยิ้มแป้นทันทีเมื่อเห็นหลานสาวนั่งอยู่
“ลุงซื้อข้าวมันไก่เจ้าประจำมาฝากด้วย เพราะรู้ว่ายังไงแจมก็ต้องมา”
ปากบอกแต่ตัวอ้อมไปหลังกระบะแล้วยกเข่งผักลงมาวางใกล้เมียกับหลาน พอเสร็จเขาก็จัดการเดินเข้าครัว เอาข้าวมันไก่ใส่จานพร้อมกับน้ำมานั่งล้อมวงกินด้วยกันท่ามกลางกองผักมากมายอย่างเอร็ดอร่อย
“คิดถึงนายลินนะพี่”
อรพินเผลอเอ่ยประโยคนี้ขึ้นมา เกรียงไกรหันไปมองเมียแล้วมองหลานเพื่อสังเกตอาการเท่านั้น แต่ไม่ได้ว่าอะไร ส่วนหลานแม้จะอยู่ในท่าทีสงบนิ่ง แต่เอาเข้าจริงๆ ก็แทบจะกลืนข้าวไม่ลงด้วยซ้ำ หากไม่อยากเผยความรู้สึกขมขื่นให้ใครได้รับรู้
แต่พอได้อยู่คนเดียวในห้องนอนอันเงียบเหงาแล้ว น้ำตาที่กักเก็บไว้ตั้งแต่เช้าก็ค่อยๆ ไหลรินออกมา เมื่อห้วงเวลาอันเจ็บช้ำจากการกระทำของเขาลอยละลิ่วเข้ามาย้ำเตือนอีกวาระ
ร่างเล็กในชุดนอนผ้าทอเนื้อนุ่มก้าวเดินไปพิงไหล่อยู่กับขอบหน้าต่าง เหม่อมองดวงจันทร์กำลังสุกสกาวพราวพรั่งอยู่ในห้วงเวหา เปล่งประกายจรัสเจิดจ้าลงมาส่องทางให้คนที่กำลังพานพบกับความมืดมิดในรักว่าควรจะก้าวเดินไปทางไหน ควรจะวางหัวใจไว้ตรงที่ใด
‘ลิน! ป่านนี้นายอยู่ไหน หรือทำอะไรอยู่นะ ฉันอยากได้นายลินคนนั้นคืนมาได้มั้ย ฉันยินดีจะอยู่แบบเจ็บๆ เมื่อไม่มีนายอยู่ใกล้ๆ ดีกว่ามีคนหน้าตาท่าทางเหมือนนายทุกอย่าง แต่ก็ไม่ใช่นายลินของฉันอีกต่อไปแล้ว’
มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาออกจากพวงแก้ม เพราะรู้ว่าตัวเองกำลังอ่อนแอ กำลังพ่ายแพ้ให้หัวใจที่โหยหาคนรัก ที่ไม่มีวันจะหวนกลับมาหาอีก หรือถ้าจะมีก็คงจะเป็นคนหน้าคล้ายแต่ไร้หัวใจ ไร้ร่องรอยของ ‘นายลิน’ คนเดิมไปแล้วโดยสิ้นเชิง
วิวรรญาผละจากหน้าต่างแล้วตรงไปหาเตียง เพราะไม่อยากพาตัวเองดิ่งลงไปหาอดีตอันแสนเจ็บช้ำ แล้วรีบล้มตัวลงนอน คลุมผ้าตั้งแต่ปลายเท้าจรดศีรษะ เมื่อไม่อยากคิดถึงเขาอีกแล้ว และต้องพยายามข่มตาให้หลับจะได้ไม่เจ็บอีก
‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก’
กว่าจะข่มตาให้หลับได้ก็กินเวลาเป็นชั่วโมง แต่ก็ไม่วายมีเสียงเคาะประตูรบกวน จนต้องลืมตาตื่นขึ้น เมื่อรู้ว่าเป็นป้าก็รีบลงจากเตียงไปเปิดให้ทันที เพราะคงจะมีเรื่องด่วนแน่ไม่งั้นป้าคงไม่มาปลุก
แต่ดวงตาคู่สวยเศร้าถึงกับเบิกโพลง เมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่หลังป้า อยากจะปิดประตูใส่หน้าเสียเดี๋ยวนั้น ถ้าไม่ติดมีป้ายืนอยู่ และด้วยความที่ไม่อยากทำให้บ้านวุ่นวาย จึงยอมเบี่ยงกายให้เขาเข้ามาในห้องแต่โดยดี ป้าจะได้รีบไปนอนเพราะต้องตื่นแต่เช้าไปตลาดตามเคย
“คุณมีธุระอะไร ทำไมมาถึงนี่”
น้ำเสียงที่ถามไปแม้จะเบาแต่ก็หนักแน่นและบ่งบอกว่าเจ้าของห้องไม่ได้อยากต้อนรับเขานัก และกับอาการเดินเซนิดๆ ก็รู้ดีว่าเขาดื่มมา
“ทำไม! ผมเป็นผัวคุณนะ เมียอยู่ที่ไหนผัวก็ต้องอยู่ด้วยสิ หรือคุณจะให้ไอ้ชายชู้ที่ไหนมาอยู่ด้วยล่ะ”
กลิ่นเหล้าโชยมาเตะจมูกอย่างแรงเป็นการยืนยันว่าเขาเมา และนี่จะเป็นเรื่องป่วยการหากต้องมาถกเถียงกับเขาในเวลาสติไม่ครบถ้วน วิวรรญาเลยผละไปเปิดตู้ดึงชุดเครื่องนอนออกมาจัดการปูไว้ห่างๆ เตียง
“คุณเมาแล้ว ฉันว่านอนก่อนดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน”
“ผมไม่เมา และผมจะไม่นอนที่ไหนถ้าไม่มีเมียผมนอนใกล้ๆ ด้วย” ปาลินคว้าร่างเมียมากอดทันควันและด้วยพละกำลังเหนือกว่ามาก
“ปล่อยฉันนะคุณซี! คุณเมามากแล้ว ไปนอนในที่ของคุณ”
มือบางพยายามดันกายเอาเขาออกห่าง แต่มีหรือจะทำได้
“ไม่!!! บอกแล้วไงว่าผมจะนอนกับเมียผมเท่านั้น”
“อย่านะ! ออกไปให้พ้น อย่า...”
ร่างเล็กๆ ถูกวงแขนแข็งแรงของเขารัดไว้จนแน่น เรียวปากก็ถูกเขาครอบครองอย่างรวดเร็ว และมีเจ้าของปากขัดขืน ดิ้นรนเอาตัวรอด เพราะเหม็นเหล้าแทบจะทนไม่ได้ สองร่างเลยต่างเสียหลักจนล้มไปหาเตียงนุ่ม
“โอ๊ย!!! ฉันเจ็บ! ออกไปให้พ้น!”