สองปีแล้วสินะกับเรื่องน่าอดสูที่ตัวเองไม่เคยลืมเลือน หลังจากที่วิ่งหนีออกมาวันนั้น หล่อนก็รีบเก็บข้าวเก็บของกลับเมืองไทยทันที โดยไม่รอให้ สุพรรษากลับมาดุด่าหรือทำร้ายอีก
หล่อนกลับมาอยู่ที่บ้านพ่อกับแม่ของสุพรรษาที่เมืองไทย และปิดหูปิดตาไม่ยอมรับรู้เรื่องราวของสุพรรษากับลาซาลอสอีกเลย จนกระทั่งมารู้ว่า สุพรรษาตัดสินใจแต่งงานกับเพื่อนรักของลาซาลอสในสองเดือนถัดมา
พาขวัญถอนใจแผ่วเบา ขณะเงยหน้าขึ้นมองแผ่นฟ้ายามเย็นที่กำลังถูกความมืดมิดกลืนกินด้วยความหดหู่ใจ
ถึงแม้ว่าตอนนี้หล่อนจะถูกเรียกตัวให้กลับมาอยู่เป็นเพื่อนสุพรรษาอีกครั้ง เพื่อช่วยดูแลลูกชายของสุพรรษาที่มีอายุเพียงแค่เก้าเดือน หลังจากที่นิโคลัสผู้เป็นสามีของสุพรรษาถูกลอบยิงจนเสียชีวิต แต่การได้เผชิญหน้ากับลาซาลอสอีกครั้ง มันกลับทำให้หล่อนทรมานเหลือเกิน
ใช่ หล่อนลาจากกรีซไปถึงสองปีก็จริง แต่ไม่เคยมีวันไหนเลยที่หล่อนจะสามารถลืมผู้ชายคนนี้ได้ เขายังคงเป็นคนที่หล่อนรัก และยังคงเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวของหล่อนไม่เปลี่ยนแปลง
หยาดน้ำตาใสๆ หล่นลงมาบนแก้มนวลโดยที่เจ้าของดวงหน้าไม่ทันรู้ตัว เมื่อนึกถึงความเจ็บปวดที่ไม่เคยเลือนหายไปจากหัวใจ หล่อนฝันถึงลาซาลอสเสมอ ทุกค่ำคืนเขายังตามมาหลอกหลอนถึงในฝัน หล่อนต้องใช้ความพยายามอย่างมากมายที่จะยับยั้งตัวเองไม่ให้กลับมายังกรีซ กลับมาหาเขา...
“พายไม่เคยลืมคุณได้เลย แม้จะพยายามแค่ไหนก็ตาม”
ก้อนสะอื้นถูกกลืนหายลงไปในลำคอ มือเล็กป้ายน้ำตาทิ้งเมื่อดวงตาเริ่มพร่าเลือนแทบมองรอบตัวไม่เห็น
“แต่คุณ...คงแทบจะจำพายไม่ได้แล้ว ใช่ไหมคะ”
หลายครั้งที่ลาซาลอสเดินทางมาที่นี่เพื่อปลอบใจสุพรรษา แต่เขากลับไม่เคยทักทายหล่อนเลย คงเป็นเพราะเขารังเกียจหล่อนมาก หรือไม่ก็คงลืมหล่อนไปแล้วนั่นเอง
พาขวัญฝืนยิ้ม แต่กลับยิ่งร้องไห้ หล่อนไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิดถึงลาซาลอสด้วยซ้ำ สุพรรษามีสิทธิ์เพียงคนเดียว เพราะลาซาลอสรักสุพรรษาเท่านั้น หล่อนควรจะดีใจ ใช่...หล่อนดีใจที่ทั้งคู่จะกลับมาสานสัมพันธ์กันใหม่อีกครั้ง หลังจากที่พังทลายลงไปเมื่อสองปีก่อน
ร่างเล็กผุดลุกขึ้นยืน กำลังจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปภายในบ้าน เพราะเกรงว่าหากฟาลอสตื่นขึ้นมาแล้วไม่พบหล่อนจะร้องไห้เรียกหา แต่ยังไม่ทันได้ก้าวเท้า ไฟจากหน้ารถยนต์คันหนึ่งก็สว่างวาบสาดแสงเข้ามาใส่ร่าง พร้อมกับซูเปอร์คาร์คันหรูที่แสนคุ้นตาแล่นเข้ามาจอด
พาขวัญจำไม่ได้ว่าตัวเองหยุดหายใจไปกี่วินาทีเมื่อรู้ว่ารถยนต์คันงามที่แล่นมาจอดภายในบริเวณบ้านนั้นเป็นของใคร มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ลาซาลอสเปิดประตู และเดินมาหยุดตรงหน้าแล้วนั่นละ
“...”
หล่อนพูดไม่ออก เบิกตากว้าง และเมื่อได้สติก็รีบผลุนผลันจะเดินหนี และคิดว่าเขาคงไม่เดินตาม หรือใส่ใจเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่แบบนั้น
แขนเรียวเล็กถูกคว้าเอาไว้ด้วยอุ้งมือใหญ่ที่แสนอบอุ่น ไอร้อนจากฝ่ามือกระด้างส่งผ่านเข้ามาภายในร่างสาว ทำให้พาขวัญสั่นเทาไปทั้งตัว
“ปละ ปล่อย...ค่ะ...”
เขาปล่อยแขนจากหล่อน ก่อนจะเดินอ้อมมาหยุดตรงหน้า ภายใต้สายตามืดดำ หล่อนไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าลาซาลอสกำลังคิดอะไร
แก้มนวลค่อยๆ มีสีระเรื่อขึ้น เมื่อถูกดวงตาคมกริบจับจ้องมองอย่างสำรวจตรวจตรา
“คือ...ขอ...ขอตัวค่ะ”
“ฉันมาเยี่ยมฟาลอส”
นี่สินะ คือเหตุผลของเขา
พาขวัญบอกตัวเองให้เย็นชาได้สักเพียงเสี้ยวหนึ่งของลาซาลอสก็ยังดี แต่ก็ทำไม่ได้
“ฟาลอสนอนแล้วค่ะ”
หล่อนพยายามอย่างที่สุดที่จะไม่ให้หางเสียงสั่น แต่มันก็ยังคงสั่นชัดเจนจนน่าสังเวชใจ
ลาซาลอสยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมอง ก่อนจะระบายยิ้มบางๆ
“แค่ทุ่มเศษ ยังไม่ดึกเกินไปหรอกมั้ง”
“แต่...ฟาลอสนอนแล้วจริงๆ ค่ะ”
เขาปล่อยมือจากไหล่ ก่อนจะเดินผ่านหน้าหล่อน ขึ้นบันไดบ้านไป พาขวัญยืนนิ่งตกใจ พอได้สติก็รีบวิ่งตาม
“ได้โปรดมาใหม่ในวันพรุ่งนี้เถอะค่ะ”
จู่ๆ คนที่ก้าวยาวๆ มุ่งหน้าไปตามทางเดินที่ปูด้วยไม้ปาร์เกต์สีน้ำตาลเข้มก็หยุดเดินกะทันหัน และนั่นก็ทำให้คนที่เดินแกมวิ่งตามมาเบรกไม่ทัน ร่างบอบบางจึงชนเข้ากับร่างกำยำอย่างจัง
“อุ๊ย!...”
หล่อนช้อนตาขึ้นมองเขาด้วยความตื่นตระหนกตกใจ ในขณะที่เขาไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรออกมาเลย นอกจาก...เย็นชา
พาขวัญรีบรวบรวมสติและถอยออกห่าง
“ขะ...ขอโทษค่ะ”
กรามแกร่งของลาซาลอสขบกันแน่นจนเป็นสันนูน ขณะเมินหน้าหนีมองออกไปนอกระเบียง
“เธอรอฉันอยู่ข้างนอกนี่แหละ ฉันจะเข้าไปเยี่ยมฟาลอสแป๊บเดียวเดี๋ยวก็จะกลับออกมา”
แล้วเขาก็หมุนตัวจะก้าวเดินจากไป ซึ่งหล่อนก็ควรจะยินดีเพราะจะได้ไม่ต้องเผชิญหน้ากันให้นานไปกว่านี้ แต่...แต่ปากไม่รักดีของหล่อนดันโพล่งออกไปเสียนี่
“จะรีบกลับไปทำไมล่ะคะ อีกเดี๋ยวคุณสุก็คงจะกลับมาแล้ว”
คนที่หันหลังให้ค่อยๆ หมุนตัวกลับมา ดวงตาคมกริบหรี่มองอย่างไม่พอใจ
“แล้วมันใช่เรื่องของเธอหรือเปล่า”
พาขวัญหน้าชา ก่อนจะก้มหน้าหลบสายตา กลีบปากอิ่มเม้มสนิทเป็นเส้นตรง
“พายขอโทษค่ะ...พายก็แค่หวังดีอยากให้คุณกับคุณสุคืนดีกัน”
“ก็เพราะความหวังดีงี่เง่าแบบนี้ไง วันนั้นถึงได้เกิดเรื่องขึ้น”
เขา...เขายังคงไม่ลืมเรื่องวันนั้น และยังคงโทษว่ามันคือความผิดของหล่อน
พาขวัญหน้าซีดเผือดไร้สีเลือดอย่างสิ้นเชิง ก่อนจะละล่ำละลักตอบออกไปเสียงเบาหวิว
“พาย...พายจำมันไม่ได้แล้วค่ะ”
ลาซาลอสไม่ได้โต้ตอบอะไรออกมา นอกจากหมุนตัวและเดินจากไปเงียบๆ
พาขวัญแทบทรุดลงกับพื้น โชคดีที่มือคว้าผนังบ้านเอาไว้ได้ทัน “ไม่ว่าจะผ่านไปสักกี่ปี คุณก็ยังเกลียดพายเหมือนเดิม...”