ตอนที่ 7

1135 Words
สองปีแล้วสินะกับเรื่องน่าอดสูที่ตัวเองไม่เคยลืมเลือน หลังจากที่วิ่งหนีออกมาวันนั้น หล่อนก็รีบเก็บข้าวเก็บของกลับเมืองไทยทันที โดยไม่รอให้ สุพรรษากลับมาดุด่าหรือทำร้ายอีก หล่อนกลับมาอยู่ที่บ้านพ่อกับแม่ของสุพรรษาที่เมืองไทย และปิดหูปิดตาไม่ยอมรับรู้เรื่องราวของสุพรรษากับลาซาลอสอีกเลย จนกระทั่งมารู้ว่า สุพรรษาตัดสินใจแต่งงานกับเพื่อนรักของลาซาลอสในสองเดือนถัดมา พาขวัญถอนใจแผ่วเบา ขณะเงยหน้าขึ้นมองแผ่นฟ้ายามเย็นที่กำลังถูกความมืดมิดกลืนกินด้วยความหดหู่ใจ ถึงแม้ว่าตอนนี้หล่อนจะถูกเรียกตัวให้กลับมาอยู่เป็นเพื่อนสุพรรษาอีกครั้ง เพื่อช่วยดูแลลูกชายของสุพรรษาที่มีอายุเพียงแค่เก้าเดือน หลังจากที่นิโคลัสผู้เป็นสามีของสุพรรษาถูกลอบยิงจนเสียชีวิต แต่การได้เผชิญหน้ากับลาซาลอสอีกครั้ง มันกลับทำให้หล่อนทรมานเหลือเกิน ใช่ หล่อนลาจากกรีซไปถึงสองปีก็จริง แต่ไม่เคยมีวันไหนเลยที่หล่อนจะสามารถลืมผู้ชายคนนี้ได้ เขายังคงเป็นคนที่หล่อนรัก และยังคงเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวของหล่อนไม่เปลี่ยนแปลง หยาดน้ำตาใสๆ หล่นลงมาบนแก้มนวลโดยที่เจ้าของดวงหน้าไม่ทันรู้ตัว เมื่อนึกถึงความเจ็บปวดที่ไม่เคยเลือนหายไปจากหัวใจ หล่อนฝันถึงลาซาลอสเสมอ ทุกค่ำคืนเขายังตามมาหลอกหลอนถึงในฝัน หล่อนต้องใช้ความพยายามอย่างมากมายที่จะยับยั้งตัวเองไม่ให้กลับมายังกรีซ กลับมาหาเขา... “พายไม่เคยลืมคุณได้เลย แม้จะพยายามแค่ไหนก็ตาม” ก้อนสะอื้นถูกกลืนหายลงไปในลำคอ มือเล็กป้ายน้ำตาทิ้งเมื่อดวงตาเริ่มพร่าเลือนแทบมองรอบตัวไม่เห็น “แต่คุณ...คงแทบจะจำพายไม่ได้แล้ว ใช่ไหมคะ” หลายครั้งที่ลาซาลอสเดินทางมาที่นี่เพื่อปลอบใจสุพรรษา แต่เขากลับไม่เคยทักทายหล่อนเลย คงเป็นเพราะเขารังเกียจหล่อนมาก หรือไม่ก็คงลืมหล่อนไปแล้วนั่นเอง พาขวัญฝืนยิ้ม แต่กลับยิ่งร้องไห้ หล่อนไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิดถึงลาซาลอสด้วยซ้ำ สุพรรษามีสิทธิ์เพียงคนเดียว เพราะลาซาลอสรักสุพรรษาเท่านั้น หล่อนควรจะดีใจ ใช่...หล่อนดีใจที่ทั้งคู่จะกลับมาสานสัมพันธ์กันใหม่อีกครั้ง หลังจากที่พังทลายลงไปเมื่อสองปีก่อน ร่างเล็กผุดลุกขึ้นยืน กำลังจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปภายในบ้าน เพราะเกรงว่าหากฟาลอสตื่นขึ้นมาแล้วไม่พบหล่อนจะร้องไห้เรียกหา แต่ยังไม่ทันได้ก้าวเท้า ไฟจากหน้ารถยนต์คันหนึ่งก็สว่างวาบสาดแสงเข้ามาใส่ร่าง พร้อมกับซูเปอร์คาร์คันหรูที่แสนคุ้นตาแล่นเข้ามาจอด พาขวัญจำไม่ได้ว่าตัวเองหยุดหายใจไปกี่วินาทีเมื่อรู้ว่ารถยนต์คันงามที่แล่นมาจอดภายในบริเวณบ้านนั้นเป็นของใคร มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ลาซาลอสเปิดประตู และเดินมาหยุดตรงหน้าแล้วนั่นละ “...” หล่อนพูดไม่ออก เบิกตากว้าง และเมื่อได้สติก็รีบผลุนผลันจะเดินหนี และคิดว่าเขาคงไม่เดินตาม หรือใส่ใจเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่แบบนั้น แขนเรียวเล็กถูกคว้าเอาไว้ด้วยอุ้งมือใหญ่ที่แสนอบอุ่น ไอร้อนจากฝ่ามือกระด้างส่งผ่านเข้ามาภายในร่างสาว ทำให้พาขวัญสั่นเทาไปทั้งตัว “ปละ ปล่อย...ค่ะ...” เขาปล่อยแขนจากหล่อน ก่อนจะเดินอ้อมมาหยุดตรงหน้า ภายใต้สายตามืดดำ หล่อนไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าลาซาลอสกำลังคิดอะไร แก้มนวลค่อยๆ มีสีระเรื่อขึ้น เมื่อถูกดวงตาคมกริบจับจ้องมองอย่างสำรวจตรวจตรา “คือ...ขอ...ขอตัวค่ะ” “ฉันมาเยี่ยมฟาลอส” นี่สินะ คือเหตุผลของเขา พาขวัญบอกตัวเองให้เย็นชาได้สักเพียงเสี้ยวหนึ่งของลาซาลอสก็ยังดี แต่ก็ทำไม่ได้ “ฟาลอสนอนแล้วค่ะ” หล่อนพยายามอย่างที่สุดที่จะไม่ให้หางเสียงสั่น แต่มันก็ยังคงสั่นชัดเจนจนน่าสังเวชใจ ลาซาลอสยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมอง ก่อนจะระบายยิ้มบางๆ “แค่ทุ่มเศษ ยังไม่ดึกเกินไปหรอกมั้ง” “แต่...ฟาลอสนอนแล้วจริงๆ ค่ะ” เขาปล่อยมือจากไหล่ ก่อนจะเดินผ่านหน้าหล่อน ขึ้นบันไดบ้านไป พาขวัญยืนนิ่งตกใจ พอได้สติก็รีบวิ่งตาม “ได้โปรดมาใหม่ในวันพรุ่งนี้เถอะค่ะ” จู่ๆ คนที่ก้าวยาวๆ มุ่งหน้าไปตามทางเดินที่ปูด้วยไม้ปาร์เกต์สีน้ำตาลเข้มก็หยุดเดินกะทันหัน และนั่นก็ทำให้คนที่เดินแกมวิ่งตามมาเบรกไม่ทัน ร่างบอบบางจึงชนเข้ากับร่างกำยำอย่างจัง “อุ๊ย!...” หล่อนช้อนตาขึ้นมองเขาด้วยความตื่นตระหนกตกใจ ในขณะที่เขาไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรออกมาเลย นอกจาก...เย็นชา พาขวัญรีบรวบรวมสติและถอยออกห่าง “ขะ...ขอโทษค่ะ” กรามแกร่งของลาซาลอสขบกันแน่นจนเป็นสันนูน ขณะเมินหน้าหนีมองออกไปนอกระเบียง “เธอรอฉันอยู่ข้างนอกนี่แหละ ฉันจะเข้าไปเยี่ยมฟาลอสแป๊บเดียวเดี๋ยวก็จะกลับออกมา” แล้วเขาก็หมุนตัวจะก้าวเดินจากไป ซึ่งหล่อนก็ควรจะยินดีเพราะจะได้ไม่ต้องเผชิญหน้ากันให้นานไปกว่านี้ แต่...แต่ปากไม่รักดีของหล่อนดันโพล่งออกไปเสียนี่ “จะรีบกลับไปทำไมล่ะคะ อีกเดี๋ยวคุณสุก็คงจะกลับมาแล้ว” คนที่หันหลังให้ค่อยๆ หมุนตัวกลับมา ดวงตาคมกริบหรี่มองอย่างไม่พอใจ “แล้วมันใช่เรื่องของเธอหรือเปล่า” พาขวัญหน้าชา ก่อนจะก้มหน้าหลบสายตา กลีบปากอิ่มเม้มสนิทเป็นเส้นตรง “พายขอโทษค่ะ...พายก็แค่หวังดีอยากให้คุณกับคุณสุคืนดีกัน” “ก็เพราะความหวังดีงี่เง่าแบบนี้ไง วันนั้นถึงได้เกิดเรื่องขึ้น” เขา...เขายังคงไม่ลืมเรื่องวันนั้น และยังคงโทษว่ามันคือความผิดของหล่อน พาขวัญหน้าซีดเผือดไร้สีเลือดอย่างสิ้นเชิง ก่อนจะละล่ำละลักตอบออกไปเสียงเบาหวิว “พาย...พายจำมันไม่ได้แล้วค่ะ” ลาซาลอสไม่ได้โต้ตอบอะไรออกมา นอกจากหมุนตัวและเดินจากไปเงียบๆ พาขวัญแทบทรุดลงกับพื้น โชคดีที่มือคว้าผนังบ้านเอาไว้ได้ทัน “ไม่ว่าจะผ่านไปสักกี่ปี คุณก็ยังเกลียดพายเหมือนเดิม...”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD