EP.8 ฝันร้ายที่ไม่อาจลืม
“จริงสิครับ อยากไปเมื่อไหร่บอกพี่ได้เลย”
“ขอบคุณค่ะพี่อาเหม็ด”
บอดีการ์ดอาเหม็ดจ้องมองหญิงสาวอย่างหลงใหล แม้ยามนี้จะมอมแมมเพราะมีคราบฝุ่นดำๆ จากการขัดถ้วยชามทองเหลืองติดตามใบหน้า แต่ก็มิอาจบดบังความน่ารักสดใสของเธอได้เลย
“หน้าภัคมีอะไรติดอยู่เหรอคะ”
หญิงสาวนิ่วหน้าก่อนจะใช้นิ้วจับใบหน้าตัวเอง และนั่นยิ่งทำให้ใบหน้าของเธอเปื้อนมากกว่าเดิม
อาเหม็ดยื่นมือมาหมายจะช่วยเช็ดให้อทว่าเสียงทุ้มที่ดังมาจากด้านหลังทำให้เขาต้องชะงัก
“นายมาอยู่ที่นี่นี่เอง ฉันตามหาเสียให้ทั่ว”
“ท่านชีคมีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ” บอดีการ์ดอาเหม็ดรีบลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางเก้อเขิน เมื่อถูกเจ้านายจับได้ว่าแอบอู้งานมาจีบสาว
“ไปบอกท่านผู้ใหญ่บ้านเจมินว่าเย็นนี้ฉันจะเข้าไปคุยธุระด้วย”
“ได้ครับ” บอดีการ์ดหนุ่มรับคำอย่างงงๆ ก่อนจะรีบก้าวเท้าออกไปจากคฤหาสน์ทันที
ชีคฮัยฟาอ์แค่เพียงเหลือบตามองร่างเล็กมอมแมมที่นั่งอยู่ท่ามกลางเครื่องทองเหลืองสูงท่วมหัว ก่อนจะเดินผ่านไปราวกับไม่ได้สนใจหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย ไม่สนใจเลยสักนิด...ไม่เลย!
อย่าบอกนะว่าอาเหม็ดคิดจะจีบนังหนูคนนี้ อะไรกัน เด็กนั่นน่าจะอายุสิบหก หรือไม่ก็คงแค่สิบเจ็ดปีเห็นจะได้ เร็วเกินไปที่จะมีคนรัก เขาจึงต้องเข้ามาขัดขวางโดยอ้างเรื่องผู้ใหญ่บ้าน ทั้งที่ความจริงแล้วเขาเพิ่งพูดคุยธุระกับผู้ใหญ่บ้านทางโทรศัพท์ไปเมื่อสักครู่นี้เอง ซึ่งเขามั่นใจว่าการกระทำของเขาเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
นังหนูคนนี้ยังเด็กเกินกว่าจะริอ่านมีคนรัก
“ท่านชีคตาดุ๊ดุ”
หญิงสาวย่นคอห่อไหล่ก่อนจะบ่นงึมงำ ไม่เข้าใจว่าทำไมชีคฮัยฟาอ์ถึงได้มองตนด้วยสายตาไม่พอใจเช่นนั้น “หรือว่าท่านชีคคิดว่าเราอู้งาน ตายแล้ว! แบบนี้ต้องรีบขัดให้เร็วขึ้น ไม่อย่างนั้นถ้าท่านชีคไปต่อว่าป้า ป้าคงตามมาด่าเราจนหูชา” เมื่อคิดได้ดังนั้นหญิงสาวก็ก้มหน้าก้มตาขัด ขัด ขัด และขัดอย่างขะมักเขม้น
ผ่านไปหลายชั่วโมง หญิงสาวบิดตัวด้วยความเมื่อยล้า มองเครื่องทองเหลืองที่ถูกขัดจนเหลืองอร่ามชวนมองด้วยความภูมิใจ เธอลุกขึ้นยืน แต่กลับทรุดฮวบลงไปกองกับพื้นเพราะนั่งนานจนเป็นเหน็บ หลังจากร้องโอดโอยบีบนวดขาจนลุกขึ้นยืนไหว ท้องเจ้ากรรมก็ส่งเสียงร้องประท้วง
“หิวจัง” เธอลูบท้องไปมาหมายจะเดินไปหาจันทร์เพ็ญในครัว ทว่าสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กกลับวิ่งผ่านหน้าเธอไปอย่างรวดเร็ว ดึงความสนใจของหญิงสาวจนลืมเรื่องหิวไปชั่วขณะ
“แมวเหมียว!” หญิงสาวร้องเรียกแมวน้อยด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ ด้วยไม่เคยเห็นแมวลักษณะเช่นนี้มาก่อน ลูกแมวตัวเล็กสีเหมือนเม็ดทราย ขาหน้ามีขีดสีน้ำตาลเข้มสองขีด ปราดเปรียวและว่องไว เร็วเท่าความคิด ภัครติวิ่งตามลูกแมวน้อยไปทันที เมื่อเห็นมันหยุดนิ่งและยกเท้าหลังขึ้นเกาใบหู เธอก็ค่อยๆ ย่องหมายจะจับมาอุ้ม แต่ดูเหมือนแมวน้อยจะรู้ทันจึงวิ่งหนีหายไปอีก
“ไวนักนะเจ้าเหมียว”
เธอวิ่งตามแมวเหมียวไปเรื่อยๆ จนไม่รู้ว่ามันพาเธอเข้าไปในสวนต้องห้ามด้านหลังคฤหาสน์ สวนที่เธอเคยแอบเข้ามาครั้งหนึ่งเพื่อฟังเสียงดีดลูต สวนที่จันทร์เพ็ญย้ำนักย้ำหนาว่าห้ามเข้าไปเล่นซนอีกเป็นอันขาด
แมวน้อยกระโดดหายเข้าไปในพุ่มไม้ แน่นอนว่าหญิงสาวไม่ปล่อยให้แมวน้อยรอดพ้นเงื้อมมือ เธอกระโจนเข้าไปในพุ่มไม้ทันที เมื่อร่างบางโผล่พ้นพุ่มไม้เธอจึงเพิ่งตระหนักว่าอีกฝั่งคือเนินดินต่างระดับ หญิงสาวหวีดร้องด้วยความตกใจก่อนจะกลิ้งหลุนๆ ลงมาราวกับลูกขนุน ภาพสนามหญ้ากับท้องฟ้าสีครามสลับกันไปมาจนตาลายด้วยความวิงเวียน เหลือบไปเห็นต้นไม้สูงใหญ่เบื้องล่างทางหางตา เดาได้เลยว่ามันจะช่วยให้เธอหยุดกลิ้งเสียที
“ว้าย!”
หญิงสาวตกใจจนหน้าซีดเผือดเมื่อร่างของตนกลิ้งมาเกยอยู่บนร่างสูงใหญ่ที่นอนเอกเขนกอยู่ใต้ต้นไม้ เธออยากจะรีบลุกออกจากเจ้าของร่างหนา แต่ก็วิงเวียนจนพยุงตัวเองลุกขึ้นไม่ได้
“กลิ้งลงมาแบบนั้นสนุกนักหรือ”
ชีคฮัยฟาอ์เอ่ยถามพลางจ้องมองหญิงสาวไปทั่วทั้งตัวอย่างสำรวจ เมื่อเห็นว่าตามเนื้อตัวไม่มีบาดแผลก็แอบเบาใจ เพราะดูจากท่ากลิ้งลงมาเมื่อครู่แล้ว หากไม่ใช่ลิงทโมนอย่างแม่สาวน้อยนางนี้ เห็นทีคงแข้งขาหักไปเสียแล้ว
“เหมือนจะสนุกค่ะ”
หญิงสาวตอบเสียงอ่อย ยิ้มแหยอย่างสำนึกผิด แหงนหน้ามองใบหน้ามีบาดแผลอัปลักษณ์ปราศจากแผ่นหนังสีดำปกปิด ที่สวนแห่งนี้เป็นสถานที่ต้องห้ามอาจเพราะชีคหนุ่มไม่ต้องการใส่แผ่นหนังปิดบังใบหน้าที่มีบาดแผลก็เป็นได้
“เอ่อ...ท่านชีคคะ”
ชีคหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นสูง มองคนตัวเล็กที่ยังคงนอนอยู่บนลำตัวของเขาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะลุก และเขาเองก็ไม่มีทีท่าว่าจะไล่ให้เธอลุกเช่นกัน
“หนูลุกไม่ไหวคะ” หญิงสาวยิ้มแหยจนตาเล็กหยี
“แล้วฉันจะช่วยเธอได้ยังไง ในเมื่อเธอทับฉันอยู่แบบนี้”
“นั่นสิคะ”
หญิงสาวหัวเราะเก้อ ก่อนจะพยายามเท้าแขนลงบนพื้นหญ้าเพื่อพยุงตัวเองลุกขึ้น แต่แข้งขากลับอ่อนแรงลงอย่างน่าตกใจ เธอจึงฟุบใบหน้ากระแทกลงบนแผงอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของชีคหนุ่มอีกครั้ง และนั่นทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบกระโจนออกมานอกอก
“ว้าย!”
หญิงสาวหวีดร้องด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆ ชีคฮัยฟาอ์ก็จับเธอพลิกแนบไปกับพื้นหญ้า โดยที่เจ้าของร่างหนาเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายทาบทับบนร่างบอบบางของเธอเสียเอง
ใบหน้าของเธอซีดเผือด เมื่อครู่คิดว่าหัวใจเต้นแรงแล้ว แต่เทียบเท่าตอนนี้ไม่ได้เลย เพิ่งสำเหนียกว่าตนเองนั้นเป็นผู้หญิง อีกฝ่ายแม้จะอายุมากกว่าและเป็นเจ้านายของป้า แต่ยังไงก็เป็นผู้ชาย อีกทั้งยังเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์อย่างเหลือล้น เสน่ห์ที่ทำให้เธอใจสั่นแทบจับจังหวะไม่ได้
แล้วการที่เขาคร่อมทับเธอไว้เช่นนี้ เขาก็คงคิดจะรวบหัวรวบหางรังแกขืนใจเธอ จากนั้นก็คงให้เธอเป็นเมียทาส ไม่สิ อาจจะให้เธอเป็นนางในฮาเร็มคอยบำบัดความใคร่ยามที่เขาต้องการ เมื่อคิดเช่นนั้นใบหน้าหวานก็ซีดเผือดด้วยความหวาดกลัว ถ้าจะขัดขืนต่อสู้เห็นทีว่าคงไม่มีวันชนะ ในเมื่อชีคฮัยฟาอ์ตัวโตกว่าเธอมาก อีกทั้งร่างกายยังเต็มไปด้วยมัดกล้ามอย่างคนออกกำลังกาย แค่แขนข้างเดียวก็คงอุ้มเธอจนตัวลอยได้อย่างไม่ยากเย็นนัก