ตอนที่3 ทางเลือก

1392 Words
ลักขณาเธอเองก็แทบจะไม่อยากคิด ว่าความสัมพันธ์กับปัทกรณ์จะเลยเถิดมากขนาดนี้ ถึงขั้นว่าตอนนี้มีอีกหนึ่งชีวิตที่กำลังจะเกิดมาให้เธอได้ดูแล ยังคงจดจำสีหน้าของปัทกรณ์ตอนที่บอกข่าวที่ทำช็อกแทบหยุดหายใจนี้ให้กับเขาได้รับรู้ สีหน้าของอีกคนไม่ได้มีความดีใจ แต่กลับหงุดหงิดหัวเสียพร้อมกับเสียงตะวาดลั่นที่ทำให้สะดุ้งจนน่าหวาดกลัว "ทำไมเธอถึงพลาดวะ เธอก็รู้ว่าเราแค่สนุก ๆ กัน ไม่เคยคิดอยากจะผูกพันกันด้วยวิธีนี้เลยให้ตายสิ! หรือว่าเธอตั้งใจอยากจะจับฉันตั้งแต่แรก เธอเห็นเพื่อนเธออยู่สุขสบาย เลยอยากอยู่สุขสบายเหมือนกิ่งมาลางั้นสิ?" "ไม่ใช่นะคะคุณปัท ฉันไม่เคยคิดแบบนั้นเลย ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมเราถึงพลาด ฉันเองก็คุมกำเนิด คุณเองก็ใส่ถุงยางอนามัยตลอดเวลาเลยด้วยซ้ำ เห็นจะมีวันนั้นวันเดียวค่ะที่คุณเมาหัวราน้ำไม่ได้สติ คุณแทบจะปลุกปล้ำฉันทั้งที่ฉันไม่เต็มใจด้วยซ้ำ" เมื่อคิดไปถึงคืนนั้นที่เขามายืนเคาะห้องพักของเธอกลางดึก ด้วยสภาพเมามายเหมือนกับคนที่เสียใจและอกหักกับชีวิตอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มิหนำซ้ำตอนที่มีอะไรกันเขากลับเผลอละเมอเรียกชื่อของใครคนอื่นที่ไม่ใช่เธอเลยสักนิด เป็นความรู้สึกที่เจ็บจุกอยู่ในอกแม้จะบอกตัวเองกี่ร้อยกี่พันครั้งว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับปัทกรณ์เลย แต่ทำไมหัวใจกลับรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาอย่างนี้ด้วยนะ เธอยังนึกภาพของอนาคตไม่ออกเลยด้วยซ้ำ ระหว่างเธอกับปัทกรณ์จะต้องแก้ปัญหายังไงกับเรื่องแบบนี้ แม้เขาจะไม่ได้บอกให้เธอไปเอาเด็กออก แต่สีหน้าและท่าทางที่เขาได้รับรู้ ปัทกรณ์ไม่ได้ยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่นิด กลับหงุดหงิดหัวเสียจ้องมองหน้าเธอเหมือนอยากจะกินเลือดกินเนื้อกันด้วยซ้ำ เขาคงคิดว่าเธออยากปล่อยให้ตัวเองท้องเพื่อจับเขาอยู่สินะ แล้วใครมันจะอยากพลาดเพื่อให้มีบ่วงมาผูกคอตัวเองแบบนี้ ทั้งที่ลำพังตัวเองก็เอาตัวแทบจะไม่รอดในแต่ละเดือน ไหนจะต้องส่งน้องเรียน ไหนจะต้องเสียค่าบ้าน ไหนจะต้องเลี้ยงดูแม่ที่คอยแต่สร้างปัญหาให้กับชีวิต ถ้าหากนางชบารู้เรื่องนี้เข้านางคงจะซ้ำเติมชีวิตเธอไม่เหลือสิ้นดีอย่างแน่นอน เสียงโทรศัพท์มือถือของลักขนาดังขึ้นหญิงสาวจ้องมองหน้าจอ ก่อนจะกรอกตามองบนอย่างรู้สึกเบื่อหน่าย นิ้วมือเรียวสไลด์หน้าจอเพื่อกดรับสายอย่างไม่อาจที่จะปฏิเสธได้ "จ้ะแม่ มีอะไรกับหนูหรือเปล่า?" "ฉันจะโทรมาถามว่าแกจะโอนเงินให้ฉันได้วันไหน นี่มันสิ้นเดือนมาหลายวันแล้วนะเว้ย แกก็รู้ว่าค่าใช้จ่ายรอบานเบอะอยู่ทุกเดือน" "แล้วทำไมแม่ต้องขอแต่หนูล่ะ พี่อ้อนล่ะแม่ แม่ไม่ไปขอพี่อ้อนบ้าง?" "พี่แกมันมีภาระ มันมีลูกมีผัวให้ต้องรับผิดชอบ แกจะให้ฉันไปยุ่งวุ่นวายกับมันทำไมนักหนาหะ!" "แล้วหนูล่ะแม่ หนูไม่ต้องกินต้องใช้ ไม่ต้องมีภาระให้ต้องใช้จ่ายบ้างเลยหรือไง?" "ฉันรู้ว่าแกไม่มีอะไรให้ต้องใช้มากมายหรอก แกตัวคนเดียวมันจะใช้อะไรนักหนาวะ" "แม่ก็ชอบคิดแต่แบบนี้ไง แม่สงสารคนทั้งโลก ยกเว้นหนูคนเดียวนี่ล่ะ แม่ไม่ถามหนูบ้างล่ะว่าเงินพอใช้บ้างไหม ทำงานเป็นยังบ้าง หนูอยู่กินยังไง แม่โทรหาหนูเพื่อมาขอแค่เงินหนูนี่นะ หนูยังเป็นลูกแม่อยู่อีกไหม?" ไม่มีเสียงตอบกลับ แถมยังถูกตัดสายไปอย่างชวนให้งงยิ่งนัก ลักขณาได้แต่นั่งน้ำตาคลอเบ้าอยู่บนเตียงกว้าง ชีวิตของเธอมีแม่ก็เหมือนไม่มี ความเอื้ออาทรที่ควรได้รับเธอแทบจะไม่เคยได้สัมผัสกับสิ่งเหล่านั้นเลย แม่ที่รักลูกไม่เท่ากันเธอไม่อยากจะพูดคำ ๆ นี้ออกมาเลยด้วยซ้ำ แต่ความรู้สึกที่ได้รับมันกลับคิดเป็นอื่นไปไม่ได้เลยสักนิด ทำงานเงินเดือนแค่หมื่นกว่าบาท แทบจะไม่พอกินพอใช้เลยด้วยซ้ำ คนทางบ้านก็รอแต่คอยแบมือขอ โอนช้านิดช้าหน่อยวันสองวันก็ทวงไม่จบไม่สิ้น บางทีก็อยากหนีไปให้ไกลจะได้ไม่ต้องรับผิดชอบใครให้วุ่นวายใจอย่างทุกวันนี้อีก เสียงเคาะประตูห้องพักดังขึ้น ทำเอาฝ่ามือเรียวต้องรีบปาดเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้า ก่อนที่เธอจะเดินไปที่ประตูส่องมองตรงช่องดูหน้าของคนที่มาหา พร้อมกับรีบเปิดประตูออกเพื่อเชื้อเชิญอีกคนได้เข้ามาภายในห้องพัก ร่างสูงของปัทกรณ์ปรากฏกายขึ้นอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง "มาหาฉันมีอะไรอีกหรือเปล่าคะ?" "ฉันจะมาตกลงกับเธอเรื่องที่เราคุยกันเมื่อเช้านี้" ขาวสูงยาวก้าวเดินเข้าไปภายในห้องพักสตูโอที่มีขนาดเล็กกว่าห้องนอนที่บ้านเขาอยู่มากโข ปัทกรณ์ในชุดกางเกงเสื้อยืดธรรมดานั่งลงบนโซฟาตัวยาวที่วางอยู่ ลักขณานั่งลงไม่ใกล้ไม่ไกลจากเขานัก หญิงสาวจับจ้องมองใบหน้าของชายหนุ่มเพื่อรอฟังคำที่เขาอยากจะพูดกับเธอ "พ่อกับแม่ฉันจะให้เธอเข้าไปพบในวันพรุ่งนี้ แต่ฉันต้องตกลงกับเธอก่อนเรื่องที่ฉันทำเธอท้อง ฉันจะรับผิดชอบแค่เด็ก" "มันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วไหมคะ?" "พ่อฉันคงจะไม่ยอมหรอก ท่านจะต้องบอกฉันรับผิดชอบเธอด้วย แต่เธอก็รู้ว่าเราสองคนไม่ได้รักกัน ที่นอนเอากันก็เพราะมันเป็นความสุขทางกายก็แค่นั้น" ลักขณาไม่ปฏิเสธกับข้อนี้ที่เขาพูดออกมา แต่ว่านานวันเข้าความรู้สึกที่เธอมีมันก็เริ่มแปรเปลี่ยนไปจนเกินที่จะหักห้ามหัวใจตัวเองได้ด้วยซ้ำ แม้จะรู้ว่าเขาไม่เคยคิดอะไรกับเธอเลยสักนิด ใบหน้าหล่อคมเข้มจับจ้องมองหน้าของหญิงสาวอย่างไม่วางตา ลักขณาไม่เคยทำหรือพูดอะไรที่ชวนให้เขาต้องอึดอัดมาก่อนเลยสักครั้ง เป็นผู้หญิงคนเดียวด้วยซ้ำที่รู้สึกว่าอยู่ใกล้แล้วสบายใจ ไม่จู้จี้จุกจิก ไม่พยายามแสดงตัวให้คนอื่นต้องรับรู้กับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นมานานนับปี "ฉันก็ไม่ได้อยากให้คุณมารับผิดชอบขนาดนั้นอยู่แล้วไหมคะ ฉันรู้ค่ะว่าควรจะพูดยังไง จริง ๆ คุณโทรศัพท์มาบอกฉันก็ได้นะคะ ไม่เห็นต้องมาถึงที่นี่เลย" "ฉันก็แค่แวะมา เพราะหมดธุระจากเธอฉันจะไปที่อื่นต่อ" "งั้นก็เชิญคุณปัทตามสบายเถอะค่ะ ฉันจะเข้านอนแล้วเหมือนกัน" "เธอเป็นอะไรหรือเปล่า โกรธหรือไงที่ฉันมาเคาะห้องนอนกลางดึกขนาดนี้" "เปล่าค่ะ ฉันแค่รู้สึกเพลีย ๆ เหนื่อยอยากจะพักผ่อนเต็มทีแล้ว ขอเสียมารยาทนะคะ" หญิงสาวเดินหายเข้าไปภายในห้องนอนอีกครั้ง เสียงประตูห้องปิดลงก่อนจะได้ยินเสียงล็อกจากด้านในนั้นอีกที ปัทกรณ์จับจ้องมองการกระทำนั้นอย่างไม่เข้าใจเลยสักนิด ไม่รู้ว่าอีกคนโกรธหรือโมโหอะไรหรือเปล่า แต่ที่แน่ ๆ เขาเห็นดวงตาของเธอแดงก่ำเหมือนกับว่าลักขณาร้องไห้ก่อนที่เขาจะมาถึง ชายหนุ่มเดินหายออกจากห้องพักไปแล้ว แต่ภายในห้องนอนของลักขณาหญิงสาวยังคงนั่งเงียบอยู่ภายใต้ความมืดที่กำลังปกคลุม อนาคตในวันข้างหน้าช่างมืดมนอับจนหนทางซะเหลือเกินสินะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD