ขณะขับรถอยู่นั้นเธอต้องขับผ่านร้านกาแฟบายเฟรนด์อีกครั้ง สายตาอดไม่ได้ที่จะจ้องมองเข้าไปเพราะเป็นที่ทำงานของตน รถยนต์เจ็ดที่นั่งของพิธานผู้เป็นเจ้านายยังจอดอยู่ แต่เธอพึ่งสังเกตว่าเขาเปิดไฟรถทิ้งไว้นี่นา คงอารามตกใจที่เห็นไฟร้านเปิดเลยลืมปิด เธอต้องโทรศัพท์บอกให้เจ้านายออกมาปิดไฟรถ เพราะไม่อย่างนั้นแบตเตอรี่หมดแน่ ๆ
หญิงสาวจอดรถจักรยานยนต์ข้างฟุตบาทซ้ายมือด้านหน้าร้านก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเจ้านาย โทรติดแต่เขาไม่รับสายหลายต่อหลายครั้ง
“ ทำไมเจ้านายไม่รับวะ เป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย ” เธอนึกเป็นห่วงผู้เป็นนาย เมื่อกดย้ำไปย้ำมาอย่างไรเขาก็ยังไม่รับ เลยตัดสินใจเดินเข้าไปในร้าน
ไฟหน้าร้านที่เปิดตอนเธอหากุญแจก็ยังคงเปิดอยู่อย่างนั้น แต่ไม่ปรากฏร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่ม คงอยู่ในห้องพักแน่ ๆ เพราะปกติเวลาเจ้านายมาก็จะเข้าไปอยู่ในนั้นเสมอ เธอจึงสาวเท้ามุ่งหน้าไปที่ห้องนั้นในทันที พบว่าประตูถูกเปิดแง้มอยู่แล้ว ภายในไม่ได้เปิดไฟ แต่แสงไฟที่สาดมาจากด้านนอกก็พอช่วยให้มองเห็นร่างสูงใหญ่ที่นอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟา ที่พื้นมีขวดเตกีร่าว่างเปล่า สงสัยจะเศร้าจนดื่มมันย้อมใจจนกระทั่งหมดขวด
มีนายืนหันรีหันขวางชั่งใจอยู่พักหนึ่งว่าจะทำอย่างไรดี จะปลุกหรือไม่ปลุก ใจหนึ่งไม่อยากรบกวนเจ้านายที่กำลังหลับสนิท แต่คิดแล้วถ้าไม่ปลุกผลเสียมันมากกว่าผลดีแน่นอน จึงตัดสินใจร้องเรียกเขา
“ เจ้านายคะ เจ้านาย ”
ร่างใหญ่ยังคงนิ่งสนิท ไม่ไหวติง เธอจึงลองเรียกอีกครั้งให้ดังกว่าเดิม
“ เจ้านาย ตื่นค่ะ คุณลืมปิดไฟที่รถ ” เรียกดังขึ้นและอีกหลายครั้ง แต่เขาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกตัว เธอจึงตัดสินใจเดินเข้าไปคุกเข่าลงตรงข้างโซฟา มือเล็กเอื้อมไปเขย่าที่แขนข้างหนึ่งของเขาพลางส่งเสียงเรียกไปด้วย
“ เจ้านายคะ คุณพิธานคะ ตื่น ตื่น ”
ตาคมปรือขึ้นมามองนิดหนึ่งอย่างงุนงง มีนาจึงส่งยิ้มให้
“ เจ้านายลืมปิดไฟรถน่ะค่ะ ลุกไปปิดก่อนค่อยมานอนนะคะ เดี๋ยวแบตหมด ”
ในความพร่ามัวของสติและสายตา ประกอบกับสมองและจิตใจที่ถวิลหาแต่อันดา ส่งผลให้ภาพของผู้หญิงที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้ากลายเป็นเธอไปด้วย ชายหนุ่มจ้องมองเธอด้วยสายตาเปี่ยมไปด้วยความรักก่อนจะชันกายลุกขึ้นทรุดตัวนั่งคุกเข่าลงไปที่พื้นใกล้เธอ แล้วคว้าร่างเล็กเข้ามากอดรัดอย่างแนบแน่น ก่อนเอ่ยน้ำเสียงอ้อแอ้ระบายถึงความในใจ
“ ผมคิดถึงคุณ อันดา อย่าทิ้งผมไปนะ ได้โปรด นะครับ ”
มีนาสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ มือเล็กพยายามยกขึ้นดันร่างใหญ่ให้ออกห่าง ปากก็ห้ามพัลวัน
“ เจ้านาย นี่มีนค่ะไม่ใช่พี่อันดา ปล่อยมีนนะคะ ปล่อยเถอะค่ะ ”
เขาส่ายหน้าดิกก่อนเพิ่มแรงรัดแนบแน่นขึ้นกว่าเดิม
“ ไม่ ผมไม่มีวันปล่อยคุณไปให้ใครอีก ผมจะไม่ตัดโอกาสตัวเองแบบนั้นอีกแล้ว ไม่อีกแล้ว ”
“ ไม่ใช่ค่ะ เจ้านายคะ ไม่ อย่าค่ะ ” ร่างเล็กดิ้นรนสุดฤทธิ์สุดเดช แต่ร่างใหญ่ก็ยิ่งเพิ่มแรงกอดรัดมากขึ้นเช่นกัน
“ อย่าทิ้งผมไปนะ ผมรักคุณ รักคุณ ”
พูดพร้อมกับเลื่อนใบหน้าลงไปซุกไซร้ซอกคอระหงนั้นพร้อมกับขบเม้มสูดดมเข้าไปตามใจปรารถนาที่อัดอั้นมานาน หญิงสาวทั้งผลักทั้งดันพัลวัน ปากก็ร้องห้ามปราม แต่ดูเหมือนมันจะไม่เข้าสู่โสตประสาทของชายหนุ่มเลยเพราะนอกจากเขาจะไม่รามือแล้วยังรุกคืบอย่างรวดเร็วอีกด้วย .
มือใหญ่ข้างหนึ่งละเอวคอดกิ่วจากการกอดรัดขึ้นมาประคองใบหน้าเล็กไว้ในอุ้งมือ จังหวะเดียวกับที่หญิงสาวเปิดปากเพื่อห้ามปรามเขา มันช่างเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ เพราะทำให้เขาใช้จังหวะนั้นประกบริมฝีปากร้อนระอุทาบทับลงบนปากอวบอิ่มคู่นั้นก่อนจะสอดแทรกลิ้นร้อนเข้าไปรุกรานกลีบปากเจ้าหล่อนอย่างเอาแต่ใจ
มีนาเบิกตากว้างด้วยความตกใจในสัมผัสนั้น สัมผัสแรกในชีวิตหญิงสาวที่เกิดมาสิบเก้าปี สัมผัสแรกที่ชายคนรักพยายามที่จะได้จากเธอเหลือเกินแต่เธอก็แหนหวง ไม่เปิดโอกาสให้เขาได้เข้าใกล้เพราะกลัวจะห้ามใจตนเองไม่ได้ จูบแรกของเธอ ถูกขโมยไปจากเจ้านายผู้ซึ่งไม่ได้สติ แถมยังคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงคนอื่นอยู่อีกด้วย
แต่เธอก็ไม่มีเวลาคิดอะไรไปได้มากกว่านั้น เพราะลิ้นร้อนที่ชำแรก เข้าไปในกลีบปากเริ่มรุกรานร้ายกาจมากขึ้น มันพลิกพลิ้วอย่างจัดเจนจนทำให้หญิงสาวผู้ไม่ประสาอย่างเธอเผลอไผลไปกับพิษสงของมันอย่างง่ายดาย จากที่แข็งขืนผลักไส กลายเป็นอ่อนละลายคล้ายเทียนโดนไฟลน ดวงตาที่ เบิกกว้างเพราะความตกใจในทีแรกกลายเป็นหรี่ปรือเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบอันแสนร้ายกาจนั้น
เมื่อไม่ปรากฏการผลักไสดื้อดึง ชายหนุ่มก็ยิ่งได้ใจมากขึ้น คลื่นความปรารถนาที่สาดซัดรุนแรงจนทำให้กายชายร้อนรุ่ม ผสมผสานกับฤทธิ์แห่งเมรัยอันเป็นแรงกระตุ้นให้เขายิ่งขาดสติ
มือใหญ่ร้อนผ่าวปลดปล่อยจากใบหน้ารูปไข่นั้น ก่อนจะลดละลงไปซุกซนเลื่อนไล้ไต่ต่ำลงเรื่อย ๆ ข้างหนึ่งยังคงกอดรัดเธอไว้แนบแน่น อีกข้างสำรวจตรวจตราเคล้าคลึงไปทั่ว ถึงแม้จะมีชุดนอนลายหมีพูห์กับเสื้อแขนยาวอีกตัวที่หญิงสาวสวมเป็นปราการอยู่ แต่นั่นก็ไม่ได้ลดทอนความร้อนเร่าจากฝ่ามือที่แนบไปบนเนื้อนางได้เลย
สัมผัสอันจัดเจน ส่งผลให้หญิงสาวอ่อนเดียงสาผู้ไม่เคยผ่านมือชาย สติสตังหายไปจนหมดสิ้น เธอจำได้เลือนรางว่าร่างเล็กถูกเขาช้อนอุ้มขึ้นมาวางอย่างทะนุถนอมบนโซฟา ก่อนร่างสูงใหญ่จะตามทาบทับลงมา กระนั้นเขาก็ยังไม่ละจุมพิตที่กระชากจิตสำนึกและวิญญาณของเธอออกไปทีละนิดจนแทบหมดสิ้น