บทที่3

1770 Words
Ryu Talk :ผมขับรถมาที่บริษัทเพื่อมาตรวจสอบรถที่นำเข้าออกอย่างนิ่งๆ ก่อนจะออกจากบริษัทไปสนามแข่งรถที่ผมกำลังจะเริ่มเปิดเป็นครั้งแรก ผมทุ่มเงินจำนวนมากกับการลงทุนครั้งนี้และยังไม่ทันได้เปิดสนาม พวกแขกที่มีเงินหนักก็พร้อมจะเข้ามาร่วมการแข่งขันในสนามของผมแน่นอนมันมักจะมาด้วยการมีศัตรูรอบกายลำพังธุรกิจโชว์รูม รถก็พาจะถูกทำลาย แต่ดีที่ได้พวกพ้องของเซฟมาช่วยไว้ พวกพ้องผมก็มีแต่ผมก็ส่งพวกนั้นไปช่วยงานที่อื่นเหลือที่นี่ก็แค่สิบกว่าคน ผมเป็นพวกไม่ชอบพกปืนส่งๆ เหมือนเซฟและโจชัวเพราะผมไม่อยากมีเรื่องแต่เอาเถอะถ้ามีก็ไม่ปล่อยไว้เหมือนกัน ผมกอดอกมองสนามแข่งที่ตอนนี้เริ่มจะเข้าที่แล้วล่ะ “คุณริวครับ รถที่เราจัดโชว์จะให้ไว้กี่คันครับ?” “ประมาณ 10 แล้วกัน..กาย ด้านนอกรีบหน่อยนะ ฉันอยากดูว่าด้านนอกจะตกแต่งเหมาะสมกับสนามแข่งรถของริวหรือเปล่า? อีกอย่างถ้าเสร็จแล้วฉันว่าจะลองเปิดสนามด้วยตัวเอง แกว่าดีไหมว่ะ?” “ก็โอเคนะครับ ถ้าได้เจ้าของสนามมาลงแข่งอาจจะทำให้กระตุ้นนักแข่งมาที่นี่ก็ได้” กายยิ้มให้ผมพร้อมกับสั่งคนงานให้จัดสร้างสนามแข่งรถอย่างขยัน ผมภูมิใจมากๆ เลยล่ะ นี่ถ้าเสร็จแล้วนะผมจะชวนเซฟกับโจชัวมา แต่ก็ไม่รู้ว่าไอ้สองตัวนั่นจะว่างมาเปิดสนามผมหรือเปล่า? หึกลัวเมียแบบนั้นอ่ะ น่าอายชะมัด!! ผมออกจากสนามแข่งก็เกือบจะสี่ทุ่มแล้วเพราะสาวคนใหม่บอกว่าจะไปหาผมเองที่คอนโดซึ่งทำให้ผมกลับไปที่คอนโดทันทีเพื่อรอสาวคนใหม่ แต่เปิดห้องมาก็ต้องงุนงงเพราะห้องมืดสนิท จนผมกวาดตามองหายัยเด็กนั่นที่ขออนุญาตผมไปซื้อของแต่ป่านนี้ยังไม่กลับอีกเหรอ? ไปนานไปเปล่าว่ะ ผมเดินเข้าห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ออกมานั่งดูทีวีที่โซฟา ก่อนจะมองนาฬิกาที่บ่งบอกว่าจะห้าทุ่มแล้ว เฮ้ย..อย่าบอกนะว่าหลงทางไปแล้วอ่ะ ยัยเด็กนั่นบอกว่ายังไม่ชินทางด้วยนะ เฮ้อออ..ปวดหัวชิบ ไอ้ริว!! ไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวเลย ยัยเด็กนั่นแม่ง!! แกร๊ก!! ผมที่กำลังจะลุกไปหยิบมือถือโทรหากายที่ห้องก็มองร่างบางที่ถือของเต็มมือไปหมด “คะ คุณริว..” “หายไปไหนมา?” “เออพอดีหอมเจอเพื่อนนะคะ ก็เลยคุยกันยาวเลย ขอโทษนะคะ..คุณริวหิวไหม?” “อือ แต่ถ้าเธอทำฉันคง..” “ไม่เป็นไรค่ะ หอมซื้อข้าวมาพอดี..คุณริวทานข้าวห่อได้ไหม?” “ได้ดิ ฉันกินได้หมดแหละ” เธอวางของไว้ที่พื้นแล้วรีบหยิบข้าวห่อที่ซื้อมาไปเทใส่จานให้ ผมลุกขึ้นไปนั่งที่โต๊ะกินข้าวแล้วมองข้าวผัดกุ้งอย่างนิ่งๆ “ทานสิค่ะ..กำลังร้อนๆ เลย” “นี่ยัยเด็ก..” “ริวขาาา” ผมมองซูซี่ที่เดินนวยนาดเข้ามาในห้องพร้อมกับเดินมาหอมแก้มผมแล้ววางถุงอะไรไม่รู้บนโต๊ะ “มาเร็วดีนี่ ไหนว่าจะมาตอนเที่ยงคืน?” “ก็ซูซี่ทนคิดถึงคุณไม่ได้นี่น่า ว่าแต่กำลังทานอะไรค่ะ? เอ๊ะ เด็กนี่ใคร..” “เฮ้ออ แม่บ้านคนใหม่” “อ่อ แต่ริวค่ะคุณแพ้กุ้งจะทานข้าวผัดกุ้งได้ไง?” “อะ เอ๊ะ?? คะ คุณริวแพ้กุ้งเหรอค่ะ ทำไม..” “นี่ยัยเด็กเหลือขอเอากุ้งมาให้คุณทานงั้นเหรอค่ะ แย่จริง!! เป็นแม่บ้านประสาอะไรไม่รู้ว่าเจ้านายกินอะไรได้ กินอะไรไม่ได้อ่ะห๊ะ” “คะ คุณริวคะหอมขอโทษค่ะ” “ขอโทษเหรอ มันน่านะ!! ถ้าริวเป็นอะไรไปจะทำยังไงย่ะ!!” ซู่ซี่ต่อว่าหอมอย่างรุนแรงก่อนจะหยิบจานข้าวผัดโปะใส่แก้มหอมทันที โพละ!! “ซูซี่!!” “น้อยไปนะ ยัยเด็กบ้า!!” ผมลุกขึ้นมองหอมที่ปัดเศษข้าวจากแก้มตัวเองพร้อมกับปัดเศษข้าวบนตัวออกจนหมดแล้วหยิบแก้วน้ำเปล่าขึ้นมา ซ่า!! “กะ กรี๊ดดดด..” “พอเลยทั้งสองคน!!!” เสียงของผมดังขึ้นมาทำให้ทั้งสองคนเงียบลงทันที ผมลูบหน้าซูซี่อย่างถนอมแล้วหยิบผ้าขนหนูมาคลุมไหล่เธอทันที “เก็บของให้หมดนะหอมและทีหลังอย่าทำนิสัยแบบนี้อีก ผู้หญิงทุกคนที่มาหาฉันคือผู้หญิงของฉัน เธอไม่สิทธิ์ทำร้ายเขา เข้าใจไหม!!” “....” “ถามว่าเข้าใจไหม!!” “เข้าใจค่ะ” “ไปครับซูซี่” ผมประคองร่างเธอให้เข้าห้องไป ก่อนจะเริ่มบรรเลงเพลงรักบนเตียงทันทีอย่างโหยหา ผมมองนาฬิกาที่บ่งบอกเกือบตีสองแล้วที่ยังคงกระแทกตัวเองกับร่างบางนี้ที่สลบไปแล้ว ผมกระตุกครั้งสุดท้ายแล้วล้มลงข้างๆ ซูซี่ก่อนจะถอดเครื่องป้องกันออกแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำอีกครั้ง ผมเดินออกจากห้องด้วยสภาพหัวเปียกแล้วหยิบน้ำในตู้เย็นออกมาดื่ม ก่อนจะได้ยินเสียงประตูเปิดออกก็พบว่าเป็นหอมที่อยู่ในชุดนอนลายการ์ตูนสีฟ้า เธอตกใจที่เห็นผมแต่ก็ก้มหน้าลงแล้วเดินมาหยุดที่หน้าตู้เย็น “จะเอาอะไร?” “เอาน้ำแข็งค่ะ..” ผมขยับออกไปแล้วมองเธอที่หยิบน้ำแข็งออกมาก่อนที่สายตาของผมจะมองไปที่แก้มใสที่เป็นรอยพองแดงๆ “แก้มไปโดนอะไรมา?” “เปล่าค่ะ..” “ก็ฉันเห็นอยู่ จะเปล่าได้ไง!!” “ก็หอมไม่ได้เป็นอะไร..” เธอปิดตู้เย็นแล้วเดินเข้าห้องไป ผมยืนขมวดคิ้วอย่างงุนงงทำไมแก้มถึงเป็นรอยแดงพองๆ ?? อืม...เดี๋ยว?? ข้าวผัดเหรอ ‘ทานสิค่ะ...กำลังร้อนๆ เลย’ หรือว่าข้าวผัดที่ซูซี่เอาโปะใส่แก้มยัยเด็กนี่นะ?? เหอะ ยัยเด็กปากแข็ง ผมวางแก้วน้ำแล้วไปเคาะประตูหน้าห้องแต่ยัยเด็กนี่ไม่ยอมเปิด ผมถอนหายใจออกมาหยิบกุญแจสำลองห้องนี้มาไขทันทีแล้วเปิดไปก็เจอยัยเด็กนั่นที่กำลังเอาน้ำแข็งประคบแก้มตัวเองอยู่ “คะ คุณริว..ขะ เข้ามาได้ไงค่ะ!!” “กุญแจสำลอง..” “ละ แล้ว..” “ก็เธอไม่ยอมบอกว่าเป็นอะไร?” “ก็หอมไม่ได้..” “ก็หอมไม่ได้เป็นอะไร?” “....” “จะพูดแบบนี้ใช่ไหม? ยัยเด็กปากแข็ง” เธอหลับตาลงแล้วเบือนหน้าหนีผมทันที ผมส่ายหน้าไปมาแล้วเดินไปนั่งที่เตียงก่อนจะจับใบหน้าจิ้มลิ้มไว้ด้วยมือเดียวพร้อมกับหยิบผ้าที่ใส่น้ำแข็งมาประคบแก้มเธอทันที “คะ คุณริวค่ะ..หอมทำเอง” “อยู่เฉยๆ ยัยเด็กดื้อ!!” “หอมไม่ได้ดื้อนะ..” “ไม่ได้ดื้ออะไร ฉันสั่งว่ายังไง..ให้ทำตามที่ฉันสั่งทุกอย่าง เธอเองก็พูดเองนะว่าจะฟังฉันอ่ะ” เสียงถอนหายใจทำให้ผมเงยหน้ามองใบหน้าจิ้มลิ้มที่หลบสายตาผมทันที “ว่าไง?” “อะไรค่ะ” “ก็ที่ฉันพูดเมื่อกี้อ่ะ...” “เข้าใจค่ะ” “ก็แค่เนี้ย” ผมมองแก้มใสที่เป็นรอยพองๆ อย่างนิ่งๆ ซูซี่ก็ทำเกินไปเปล่าว่ะ!! ยัยเด็กนี่ไม่รู้นี่หว่าว่าผมแพ้กุ้ง กำลังจะบอกแท้ๆ แต่ซูซี่ดันเข้ามาก่อน ผมโน้มใบหน้าไปใกล้ๆ ก่อนที่ใบหน้าจิ้มลิ้มของหอมจะหันมาชนกับผม ทำให้เธอชะงักทันทีเพราะมันบังเอิญที่ริมฝีปากของเธอเฉียดริมฝีปากของผมอย่างเบาๆ แต่กับทำให้ผมสะดุ้งนิดหน่อยเพราะปกติผมไม่เคยจะไม่โมเม้นท์อะไรแบบนี้นะ กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวเด็กนี่ทำให้ผมใจสั่นทันทีแต่เธอก็เบือนหน้าหนีอย่างเขินๆ จนผมแสะยิ้มอย่างนิ่งๆ “จะยั่วฉันหรือไง?” “อะ เอ๊ะ??” “หึบอกแล้วไง เด็กแบบเธอฉันไม่สนหรอกน่า..อย่ามายั่วเลย” “หะ หอมเปล่านะคะ คุณริวคิดอะไรอ่ะ!!” เธอผลักผมออกไปพร้อมกับแก้มใสที่เป็นรอยพองๆ จะแดงขึ้นมาจนผมผุดยิ้มอย่างขำๆ “หึจริงเหรอ?” “คะ คุณริว!!” “ทำไม? ก็เห็นอยากหาสามีเหลือเกิน” “กะ ก็ใช่แต่..คงไม่ใช่กับคุณริว” “ถูก คนอย่างฉันไม่ชอบผูกมัดกับใครหรอกนะ..เพราะมันไม่ใช่สำหรับฉัน ฉันไม่ชอบการมีครอบครัว ไม่อยากรักใครชอบใครเพราะถ้าคิดแบบนี้นะ..มักจะมาพร้อมกับปัญหาและตามมาด้วยการผูกมัดตลอดชีวิต” ผมวางผ้าลงแล้วมองหอมที่มองหน้าผมอย่างตั้งใจ “แล้วถ้า..มีผู้หญิงคนหนึ่งอยากจะทำให้คุณชอบเธอละคะ?” “เหอะใครล่ะ? ถึงมีก็คงไม่สำเร็จนะเพราะฉันไม่เคยคิดอะไรกับใครจริงจัง” “คุณถึงได้เจ้าชู้..” “ก็..ใช่ ฉันชอบชีวิตแบบนี้มากกว่าชีวิตที่ต้องกลับมาเจอครอบครัว กลับมาเจอเมีย ฉันไม่เอาหรอก สู้อยู่แบบนี้ดีกว่า” ใช่ผมไม่ชอบผูกมัดและไม่ชอบที่จะมีผู้หญิงคนเดียว เพราะมันเหมือนการขังผมให้รักเธอแค่คนเดียว แบบเซฟและโจชัวอ่ะ แบบนั้นผมไม่เอาเด็ดขาด!! ผมมองหอมที่พยักหน้ารับอย่างนิ่งๆ เป็นอะไรว่ะหรือเจ็บแก้มอีกอ่ะ? “เป็นอะไรอีกล่ะ..เจ็บแก้มหรือไง?” “เปล่าค่ะ คุณริวคะ” “ว่า??” “หอมขอโทษที่เกือบจะเอากุ้งให้คุณทาน หอมไม่รู้จริงๆ หอมขอโทษ..” เธอยกมือไหว้ผมทันทีอย่างเสียใจ ใช่ยัยเด็กนี่เสียใจจริงๆ ที่เกือบจะฆ่าผมด้วยข้าวผัดจานนั่น “ไม่เป็นไร เธอรู้ก็ดีแล้วล่ะ..ทีหลังจะได้ไม่ต้องทำอีก เอาเถอะนอนซะฉันไปล่ะ” ผมลุกขึ้นยืนก่อนจะมองมือตัวเองที่ถูกมือบางและอุ่นจับไว้ทำให้ผมหันไปมองเธอที่เงยหน้ามองผม “ฝะ ฝันดีนะคะ” “....” “ฝันดีค่ะ..” “หึอือ..” เธอปล่อยมือออกอย่างเขินๆ ผมเดินออกจากห้องพร้อมกับส่ายหน้าไปมาอย่างยิ้มๆ เด็กแบบเธอนี้มันไร้เดียงสาจริงนะหอม..รุ่นเดียวกับเธออ่ะเขามายั่วฉันกันทั้งนั้นแต่เธอนี้มัน...โมเม้นท์เด็กๆ จริง หึ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD