Ryu Talk :ผมขับรถมาที่บริษัทเพื่อมาตรวจสอบรถที่นำเข้าออกอย่างนิ่งๆ ก่อนจะออกจากบริษัทไปสนามแข่งรถที่ผมกำลังจะเริ่มเปิดเป็นครั้งแรก ผมทุ่มเงินจำนวนมากกับการลงทุนครั้งนี้และยังไม่ทันได้เปิดสนาม พวกแขกที่มีเงินหนักก็พร้อมจะเข้ามาร่วมการแข่งขันในสนามของผมแน่นอนมันมักจะมาด้วยการมีศัตรูรอบกายลำพังธุรกิจโชว์รูม รถก็พาจะถูกทำลาย แต่ดีที่ได้พวกพ้องของเซฟมาช่วยไว้ พวกพ้องผมก็มีแต่ผมก็ส่งพวกนั้นไปช่วยงานที่อื่นเหลือที่นี่ก็แค่สิบกว่าคน ผมเป็นพวกไม่ชอบพกปืนส่งๆ เหมือนเซฟและโจชัวเพราะผมไม่อยากมีเรื่องแต่เอาเถอะถ้ามีก็ไม่ปล่อยไว้เหมือนกัน ผมกอดอกมองสนามแข่งที่ตอนนี้เริ่มจะเข้าที่แล้วล่ะ
“คุณริวครับ รถที่เราจัดโชว์จะให้ไว้กี่คันครับ?”
“ประมาณ 10 แล้วกัน..กาย ด้านนอกรีบหน่อยนะ ฉันอยากดูว่าด้านนอกจะตกแต่งเหมาะสมกับสนามแข่งรถของริวหรือเปล่า? อีกอย่างถ้าเสร็จแล้วฉันว่าจะลองเปิดสนามด้วยตัวเอง แกว่าดีไหมว่ะ?”
“ก็โอเคนะครับ ถ้าได้เจ้าของสนามมาลงแข่งอาจจะทำให้กระตุ้นนักแข่งมาที่นี่ก็ได้” กายยิ้มให้ผมพร้อมกับสั่งคนงานให้จัดสร้างสนามแข่งรถอย่างขยัน ผมภูมิใจมากๆ เลยล่ะ นี่ถ้าเสร็จแล้วนะผมจะชวนเซฟกับโจชัวมา แต่ก็ไม่รู้ว่าไอ้สองตัวนั่นจะว่างมาเปิดสนามผมหรือเปล่า? หึกลัวเมียแบบนั้นอ่ะ น่าอายชะมัด!! ผมออกจากสนามแข่งก็เกือบจะสี่ทุ่มแล้วเพราะสาวคนใหม่บอกว่าจะไปหาผมเองที่คอนโดซึ่งทำให้ผมกลับไปที่คอนโดทันทีเพื่อรอสาวคนใหม่ แต่เปิดห้องมาก็ต้องงุนงงเพราะห้องมืดสนิท จนผมกวาดตามองหายัยเด็กนั่นที่ขออนุญาตผมไปซื้อของแต่ป่านนี้ยังไม่กลับอีกเหรอ? ไปนานไปเปล่าว่ะ ผมเดินเข้าห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ออกมานั่งดูทีวีที่โซฟา ก่อนจะมองนาฬิกาที่บ่งบอกว่าจะห้าทุ่มแล้ว เฮ้ย..อย่าบอกนะว่าหลงทางไปแล้วอ่ะ ยัยเด็กนั่นบอกว่ายังไม่ชินทางด้วยนะ เฮ้อออ..ปวดหัวชิบ ไอ้ริว!! ไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวเลย ยัยเด็กนั่นแม่ง!!
แกร๊ก!! ผมที่กำลังจะลุกไปหยิบมือถือโทรหากายที่ห้องก็มองร่างบางที่ถือของเต็มมือไปหมด
“คะ คุณริว..”
“หายไปไหนมา?”
“เออพอดีหอมเจอเพื่อนนะคะ ก็เลยคุยกันยาวเลย ขอโทษนะคะ..คุณริวหิวไหม?”
“อือ แต่ถ้าเธอทำฉันคง..”
“ไม่เป็นไรค่ะ หอมซื้อข้าวมาพอดี..คุณริวทานข้าวห่อได้ไหม?”
“ได้ดิ ฉันกินได้หมดแหละ” เธอวางของไว้ที่พื้นแล้วรีบหยิบข้าวห่อที่ซื้อมาไปเทใส่จานให้ ผมลุกขึ้นไปนั่งที่โต๊ะกินข้าวแล้วมองข้าวผัดกุ้งอย่างนิ่งๆ
“ทานสิค่ะ..กำลังร้อนๆ เลย”
“นี่ยัยเด็ก..”
“ริวขาาา” ผมมองซูซี่ที่เดินนวยนาดเข้ามาในห้องพร้อมกับเดินมาหอมแก้มผมแล้ววางถุงอะไรไม่รู้บนโต๊ะ
“มาเร็วดีนี่ ไหนว่าจะมาตอนเที่ยงคืน?”
“ก็ซูซี่ทนคิดถึงคุณไม่ได้นี่น่า ว่าแต่กำลังทานอะไรค่ะ? เอ๊ะ เด็กนี่ใคร..”
“เฮ้ออ แม่บ้านคนใหม่”
“อ่อ แต่ริวค่ะคุณแพ้กุ้งจะทานข้าวผัดกุ้งได้ไง?”
“อะ เอ๊ะ?? คะ คุณริวแพ้กุ้งเหรอค่ะ ทำไม..”
“นี่ยัยเด็กเหลือขอเอากุ้งมาให้คุณทานงั้นเหรอค่ะ แย่จริง!! เป็นแม่บ้านประสาอะไรไม่รู้ว่าเจ้านายกินอะไรได้ กินอะไรไม่ได้อ่ะห๊ะ”
“คะ คุณริวคะหอมขอโทษค่ะ”
“ขอโทษเหรอ มันน่านะ!! ถ้าริวเป็นอะไรไปจะทำยังไงย่ะ!!” ซู่ซี่ต่อว่าหอมอย่างรุนแรงก่อนจะหยิบจานข้าวผัดโปะใส่แก้มหอมทันที
โพละ!!
“ซูซี่!!”
“น้อยไปนะ ยัยเด็กบ้า!!” ผมลุกขึ้นมองหอมที่ปัดเศษข้าวจากแก้มตัวเองพร้อมกับปัดเศษข้าวบนตัวออกจนหมดแล้วหยิบแก้วน้ำเปล่าขึ้นมา
ซ่า!!
“กะ กรี๊ดดดด..”
“พอเลยทั้งสองคน!!!” เสียงของผมดังขึ้นมาทำให้ทั้งสองคนเงียบลงทันที ผมลูบหน้าซูซี่อย่างถนอมแล้วหยิบผ้าขนหนูมาคลุมไหล่เธอทันที
“เก็บของให้หมดนะหอมและทีหลังอย่าทำนิสัยแบบนี้อีก ผู้หญิงทุกคนที่มาหาฉันคือผู้หญิงของฉัน เธอไม่สิทธิ์ทำร้ายเขา เข้าใจไหม!!”
“....”
“ถามว่าเข้าใจไหม!!”
“เข้าใจค่ะ”
“ไปครับซูซี่” ผมประคองร่างเธอให้เข้าห้องไป ก่อนจะเริ่มบรรเลงเพลงรักบนเตียงทันทีอย่างโหยหา ผมมองนาฬิกาที่บ่งบอกเกือบตีสองแล้วที่ยังคงกระแทกตัวเองกับร่างบางนี้ที่สลบไปแล้ว ผมกระตุกครั้งสุดท้ายแล้วล้มลงข้างๆ ซูซี่ก่อนจะถอดเครื่องป้องกันออกแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำอีกครั้ง ผมเดินออกจากห้องด้วยสภาพหัวเปียกแล้วหยิบน้ำในตู้เย็นออกมาดื่ม ก่อนจะได้ยินเสียงประตูเปิดออกก็พบว่าเป็นหอมที่อยู่ในชุดนอนลายการ์ตูนสีฟ้า เธอตกใจที่เห็นผมแต่ก็ก้มหน้าลงแล้วเดินมาหยุดที่หน้าตู้เย็น
“จะเอาอะไร?”
“เอาน้ำแข็งค่ะ..” ผมขยับออกไปแล้วมองเธอที่หยิบน้ำแข็งออกมาก่อนที่สายตาของผมจะมองไปที่แก้มใสที่เป็นรอยพองแดงๆ
“แก้มไปโดนอะไรมา?”
“เปล่าค่ะ..”
“ก็ฉันเห็นอยู่ จะเปล่าได้ไง!!”
“ก็หอมไม่ได้เป็นอะไร..” เธอปิดตู้เย็นแล้วเดินเข้าห้องไป ผมยืนขมวดคิ้วอย่างงุนงงทำไมแก้มถึงเป็นรอยแดงพองๆ ?? อืม...เดี๋ยว?? ข้าวผัดเหรอ
‘ทานสิค่ะ...กำลังร้อนๆ เลย’
หรือว่าข้าวผัดที่ซูซี่เอาโปะใส่แก้มยัยเด็กนี่นะ?? เหอะ ยัยเด็กปากแข็ง ผมวางแก้วน้ำแล้วไปเคาะประตูหน้าห้องแต่ยัยเด็กนี่ไม่ยอมเปิด ผมถอนหายใจออกมาหยิบกุญแจสำลองห้องนี้มาไขทันทีแล้วเปิดไปก็เจอยัยเด็กนั่นที่กำลังเอาน้ำแข็งประคบแก้มตัวเองอยู่
“คะ คุณริว..ขะ เข้ามาได้ไงค่ะ!!”
“กุญแจสำลอง..”
“ละ แล้ว..”
“ก็เธอไม่ยอมบอกว่าเป็นอะไร?”
“ก็หอมไม่ได้..”
“ก็หอมไม่ได้เป็นอะไร?”
“....”
“จะพูดแบบนี้ใช่ไหม? ยัยเด็กปากแข็ง” เธอหลับตาลงแล้วเบือนหน้าหนีผมทันที ผมส่ายหน้าไปมาแล้วเดินไปนั่งที่เตียงก่อนจะจับใบหน้าจิ้มลิ้มไว้ด้วยมือเดียวพร้อมกับหยิบผ้าที่ใส่น้ำแข็งมาประคบแก้มเธอทันที
“คะ คุณริวค่ะ..หอมทำเอง”
“อยู่เฉยๆ ยัยเด็กดื้อ!!”
“หอมไม่ได้ดื้อนะ..”
“ไม่ได้ดื้ออะไร ฉันสั่งว่ายังไง..ให้ทำตามที่ฉันสั่งทุกอย่าง เธอเองก็พูดเองนะว่าจะฟังฉันอ่ะ” เสียงถอนหายใจทำให้ผมเงยหน้ามองใบหน้าจิ้มลิ้มที่หลบสายตาผมทันที
“ว่าไง?”
“อะไรค่ะ”
“ก็ที่ฉันพูดเมื่อกี้อ่ะ...”
“เข้าใจค่ะ”
“ก็แค่เนี้ย” ผมมองแก้มใสที่เป็นรอยพองๆ อย่างนิ่งๆ ซูซี่ก็ทำเกินไปเปล่าว่ะ!! ยัยเด็กนี่ไม่รู้นี่หว่าว่าผมแพ้กุ้ง กำลังจะบอกแท้ๆ แต่ซูซี่ดันเข้ามาก่อน ผมโน้มใบหน้าไปใกล้ๆ ก่อนที่ใบหน้าจิ้มลิ้มของหอมจะหันมาชนกับผม ทำให้เธอชะงักทันทีเพราะมันบังเอิญที่ริมฝีปากของเธอเฉียดริมฝีปากของผมอย่างเบาๆ แต่กับทำให้ผมสะดุ้งนิดหน่อยเพราะปกติผมไม่เคยจะไม่โมเม้นท์อะไรแบบนี้นะ กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวเด็กนี่ทำให้ผมใจสั่นทันทีแต่เธอก็เบือนหน้าหนีอย่างเขินๆ จนผมแสะยิ้มอย่างนิ่งๆ
“จะยั่วฉันหรือไง?”
“อะ เอ๊ะ??”
“หึบอกแล้วไง เด็กแบบเธอฉันไม่สนหรอกน่า..อย่ามายั่วเลย”
“หะ หอมเปล่านะคะ คุณริวคิดอะไรอ่ะ!!” เธอผลักผมออกไปพร้อมกับแก้มใสที่เป็นรอยพองๆ จะแดงขึ้นมาจนผมผุดยิ้มอย่างขำๆ
“หึจริงเหรอ?”
“คะ คุณริว!!”
“ทำไม? ก็เห็นอยากหาสามีเหลือเกิน”
“กะ ก็ใช่แต่..คงไม่ใช่กับคุณริว”
“ถูก คนอย่างฉันไม่ชอบผูกมัดกับใครหรอกนะ..เพราะมันไม่ใช่สำหรับฉัน ฉันไม่ชอบการมีครอบครัว ไม่อยากรักใครชอบใครเพราะถ้าคิดแบบนี้นะ..มักจะมาพร้อมกับปัญหาและตามมาด้วยการผูกมัดตลอดชีวิต” ผมวางผ้าลงแล้วมองหอมที่มองหน้าผมอย่างตั้งใจ
“แล้วถ้า..มีผู้หญิงคนหนึ่งอยากจะทำให้คุณชอบเธอละคะ?”
“เหอะใครล่ะ? ถึงมีก็คงไม่สำเร็จนะเพราะฉันไม่เคยคิดอะไรกับใครจริงจัง”
“คุณถึงได้เจ้าชู้..”
“ก็..ใช่ ฉันชอบชีวิตแบบนี้มากกว่าชีวิตที่ต้องกลับมาเจอครอบครัว กลับมาเจอเมีย ฉันไม่เอาหรอก สู้อยู่แบบนี้ดีกว่า” ใช่ผมไม่ชอบผูกมัดและไม่ชอบที่จะมีผู้หญิงคนเดียว เพราะมันเหมือนการขังผมให้รักเธอแค่คนเดียว แบบเซฟและโจชัวอ่ะ แบบนั้นผมไม่เอาเด็ดขาด!! ผมมองหอมที่พยักหน้ารับอย่างนิ่งๆ เป็นอะไรว่ะหรือเจ็บแก้มอีกอ่ะ?
“เป็นอะไรอีกล่ะ..เจ็บแก้มหรือไง?”
“เปล่าค่ะ คุณริวคะ”
“ว่า??”
“หอมขอโทษที่เกือบจะเอากุ้งให้คุณทาน หอมไม่รู้จริงๆ หอมขอโทษ..” เธอยกมือไหว้ผมทันทีอย่างเสียใจ ใช่ยัยเด็กนี่เสียใจจริงๆ ที่เกือบจะฆ่าผมด้วยข้าวผัดจานนั่น
“ไม่เป็นไร เธอรู้ก็ดีแล้วล่ะ..ทีหลังจะได้ไม่ต้องทำอีก เอาเถอะนอนซะฉันไปล่ะ” ผมลุกขึ้นยืนก่อนจะมองมือตัวเองที่ถูกมือบางและอุ่นจับไว้ทำให้ผมหันไปมองเธอที่เงยหน้ามองผม
“ฝะ ฝันดีนะคะ”
“....”
“ฝันดีค่ะ..”
“หึอือ..” เธอปล่อยมือออกอย่างเขินๆ ผมเดินออกจากห้องพร้อมกับส่ายหน้าไปมาอย่างยิ้มๆ เด็กแบบเธอนี้มันไร้เดียงสาจริงนะหอม..รุ่นเดียวกับเธออ่ะเขามายั่วฉันกันทั้งนั้นแต่เธอนี้มัน...โมเม้นท์เด็กๆ จริง หึ