ตอนที่ 4/2 เรื่องตลกบนโต๊ะกินข้าว 2

998 Words
​ “เสี่ยอินทัช” มีมี่เดินลงจากรถก็เจอเข้ากับแขกที่ไม่ได้รับเชิญ เธอรีบดึงลูกชายมาหลบอยู่ข้างหลังทันที “เสี่ยมาถึงที่บ้านเพราะอะไรคะ ดิฉันพึ่งจ่ายเงินงวดที่สองไปเอง” “เอาตามตรงเลยนะหนู เสี่ยคิดถึง” มีมี่รีบย่อตัวลงหันไปปิดหูลูกชายไว้ทันที เสี่ยอ้วนพุงย้วยกระดุมแทบจะปริออกมาแล้วกำลังกระตุกยิ้มโชว์ฟังเรียงตัวกัน “เราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอคะว่าเสี่ยจะไม่มาที่นี่” “เหรอ เสี่ยเคยพูดอย่างนั้นเหรอ กูเคยพูดเหรอวะ” หันไปถามลูกน้องแล้วพากันหัวเราะอย่างชอบใจ “ผมไม่เคยได้ยินนะครับ สงสัยคุณผู้หญิงคิดไปเอง” “คุณผู้หญิง...มึงเรียกเข้าท่าดีวะไอ้หยอง ลองเสนอให้คุณผู้หญิงของมึงไปอยู่บ้านเพื่อลดหนี้ดูสิวะ” พูดจบก็หันมามองผู้หญิงใบหน้าสะสวย เมื่อก่อนได้แต่เดินผ่านเพราะความหยิ่งยโสของเธอเองแต่ตอนนี้เขากลับกลายมาเป็นคนเหนือกว่า “บอกตรงๆ หนูตรงสเปกเสี่ยมาก” สายตาโลมเลียทำให้มีมี่อยากมีสี่มือจะได้ปิดตาลูกชายไว้ด้วย “ไหนเราตกลงกันแล้ว” “จุจุ จะว่าก็ว่าแต่เสี่ยชอบหน้าตาหนูตอนพยศมากๆ มาอยู่กับเสี่ยสิแล้วชื่อเสียงหรืองานของหนูจะกลับมา” ใช่เมื่อก่อนเธอเป็นคนรักศักดิ์ศรีและหน้าตาอยู่พอควร ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็เชิดหน้าคอตั้งอยู่เสมอเงินทองมีเต็มกระเป๋า แม่ก็ดีลูกก็ประเสริฐทำให้เธอไม่คิดว่าจะมีวันตกต่ำจนสิ้นเนื้อประดาตัวขนาดนี้เหมือนกัน คนที่เกลียดเธอก็คงมีมากเพราะความยโสและเย่อหยิ่งของเธอในเมื่อก่อน แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้วเธอยอมทิ้งศักดิ์ศรีเพราะต้องมีกิน เพื่อให้ลูกได้เรียนได้รักษาบ้านนี้ไว้ “ฉันจ่ายหนี้เสี่ยครบแน่นอนค่ะ ตามที่เราตกลงกันไว้” “ตอนนี้มันขึ้นมาสิบล้านห้าแสนแล้วนะหนู” เสี่ยมันพูดน่าชวนอ้อนอวัยวะเบื้องล่างมากทีเดียว “คะ? ฉันจ่ายไปสองล้านห้าแล้วทำไมมันยังเหลือเยอะกว่าเดิม” “ดอกเบี้ยไงหนู” มีมี่รู้สึกว่าฟ้ากำลังจะถล่มลงมาใส่ตัวและไม่คงไม่มีใครมาช่วยค้ำมันไว้ให้เธอกับลูกแน่นอน ขอแค่ใครสักคนที่โผล่มาตอนนี้เธอจะตอบแทนให้หมด ไม่อยากให้ลูกมาเห็นภาพมาได้ยินอะไรแบบนี้เลย เธอจะทำยังไงดีคิดไปน้ำตาก็รื้นขอบตาสวรรค์เล่นตลกกับชีวิตเธอเกินไปหรือเปล่า ต่อให้เธอจะหยิ่งจะเชิดแต่ก็ไม่เคยด่าทอช่างแต่งหน้าไม่เคยตบตีช่างทำผมหรือดึงหัวผู้ช่วยสักหน่อย ทำไมต้องทำกับเธอแบบนี้ด้วย แค่นี้มันยังไม่พอใช่ไหม “อ้าวหนูมีมี่” แม่กับลูกพร้อมกับชายหน้าเหี้ยมหันไปมองด้านหลังตามเสียงทันที คนสวยขมวดคิ้วเพราะไม่รู้จักกับคนที่มาเป็นการส่วนตัวทำไมถึงได้เรียกเธอราวกับสนิทสนมขนาดนั้น มีมี่ปล่อยมือจากหูสองข้างเลื่อนลงไปจับแขนเล็กไว้แทนแล้วพาลูกน้อยวิ่งไปหลบทางด้านหลัง...พ่อเลี้ยงเรวัช “พ่อเลี้ยงนี่เองคิดว่าใครที่ไหน” เสี่ยอินทัชกระตุกยิ้มมองดูผู้หญิงหอบลูกวิ่งหนีเขาเหมือนเจอผีก็ได้แต่กำกระเป๋าถือไว้แน่น “อ้าวเสี่ยทัช” พ่อเลี้ยงละสายตาจากสองแม่ลูกด้านหลังตัวเองหันหน้ากลับมามองเสี่ยอินทัชด้วยสายตาเรียบนิ่ง “พ่อเลี้ยงมาทำอะไรที่นี่ครับ หรือว่า” สายตาดูถูกดูหมิ่นทำให้พ่อเลี้ยงกำหมัดเหมือนกัน “ผมมาเยี่ยมว่าที่ลูกสะใภ้คนโตของผมครับ” ....มีมี่เงยหน้ามองพ่อเลี้ยงในทันที “ลูกสะใภ้? ตลกหรือเปล่าครับพ่อเลี้ยงนี่ผมต้องขำไหม” เสี่ยอินทัชหันไปหัวเราะชอบใจกับลูกน้องตัวเอง “ไม่ต้องขำครับ เพราะมันคือเรื่องจริง” พ่อเลี้ยงมีท่าทางจริงจังจนมีมี่ไม่กล้าขัดอาจจะเพราะอยากหาอะไรมาช่วยบังหน้าไปก่อนเลยพูดแบบนั้นก็ได้ เธอขอแค่เสี่ยพุงย้วยกับลูกน้องหน้าเหี้ยมออกไปจากบ้านเธอก็พอ สงสารก็แต่ลูก “งั้นรู้ไหมครับว่าที่ลูกสะใภ้พ่อเลี้ยงเป็นหนี้ผมอยู่เท่าไหร่” เสี่ยอินทัชหุบยิ้มพลันแล้วยกเรื่องหนี้ขึ้นมาแทน “จะว่าหนี้ของหนูมีมี่ก็ใช่ว่าเธอยืมเสี่ยมาเสียหน่อย” “หนี้ของแม่ลูกก็ต้องจ่าย” เสี่ยอินทัชสาวเท้าเดินเข้ามาใกล้รู้สึกเสียดายที่มองหน้าสวยๆ ของหญิงสาวยังไม่เต็มอิ่มเลย “ครับ หนี้ของหนูมีมี่ทางไร่ราชาจะเข้าไปจัดการเอง ต่อไปนี้ไม่มีอะไรติดค้างกันอีกแล้วเสี่ยก็ไม่ควรมาที่นี่นะครับ” “ก็ดี” แม้จะพูดอย่างนั้นแต่มือกำหมัดแน่น คิดว่าคนอย่างเขาจะยอมแพ้อะไรง่ายๆ หรือไง “แต่ผมอยากบอกอะไรไว้หน่อยเป้าหมายที่ผมเล็งไว้ไม่เคยปล่อยให้รอด” พูดจบก็พาร่างอ้วนพุงย้วยของตัวเองเดินออกไปจากบริเวณหน้าบ้าน มีมี่ถอนหายใจเฮือกก่อนจะก้มบอกให้ลูกเข้าไปในบ้านเพื่อเอาน้ำมาเสิร์ฟผู้ใหญ่เด็กน้อยพยักหน้ารับอย่างว่านอนสอนง่าย “พ่อเลี้ยงดื่มน้ำเย็นๆ ก่อนค่ะ” มีมี่ผายมือให้พ่อเลี้ยงเดินเข้ามานั่งที่ศาลาหน้าบ้าน “ขอบคุณมากเลยนะคะ ขอบคุณจริงๆ” พ่อเลี้ยงเรวัชมองหน้าเด็กชายที่เอาน้ำมาวางให้เขาดูก็รู้ว่าเป็นเด็กที่ถูกอบรมเลี้ยงดูมาอย่างดีแน่นอน แล้วแบบนี้เขาจะทำใจทนมองอยู่เฉยๆ ได้ยังไง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD