จ้างรักเจ้าสาวตัวปลอม บทที่2.สวนเพทาย..

1616 Words
กันจิราเดินตามคนตัวใหญ่ไปห่างๆ เธอนึกทึ่งเขาในใจ คนตรงหน้ามีบุคลิคชวนให้รู้สึกดี เขาเป็นคนสุขุมใจเย็น ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ แม้เธอจะแสดงท่าทีไม่ดีออกไป หญิงสาวแอบระบายลมหายใจ การพบเจอกันครั้งแรก นับว่าไม่ผิดวัตถุประสงค์ของสิตาเท่าไหร่นัก เธอสร้างความระคายเคืองไว้ในใจคนตรงหน้า ความสัมพันธ์ที่ผู้ใหญ่ต้องการคงไม่สัมฤทธิ์ผล หากคนตรงหน้าไม่เห็นด้วย ...แต่...น่าเสียดาย... ผู้ชายที่ดูอบอุ่นและน่าคบหา ไม่ได้หาได้ง่ายๆ เมื่อผู้ชายส่วนใหญ่บนโลกใบนี้ ล้วนแล้วเต่เป็นมนุษย์เพศชายที่แสนจะเห็นแก่ตัว... นานๆ จะเจอผู้ชายที่ทำให้ตนเองใจแกว่งได้...น่าเสียดาย ที่เขาเป็นของต้องห้ามที่เธอไม่ควรเกาะแกะด้วย “นั่งรอที่นี่ก่อนก็ได้ครับ ผมจะไปเตรียมน้ำมาให้ดื่มแก้กระหาย” ปัทม์ผายมือไปที่โซฟาตัวใหญ่สีขาวสะอาดกลางบ้าน เขาเดินเลี่ยงไปอีกทาง เพื่อจัดการหาน้ำเย็นๆ มารับรองแขก ชายหนุ่มสะกิดใจครามครัน...คนงานที่เคยเห็นพลุกพล่าน พร้อมใจกันหายหน้าหายตา...เหมือนใครบางคนต้องการแบบนั้น ชายหนุ่มโครงศีรษะเบาๆ นี่คงเป็นแผนการของมารดาที่ต้องการให้เขากับสิตา ทำความรู้จักกันแบบเป็นการส่วนตัว ปัทม์ยิ้มมุมปาก ถึงท่าทีของคนมาใหม่จะดูขัดตา แต่เหมือนเป็นการฝืนๆ มากกว่าตัวตนที่แท้จริงของเธอ ก่อนที่หล่อนจะหันมาสบตากับเขา ปัทม์แน่ใจ แววตาของผู้หญิงคนนั้นมีแต่ความลิงโลด และตื่นเต้น หาใช่ท่าทางเบื่อหน่ายระอา ตอนที่หล่อนหันมาสบตากับเขาตรงๆ ไม่ ความขัดแยงนี่ สะกิดใจปัทม์ไม่ใช่น้อย “ไม่หรอกมั้ง!” ปัทม์รำพัน เป็นไปไม่ได้เลยที่คนคุ้นเคยกับความสะดวกจะสบาย จะชื่นชมธรรมชาติที่เงียบวังเวงเหมือนสวนเพทายแห่งนี้ ชายหนุ่มเดินกลับมาพร้อมกับแก้วน้ำเย็นในมือ ขนมอบจานเล็กๆ ที่เขาเตรียมมาด้วยถูกวางไว้ตรงหน้า กันจิราปลายตามอง เธอแอบชมเขาในใจ ผู้ชายคนนี้ละเลียดอ่อน และใส่ใจคนอื่น “คงไม่เป็นการเสียมารยาทนะครับ หากผมจะขอตัวก่อน ผมมีงานค้างไว้ต้องรีบจัดการให้เสร็จภายในวันนี้... แต่...ผมจะรีบตามคุณแม่ให้รีบมาพบคุณเร็วๆ” ปัทม์ออกตัว เขาไม่ต้องการตกลงไปในเกมที่มารดาวางไว้ เขาไม่ต้องการสานสัมพันธ์กับคนตรงหน้า ไม่ว่าจะแบบไหนก็ตาม สิตาตัวปลอมแสร้งไหวไหล่...เธอกรีดนิ้วจับหูแก้ว ยกขึ้นจิบน้ำด้วยท้วงท่าขัดตาคนมอง หลังจากฝึกซ้อมกับสิตาตัวจริงจนชิน “ตามสบายค่ะ ฉันอยู่ได้” เสียงหวานดังผ่านปากสีสดที่เคลือบลิปติกสีจัดจ้านไว้ออกมา ปัทม์ค้อมศีรษะลง เขาเดินเลี่ยงไปอีกทาง กันจิราถอนใจแรงๆ เธอเอนตัวพิงพนักโซฟา “ยัยสิตาบ้า! ทำไมไม่บอกก่อน หมอนั่นหล่อวัวตาควายล้มเลยนะ” หญิงสาวบ่นพึม เธอหัวใจสะดุด เกือบจะเผยพิรุธให้อีกฝ่ายจับได้ เมื่อได้เจอกับปัทม์จังๆ ผู้ชายที่เคยอยู่แต่ในภาพจำของตนเอง...ผู้ชายที่กันจิรามโนไว้ในใจ ถ่ายทอดออกมาเป็นปัทม์ คู่หมายที่สิตาไม่ต้องการ เขาคือผู้ชายในฝันของเธอชัดๆ “ฉันจะเก็บอาการอยู่ไหมนะยัยสิตา คู่หมายเธอหน่ะ...ผู้ชายในฝันของฉันเลย” ผู้หญิงหลายคนอาจจะชอบผู้ชายผิวขาว ท่าทางเป็นผู้ดีทุกกระเบียดนิ้ว ใจดี ยิ้มง่าย เป็นคนขี้เล่น แต่สำหรับกันจิราแล้ว ผู้ชายในฝันของเธอคือผู้ชายที่มีลักษณะเป็นผู้นำ มีความสุขุมอ่อนโยนในตัวเอง และแกร่งพอที่จะให้เธอรู้สึกวางใจ และที่สำคัญ...เธอไม่ชอบผู้ชายขาวจัด ปัทม์มีผิวสีแทนเพราะเขาทำงานกลางแดด เป็นเกษตรการที่เป็นทั้งนายทุน และเกษตรกรตัวจริง คนงานทำอะไรได้ ปัทม์ทำได้ไม่ต่างกัน เขาทุ่มเต็มที่ เข้าถึงและรู้จริง...จนไม่มีใครกล้าเถียง หญิงสาวถอนใจ ก้มหน้าลง รู้สึกหน่วงๆ ในอก เมื่อเจอคนที่ตัวเองปลื้ม กลับทำได้แค่มอง... สิตาตัวปลอมนั่งมองนั่นนี่ได้ไม่นาน พอใจก็เดินเข้ามาหาพร้อมกับทักทายเสียงใส “หนูสิตา รอแม่นานไหมคะ ขอโทษแทนลูกชายแม่ด้วยนะ เขาเป็นคนแบบนี้แหละ บ้างานเสียจนไม่นึกถึงมารยาท” นางออกตัวบ่นว่าบุตรชายที่ปล่อยให้คนสำคัญนั่งปั้นจิ้มปั้นเจ่อเพียงลำพัง สาวไฮโซตัวปลอมยิ้มรับ ยกมือขึ้นกระพุ่มไหว้แกนๆ “ไม่เป็นไรค่ะ สิตาเองก็ไม่อยากคุยกับคนแปลกหน้าเหมือนกัน” หญิงสาวแสร้งตอบแบบหยิ่งๆ ให้สมกับเป็นลูกสาวเศรษฐีพันล้าน “มาเหนื่อยๆ ขึ้นไปพักก่อนไหมจ้ะ” เพื่อไม่ให้ผู้หญิงตรงหน้ารู้สึกไม่ดีกับบุตรชายมากขึ้น พอใจเลยรีบเปลี่ยนเรื่องคุยให้ห่างจากปัทม์ “ก็ได้ค่ะ” กันจิราพยักหน้ารับ เธอปั้นหน้าจนเมื่อย อยากกลับเป็นคนเดิมเต็มทน สาวใช้เดินเขามารอรับคำสั่ง ทั้งที่ก่อนหน้านั้นหลบหน้าหลบตาจนมองไม่เห็น “พาคุณสิตาขึ้นไปพักนะ” “สิตา...ขอตัวนะคะคุณป้า” ถึงพอใจจะแทนตัวเองว่า ‘แม่’ แต่กันจิราก็กระดากปากที่จะสนิทสนมกับท่านด้วย เมื่อเธอคือตัวปลอม พอใจหน้าเสียไปชั่วครู่ นางถอนใจเบาๆ ก่อนจะงัดโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาสามีพร้อมกับบ่นขรม (คุณคะ ลูกชายคุณทำน้องขายขี้หน้ามากเลย อุตส่าห์ปล่อยให้อยู่กับสาวสวย ตาปัทม์เสียมารยาทขนาดปล่อยให้หนูสิตานั่งอยู่คนเดียว ตัวเองหนีไปทำงานเฉย) ตรัยหัวเราะหึๆ ปัทม์ ขัดใจมารดาตั้งแต่วันแรก บุตรชายของท่านคงไม่สนใจสิตาจริงๆ (คุณก็รู้จักนิสัยลูกนี่...บีบมากๆ ระวังเถอะเตลิดไปคว้าลูกสาวคนงานมาเป็นเมียจะยุ่ง!) ตรัยเตือนภรรยาแบบอ้อมๆ ปัทม์เป็นบุตรชายที่ดีก็จริง แต่เขาก็เชื่อมั่นในตัวเองไม่น้อย (หากลูกตาต่ำ น้องก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอกค่ะหนูสิตาทั้งสวย ทั้งรวยไม่มอง จะไปมองลูกสาวคนงานตัวดำๆ ก็เอาเถอะ) สาวใหญ่กล่าวประชด หากการคลุมถุงชนครั้งนี้ไม่สำเร็จ นางจะไม่ยุ่งเรื่องคู่ครองของบุตรชายอีกต่อไป (บางครั้ง ผู้ชายก็ไม่ได้มองผู้หญิงที่ความสวยนะครับ) เป็นอีกครั้งที่สามีติง พอใจถอนใจแรงๆ (น้องรู้ค่ะ น้องแค่อยากให้ลูกได้พบคนที่เหมาะสม) (เหมาะสมในความหมายของคุณคือ เธอมาจากตระกูลดีๆ งั้นรึ?) ตรัยถามย้ำ (ไม่ใช่ค่ะ เพราะว่าหนูสิตาคือลูกสาวของเพื่อนสนิทคุณไงคะ น้องไม่อยากให้คุณประถมผิดใจกับคุณ) (อย่าคิดมากน่า...ปัทม์คือลูกชายเรานะ ถ้าเขาไม่ชอบ ผมก็ไม่บังคับหรอก นี่คืออนาคตของเขา เขาควรมีสิทธิเลือกเองสิ) สาวใหญ่ถอนใจซ้ำ (ค่ะ น้องจะไม่ยุ่ง) (คุณรับปากแล้วนะพอใจ เรื่องของลูก ให้ลูกตัดสินใจเองเถอะ) (น้องเสียดายหนูสิตานี่คะ) พอใจไม่วายโอญครวญ (เรื่องของพรหมลิขิตน่ะ ไม่ว่าผมหรือคุณก็ไม่มีทางฝืนได้หรอก) ตรัยเชื่อเรื่องพรหมลิขิต มนุษย์ทุกคนถูกกำหนดมาตั้งแต่ลืมตาดูโลก ไม่มีคนใดฝืนความต้องการที่ติดตัวมาได้ แม้จะต่อต้าน หรือพยายามหลีกหนี แต่หากนั่นคือชะตากำหนด...สักวันเขาก็ต้องพ่ายแพ้ กันจิรานอนแผ่บนที่นอนนุ่ม เธออมยิ้มมองฝ้าเพดานตาปรอย หากเธอก๋ากั่นสักหน่อย เธอคงวิ่งใส่ปัทม์โดยไร้ซึ่งความอาย เมื่อเขาเป็นเหมือนภาพผู้ชายในฝันที่เธอแอบมโนไว้ในใจ และไม่คิดว่าผู้ชายในแบบที่ตนเองชอบจะมีชีวิตจริงๆ บนโลกใบนี้ ปัทม์ผิวเข้ม ผมหยักศกนิดๆ เส้นผมเส้นหนาๆ สีดำดั่งนิล แววตาคมดุนิ่งเรียบ เหมือนน้ำก้นสระที่ความลึกสุดจะหยั่งถึง...ริมฝีปากกระด้างยิ่งมองยิ่งชวนให้สยิว! ปลายจมูกโด่งรับกับปลายคางเหลี่ยม ผิวของเขาออกสีน้ำตาลไหม้ เนียนละเอียดแม้จะเห็นแค่ผ่านๆ ลาดไหล่หนั่นแน่น แผงอกบึกบึนสมกับเป็นคนทำงานในสวน ปลีน่องใต้กางเกงยีนส์ที่มองเห็น ทำเอาเธอลมหายใจสะดุดเลยทีเดียว ไม่คิดว่าจะได้เจอผู้ชายที่มีช่วงขาเพรียวสุดเซ็กซี่ กันจิราไม่อยากนึกถึงเวลาที่เขา...เปลือย ภาพฝันนั่น กำลังทำให้เธอฟุ้งซ่าน เมื่อฟรีโรโมนของปัทม์ กำลังป่วนประสาทของเธอ ตืดดดดดดดดดดดด... เสียงโทรศัพท์ส่วนตัวกรีดร้องเสียงดัง กันจิราสะดุ้ง เธอควานมือหาโทรศัพท์เครื่องบางเฉียบในกระเป๋ากระโปรงแบบลุกลน (กว่าจะรับได้ ฝันหวานอะไรอยู่ยะกระรอก) สิตาสัพยอกผ่านสายโทรศัพท์ (เปล่าสักหน่อย ฉันเพิ่งมาถึง กำลังนอนพักตาเฉยๆ บนเตียง) กันจิราตอบพร้อมกับอมยิ้มมุมปาก เพื่อนของเธอเดาถูก เหมือนมานั่งอยู่ใกล้ๆ เธอเวลานี้ (เธอคงชอบที่นั่น แต่สำหรับฉัน ไม่ไหว) สิตาบ่นต่อ บ้านป่าที่มองไปทางไหนก็มีแต่ต้นไม้ แค่คิดก็สยองแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD