7

1150 Words
10 ปีต่อมา รถแท็กซี่ที่ว่าจ้างมาจากสนามบินสุวรรณภูมิแล่นมาจอดหน้าบ้านจักรบดินทร์ ก่อนที่ผู้โดยสารจะก้าวลงมาจากรถคันดังกล่าว คนขับแท็กซี่ก็แสนจะใจดีลงมาช่วยยกสัมภาระมาวางไว้บนพื้น และเมื่อจ่ายค่าโดยสารเสร็จ ไอศูรย์ก็ลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ไปยังหน้าประตูรั้วบ้าน เขากดกริ่งหน้าบ้านเรียกให้คนในบ้านมาเปิด ไม่นานนักร่างของแจ่มสาวใช้ประจำบ้านก็วิ่งมาถึงหน้าประตู “คุณเจย์” แจ่มเรียกชื่อเจ้านายหนุ่มที่ไม่ได้กลับมาบ้านร่วมสามปีด้วยความดีใจ รีบเปิดประตูต้อนรับ “คุณเจย์กลับมาทำไมไม่บอกคุณท่านคะ คุณท่านจะได้ไปรับที่สนามบิน” แจ่มพูดขณะเดินไปลากกระเป๋าใบใหญ่แทนเจ้านาย “ฉันกะจะเซอร์ไพรส์คุณพ่อคุณแม่น่ะ” ไอศูรย์ตอบ เขาตั้งใจไม่บอกเรื่องนี้กับใคร ตั้งใจจะทำให้บิดาและมารดาประหลาดใจเล่น “งานนี้คุณท่านเซอร์ไพรส์แน่ๆ ค่ะ คุณผู้หญิงบ่นถึงคุณเจย์ทุกวันเลยค่ะ” จะไม่ให้วิมลบ่นถึงลูกชายคนเดียวของนางได้อย่างไร เพราะล่าสุดที่ไอศูรย์กลับมาบ้านก็เมื่อสามปีก่อน หลังจากที่จบปริญญาเอกสาขาบริหารธุรกิจ อยู่บ้านได้สี่เดือนก็เดินทางกลับไปเรียนต่อปริญญาเอกอีกสาขาหนึ่ง ซึ่งเป็นสาขาที่เขาใฝ่ฝันจะศึกษา พิสุทธิ์กับวิมลก็ไม่ขัดข้อง ไอศูรย์ใช้เวลาทั้งเรียนและทำงานหาประสบการณ์ไปด้วยสามปี จึงสำเร็จตามตั้งใจ พอเรียนจบเขาก็เดินทางกลับบ้านเกิดเมืองนอนอย่างถาวร ไอศูรย์เดินเข้าไปในบ้านที่ยังคงสภาพเช่นเดิมแต่ทาสีสันใหม่สวยงาม จะมีแปลกตาไปก็คือความร่มรื่นของต้นไม้น้อยใหญ่ที่เจริญเติบโต รวมทั้งแปลงดอกกุหลาบของเขาที่เวลานี้ ดอกกุหลาบเริ่มออกดอก ส่งกลิ่นหอม “คุณพ่อ คุณแม่ครับ” ไอศูรย์เรียกบุพการีที่นั่งดูทีวีอยู่ในห้องรับแขก “เซอร์ไพรส์ครับ” เขาเดินมานั่งคุกเข่าบนพื้น ก้มลงกราบบนตักของบิดามารดา ก่อนจะสวมกอดร่างของวิมลที่กอดตอบลูกชายด้วยรักและคิดถึงสุดหัวใจ “เจย์ลูกแม่ เจย์” “ทำเซอร์ไพรส์อย่างนี้ระวังแม่จะหัวใจวายนะเจย์” พิสุทธิ์แซวลูกชายที่หันมาสวมกอดผู้เป็นพ่อบ้าง “ไม่หรอกครับคุณพ่อ คุณแม่หัวใจแข็งแรง” ไอศูรย์ตอบก่อนจะขยับตัวมานั่งใกล้ร่างมารดา “น่าตีนักเชียว จะกลับมาก็ไม่บอกแม่ แม่จะได้เตรียมจัดงานเลี้ยงต้อนรับ” วิมลตีแขนของลูกชายเบาๆ “จะจัดงานเลี้ยงทำไมให้สิ้นเปลืองครับ แค่ทานข้าวในหมู่เครือญาติก็พอครับ” “ไม่ได้หรอกลูก ทำอย่างนั้นเสียหน้าแม่หมดน่ะสิ ลูกชายของคุณวิมล จักรบดินทร์เรียนจบปริญญาเอกใบที่สองจะไม่ประกาศให้คนอื่นรู้ได้ยังไง ไม่ได้จ้ะ ไม่ได้ งานนี้ต้องกระจาย” วิมลเป็นคนมีหน้ามีตาทางสังคมไม่ใช่น้อย รู้จักผู้ลากมากดีและคนมีชื่อเสียงหลายคนและหลายแขนง การที่ลูกชายเพียงคนเดียวของนางประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม มีหรือที่งานนี้วิมลจะไม่กลายเป็นโทรโข่งกระจายข่าวดีนี้ และถือคติที่ว่า งานเล็กๆ คุณวิมลไม่จัด ระดับนี้ต้องงานช้างเท่านั้นมันถึงจะสมหน้าตาและฐานะ “เรื่องนี้อย่าไปขัดแม่เลยลูก ไม่เคยมีใครชนะ” พิสุทธิ์พูดอย่างรู้นิสัยภรรยา “แหม คุณพี่ก็ ไม่ต้องมาพูดเหน็บน้อง เดี๋ยวน้องงอนนะคะ” วิมลพูดเสียงติดงอน “พูดความจริงก็งอนด้วย แต่ถึงคุณจะงอนผมก็จะง้อ” ภรรยาคู่บุญได้ยินแล้วถึงกับยิ้มไม่หุบ ดีใจที่สามีสุดที่รักดีกับนางเสมอต้นเสมอปลาย ไม่เคยนอกใจนางเลยสักครั้ง ถือว่านางโชคดีที่ได้สามีดี แถมลูกชายยังได้ดังใจด้วย “แม่ว่า เจย์ขึ้นไปพักผ่อนดีกว่านะลูก เดินทางมาเหนื่อยๆ ส่วนเรื่องห้องหับ แม่ให้แจ่มทำความสะอาดห้องให้ทุกวัน รอลูกกลับมา” วิมลเตรียมพร้อมไว้เสมอ ห้องพักทุกห้องแม้ว่าจะใช้งานหรือไม่ใช่งานก็ต้องเตรียมพร้อมไว้ หากวันหนึ่งวันใดมีแขกมาพักที่บ้าน จะได้ไม่เสียเวลาทำความสะอาด อีกทั้งนางเป็นคนรักสะอาดไม่ต้องการเห็นฝุ่นหรือคราบสกปรกให้เกะกะสายตา “หรือว่าเจย์ไม่อยากพัก แต่อยากไปหาใครบางคนที่อยู่ข้างบ้านเราลูก” พิสุทธิ์พูดเย้าลูกชายอย่างรู้เท่าทันความคิด คนคนนั้นก็คือ ชนกนันท์หญิงสาวที่ไอศูรย์หมายปองจะให้เป็นแม่ของลูกในอนาคต “คุณพ่อรู้ใจผมจริงๆ เลยครับ” “แต่แม่ว่า เจย์ไปนอนพักสักงีบดีกว่านะลูก ถึงไปหานกตอนนี้ก็คงไม่เจอ เพราะนกทำงานจ้ะ” วิมลไม่ขัดข้องที่ไอศูรย์คบหาชนกนันท์เป็นคนรัก เพราะนางเองก็รักและเอ็นดูว่าที่ลูกสะใภ้คนนี้มาตั้งแต่เด็ก แล้วยิ่งชนกนันท์โตขึ้น ความสวยก็ยิ่งโดดเด่น เป็นที่หมายปองของหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มากมาย แต่เธอก็ไม่สนใจใครนอกจากไอศูรย์เพียงคนเดียว “ครับคุณแม่” ไอศูรย์ทำตามที่มารดาบอก เขาหอมแก้มวิมลทั้งซ้ายและขวา ก่อนจะเดินขึ้นไปยังชั้นบนของบ้าน ไปพักผ่อนในห้องพักของตนเอง “ผมว่างานนี้คุณได้จัดงานใหญ่กว่างานต้อนรับเจย์กลับบ้านนะ” พิสุทธิ์พูดขึ้นไล่หลังลูกชาย “งานอะไรคะคุณพี่” “ก็งานแต่งงานไง เจย์ก็อายุสามสิบแล้วนะ ความรักของเจย์กับนกก็สุกงอม อีกอย่างก็เรียนจบด้วยกันทั้งคู่ ไม่มีอุปสรรคอะไรแล้วไม่ใช่เหรอ ถึงเวลาที่เจย์กับนกจะแต่งงานกันซะที คุณเห็นด้วยกับผมไหม” พิสุทธิ์คิดว่า เวลานี้ทุกอย่างลงตัวหมดแล้ว ก็สมควรที่จะจัดงานมงคลที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายวาดหวังไว้เสียที เขาเองก็อยากจะอุ้มหลานเต็มแก่ “ถ้าอย่างนั้น เราไปสู่ขอนกพรุ่งนี้เลยดีไหมคะ” วิมลเห็นด้วยกับสามี “ถามเจย์ก่อนก็ดีนะ เผื่อเจย์จะมีอะไรเซอร์ไพรส์นก” “ค่ะคุณพี่” วิมลตอบกลับด้วยรอยยิ้ม พลางนึกถึงรูปแบบของงานวิวาห์ของลูกชายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต นางคิดในใจว่าจะต้องจัดให้ยิ่งใหญ่ ปิดโรงแรมเลี้ยงแขกที่จะถูกเชิญมานับพันคน สินสอดทองหมั้นนางก็จะให้ชนกนันท์ชนิดที่ว่าไม่น้อยหน้าใคร เป็นที่กล่าวขวัญกันให้ทั่ววงสังคม แค่คิดวิมลก็มีความสุขแล้ว จนนางอยากจะเร่งเวลาให้ถึงวันนั้นเร็วๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD