ตอนที่ : 11

1811 Words
พุทธชาดออกมาคุยโทรศัพท์กับยูถกา ไม่อยากให้สองคน ซึ่งถือเป็นเพื่อนทั้งคู่ เกิดความไม่เข้าใจ ไม่ลงรอยกัน ถึงแม้จะมีท่าทีแปลกๆ กับเรื่องที่เม็ดขนุนไปจูบยูถกาเข้า บางทีการได้พูดคุยเปิดใจกันน่าจะช่วยให้สองคนกลับ มาปะทะฝีปากกันเหมือนเดิมน่าจะดีกว่า เม็ดขนุนเองก็รู้สึกผิดที่ไปทำรุ่มร่าม ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น ยูถกาก็ไม่น่าถือโทษโกรธอะไร เว้นเสียแต่ว่า รู้สึกอะไรกับจูบของเม็ดขนุน “ยังไง อยู่ไหนเนี่ย” พุทธชาดถามยูถกา “อยู่ร้านแถวๆ ห้องเสื้อภัทรา คุณพุดมีอะไร” ยูถกาถาม “พุดน่ะ ไม่มี ยูว์นั่นแหละมีอะไร เรื่องเม็ดขนุน” “มีอะไร ไม่เห็นจะมีอะไรเลย เมื่อสักพักก็เจอกัน ยังกวนเหมือนเดิม” ยูถกาถอนใจ ไม่อยากเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่ร้านของเม็ดขนุนเมื่อวันก่อน “ถ้าไม่มี แสดงว่าปกปิดอะไร เม็ดขนุนบอกว่ามี” พุทธชาดยิ้ม “มี ไอ้ตัวแสบไปฟ้องอะไรล่ะ” ยูถการู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง หรือว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก่อน พุทธชาดรู้แล้ว “ที่หลบหน้าหลบตาน่ะ ไอ้คนหนึ่งก็รู้สึกผิด ตอนนี้เกิดรู้สึกต่ำต้อยอีกต่างหาก ไอ้อีกคนก็ไม่กล้าจะเจอ กลัวจะหวั่นไหว หรือเปล่านะ” พุทธชาดพูดขึ้นลอยๆ ไม่ได้ระบุชื่อ แต่คนที่ได้ฟังรู้แล้วว่า พุทธชาดคงรู้เรื่องแล้ว “ไม่ได้หลบ พูดด้วยดีๆ ก็หลบหน้าหลบตา อยากจะอยู่ห่างๆ” ยูถกาพูดเหมือนฟ้องพุทธชาด อาการคล้ายๆ กับเม็ดขนุนที่พูดคุยไปก่อนหน้านี้เลย “ไม่ได้หลบ ก็มานั่งทำงานที่ร้านคุณรัก ไปอยู่ทำไมคนเดียว พุดอยู่ยาวเลย มาเร็วๆ ไอ้คุณเม็ดหนุนก็อยู่ ไม่มีอะไรก็มาเลยนะ รอ เดี๋ยวให้คุณรักทำอาหารที่ยูว์ชอบไว้ให้ เร็วๆ ถ้าปฏิเสธ พุดถือว่า ว้าวุ่นกับจูบไอ้เม็ดหนุนนะ จะบอกให้” พุทธชาดหัวเราะเล็กๆ ก่อนที่จะวางสาย “คุณพุด เฮ๊ยเดียวดิ” ยูถกาถอนใจ ยูถกาไม่คิดหนีปัญหา ในเมื่อเรื่องราวทั้งหมดพุทธชาดรับรู้แล้ว ก็ไม่มีอะไร หากได้พูดคุยกับเม็ดขนุนน่าจะเกิดความเข้าใจมากขึ้น ไม่อยากให้รู้สึกต่ำต้อย เพราะฟังจากน้ำเสียงแล้ว ไม่ใช่เป็นการพูดเล่นเหมือนทุกครั้งที่ได้พบกัน “สวัสดีค่ะ คุณรัก” ยูถกาเดินไปทักทายรักษาก่อนที่จะกลับมานั่งร่วม โต๊ะกับพุทธชาดและเม็ดขนุน ซึ่งสายตาเรียบนิ่ง มองดูตั้งแต่ตอนที่ยูถกาเดินเข้ามา “หวัดดี คุณพุด หวัดดี คนขี้ฟ้อง” ยูถกาพูดยิ้มๆ แต่เม็ดขนุนยังคงนั่งเงียบอยู่ “นึกว่า ไม่มาเสียแล้ว” พุทธชาดพูดแหย่ยูถกาที่ยิ้ม ทำท่ายักไหล่แต่แอบชำเลืองมองไปทางเม็ดขนุนเล็กน้อย “ยูว์ไม่ได้เป็นอะไร ไม่คิดมากน้อยเนื้อต่ำใจเป็นนางเอกละครเหมือนใครบางคน” ยูถกาพูดยิ้มๆ “ปากน่ะ เพลาๆ หน่อย เขาไม่ปะทะด้วย ได้ใจนะ” พุทธชาดยิ้มมองสบตากับเม็ดขนุน “เราส่งขนมเสร็จแล้ว กลับดีกว่า อิ่มแล้วด้วย” เม็ดขนุนพูดขึ้นทำท่าจะลุกไปลารักษา “ทำผิดแล้วหนี แพ้นะจ๊ะ” ยูถกาพูดแหย่ “รู้นะว่าผิด ขอโทษแล้วไง ไม่จบนะ” เม็ดขนุนพูดเสียงเข้ม “จูบคืนม๊ะ จะได้หายกัน” พุทธชาดหัวเราะออกมา หันไปเห็นรักษายืนยิ้มๆ อยู่ไม่ไกลนัก “คุณพุด ผู้หญิงนะ” ยูถกาบอกกับพุทธชาด “พุดก็ผู้หญิง คุณรักก็ผู้หญิง แล้วไง ไม่ชอบก็บอกไป แค่นั้น จบจะมาแง่งอนกันเรื่องอะไร เป็นเพื่อนกันไปก็ได้ หรือคิดอะไรอยู่” พุทธชาดเริ่มยิงคำถามที่ทำให้ยูถกาหาคำตอบยาก “ดีกัน ก็ได้ จะได้สบายใจ แล้วไอ้เรื่องเด็กส่งขนมนะ เลิกพูดได้แล้วนะ มันไม่ได้เกี่ยวกับการเป็นอะไร หรือร่ำรวยมาจากไหน แล้วก็ไม่ต้องพูดจากระทบกระเทียบยูว์กับคนโน้นคนนี้อีกล่ะ” ยูถกาไม่รู้ทำไมถึงต้องอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น เม็ดขนุนพูดเหมือนเธอคลอเคลียอยู่ กับพิณฑนา ซึ่งอันที่จริงก็ไม่จำ เป็นที่จะต้องอธิบาย ในเมื่อมันไม่ได้มีอะไรเหมือนที่เม็ดขนุนคิด “ยังไง เม็ดขนุน” พุทธชาดถาม “ดีกัน แต่เราก็จะอยู่ห่างๆ ไม่ทำรุ่มร่ามอีก” เม็ดขนุนบอก “ตกลง เรื่องคุณดีไซเน่อร์ยังไงกันคะ คุณนางแบบ” พุทธชาดถาม “คุณพิณ บ้าหรืออย่างไรกัน แค่คุยกันเรื่องงาน ไอ้เม็ดหนุนคิดเป็นตุเป็นตะไปเอง แล้วยังพาลมาโกรธ ยูว์ ด้วย ขี้งอนอีกต่างหาก” ยูถกาอมยิ้มเมื่อเห็นเม็ดขนุนนั่งทำหน้ามู่ทู่อยู่ “น่าแปลกเนอะ ทำไมสาวๆ เข้าหาเยอะ ขนาดนี้” พุทธชาดยิ้ม “เออ นั่นสิ หนุ่มมันหายไปไหนหมด แม่ยูว์นะ บ่นทุกวันเลย เมื่อไหร่จะมีแฟน อยากอุ้มหลานจะแย่” ยูถกาเล่าขำๆ พุทธชาดยิ้มๆ มองไปทางคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามที่ทำทีเป็นไม่ได้สนใจการพูดคุยของยูถกา “เลือกมากล่ะสิ เมื่อก่อนหนุ่มตามกันเป็นพรวน” พุทธชาดพูดแหย่ “แก่แล้วมั้ง คุณพุด อีกอย่างยังอยากทำโน่นทำนี่ตั้งหลายอย่าง ใครจะอยากมาเป็นแฟนด้วย” “ก็หาแฟนประเภท ชอบทำโน่นทำนี่ แล้วไปไหนมาไหนด้วยกันได้สิ ไม่เห็นจะยาก ว่าไหมเม็ดขนุน” พุทธชาดถามความคิดเห็น เพราะเห็นคนที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วยเงียบไป “ไม่มีความคิดเห็น” เม็ดขนุนทำหน้าเบื่อโลก พุทธชาดกับยูถกาหันมายิ้มให้กัน “โดน คุณรัก วางยาในอาหารแน่เลย” ยูถกาพูดจบก็หัวเราะออกมา “ก่อนหน้านี้ยังคุยจ๋อยๆ อยู่เลย” พุทธชาดยิ้ม “สวยขนาดนี้ แฟนน่ะ หาไม่ยากหรอก เดี๋ยวดังนะ รูปใหญ่เบิ้มติดหน้าห้องเสื้อภัทรา ขี้คร้านหัวกะไดบ้านจะไม่แห้ง” เม็ดขนุนพูดขึ้น “ก็ดีนะ จะได้มีโอกาสเลือกกับเขาบ้าง” ยูถกายิ้ม รู้สึกดีขึ้นที่เม็ดขนุนเริ่มพูดต่อปากต่อคำบ้าง ไม่อยากให้เงียบไม่พูดไม่จา ยูถกาเล่าเรื่องการไปลองชุดที่ห้องเสื้อภัทรา พุทธชาดกับรักษานั่งฟังยิ้มๆ เพราะเล่าไปก็ลุกขึ้นหมุนตัวโชว์เหมือนกับอยู่หน้ากระจก พร้อมกับพูดชื่นชมเสื้อผ้าของห้องเสื้อชื่อดังนั้น ประหนึ่งว่า ออกแบบมาได้พอดิบพอดีกับตัวรวมถึงความเรียบง่ายของการออก แบบ เพราะเมื่อสวมใส่แล้ว รู้สึกว่ามีเสน่ห์เพิ่มมากขึ้น เม็ดขนุนยิ้มๆ เมื่อเห็นยูถกาออกท่าออกทางหมุนตัวไปมา รอยยิ้มนั้นทำให้ยูถกายิ้มกว้างมากขึ้น พุทธชาดดีใจ เพราะจากที่เล่าท่าทางยูถกาคงมีความสุขกับงานที่จะได้ทำ ถึงแม้จะพูดว่าไม่ค่อยถนัดนัก แต่จากที่เล่ามาและท่าทางที่ได้เห็นไม่น่าจะยากนักสำหรับการถ่ายภาพนิ่ง เพื่อเป็นแบบให้ กับห้องเสื้อ “ถ่ายเมื่อไหร่” พุทธชาดถาม “รอทางห้องเสื้อนัดมาอีกที” “สู้ๆ นะ ยูว์” รักษาพูดให้กำลังใจ “ตอนนี้เล่าให้ฟังก็สนุกดี พอเอาเข้าจริง ตอนถ่าย ไปยืนเก้ๆ กังๆ อายคนอื่นตายแน่เลย ทีมงานตั้งเยอะ” ยูถกาพูดเสียงอ่อยๆ “อยากซ้อมปะล่ะ เรามีช่างภาพพิเศษให้ยืมตัว” พุทธชาดยิ้มทะเล้นให้ยูถกา รวมไปถึงเม็ดขนุนที่ทำคิ้วขมวดจ้องมองอยู่ด้วย “จริงดิ อยากๆ อย่างน้อยจะได้ไม่อาย เวลาช่างภาพบอกให้โพสท่า แต่ไม่เห็นเคยรู้เลยว่า คุณพุดมีเพื่อนเป็นช่างภาพด้วย” ยูถกา ทำท่าแปลกใจ “เพื่อน ยูว์ ด้วย ใช่เปล่า เม็ดขนุน” ยูถการีบหันไปมองเม็ดขนุนที่ทำหน้าตาแปลกๆ ในทันทีที่ได้ยิน เพราะรู้ดีว่า พุทธชาดกำลัง โยนงานหนักมาให้เสียแล้ว “อย่าบอกนะ ว่า” “ไม่บอกที่คิดน่ะ ถูกต้องแล้ว” พุทธชาดหัวเราะ เพราะทั้งยูถกาและเม็ดขนุนทำหน้าตาแปลกๆ ด้วยกันทั้งคู่ “จริง ภาพสวยๆ ที่ร้าน ก็ฝีมือช่างภาพเม็ดขนุนนี่แหละ โดยเฉพาะรูปอาหารที่หน้าตาแสนดีทั้งหลาย ฟรีด้วยนะ เงินก็ไม่คิด รักยังสงสัยทำงานฟรีตลอด เอาเงินที่ไหนกิน” รักษายิ้ม เมื่อเห็นเม็ดขนุนหันมายิ้มทะเล้นให้ “คุณรัก คงไม่คิดว่า กินหญ้าหรอกนะคะ” เม็ดขนุนหัวเราะ “ถ่ายที่ร้านก็ได้ อุปกรณ์เม็ดขนุนมีพร้อม ประมาณสตูดิโอขนาดย่อมเลยล่ะ” พุทธชาดบอกกับยูถกาที่รู้สึกทึ่งกับคนกวนๆ ที่นั่งทำ เป็นไม่รู้ไม่ชี้ “ฟรีหรือเปล่า ยูว์ยังไม่มีตังค์จ่าย” ยูถกาพูดแหย่เม็ดขนุน “หน้าตาดี ไม่มีตังค์ คืออะไรคะ คุณนางแบบ” เม็ดขนุนเริ่มพูดต่อปากต่อคำมากขึ้น ทำให้ยูถกายิ้มกว้างและรู้สึกสบายใจขึ้น “งก” “เอ้า ไม่ได้กินหญ้านะ ยูววววว” “กินผักบุ้งปะ จะได้ซื้อไปฝาก ไม่แพง” ยูถกาหัวเราะเล็กๆ “เต่าก็ยังดีว๊ะ พอน่ารักอยู่ ว่างเมื่อไหร่ล่ะ” เม็ดขนุนพูดเป็นงานเป็นการขึ้นมาทันที ดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคน พอไม่พูดจากวนโมโห “คุณช่างภาพ ว่างเมื่อไหร่ล่ะคะ” ยูถกาเป็นฝ่ายรบกวน คงต้องเป็นฝ่ายรอวันที่เม็ดขนุนว่างเสียมากกว่า “ว่างทุกวันแหละ ไม่ค่อยมีงานทำ ถึงได้มาขอข้าวคุณรักกินบ่อยๆ” “เอาจริง วันไหน นัดมา” เม็ดขนุนหยิบสมุดบันทึกออกมาจากกระเป๋า ยูถกาชะเง้อมอง ในแต่ละวันมีการเขียนข้อความเอาไว้ค่อนข้างแน่น แต่ไม่เห็น ชัดนักว่า เป็นงานอะไรบ้าง “มะรืน ตอนเย็น ได้หรือเปล่า” เม็ดขนุนถาม “ได้สิคะ คุณช่างภาพ กราบขอบพระคุณล่วงหน้านะคะ ได้สตางค์มาแล้ว จะพาไปเลี้ยงมือใหญ่ๆ” ยูถกาอมยิ้ม “ไม่เอาล่ะ ไม่ชอบสินบน แค่ยูว์ตั้งใจทำงานให้ออกมาดี ก็พอแล้ว” “ได้เลย สัญญา” ยูถกายกนิ้วขึ้นมาสามนิ้ว ทำเหมือนเวลาลูกเสือเนตรนารีสาบานตน พุทธชาดส่ายหน้า กับความกวนของทั้งสองคนที่ห่วงหาอาทรกันเป็นอย่างดี เรื่องก่อนหน้าที่ขุ่นเคืองกันท่าทางจะจางไป “แล้วก็อย่าไปตีกัน จนเสียงานนะคะ คุณช่างภาพและคุณนางแบบ” เมื่อจบคำพูดของพุทธชาด เสียงหัวเราะของทุกคนก็ดังขึ้นพร้อมๆ กัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD