ตอนที่ : 6

1939 Words
อาหารที่ตั้งวางอยู่บนโต๊ะ ทำเอายูถกาแทบจะไม่เชื่อสายตา พุทธชาดยิ้มๆ ไม่รู้สึกแปลกใจอะไร แต่เห็นยูถกาจ้องมองไม่วางตา นึกขำกับท่าทางดูตะลึงกับฝีมือของเม็ดขนุน อาหารไม่ได้จัดแต่งสวยงามประหนึ่งโรงแรมหรู แต่ดูน่าทานอยู่มาก คนที่ตั้งแง่ไม่ค่อยชอบหน้ากัน คงคิดไม่ถึงว่า คนกวนๆ แสบๆ อย่างเม็ดขนุนจะมีฝีมือทำอาหารอยู่บ้างเหมือนกัน “นั่งสิ คุณพุด” เม็ดขนุนเลื่อนเก้าอี้ให้พุทธชาด “เชิญค่ะ คุณยูถกา” เม็ดขนุนอมยิ้ม เมื่อเห็นสายตาที่ตะหวัดเหวี่ยงใส่ ยูถกาไม่ได้พูดคำว่าขอบคุณออกมา แต่พูดคำนั้นอยู่ในใจ “เม็ดขนุน ก็ชอบแหย่” พุทธชาดแกล้งพูดดุ “เอ๊า ก็เพื่อนคุณพุดน่ะ น่าแหย่จะตายไป” เม็ดขนุนยิ้มๆ และนั่งลงข้างๆ ยูถกา พุทธชาดเห็นเข้าเลยแอบอมยิ้ม “นั่งผิดฝั่งไหม อยู่ใกล้ๆ ยูว์กินข้าวไม่ลงพอดี อาหารนี่จะกินได้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย” ยูถกาอมยิ้ม มองสบตากับพุทธชาดที่ขมวดคิ้วทำหน้ายุ่งให้ “รายนี้ คุณรักยังชมเลยนะ ยูว์ บอกว่าถ้าเปิดร้านแข่งท่าจะแย่” “เห็นไหม เจ้าของร้านอาหารยังชมเลยเหอะ ถ้าชอบล่ะก็ มาทุกวันก็ได้นะ” เม็ดขนุนยิ้ม เมื่อได้พูดแหย่ยูถกาที่หันมาถลึงตาใส่ เม็ดขนุนตักยำถั่วพูใส่ในจานของยูถกาที่หันมาสบตานิดหนึ่ง คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามยิ้มๆ กันความน่ารักของเม็ดขนุนที่กำลังดูแลเอาใจใส่แขกคนใหม่ของที่นี่ อันที่จริงเม็ดขนุนเป็นคนที่ชอบดูแลเอาใจใส่คนอื่นอยู่แล้ว ไม่ค่อยจะพูดจากวนๆ นัก โดยเฉพาะกับคนที่เพิ่งรู้จัก ไม่ได้สนิทคุ้นเคยกันกับยูถกานั้น ชอบพูดจากวนโมโห แต่กลับดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ตั้งแต่ช่วยถือตะกร้าตอนเก็บมะเขือเทศที่หลังร้านนั่นแล้ว “เงียบเลย ท่าทางจะโดนด่านะ เรา” เม็ดขนุนรำพึงออกมาเบาๆ “ลำเอียงนะ ตักให้แต่ยูว์ ได้เพื่อนใหม่ ลืมเพื่อนเก่า ว่างั้น” พุทธชาดยิ้ม เมื่อได้พูดแหย่เม็ดขนุนที่รีบตักยำถั่วพูใส่จานให้ทันที “บ้านๆ” ยูถกาอมยิ้ม เอื้อมไปตักไข่เจียวกุ้งสับ ข้าวกล้องร้อนๆ ควันฉุยถูกตักลงในจานของยูถกา ซึ่งหันไปยิ้มน้อยๆ ให้เม็ดขนุนที่ยิ้มกว้างในทันที “อีกทัพพีมะ รู้ว่ากินเยอะ” เม็ดขนุนแลบลิ้นล้อยูถกาที่เงื้อมมือขึ้น “กินข้าว ห้ามทะเลาะกัน หยุดเลย ยูว์” พุทธชาดพูดเสียงเข้ม “ถามจริง รสชาติใช้ไม่ได้เลยหรือ เราจะได้ปรับปรุงฝีมือ ยูว์ชอบแบบไหนล่ะ” เม็ดขนุนถามด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูจริงจัง คนที่ช่วยตักอาหารให้ขยับตัวไปมา เสื้อกล้ามที่ใส่อยู่จึงเลือนลงมาเล็กน้อย ทำให้เห็นรอยสักรูปขนนก ซึ่งดูนุ่มนวลมาก ประหนึ่งว่าที่บริเวณนั้นมีขนนกติดอยู่จริง “ก็ดี ที่ว่า บ้านๆ น่ะ ล้อเล่น ถ้าเปิดร้านอาหาร ยูว์ จะไปอุดหนุนบ่อยๆ เลย” ยูถกายิ้มสวยๆ ให้ แต่ยังคงเหลือบมองไปที่รอยสักของเม็ดขนุน “ไม่ชอบรอยสัก หรือ” เม็ดขนุนถาม เมื่อสังเกตเห็นยูถกามองด้วยสายตาแปลกๆ “อือ” “ทำไมล่ะ” เม็ดขนุนคิ้วขมวด ตั้งใจรอฟังคำตอบ “ก็ไม่ทำไม มันดูเลอะเทอะ ดูเนื้อตัวไม่สะอาด” ยูถกาพูดไปทานอาหารไป ทำทีเป็นไม่ได้สนใจกับรอยสักนั้นอีก “ไม่เห็นจะเลอะเลย สวยดีออก” พุทธชาดบอก “คงไม่ใช่แค่ไม่ชอบ ชำเลืองมองยังกับรังเกียจเลยเหอะ” เม็ดขนุนพูดเหมือนฟ้องพุทธชาด “แหม เหมือนรู้ใจเลยนะ” ยูถกาพูดขึ้น “ถามจริง ไม่ชอบหน้ากันมากเลยหรือไง พูดดีกันได้สักประโยคไหม” พุทธชาดถาม “ปล่อยเถอะ สวยเริ่ด เชิดหยิ่งขนาดนี้ ไม่อยากสนทนากับเรา ก็ไม่แปลกหรอกคุณพุด เราน่ะเสื้อผ้ามอมแมมขนาดนี้ เขายอมร่วมโต๊ะด้วยก็บุญแล้วล่ะ” เม็ดขนุนพูดด้วยน้ำเสียงงอนๆ ทำเอาพุทธชาดแทบจะกลั้นหัวเราะ เอาไว้ไม่ไหว “น้ำเน่ามาก อ่านนิยายเยอะไปหรือเปล่า อะ กินข้าว จะได้เลิกพูดโน่นพูดนี่ อาหารอร่อยมาก พอใจหรือยังคะ ไอ้คุณเม็ดหนุน ขี้บ่น” เม็ดขนุนอมยิ้มมองสบตากับพุทธชาดที่อมยิ้มมองดูยูถกาตักอาหารให้เม็ดขนุน คงเป็นการขอบคุณ เพียงแต่อาจจะกลัวเสียฟอร์ม เลยหาทางอ้อมๆ เป็นการขอบคุณแทน “พ่อแง่ แม่งอนดีแท้” พุทธชาดรำพึงออกมา “ไม่ใช่แล้ว คุณพุด ต้องเรียกว่า คู่กัด เจอยูว์นะ ไม่เคยที่จะทักทาย ดีๆ ทำไมต้องกวนด้วยก็ไม่รู้” ยูถกาหันไปทำหน้าบึ้งใส่เม็ดขนุน “พูดไม่ค่อยเก่ง แต่รักหมดใจ” เม็ดขนุนหัวเราะออกมา เมื่อเห็นยูถกาทำท่าถือส้อมจะแทงเข้าที่แขน “ใช่ พูดไม่ค่อยเก่ง แต่เชื่อว่า รักจริง” พุทธชาดยิ้ม “วันหลังไปกินร้านคุณรักดีกว่า กินข้าวที่นี่ คุณพุดเลยเป็นพวกเจ้า ของบ้าน ยูว์เลยหัวเดียวกระเทียมลีบเลย” ยูถกาบ่นพึมพำ เม็ดขนุนไม่ได้พูดแหย่อะไร เริ่มพูดคุยกับพุทธชาดเรื่องงาน และเรื่องอื่นๆ หลังจากไม่ได้เจอกันมานานพอสมควร แต่ยังคงดูแลเอาใจใส่คนที่นั่งอยู่ข้างๆ อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ยูถกาหันมายิ้มให้บ้าง หลังจากไม่มีการต่อปากต่อคำกัน อาหารอร่อยทุกอย่าง ในใจนึกชื่นชมในความสามารถอยู่เหมือนกัน เม็ดขนุนทำได้ดีในหลายๆ อย่าง รวมถึงความมีน้ำใจให้กับผู้ที่ด้อยโอกาสกว่าตัวเอง อย่างนายเด่นคุณพนักงาน ซึ่งเม็ดขนุนได้ช่วยดูแลจนกระทั่งเรียนจบมหาวิทยาลัยยังรวมถึงเด็กๆ ที่ท้องสนามหลวงครั้งที่ได้เจอกันครั้งแรกนั่นอีก เวลาพูดคุยเป็นงานเป็นการเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยก็ว่าได้ “ยูว์ ช่วยเก็บล้าง ก็แล้วกันนะ” ยูถกาขันอาสา เม็ดขนุนยิ้มๆ หันมามองทำหน้าไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน “ล้างจานเป็นด้วย” เม็ดขนุนพูดขึ้น “จะให้ล้าง หรือจะให้ทำแตกล่ะ เรื่องเขวี้ยงถนัดนะ” ยูถกายิ้ม “ล้างดีกว่าค่ะ นะ เดี๋ยวคราวหน้าไม่มีจานชาม อดกินข้าวนะ เออ” “ดูสิ ยูว์พูดด้วยดีๆ นะ เนี่ย” ยูถกาฟ้องพุทธชาด “พุด ต้องอยู่ข้างไหนล่ะ เสียดายนะ คุณรักน่าจะมาด้วย จะได้อยู่กันคนละข้าง แบ่งกัน” พุทธชาดหัวเราะ เมื่อเห็นยูถกาทำหน้ามุ่ย “เราเก็บล้างเองได้ มือยูว์จะได้ไม่เลอะเทอะ” เม็ดขนุนบอก และรีบลุกนำจานไปเก็บ พุทธชาดยิ้มให้ยูถกาที่หยิบจานเดินตามเม็ดขนุนไป พุทธชาดยิ้ม มองตามสองสาวที่คงจะช่วยกันเก็บล้างไป ทะเลาะกันไป รู้สึกว่า ถ้านั่งอยู่จะเกะกะอย่างไรชอบกล จึงคิดว่า ลงมานั่งที่ร้านบริเวณด้านล่างน่าจะดีกว่า ปล่อยให้สองคู่ปรับลับฝีปากกันไปตามลำพัง เม็ดขนุนแกล้งยืนบังยูถกา ไม่ให้เข้ามาช่วย รับจานที่ยูถกาส่งให้แล้วยืนบังอ่างล้างจานเอาไว้ ยูถกายืนยิ้มมองดูอยู่ด้านหลัง อันที่จริงถ้าตัดความกวนๆ เม็ดขนุนดูน่ารักอยู่เหมือนกัน สำหรับการดูแลเอาใจใส่ ไม่แปลกใจที่พุทธชาดเคยพูดให้ฟังว่า มีทั้งหนุ่มทั้งสาวล้อมหน้าล้อมหลัง เคยเห็นแค่เพียงสาวๆ เมื่อครั้งแรกที่เจอกันมองอย่างกับว่าอยากจะกินผู้หญิงคนนี้เสียเหลือเกิน ยูถกาส่ายหน้า แตะไปที่ไหล่ของคนที่ยืนหันหลังให้อยู่ “ให้ยูว์ ช่วยดีกว่า” ยูถกาบอกคนที่หันกลับมายืนยิ้มแป้นอยู่ตรงหน้า “ใจดีจัง ขอบคุณค่ะ” เม็ดขนุนยิ้มให้ “พูดดีๆ ก็เป็น ทำไมชอบกวน” “ไม่รู้เหมือนกัน ว่าทำไมถึงอยากกวน” เม็ดขนุนตอบ “ชมอยู่แป๊บๆ กวนอีกแล้วนะ” ยูถกาส่ายหน้า “ถามอะไรหน่อย ได้ไหม” เม็ดขนุนพูดขึ้น “ได้ แต่จะตอบหรือเปล่า ยังไม่รับปาก” ยูถกาบอก ทำท่าจะเดินเข้าไปที่อ่างล้างจาน แต่เม็ดขนุนขยับตัวบังเอาไว้ “เกลียดรอยสัก จริงๆ หรือ” เม็ดขนุนถามเสียงอ่อยๆ “อือ ก็มันเลอะเทอะ” พูดยังไม่ทันขาดคำ เม็ดขนุนดึงยูถกาไปกอดเอาไว้ คนถูกกอดอยู่รู้สึกตกใจ แต่เมื่อเห็นใบหน้าแนบอยู่ใกล้กับรอยสักรูปขนนก ยูถกาพยายามที่จะขยับออก แต่สู้แรงของคนที่กอดอยู่ไม่ไหว “เขาว่ากันว่า หนามหยอกให้เอาหนามบ่ง อยู่ใกล้ๆ รอยสัก จะได้หายเกลียด ว่าไหม” เม็ดขนุนพูดขึ้น “ปล่อยได้แล้ว” ยูถกาแอบยิ้มกับคำพูดที่ได้ยิน “ไม่ปล่อย ดีขึ้นหรือยัง ไม่อยากให้เกลียดรอยสักนะ” เม็ดขนุนบอก “ไอ้บ้าเม็ดหนุน ใครจะหายได้ชั่วพริบตา ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ” ยูถกาหยิกเข้าที่เอวของคนที่เอี้ยวตัวเพียงเล็กน้อย แต่ยิ่งกระชับอ้อม กอดให้แน่นขึ้นอีก ยูถกาเริ่มรู้สึกว่า เรี่ยวแรงที่จะต้านทานอ้อมกอดนั้นน้อยลง ไม่รู้เพราะสู้แรงไม่ไหว หรือว่าหัวใจเริ่มรู้สึกดีกับอ้อมกอดที่ ทำให้รู้สึกอบอุ่น ใบหน้าที่เริ่มเบียดชิดไปที่หน้าอกของเม็ดขนุนนั้น ไม่รู้ด้วยเพราะสาเหตุใด แต่หัวใจรู้สึกว่า ไม่อยากให้คนที่กอดอยู่ คลายอ้อมกอดออกเร็วนัก ทั้งที่ปากนั้นพูดผลักไสอยู่หลายครั้ง เม็ดขนุนยิ้ม เมื่อรู้สึกว่า คนที่ถูกกอดอยู่นั้นเริ่มเบียดตัวเข้าหา แม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม “บอกเราอีกครั้งสิ ว่าอยากให้ปล่อย เราจะไม่กอดยูว์อีกเลย” ไม่มีเสียงพูดใดๆ ออกจากปากของยูถกา ไม่รู้ว่า อยากจะพูดอะไรออกไปหรือไม่ แต่ความรู้สึกอบอุ่นนั้น ทำให้ลืมที่จะต่อล้อต่อเถียงเอาชนะ หรือกลัวว่า คนที่พูดอยู่จะทำอย่างที่พูดจริงๆ “หายแล้ว แค่ไม่ชอบ ไม่ได้เกลียดสักหน่อย” ยูถกาบ่นพึมพำ ค่อยๆ ขยับตัวออกจากอ้อมกอดของเม็ดขนุน “สักวัน อาจจะชอบก็ได้ งั้นสิ” เม็ดขนุนยื่นหน้าไปมองสบตากับยูถกาที่ขยับไปเปิดก๊อกน้ำเริ่มล้างจาน ก้มหน้าเล็กน้อยไม่กล้าสบตากับเม็ดขนุน “ถามโน่น ถามนี่ ช่วยล้างจานได้แล้ว จะได้เสร็จๆ” ยูถกาบอก “ไม่ปฏิเสธ ขอบคุณนะ เอาไว้จะพาไปกินของอร่อยอีก ถ้าอยากไป” เม็ดขนุนพูดขึ้นลอยๆ รับจานที่ล้างเสร็จแล้วมาเช็ดให้แห้ง “อยากไปสอนหนังสือเด็กมากกว่า ได้ไหม” ยูถกาหันไปถามคนที่ยืนยิ้มกว้างอยู่ข้างๆ “ได้ แต่ขอชุดแบบวันนี้นะ แบบวันนั้นน่ะ ไม่โอเค” สองสาวยิ้มให้กัน ยูถกาหัวเราะเล็กๆ รอยยิ้มสดใสบนใบหน้าของเม็ดขนุน ทำ ให้ยูถการีบหับกลับไปตั้งใจล้างจานอีกครั้ง “เขาเป็นผู้หญิง ท่องเอาไว้ยูถกา” ยูถกาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ หลัง จากพูดเตือนตัวเองอยู่ในใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD