ตอนที่ 13
ศุภกรณ์กลับมาพร้อมป๊อปคอนในมือและน้ำดื่มอีกสองขวด เขาเห็นบัวแก้วกำลังยืนคุยกับนาวินจึงอยู่นานสองนานจึงแอบหึงเล็กน้อย ก่อนที่จะรีบเดินเขาไปหาทั้งคู่ เพราะยังไม่รู้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ว่าอยู่ในฐานะอะไร จนหลังจากที่ดูภาพยนตร์กันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ระหว่างนั่งรถกลับบ้าน บัวแก้วจึงเล่าทุกอย่างให้ฟังศุภกรณ์ฟัง
บิดาของนาวินเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทคุณอนันต์บิดาของบัวแก้ว และเร็ว ๆ นี้นาวินก็บอกว่าเขากำลังจะชวนให้พิมพ์นารินไปทำงานที่บริษัทด้วยกัน ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ศุภกรณ์ก็ต้องมีโอกาสได้เจอกับพิมพ์นารินอีกอย่างแน่นอน
นาวินพาพิมพ์นารินเข้าบ้านครั้งแรกในฐานะคนรัก ตอนนี้คงไม่มีใครมีความสุขมากไปกว่าผู้ชายที่ชื่อนาวินอีกแล้ว เพราะเขามีพร้อมทุกอย่างที่เคยวาดฝันไว้ ไม่ว่าจะบ้าน รถ เงินทอง และที่สำคัญพิมพ์นารินหญิงสาวผู้เป็นดั่งนางฟ้าของเขา
ภาพความเห่อสาวคนรักของลูกชายอยู่ในสายตาของผู้เป็นมารดามาโดยตลอดสองสามเดือนที่ผ่านมา นาวินเอาอกเอาใจพิมพ์นารินจนออกนอกหน้า และพิมพ์นารินก็ไม่ใช่ผู้หญิงคนแรกที่นาวินเคยพามาที่เป็นบ้านของเขา ทำให้ผู้เป็นมารดาไม่ค่อยจะเชื่อใจลูกชายเท่าไหร่
“คุณคิดว่าลูกเราจะไปกับแม่พิมพ์นาราอะไรนั่นได้สักกี่น้ำค่ะ" ภรรยาเอ่ยถามสามีระหว่างที่นั่งรับประทานอาหารด้วยกันสองคน
“จะเรียกแฟนลูกทั้งที่ก็เรียกให้มันถูก ๆ หน่อยสิคุณ เธอชื่อพิมพ์นารินต่างหาก” คุณคมสันบิดาของนาวินตำนิคุณประภารัตน์ ภรรยาของตัวเองที่แอบนินทาว่าที่ลูกสะใภ้ แถมยังเรียกชื่อเธอผิด ๆ ถูก ๆ
“ก็นั่นแหละคร้า!!!” เธอหันมาค้อนสามี ที่ดูยินดีปรีดาไปกับลูกชายตัวเอง
“ผมดูก็รู้ว่า...เจ้าวินมันรักผู้หญิงคนนี้อยู่นะคุณ ปล่อยให้ลูกเลือกและตัดสินใจเองเถอะ” คุณคมสันรีบบอกภรรยา
“จะไปได้สักกี่วันกันเชี้ยว!!...เจ้าวินเอ๊ย” คุณประภารัตน์พูดขึ้น
“คุณนี่!!..ก็อคติไม่เข้าเรื่อง ผมดูแล้วหนูพิมพ์เป็นเด็กขยันแล้วก็ตั้งใจทำงานนะคุณ” คุณคมสันรีบบอกภรรยา
"ขอให้มันจริงเธอค่ะ อย่าดีแตกก็แล้วกัน"
คุณประภารัตน์นึกขำที่คุณคมสันอุตส่าห์รับพิมพ์นารินเข้าทำงาน และเตือนว่าให้ภรรยาเลิกหาผู้หญิงให้ลูกชายได้แล้ว เพราะคมสันดูออกว่าลูกชายจริงจังกับพิมพ์นารินแค่ไหน