แก๊งนูน่าและผัวทิพย์ของแก๊ง

1925 Words
ปานมาศเลิกงานช้ากว่าปกติเพราะว่าติดดูตัวเลขในบัญชีจัดซื้อต้นไม้ล็อตใหม่ของโรงแรมเพลินไปหน่อย ปกติเธอจะตรงกลับที่พักทันที แต่ว่าวันนี้มีนัดกับเพื่อนในกลุ่มเลยไม่รีบกลับ เมื่อใกล้ถึงเวลานัดเธอก็ออกมาที่ลานจอดรถเพื่อพาเจ้า ‘โก๋แก่’ รถโฟล์กรุ่นเดอะที่ยังใช้การได้ดีออกเดินทางไปหาเพื่อน แต่ชะรอย วันนี้เจ้าเต่าของเธอจะงอแง... “โก๋แก่ จะพังไม่ได้นะ เดือนนี้ค่าใช้จ่ายเยอะแล้ว” ปานมาศสวดมนต์ขอพรหนึ่งจบก่อนจะลองสตาร์ตอีกรอบ แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับจากโก๋แก่ หญิงสาวถอนหายใจเพราะชินกับเหตุการณ์นี้แล้ว เธอมันไม่ใช่ลูกรักของพระเจ้ามาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่นา ก๊อกๆ เสียงเคาะกระจกทำให้ปานมาศสะดุ้ง เธอหันไปมองแล้วก็เบิกตากว้างขึ้น ผะ... เอ๊ย คุณนาวิน “รถสตาร์ตไม่ติดเหรอ” เขาถามหลังจากที่เธอลดกระจกลง แม่เจ้า... ปานมาศได้กลิ่นน้ำหอมของเขา เธออยากเป็นลมก่อน “อาการไม่ดีเลยค่ะ” เธอเนี่ยแหละ ไม่ใช่รถ “มีนัดกับวีน่าที่ห้าง C ใช่ไหม” “ใช่ค่ะ คุณนาวินไปด้วยเหรอคะ” เธอเรียกเขาด้วยสรรพนามที่ใช้ในที่ทำงาน แม้จะรู้จักกับเขาตั้งแต่สมัยเรียนเพราะวีน่าแนะนำ แต่นาวินไม่ค่อยไปไหนมาไหนกับพวกเธอ ถ้าจะได้เจอก็ตอนที่เขามารับส่งวีน่า คราวนี้เธอเลยแปลกใจว่าทำไมเขารู้ว่าเธอนัดเจอเพื่อน “วีน่าให้ไปรับตอนสามทุ่ม แต่ผมมีธุระที่นั่นเลยจะออกไปตอนนี้ คุณจะติดรถผมไปไหม” “ได้หรือคะ” คงต้องส่งโก๋แก่เข้าอู่ ระหว่างนี้ก็ใช้แท็กซี่ไปก่อนสินะ ว่าแต่เขาให้เธอนั่งรถได้หรือ เบนท์ลีย์คันนั้นหรูสะบัด รุ่นเดียวกับที่ควีนอลิซาเบธซื้อเชียวนะ “ทำไมจะไม่ได้” “นั่นสิคะ” เธอหัวเราะเบาๆ ในฐานะเพื่อนร่วมงาน หรือในฐานะเพื่อนพี่สาวเขา ก็ไม่แปลกที่นาวินจะเอื้อเฟื้อเธอ “ตกลงว่าจะไปด้วยกันไหมครับ” นาวินย่นคิ้ว ปานมาศหลุดจากจินตนาการมามองคนที่จ้องเธอด้วยสีหน้าเฉยเมย “ไปค่ะไป” สุดท้ายเธอก็ได้มานั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถนาวิน แอร์เย็นฉ่ำทำให้เธอเริ่มตาปรือ เมื่อวานงมกับตัวเลขในบัญชีโฮสเทลเล็ก ๆ ที่เธอรับดูแลนอกเวลาจนพักผ่อนไม่พอ กลิ่นในรถก็หอมผ่อนคลายเหลือเกิน ปานมาศหลับไปในที่สุด ผ่านไปนานแค่ไหนก็ไม่รู้ เสียงเรียกเบาๆ ปลุกให้เธอตื่น ปานมาศกะพริบตา ใบหน้านาวินอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก “รถติด ถึงช้าหน่อยนะครับ” เธอมองนาฬิกา เขาใช้เวลานานกว่าปกติไปพอสมควร “ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมากเลยนะคะที่ให้ติดรถมา งั้นแยกย้ายกันตรงนี้เลยเนอะ” เธอบอกแล้วยิ้มให้ชายหนุ่ม เขาพยักหน้ารับนิ่งๆ อีกเช่นเคย ปานมาศเดินออกมาจากบริเวณลานจอดรถลูกค้าวีไอพีที่มียอดจ่ายตามเกณฑ์ที่ทางห้างกำหนดแล้วจะสามารถจอดรถบริเวณนี้ได้ แต่ต่อให้ไปห้างอื่นเขาก็ใช้สิทธิ์จอดรถซูเปอร์คาร์ได้อยู่ดี ชีวิตแบบเหนือชั้น ที่นาวินสร้างขึ้นมาด้วยสองมือของเขา ปานมาศจำได้ว่าตอนที่ยังเป็นนักศึกษา เธอกับสองพี่น้องฝาแฝดเริ่มมาแทบจะพร้อมกัน แต่พวกเขาไปได้ไกลกว่าเธอยิ่งนัก ปานมาศชื่นชม แต่ไม่อิจฉาเพราะเธอเองก็จะพยายามไปให้ถึงจุดนั้นด้วยสองมือของเธอเช่นกัน ปานมาศเดินเรื่อยเปื่อยเพราะเหลือเวลาอีกพอสมควรจะถึงเวลานัด เมื่อเดินผ่านโซนเสื้อผ้าเธอก็เห็นว่านาวินมาเดินกับสาวสวยที่เห็นเพียงด้านหลังก็รู้ว่านั่นไม่ใช่พี่สาวของเขา โธ่ ไอ้ที่จะโม้ว่าได้นั่งรถมากับผัวทิพย์ให้เพื่อนอิจฉาเล่น เห็นทีต้องเก็บเงียบ เพราะสุดท้ายเพื่อนก็ไม่อิจฉาอยู่ดีเพราะรู้ว่ายังไงเธอก็ไม่ได้อยู่ในสายตานาวินอยู่แล้ว ห้างสรรพสินค้า C ปานมาศเข้าร้านมาสั่งอาหารและจองโต๊ะก่อน เพราะออฟฟิศแต่ละคนอยู่ไม่ไกลกัน บางคนก็เรียนที่มหาวิทยาลัยในย่านนี้ เพื่อนของเธอจึงตรงต่อเวลากันมาก เพียงไม่นานแก๊งนูน่าก็ครบทีม ชื่อแก๊งนี้มาจากภาษาเกาหลีแปลว่าพี่สาว พวกเธอสนิทกันตั้งแต่เข้าเรียนปีหนึ่ง ชื่อแก๊งนี้แบงก์เป็นคนตั้งหลังจากที่รู้จักนาวิน เพื่อนในกลุ่มปานมาศมีกันอยู่ห้าคนนิสัยแตกต่างกันแต่ก็รวมกันอย่างลงตัว แบงก์ นักบัญชีหนุ่มหัวใจสาวผู้สถาปนาตัวเองเป็นหัวหน้าแก๊งเสร็จสรรพตั้งแต่รวมกลุ่มกัน วีน่า สาวหน้าเฉี่ยวแต่เด๋อจนเพื่อนงง เพราะมีน้องชายหล่อ วีน่าจึงถูกเรียกว่าเจ๊ไว้ก่อนเผื่อมีโอกาสได้เป็นน้องสะใภ้ รินะ ลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น หญิงสาวผู้มีความน่ารักเหมือนตุ๊กตา (ยาง) ขาวสวยหมวยอึ๋มแต่อยู่กับแบงก์มากไปจนไม่มีใครกล้าจีบเพราะเขาคิดว่าแบงก์เป็นแฟนเจ้าตัว รินะจึงโสดยาวมาจนวันนี้ มิ้ง มนัสวีร์ คนที่หลากหลายอารมณ์จนหานิยามไม่ได้ เป็นคนที่ไม่มีคำจำกัดความกำกับเพราะนางไม่เคยอยู่กับร่องกับรอย เปลี่ยนบุคลิกไปได้ตลอดตามสถานการณ์ ปานมาศผู้ซึ่งเป็นสาวมั่นและเป็นผู้ครอบครองการตัดสินใจให้ความเฉียบขาดแก่กลุ่มเพื่อน เรียกได้ว่ารักษาการรองหัวหน้าแก๊งก็ว่าได้ พอมารวมแก๊งครบ พวกเธอก็เมาท์กันเหมือนตลาดแตก แม้อาหารมาเสิร์ฟพวกเธอก็ไม่มีใครหยุดพูด “อีปาน หน้าหงิกเชียว มีเรื่องอะไรคะช่วงนี้” คำถามจากแบงก์ทำให้คนที่อยู่บนโต๊ะอาหารคีบปลาแซลมอนและตักแกงกะหรี่หมูทอดเข้าปากโดยไม่ชะงัก เพราะชินแล้ว “เยอะจนไม่รู้จะพูดอะไร” ปานมาศตอบแบงก์ “เอ่อ ไปร้านเหล้ากันไหม” รินะผู้ใสซื่อหันมาทางปานมาศ “ยังไงนะ” วีน่าตามไม่ทัน ทำไมต้องร้านเหล้า “รินะจะใช้มุกร้านเหล้า จะได้ ‘เล่า’ ไงเจ๊” มิ้งแปลให้ “...” วีน่าเงียบไปหลายวินาที “ยังไม่เข้าใจเหรอ” “เข้าใจแล้ว แต่นิ่งไว้อาลัยให้มุกของรินะน่ะ แป้กมาก” สิ่งที่วีน่าตอบหน้าตายทำให้เพื่อนขำก๊าก “โอ๊ยอีเจ๊ พักขำก่อน มาเรื่องปานใหม่ซิ” “จะเล่าในร้านเหล้า” ​ปานมาศตอบ “โอ๊ย ติดตลกแบบนี้แปลว่าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย ไม่ถงไม่ถามมันละ” แบงก์บ่นอุบ “ล้อเล่น ฉันแค่เซ็งๆ ที่พ่อของบอสส่งเด็กเส้นเข้ามาทำงานในแผนก ตอนนี้ใบสมัครฉันก็ยังไม่เห็นเลย คิดแล้วก็กลุ้ม” “โถ ยัยหัวหน้า มันเป็นเรื่องปกติแหละ อย่าไปซีเรียสเลย พ่อคุณปาร์คไม่ยัดคนมั่วๆ เข้ามาทำงานหรอกน่า อย่างน้อยท่านต้องคิดดีแล้ว แผนกบัญชีเลยนะแก” วีน่าตบไหล่ปานมาศ “เออ ก็จริงของอีเจ๊มันนะ ถ้าคนดูคนเป็นพวกเด็กเส้นที่ดูไม่เอาถ่าน เขาไม่ค่อยดึงเข้าแผนกบัญชีการเงินหรอก แต่ถึงยังไงแกก็ต้องคอยจับตาอยู่แล้ว ใจเย็นก่อน” มนัสวีร์คีบแซลมอนซาชิมิให้ปานมาศหนึ่งชิ้นเพื่อให้ความอิ่มเอาชนะความโกรธ และมันใช้ได้ผลตลอด “ก็เพราะต้องคอยจับตานี่แหละ ฉันเลยเหนื่อยล่วงหน้าไปก่อน” “แกก็จับตาดูคนอื่นบ้างเหอะ อย่าให้รู้ว่าวันๆ เอาแต่จับตาดูนาวินของฉัน” แบงก์ทำหน้าดุใส่เพื่อน ปานมาศโดนเขม่นทุกครั้งที่พูดเรื่องทำงานเพราะเพื่อนในแก๊งมักจะอิจฉาที่เธอได้ทำงานที่เดียวกับนาวิน “เออ” สาวๆ พยักหน้าอย่างเห็นด้วยแทบจะพร้อมกัน “ก็ฉันจับตาเผื่อพวกแกไง” ปานมาศว่ายิ้มๆ “วันนี้น้องอีเจ๊หล่อมาก แต่เดินผ่านฉันแล้วฮีค้อมหัวให้อีกแล้ว รู้สึกเหมือนจะลมใส่ ฉันทำงานจนตีนกาขึ้นเยอะเหรอวะ ฮีถึงเคารพนัก” ปานมาศเล่าติดตลก “เออ หาเงินเหมือนติดหนี้นอกระบบ ทำงานไม่พักแบบนี้ อีกหน่อยฉันว่านาวินน่าจะไหว้ปานเพราะเผลอนึกว่าเป็นรุ่นแม่นะ” “ว้าย รินะ แรง” ปานมาศทำหน้างอใส่รินะ “แต่มันก็จริง แต่จะว่าไปน้องอีเจ๊ต้องเป็นเกย์แน่ๆ เพราะไม่อย่างนั้นไม่โสดให้เรามโนว่าเป็นผัวทิพย์มาหลายปีแบบนี้หรอก” “มันชอบผู้หญิงนะ แต่ไม่เคยเห็นมีแฟน อยู่ที่ทำงานไม่เหล่สาวบ้างเหรอ” พี่สาวของนาวินกินสลัดอโวคาโดไปพึมพำไป “ไม่มีเลย ถ้าน้องเจ๊เป็นชายแท้ ป่านนี้สนใจปานแล้วล่ะ” เธอไม่ได้พูดเรื่องที่เห็นน้องชายวีน่ากับสาวให้เพื่อนๆ ฟัง เพราะจะขาดอรรถรสในการจิ้นว่าเขาเป็นผัวทิพย์ไป... “โอ๊ย อีปาน อีบ้า แกจะหาว่าทุกคนที่ไม่เอาแกเป็นเกย์ไม่ได้” แบงก์เป็นคนด่า แต่สายตาเพื่อนทุกคนก็แสดงออกชัดว่าเห็นด้วย “ก็ไม่รู้สินะ สวยเซ็กซี่ขนาดนี้ไม่เห็นสนใจปาน ปานก็คิดแหละ” “น้องฉันชอบสายเซ็กซี่นะ เวลาเจอคนแซ่บๆ สายตาจะหยุดจ้องนานเป็นพิเศษ แต่ช่วงนี้แกน่าจะทำงานเยอะไม่ได้เปิดเผยอีกมุม ว่างๆ แกมาเจอฉันแบบสวยเซ็กซี่สิ รับรองเข้าตาน้องฉัน” วีน่าบอกปานมาศ “โน เดี๋ยวหน้าแตก” เธอว่าไปอย่างนั้นทั้งที่รู้ว่าหนึ่งเขาคงไม่เอาเธอ เลยต้องเบรกคนที่ริอ่านจะทำตัวเป็นคิวปิด “ทำเป็นพูดเก่ง พอเอาจริงกลัว” วีน่าว่าเพื่อน “อีเจ๊ทำไมลำเอียงวะ จีบให้แต่ปานได้ไง โสด โสด โสดอยู่ทางนี้ล่ะคะ” แบงก์โวยวายอีกรอบ “ฉันถามปานเพราะรู้ว่ามันจะปฏิเสธไง ส่วนพวกแก ไม่ถามก็ขอให้จีบให้อยู่แล้ว” “อ๋อ แสดงว่าใจจริงก็จะไม่ยอมเป็นแม่สื่อให้ว่างั้น” มนัสวีร์วางตะเกียบเพราะเริ่มโมโหอีเจ๊ของแก๊ง “เออ ไม่ยอม หวงน้องชาย” พอวีน่าบอก เพื่อนๆ เลยพากันโวยวายใส่ แต่หญิงสาวก็ไม่ได้นำพา เพราะพูดเล่นกันอย่างนี้มาตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว พี่ผัวทิพย์ของกลุ่มรู้ดีว่าเจ้าพวกนี้กรี๊ดน้องชายเธอไปเท่านั้นเอง พอเอาเข้าจริงเจอนาวินก็ไม่เห็นมีใครแสดงตัวชัดเจนสักคน น้องของเธอคงเหมาะจะเป็นผัวทิพย์มากกว่าผัวจริงๆ ไอ้หมอนั่นคงไม่คิดอะไรกับเพื่อนเธอไม่อย่างนั้นคงบอกให้ช่วยจีบให้ไปนานแล้ว พวกนางๆ ในกลุ่มก็เป็นน้องสะใภ้ทิพย์ของเจ๊วีน่าต่อไป หญิงสาวคิดโดยไม่รู้เลยว่าความเปลี่ยนแปลงกำลังคืบคลานเข้ามา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD