บทนำ
"น้ำค้าง! ทอนตังค์ให้ลูกค้าสิ มัวแต่มองดูอะไรอยู่ได้"
เสียงเรียกที่ดังขึ้น ทำให้เจ้าของไหล่บางในชุดกันหนาวตัวหนาสะดุ้งไหวขึ้น ดวงตาคู่งามนั้นละสายตาจากภาพของใครบางที่นอนทอดตัวบนม้านั่งตัวยาวในศาลารอรถประจำทางที่อยู่อีกฝั่งตรงกันข้ามของถนน
นานสักระยะ ที่เธอมองร่างของใครบางคนที่นอนตรงนั้น พร้อมกับคิดในใจไปด้วยว่า 'เขาจะหนาวมั้ย' และ 'เขาเป็นใคร มาจากไหน ทำไมต้องมานอนเร่ร่อนอยู่ในศาลาริมทางในเช้าที่อากาศเย็นยะเยือกเช่นนี้'
หญิงวัย16 กลับมาสนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าต่อ แล้วหยิบเศษเหรียญที่อยู่ในกระป๋องนมเก่า ๆ มายื่นให้กับมืออวบอูมที่รอรับเงินทอนอยู่ตรงหน้า ไม่ลืมจะกล่าวขอบคุณเขาไปอีก "ขอบคุณค่ะ"
เวลานั้น...เธอสังเกตเห็นเงาของร่างสูงที่นอนในศาลานั้นเริ่มเคลื่อนไหว เขาผุดลุกขึ้นเหมือนกับเก็บของบางอย่างรอบตัวใส่ถุงใบใหญ่ใกล้ ๆ พอเสร็จก็ก้าวลงจากศาลาริมทางหลังนั้น
หญิงสาวจึงได้เห็นลักษณะของเขาอย่างถนัดตาขึ้น เขาเป็นคนรูปร่างสันทัด ผมยาวรุงรังปกคลุมตามใบหน้า มีหนวดเคราเขียวครึ้มเหมือนไม่ได้รับการโกนมาสักระยะหนึ่ง ใบหน้าราบเรียบ...เสื้อผ้าที่ใส่แม้จะหนาพอกันความหนาวเย็นของฤดูหนาวของทางเหนือ แต่ก็เก่าและขาดรุงรัง
ขายาว ๆ สองข้างกำลังเดินข้ามถนนมาทางฝั่งที่เธอกำลังตั้งแผงขายกับข้าวอยู่ เวลานี้...เหมือนจะได้ยินเสียงคนรอบ ๆ บริเวณกระซิบกระซาบ และบอกต่อ ๆ กันว่า
"คนบ้าหรือเปล่านั่นน่ะ ระวังนะเธอ"
หญิงสาวจึงละสายตาจากเจ้าของเสียงพูดคุยเหล่านั้น มองร่างสูงที่กำลังจะหอบถุงบางอย่างผ่านแผงขายกับข้าวเธอไป ท่ามกลางอาการแตกตื่นของคนโดยรอบ
ยิ่งร่างสูงก้าวมาใกล้ เธอเหมือนจะเห็นใบหน้านั้นชัดเจนขึ้น แต่ก็เปล่าประโยชน์ เพราะผมเผ้าที่รุงรังปกคลุม บวกกับหนวดเคราอีก เธอเกือบจะถอยหนีออกไป ด้วยความเกรง ๆ ว่าเขาจะเป็นคนสติไม่ดีจริง แต่ทว่า แววตาคู่นั้นบนใบหน้าเรียบ ๆ กลับทอประกายความเศร้า ประหม่า และไม่ได้ดูลอยคว้างเหมือนคนไม่มีความรู้สึกใด ๆ ใช่! เป็นแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึก และเป็นแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ท้อแท้ สิ้นหวัง ผสมกับความประหม่าต่อการพูดคุยของหลายคนที่มองเขาอยู่อย่างชัดเจนทีเดียว!
ความรู้สึกสงสาร เมตตา ก่อเกิดขึ้นมาในใจหญิงสาวอย่างฉับพลัน เธอไม่รู้หรอกว่าได้ทำอะไรลงไป กว่าจะรู้ตัวเธอก็หยิบข้าวและกับข้าวใส่ถุงสองสามอย่าง พร้อมกับหยิบเงินที่อยู่กระป๋องตรงหน้าติดมือ วิ่งตามหลังร่างสูงนั้นไปอย่างรวดเร็ว
"น้ำค้าง! ทำอะไรนั่นน่ะ กลับมาเดี๋ยวนี้" เสียงตะโกนจากใครคนหนึ่งดังตามหลัง
แต่เจ้าของชื่อนั้นก็หาสนใจสักนิด เธอวิ่งมาหยุดตรงหน้าร่างสูงนี้ เหมือนเขาจะผงะ ตกใจไปเหมือนกัน แต่หญิงสาวรีบฉีกยิ้มสดใส พลางยื่นถุงใส่ข้าวและกับข้าวให้
"เอาไว้กินนะ"
เหมือนร่างสูงตรงหน้ายังไม่หายตกใจ เธอจึงเร่งอีก "เร็ว ๆ สิรับไป"
มือหนาข้างที่ไม่ได้ถือถุงสัมภาระเก่า ๆ ยื่นมารับของจากมือเรียวเธอด้วยความคาดไม่ถึง ก่อนจะได้ยินน้ำเสียงเธอดังอีกว่า
"นี่ค่ะเงิน ถ้ามีโอกาสก็เอาไว้ใช้เดินทาง กลับไปหาญาติของคุณนะ เพราะน้ำค้างรู้ว่าคุณไม่ได้เป็นคนบ้า..."
มือหนายื่นมารับจำนวนเงินไม่กี่ร้อยตรงหน้าอย่างงง ๆ เป็นหนสอง ก่อนที่ทั้งเขาและเธอจะตกใจกับเสียงเรียกชื่อดัง ๆ เป็นหนสองว่า
"น้ำค้าง! กลับมานี่เดี๋ยวนี้!!"
หญิงสาวเงยหน้าสบสายตาคู่ที่เริ่มมีกระแสแห่งชีวิตชีวาอีกครั้ง โดยไม่คาดคิดว่า ภาพใบหน้าของเธอยามนี้ ได้ถูกสลักลึกลงไปในหัวใจของใครคนหนึ่งตลอดกาล...แล้ว
แล้วเธอก็รีบวิ่งกลับไปยังที่ที่เธอตั้งโต๊ะขายกับข้าว เขาเห็นภาพธอกำลังถูกร่างท้วมของหญิงคนหนึ่งที่เท้าสะเอวรออยู่แล้ว กำลังใช้มือหยิกไปตามเนื้อตัวของเธอคนนั้น
เขาก้มมองสิ่งที่เธอมอบให้ในมือ สลับกับมองเธอคนนั้นที่โดนต่อว่าหยิกตีตรงนั้นอีกครั้ง ..ก่อนจะตัดใจก้าวเดินไปตามถนนที่ทอดยาวไปเบื้องหน้า อันมีสายหมอกโปรยลงจากท้องฟ้าอย่าประปราย...