ต้าเซียนนั่งเงียบๆ รถที่เข้าจอดแล้วในช่องจอดประจำที่อาคารใต้ดินของแมนชั่น แต่เขายังไม่ดับเครื่องยนตร์ ดวงตาอ่อนโยนมองใบหน้าน้องสาวที่ยังหลับอยู่ เแต่มื่อดวงตามองไปที่เก้รถ สีหน้าเขาเคร่งเครียดมาทันที เขาจะรั้งมันไว้ได้นานแค่ไหนนะ...
“สุ่ยถิง หวังว่าเธอจะเข้าใจสิ่งที่ฉันทำลงไป” ต้าเซียนพึมพำกับตัวเองเบาๆ ดวงตาเลื่อนมองออกไปนอกรถ แต่สิ่งที่เขาเห็นอยู่ตรงหน้าไม่ใช่รถที่จอดเรียงราย แต่เป็นภาพน้ำตาบนใบหน้าของเธอเมื่อครั้งอดีต เขาได้แต่หวังว่าตัวเองจะไม่ทำให้เธอต้องเสียน้ำตา
“ต้าเซียน ถึงแล้วเหรอ”
“อื้ม”
“เราขึ้นไปกันเถอะคะ หนังสือเดี๋ยวฉันค่อยมาขนเอง”
“ไม่เป็นไร ขนไปเลย เพราะพรุ่งนี้ฉันต้องเข้าไปที่โรงพยาบาล เธอเอาไปแค่ถือได้ก็พอ เดี๋ยวที่เหลือฉันจัดการเอง” นาเดียร์พยักพร้อมขานรับตามนั้น เธอก้าวลงจากรถพร้อมกับของที่ต้าเซียนและเธอขนมาจากห้องนอนของตัวเองจากที่บ้าน และในมือยังมีหนังสือสามสี่เล่ม
นาเดียร์ตั้งใจไว้แล้วว่าจะรีดผ้าที่ช่วยกันแขวนเมื่อวานนี้ ทั้งของเธอและของต้าเซียน เธอจึงรีบเร่งเข้าลิฟท์ไปด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า
ผลั๊วะ!
นาเดียร์ชะโงกหน้าออกมาจากห้องซักรีด เมื่อได้ยินเสียงประตูห้องเปิดกว้าง ต้าเซียนเปิดประตูค้างไว้ เขายกหนังสือที่วางอยู่บนรถเข็นทีละสามสี่เล่มเข้ามาวางบนโต๊ะในห้อง หลายรอบที่เขาทำแบบนั้น หนังสือประมาณสี่สิบเล่มถูกวางเรียงรายเรียบร้อยแล้ว และเขาก็ออกจากห้องไปพร้อมปิดประตู เพื่อเอารถเข็นไปคืน เวลาผ่านไปสักสิบนาทีต้าเซียนกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง นาเดียร์ยังทำสิ่งที่ทำอยู่ต่อไป ส่วนต้าเซียนเดินเข้าไปในห้องครัวเล็กๆ เพื่อทำอาหาร
“พิธีจบไฮสคูลวันมะรืนนี้นะ” นาเดียร์เอ่ยขึ้นมาขณะกำลังทานอาหารเย็นกันอยู่ ต้าเซียนพยักหน้ารับรู้ เขาไม่เคยลืมและไม่ได้ลืม เขาต้องไปร่วมงานในฐานะผู้ปกครอง
“ติดขัดอะไรเหรอ?” ต้าเซียนถามกลับ เมื่อเห็นท่าทางของสุ่ยถิงแปลกๆ
“ปะ...เปล่า คือว่าฉันแค่อยากถาม อยากถามมาตั้งนานแล้ว” นาเดียร์อ้ำๆอึ้งๆ
“กินให้เสร็จก่อนแล้วกัน ค่อยคุย” ต้าเซียนพูดจบก็กินต่อ เธอได้แต่พยักหน้าและทำตามเท่านั้น ช่วงเวลาการกินดำเนินต่อไป จนมาถึงช่วงเวลาการเก็บล้าง เขาเป็นฝ่ายล้าง เธอจึงเป็นแผนกเช็ดและเก็บเข้าที่ จนทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย
เขาหันมาทางเธอยืนกอดอก พิงอยู่กับอ่างล้างจาน สายตาจับจ้องมองมา...รอคอย
“ฉันอยากจะขอใบเสร็จค่าใช้จ่ายนักศึกษาของฉันนะ” ต้าเซียนขมวดคิ้วทันที
“คงอยู่สักหน้า...” นาเดียร์ตาโตกับคำตอบนั้น เธอไม่เข้าใจ
“อะไรของพี่”
“น่าจะสอดอยู่ในหนังสือของฉันหน้าใดหน้าหนึ่ง”
“อ๋อ...งั้นเดี๋ยวฉันไปค้นเอง” ต้าเซียนพยักหน้า และทั้งสองขยับเดิน เพื่อเข้าไปยังห้องนอนของเขา หนังสือของเขาจะอยู่ในนั้น เมื่อเข้าไปในห้องแล้ว ต้าเซียนผายมือไปยังกองหนังสือที่มากมายก่ายกอง ภาพก่ายกองของหนังสือที่สะท้อนในดวงตาของนาเดียร์ ทำให้เธอหันกลับไปทางเขาที่ไม่ได้ตื่นเต้นแบบเธอ เขาเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบชุดนอนและเดินเข้าไปในห้องน้ำ
“น่าจะอยู่เล่มบนๆ” นาเดียร์พึมพำอย่างตั้งข้อสันนิษฐานความเป็นไปได้มากที่สุด กองหนังสือสูงและมากมายไม่ได้ทำให้เธอแปลกใจเพราะเธอเห็นเป็นประจำอยู่แล้ว ต้าเซียนอ่านหนังสืออย่างหนักก็ไม่แปลก แต่ทำไมนะถึงต้องเก็บเอกสารไว้ในหนังสือด้วยนะ ปกติเขาไม่ใช่คนไม่มีระเบียบนี่น่าขณะคิดเรื่อยเปื่อยเธอก็เริ่มหยิบหนังสือเล่มแรก เป็นหนังสือเกี่ยวกับระบบร่างกายของมนุษย์ เธอเปิดหนังสือทันทีเริ่มต้นหา แต่สีสรรในหนังสือพร้อมกับโน้ตที่ต้าเซียนเขียนไว้ ทำให้เธอทิ้งความตั้งใจเดิมไปอย่างไม่รู้ตัว เธอกลับให้ความสนใจใคร่อ่านหนังสือผสมผสานกับโน้ตที่ต้าเซียนจดไว้ด้วยลายมือหวัดๆแต่กลับอ่านง่ายและเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว หนังสือเล่มนี้เป็นภาษาอังกฤษ แต่ช็อตโน้ตที่ต้าเซียนเขียนไว้กลับเป็นภาษาจีนบ้างเป็นภาษาอังกฤษบ้าง
เวลาล่วงเลยไปนานแค่ไหนนาเดียร์ไม่รู้เลย จนกระทั่งต้าเซียนออกมาจากห้องน้ำ รอยยิ้มปรากฎบนใบหน้าเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ภาพที่ นาเดียร์ที่กำลังนอนคว่ำอยู่บนเตียงนอนของเขาด้วยท่าทางสบายๆเป็นธรรมชาติ ซึ่งเธอกำลังสนใจเรื่องราวในหนังสือตรงหน้าเหมือนจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองถูกแอบมองอยู่ เขาจึงเลื่อนสายตาไปมองกองหนังสือที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย เธอคงหยิบมาหาได้แค่เล่มแรก และเธอก็คงลืมไปแล้วว่าต้องหาอะไร
“อ๊ะ!” นาเดียร์ร้องออกมาเบาๆ เมื่อต้าเซียนนั่งลงบนเตียง และดึงหนังสือออกมา
“ไปอาบน้ำและเข้านอนได้แล้ว ถ้าอยากอ่านเล่มนี้ ก็เข้ามาหยิบได้ แต่ตอนนี้ดึกแล้ว” นาเดียร์ลุกขึ้นนั่งและขยับลงจากเตียง สายตามองหนังสือเล่มที่อยู่ในมือต้าเซียน ทำไมนะเขาถึงนอนดึกได้ แต่เธอนอนดึกไม่ได้
“พรุ่งนี้ก็ได้ ไปนอนแล้ว” นาเดียร์พูดจบ เดินออกจากห้องนอนเขาไป ซึ่งเขาก็เดินออกจากห้องของตัวเองเมื่อเธอเข้าห้องตัวเองไปแล้ว เขาเดินไปยังกองหนังสือและงานวิจัยของคุณหมอ และยกกองหนังสือที่ถูกแยกไว้ ที่เป็นบันทึกด้วยลายมือเขียนของคุณหมอ ใบหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อย
“ผมจะไม่ให้เธอต้องเจ็บปวดครับ” เขาพึมพำกับใครสักคนที่ไม่ได้บนอยู่บนโลกใบนี้แล้ว