ปรารถนา ที่ 4
สายสัมพันธ์ที่ปริร้าว
ราวกับฟ้าถล่ม
ปวดหัวใจราวกับถูกกระชากแรงจนปริร้าว...
หลี่เยว่ชื่อยังคงนอนหลับตานิ่งอยู่บนเตียง แม้จะได้สติฟื้นคืนมาได้สักพักแล้ว แต่นางกลับไม่พร้อมที่จะลืมตาตื่นขึ้นมารับรู้ความเป็นจริงที่แสนโหดร้าย
บิดาที่แสนดีแอบซ่อนความมักมากไว้อย่างแยบยล หักหลังภรรยาผู้ภักดี หักหลังสหายที่ร่วมเป็นร่วมตายมาด้วยกัน แอบสมสู่ลับหลังจนก่อเกิดเป็น ‘กงลี่อิน’ น้องสาวต่างมารดาที่มีอายุน้อยกว่านางเพียงหนึ่งปี
ตอนที่มารดาคลอดข้า...
บิดากลับกอดภรรยาของสหายจนตั้งครรภ์งั้นหรือ...
หาก ‘กงอีม่าน’ ผู้เป็นสหายรู้ว่าเขาโดนทรยศหักหลังจากคนที่รักถึงสองคน และบุตรสาวเพียงคนเดียวผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจที่เขาฟูมฟักทะนุถนอมเลี้ยงดูไม่ใช่สายเลือดของตน แต่กลับเป็นสายเลือดของชายชู้ผู้เป็นสหายสนิทกับภรรยาที่ทำตัวดั่งคณิกาโลมโลก
‘เวลานี้ดวงวิญญาณของท่านอาอีม่านคงกำลังร่ำไห้อยู่เป็นแน่’
หยาดน้ำรสเฝื่อนไหลย้อนกลับลงไปในลำคอแทนที่จะหยาดหยดออกมาจากดวงตาคู่งาม
เยว่ชื่อสับสน หัวใจหนักอึ้งราวกับถูกหินผากดทับ ณ เวลานี้ นางได้ตระหนักรู้ว่าการหวนคืนกลับมาอีกครั้งไม่ได้สวยงามอย่างที่นางวาดหวัง ทั้งที่นางคิดว่าตนเองรู้เรื่องราวในอดีตย่อมได้เปรียบต่อการใช้ชีวิต
ทว่าส่วนที่นางรู้กลับเป็นเพียงยอดน้ำแข็งเหนือมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ น้ำแข็งขนาดมหึมาส่วนที่จมลึกอยู่ใต้มหาสมุทรต่างหากเล่าคือเงื่อนงำที่นางต้องสืบรู้ ซึ่งมันมากมายเสียจนเด็กหญิงตัวน้อยรู้สึกกดดันจนแทบหายใจไม่ออก
ตั้งสติสิเยว่ชื่อ!
เด็กหญิงบอกตนเองพลางพยายามคิดทบทวนถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ นางค่อยๆ เรียบเรียงเหตุการณ์ต่างๆ นำมาวิเคราะห์เพื่อหาช่องโหว่และเติมเต็มข้อมูลบางส่วนที่ขาดหาย
ภายในความคิดของกงลี่อินเรียกบิดาว่า ‘ประมุขหลี่’ นั่นหมายความว่าน้องสาวต่างมารดายังไม่รู้ความจริง ว่าแท้จริงแล้วประมุขหลี่ซือฉีคือบิดาของนาง
แล้วกงลี่จะรู้เมื่อไหร่เล่า?
คำถามผุดขึ้นในใจของเด็กหญิง ก่อนจะหวนคิดไปถึงเหตุการณ์ในชาติก่อน แรกทีเดียวบิดาทำเพียงแค่รับกงลี่อินมาอุปถัมภ์ ทว่าหนึ่งปีหลังจากนั้นบิดาทำเรื่องร้องขอจากทางการเพื่อรับกงลี่อินเป็นบุตรบุญธรรม
แล้วเปลี่ยนแซ่จาก ‘กงลี่อิน’ เป็น ‘หลี่ลี่อิน’ มีศักดิ์เป็นบุตรบุญธรรม มีอำนาจในเรือนดั่งเจ้านายคนหนึ่ง อีกทั้งยังมีสิทธิ์ในทรัพย์สินบางส่วนอย่างชอบธรรม
ได้รับการทาบทามจากบุตรชายขุนนางไปเป็นภรรยา เพราะใครๆ ต่างก็ต้องการแต่งงานเชื่อมไมตรีกับสกุลหลี่ด้วยกันทั้งนั้น
ทั้งหมดนั่นบิดาทำเพื่อบุตรสาวคนเล็กที่ซุกซ่อนไว้ใต้เงามืดสินะ เป็นสิ่งที่นางไม่เคยสงสัย ไม่เคยระแคะระคาย เพราะนางก็รักและเอ็นดูลี่อินราวกับน้องสาวแท้ๆ มาโดยตลอด
จากเหตุการณ์ครั้งนั้นลี่อินเริ่มวางอำนาจในจวนมากขึ้น และเข้าหาพูดคุยฉอเลาะกับบิดาอย่างสนิทสนม
คงเป็นช่วงเวลานั้นสินะที่ลี่อินรู้ความจริง ว่าบิดาของนางหาใช่ ‘กงอีม่าน’ ขุนนางตกอับที่เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ แต่เป็น ‘หลี่ซือฉี’ ขุนนางระดับสูงที่แสนร่ำรวยมั่งคั่ง มีหน้ามีตาในวงสังคมชั้นสูง
ราวกับมีเสียงสะอื้นไห้ดังอยู่ในอก ยิ่งคิดวิเคราะห์ก็ยิ่งปวดแปลบหัวใจ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบิดาแอบจัดการเรื่องราวต่างๆ ลับหลังทุกคน เพียงเพื่อจะกางแขนปกป้องบุตรที่เกิดจากชู้รัก
แอด...
เสียงเปิดบานประตู และเสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาอย่างเงียบเฉียบทำให้ความคิดฟุ้งซ่านสงบลง เด็กหญิงยังคงนอนนิ่ง ควบคุมลมหายใจของตนเองให้ผ่อนยาวดั่งคนที่กำลังหลับใหล เปลือกตาปิดสนิท แสร้งว่าหลับลึกทั้งที่โสตประสาทกำลังตื่นตัว
/ลูกพ่อ...เจ้ายังไม่ฟื้นอีกหรือ/
เป็นบิดานั่นเองที่เดินเข้ามาเฝ้าดูอาการของนางด้วยความห่วงใย หลี่เยว่ชื่อไม่เคยสงสัยในความรักที่บิดามีต่อนางเลย ท่านและรักและหวังดีต่อนางในฐานะบิดามาโดยตลอด
เป็นนางเสียเองที่ไม่อาจยอมรับในสิ่งที่บิดาแอบกระทำลับหลังได้
หากว่าบิดามีอนุภรรยาในจวน มีบุตรที่เกิดกับอนุภรรยาอย่างถูกต้อง นางคงไม่รู้สึกเจ็บช้ำราวกับถูกหักหลังเช่นนี้
ชาติก่อน...ข้าคงกลายเป็นพี่สาวต่างมารดาหน้าโง่ในสายตาของกงลี่อินสินะ นางจึงได้หลอกใช้พี่สาวคนนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าดั่งเห็นข้าเป็นสะพานให้เดินข้ามผ่าน
หลายครั้งหลายคราที่ลี่อินแสร้งทำเป็นหวังดีแต่กลับทำให้ข้าต้องได้รับความอับอาย หลายครั้งหลายคราที่ลี่อินหกล้มร้องไห้แต่ทำราวกับว่าข้าเป็นคนผลักนางจนล้มลง หลายครั้งหลายคราที่ของเล่นและเครื่องประดับของลี่อินพังเสียหายแต่ทุกคนกลับคิดว่าข้าเป็นคนทำลาย
ข้าไม่เคยติดใจสงสัยว่าทั้งหมดนั่นเป็นแผนการของลี่อินเด็กหญิงตัวน้อยที่มีดวงตากลมโตสดใส อีกทั้งลี่อินมักมีคำหวานมาปลอบใจข้าเสมอ ในขณะที่สาวใช้คนอื่นๆ ในจวนต่างมองว่าข้าอิจฉาน้องใหม่จึงทำตัวไม่น่ารัก
ยิ่งระยะหลังข้าเริ่มป่วย เด็กหญิงตัวน้อยที่เคยยิ้มแย้มจึงกลายเป็นเด็กขี้หงุดหงิด เพราะลุกวิ่งเดินเหินไม่ได้อย่างเคย สาวใช้หลายๆ คนจึงเริ่มถอยห่าง มีเพียงแม่นมและจิงเหอที่อยู่เคียงข้างข้า
ทว่าจิงเหออยู่ได้ไม่นานก็ถูกใส่ร้ายว่าขโมยของ จนถูกขับไล่ออกจากจวน แม่นมที่แก่ชราก็เริ่มเจ็บออดแอด เยว่ชื่อในชาติก่อนจึงเหมือนคนหัวเดียวกระเทียมลีบไปโดยปริยาย
ชาตินี้...นางจะไม่ยอมให้กงลี่อินได้มีโอกาสใช้นามสกุล ‘หลี่’ เฉกเช่นเดียวกับนางเป็นอันขาด
จงเป็นเพียงเด็กที่ตระกูลหลี่อุปถัมภ์ แต่อย่าได้ริอ่านมาเป็นบุตรบุญธรรมเพื่อกอบโกยผลประโยชน์เข้าหาตนเองเป็นอันขาด
/ชื่อเอ๋อร์ลูกพ่อ นี่เจ้าไม่ชอบลี่เอ๋อร์จนถึงขนาดเป็นล้มลมพับไปเชียวหรือ เจ้าคงจะเสียใจและกังวลใจเพราะคิดว่าพ่อจะรักน้องมากกว่าเจ้าสินะ เด็กน้อยของพ่อ.../
ความคิดของบิดาทำให้หัวใจดวงน้อยของเยว่ชื่ออ่อนยวบด้วยรักบิดาเป็นทุนเดิม กระนั้นด้วยแรงทิฐินางกลับหลับตานิ่งไม่ยอมลืมตาตื่นขึ้นมา
ประมุขหลี่ดึงมือเล็กบอบบางของบุตรสาวมากุมไว้ และนั่นทำให้เยว่ชื่อได้เห็นถึงความทรงจำของบิดาที่วิ่งวนเข้ามาในสมองของนางชนิดไม่ทันตั้งตัว
หลี่ซือฉี กงอีม่าน จงจ้าวเฟย เป็นสหายที่ร่ำเรียนวิชาจากสำนักเดียวกัน ซือฉีและอีม่านเรียนดาบ จ้าวเฟยเรียนตำรับยาสมุนไพรพิษ
สองหนุ่มซือฉีและอีม่านต่างตกหลุมหลงรักจ้าวเฟยด้วยกันทั้งคู่ แต่ท้ายที่สุดจ้าวเฟยเลือกที่จะใช้ชีวิตกับอีม่านที่เก่งกาจเพลงดาบมากกว่า ดูมีอนาคตที่สดใสกว่า
หลี่ซือฉีบิดาของนางจึงต้องยอมตัดใจและอวยพรให้เพื่อนรักทั้งสองคนมีความสุขร่วมกัน หลังจากนั้นไม่นานชายหนุ่มก็ตกหลุมรักหญิงสาวผู้เป็นภรรยาในปัจจุบัน
‘ห่าวหราน’ เป็นคุณหนูบุตรขุนนาง เป็นหญิงบอบบาง อ่อนหวาน และมีรอยยิ้มราวกับดอกไม้ผลิบาน ทั้งสองแต่งงานจนมีบุตรชายด้วยกันหนึ่งคนซึ่งก็คือ ‘หลี่โม่โฉว’ ช่วยกันสร้างครอบครัวอบอุ่นก่อร่างสร้างรากฐานจนเป็นปึกแผ่น
หลี่ซือฉีสอบเข้ารับราชการเป็นขุนนาง ขยันขันแข็งจนมีผลงานดีเด่น ได้เลื่อนขั้นอย่างก้าวกระโดด เป็นคนโปรดที่เจ้านายไว้เนื้อเชื่อใจ
ในขณะที่กงอีม่านสหายสนิทกลับเถรตรงจนเรียกได้ว่าขวานผ่าซาก มั่นใจในฝีมือของตนเองจนยอมหักไม่ยอมงอ ขัดแข้งขัดขาขุนนางท้องถิ่นจนถูกแช่แข็งตำแหน่งไม่อาจเติบโต
การเงินของสกุลกงเริ่มฝืดเคือง กงอีม่านหันไปดื่มสุราย้อมใจจนเมามาย ในขณะที่จงจ้าวเฟยต้องแบกรับค่าใช้จ่ายทุกอย่างภายในจวนด้วยความเหนื่อยยาก
ทันทีที่หลี่ซือฉีผู้เป็นบิดารู้ข่าวว่าสหายรักทั้งสองกำลังตกทุกข์ได้ยาก เขาก็ส่งผ้าแพร ข้าวสาร ธัญพืช และเงินไปให้อย่างสม่ำเสมอ โดยที่ภรรยารับรู้และคอยช่วยคัดเลือกข้าวของอย่างดีที่สุดส่งไปให้สหายรักของสามีอย่างมีน้ำใจเรื่อยมา
อีกทั้งซือฉียังเดินทางไปเยี่ยมเยือนสหาย ร่ำสุราพูดคุยถึงความหลัง ก่อนที่อีม่านจะผล็อยหลับไปด้วยความเมามาย และนั่นทำให้บิดาและจ้าวเฟยได้มีโอกาสอยู่ด้วยกันสองต่อสอง
ฤทธิ์สุราทำให้บิดาเผลอพูดความในใจออกไป จ้าวเฟยที่จนตรอกจึงใช้โอกาสนี้ไขว่คว้าสหายเก่าหวังจะลืมตาอ้าปากไม่ต้องอดมื้อกินมื้อ
จ้าวเฟยเสนอว่าจะเลิกกับสามี แล้วไปเป็นอนุภรรยาของซือฉี ทว่าซือฉีไม่อาจทำให้สหายรักเสียใจไปมากกว่านี้ จึงไม่ยอมรับนางเป็นอนุภรรยา แต่สัญญาว่าจะส่งเสียเลี้ยงดูไม่ให้อดอยาก
ท้ายที่สุดจ้าวเฟยก็ยอมรับข้อตกลงแต่โดยดีเพราะนางเองก็ไม่ต้องการให้ชาวบ้านมาชี้หน้าว่าเป็นผู้หญิงมักมาก
ทั้งคู่ลักลอบได้เสียกันหลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่ง ‘ลี่อิน’ ถือกำเนิดขึ้น
หลังจากได้เห็นเด็กหญิงตัวน้อยๆ ที่มีใบหน้าคล้ายคลึงกับบุตรสาวคนเล็กที่ถือกำเนิดไปก่อนหน้านี้เพียงหนึ่งปี ซือฉีก็เริ่มรู้สึกผิดจึงถอยห่างจากความสัมพันธ์ที่แสนเห็นแก่ตัว
กระนั้นเขากลับส่งอาหารและเงินทองไปจุนเจือตระกูลกงไม่เคยขาด จนกระทั่งได้ข่าวว่าสหายรักมาด่วนจากไปเพราะอุบัติเหตุรถม้าพลิกคว่ำตก
‘เป็นเช่นนี้เองหรอกหรือ ความสัมพันธ์มักมากของหญิงร้ายชายเลวเป็นเช่นนี้เอง...’
เด็กหญิงที่เห็นเหตุการณ์ในความทรงจำของบิดา รู้สึกราวกับหัวสมองขาวโพลน เจ็บปวดจนหัวใจปริร้าวซ้ำๆ ดั่งแก้วแตกที่ไม่อาจประสานกลับคืนได้ดังเดิม
คิดสิเยว่ชื่อ!
เจ้าต้องคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี!