“ไม่ไหวแล้ว...” เจินเจินเอ่ยเสียงเบาหวิว เหงื่อกาฬเริ่มผุดขึ้นโดยรอบบริเวณที่หน้าผากกลมมน “พอเถอะ...นะ...พอก่อน” หญิงสาวกล่าวพลางส่งสายตาหวานเยิ้มเชิงออดอ้อนไปทางชายหนุ่มที่นั่งทำหน้าตาถมึงทึงมองมาทางนางอย่างไม่ลดละ ดวงตาคมเข้มสีดำนิลเปี่ยมเสน่ห์ของเขา บัดนี้ฉายแววอำมหิตอย่างอาฆาตมาดร้ายออกมาอย่างชัดเจน เขายังคงนั่งอยู่ด้านหน้าโต๊ะตัวเดียวกันกับนางยามนี้ “ท่านจะโกรธข้าไปถึงเมื่อไหร่กัน” เจินเจินยังคงออดอ้อนตัดพ้อไปทางหลี่เซียวเหยาที่นั่งอยู่ตรงข้ามกันเพียงโต๊ะกั้นกลาง หญิงสาวเห็นเขาไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใดๆเพียงแต่ส่งสายตากราดเกรี้ยวบนใบหน้าเรียบเฉยอยู่อย่างนั้น นางจึงจำต้องยืดตัวขึ้นแล้วก้มหน้าก้มตาคัดบทสวดมนต์ที่มีมากมายนับไม่ถ้วนตามคำสั่งของเขาลงในกระดาษต่อไปอย่างจนใจ นี่เป็นบทลงโทษที่หลี่เซียวเหยาได้มอบให้นาง หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นเมื่อวาน ทำอะไรก็ผิดไปหมด แล้วอย่างนี