บทที่ 6 เรื่องซุบซิบ

1583 Words
“พวกเจ้าดูๆ ในนี้เขียนเรื่องซุบซิบเกี่ยวกับฮัวหยางเอาไว้ด้วย” เฉินหรงก้มหน้าลงไปอ่าน “สกุลฮัวประกาศให้แม่สื่อนำเสนอสตรีที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อร่วมคัดเลือกเป็นฮูหยินของคุณชายใหญ่ฮัว สินสอดจัดให้อย่างอลังการ และพร้อมจัดงานแต่งอย่างยิ่งใหญ่” “อืม...ประกาศอย่างนี้ เห็นที่คหบดีฮัวคงอยากจะให้คุณชายใหญ่ฮัวแต่งงานเสียที จะว่าไปเขาก็อายุมากแล้วนะ” “เจ้าหมอบ้าผู้นั้นไม่เห็นจะทำงานทำการอันใดสักหน่อย แต่ละวันก็เอาแต่ขลุกอยู่ในเรือนปรุงยา สตรีใดพลาดพลั้งแต่งด้วยคงซวยแย่” “เอ๋? อู๋จือ ไหนว่าเจ้าไม่รู้จักเขา? พูดมาแบบนี้ น่าสงสัยว่าเจ้าจะเป็นพวกหญิงสาวที่เคยโยนผ้าเช็ดหน้าให้ แล้วเขาเดินเหยียบเสียกระมัง?” อู๋จือทำหน้าโมโห “หมายความว่ายังไง? พวกไหน?” เฉินหรงยิ้มกริ่ม “ก็คุณชายใหญ่ฮัวน่ะ ไม่ว่าจะเดินไปที่ใดก็มีสาวๆ คอยดักและยังพยายามโยนผ้าเช็ดหน้าให้เขาเก็บ แต่นอกจากเขายังไม่เก็บแล้ว ยังเดินเหยียบผ้าเช็ดหน้าของพวกนางอีก” “ถ้าอย่างนั้น ก็มีสตรีโกรธแค้นเขาอยู่ทั่วบ้านทั่วเมืองเลยสิ” ดวงตาของอู๋จือแวววาว นางกำลังหาทางจะแก้แค้นฮัวหยางอยู่ “ไม่เลย พวกนางยิ่งเพิ่มความคลั่งไคล้เข้าไปอีก หากดูตามประกาศนี้ เห็นทีคฤหาสน์สกุลฮัวคงจะมีสตรีไปยืนออรอสมัครหลายร้อยคนเลยทีเดียว” “พวกนางไร้สติกันเกินไปแล้ว บุรุษหยาบคายอย่างนั้นก็ยังชื่นชอบกันอยู่ได้” อู๋จือพึมพำ นางรินน้ำชากระดกลงไปสองจอกติดๆ ดับความหงุดหงิด “เจ้าพูดเช่นนี้ คุณชายใหญ่ฮัวได้ยินเข้าคงจะเสียใจแย่” เสียงของบุรุษที่นั่งหันหลังให้โต๊ะของเหล่ามือปราบดังขึ้น มือปราบทั้งโต๊ะหันไปมองชายหนุ่มเป็นจุดเดียว คนผู้นั้นกวักมือเรียกให้เสี่ยวเอ้อร์มารับเงินค่าอาหาร เขาลุกขึ้นแต่ยังยืนหันหลัง กระนั้นทุกคนก็เห็นว่าเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่มีราคาแพง น้ำเสียงของคนผู้นั้นฟังแล้วอู๋จือรู้สึกคุ้นมาก ท้ายทอยที่โผล่พ้นไรผมขาวนวลเนียนทำให้นางแทบจะหยุดหายใจ พอเขาหันหน้ามา อู๋จือก็ตกตะลึง “เป็นท่าน!” “เป็นข้าเอง มือปราบอู๋ ไม่น่าเชื่อเลยว่าเราจะได้พบกันอีก วันนี้เจ้าไปตรวจคฤหาสน์สกุลฮัวแล้วพบร่องรอยขโมยหรือไม่?” มือปราบทั้งโต๊ะเห็นบุรุษรูปงามที่คนทั้งเมืองร่ำลือกันเป็นครั้งแรกก็อ้าปากค้าง พวกเขาดวงตาเลื่อนลอยเพราะถูกความเจิดจ้าของคุณชายใหญ่ฮัวทำให้สติเตลิด เฉินหรงได้สติก่อน เขารีบวางจดหมายข่าวของสำนักข่าวนกกระจิบลงบนโต๊ะแล้วประสานมือทักทาย “คุณชายใหญ่ฮัว เป็นท่านนี่เอง ข้าติดตามข่าวของท่านมานานไม่คิดเลยว่าจะได้พบที่นี่ หน่วยของเราไปตรวจคฤหาสน์ของท่านแล้วขอรับ คฤหาสน์ใหญ่โตมากจึงยังตรวจไม่ทั่ว พรุ่งนี้จะกลับไปตรวจสอบอีกครั้ง” มือปราบทั้งโต๊ะรีบลุกขึ้นยืนประสานมือคารวะ คนทั้งร้านเห็นฮัวหยางก็พากันหันมามองด้วยความสนใจ สตรีหลายคนยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาปิดบังหน้าแต่แอบลอบมองชายหนุ่มรูปงามไม่วางตา สายตาของคุณชายใหญ่ฮัวจับอยู่ที่ใบหน้าของอู๋จือ “ได้มือปราบอู๋ที่เชี่ยวชาญการป่ายปีนย่องเบา ไปช่วยข้าจับขโมย ข้าเชื่อมั่นว่าอีกไม่นานต้องจับกุมคนร้ายได้อย่างแน่นอน” อู๋จือหน้าแดงขึ้นด้วยความโมโห นางรีบก้มหน้าลงเล็กน้อย “ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคำสั่งของหัวหน้าจางเจ้าค่ะ มือปราบหน่วยของเราทำงานอย่างเต็มที่แน่นอน คุณชายใหญ่ฮัวไม่ต้องเป็นห่วง” “ข้าว่าถ้าจะให้ดี มือปราบอู๋อาจจะต้องไปเฝ้าอยู่ในคฤหาสน์ของข้าสักพัก ข้าสงสัยว่าขโมยอาจจะเป็นคนภายใน” มือปราบหญิงสะดุ้ง นางไม่อยากจะเกี่ยวข้องกับฮัวหยาง แต่คำพูดของเขาทำให้สหายมือปราบของนางเกิดความสงสัยในความสัมพันธ์ระหว่างนางกับคุณชายใหญ่สกุลฮัว “ไม่ต้องห่วงขอรับ คุณชายใหญ่ฮัว พวกเราจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อจับขโมยให้จงได้” เฉินหรงรีบเอ่ย “ขอบคุณมากท่านมือปราบ รบกวนแล้ว ข้าขอตัวกลับก่อน” คนทั้งโต๊ะมองตามแผ่นหลังของคุณชายผู้งามสง่าที่มีผู้ติดตามอีกสี่คนไปจนลับตา พวกเขาถอนหายใจออกมาพร้อมกัน “สมแล้วที่เป็นคุณชายหน้าหยกแห่งเมืองหลวง ดูใบหน้านั่นสิ ดูดีไปทุกมุม ข้านึกว่าเทพเซียนล่องลอยมาจากสรวงสวรรค์” มือปราบฟูดวงตาเลื่อนลอย เฉินหรงดวงตาเป็นประกายชื่นชม “ข้าติดตามเรื่องคุณชายใหญ่ฮัวมานาน เขาได้รับการถ่ายทอดวิชาแพทย์จากท่านปู่ ส่วนบิดาของเขาแม้จะมีวิชาแพทย์อยู่บ้างแต่ชอบการค้าขายมากกว่า คหบดีอู๋จึงเน้นการเปิดร้านขายยาสมุนไพรหลายสาขารอบเมืองหลวง รวมถึงกระจายไปยังหัวเมืองต่างๆ กิจการของสกุลอู๋จึงเป็นที่รู้จักของคนในแคว้นหมิง” “แต่คุณชายใหญ่ฮัวไม่ค่อยปรากฏตัวมิใช่หรือขอรับ?” “ใช่ คุณชายใหญ่ฮัวมีเรือนลับสำหรับปรุงยาได้ยินว่าอยู่ชานเมืองแต่ไม่รู้หลังไหน?” เฉินหรงขมวดคิ้วมองมือปราบรุ่นน้อง “ข้าคิดว่าอู๋จือน่าจะรู้นะ” อู๋จือผงะ “ไม่ๆ ข้าว่าพวกท่านไปถามหัวหน้าจางดีกว่า” “มือปราบอู๋ ดูท่าแล้วเจ้ากับคุณชายใหญ่ฮัวดูคุ้นเคยกัน เจ้าทำท่าปกปิดอย่างนี้ กลัวพวกเราจะเข้าหาคุณชายใหญ่ฮัวหรือ?” เฉินหรงหรี่ตาลง หญิงสาวส่ายหน้าแรงๆ หลายครั้ง “ข้าไม่ได้สนิทกับเขาจริงๆ นะ มันก็แค่เรื่องบังเอิญที่เขารู้จักชื่อข้า อาจจะเป็นเพราะข้าตรวจท้องที่แถวคฤหาสน์สกุลฮัวบ่อยๆ” กว่าอู๋จือจะแก้ตัวให้หลุดพ้นจากข้อหาสนิทสนมกับฮัวหยางได้ก็ผ่านไปร่วมสองเค่อ เฉินหรงรบเร้าครั้งแล้วครั้งเล่า “มือปราบอู๋ ถ้าเจ้ารู้เรื่องคุณชายใหญ่ฮัวก็เล่าให้ข้าฟังเถอะ ข้าน่ะถือได้ว่าเป็นผู้ติดตามอันดับหนึ่งของเขาเลย เรื่องของชาวบ้านที่เป็นคนดังถือว่าเป็นงานของข้า โดยเฉพาะบุรุษที่รูปงามและร่ำรวยอย่างคุณชายใหญ่ฮัว ข้ายิ่งสนใจเป็นพิเศษ” อู๋จือเอาแต่ส่ายหน้า ในใจก็คิดก่นด่าเฉินหรงกับฮัวหยาง ผู้ใดอยากจะพูดเรื่องคนผู้นั้นกัน? ตัวนางในยามนี้แม้แต่ชื่อของเขาก็ไม่อยากจะเอ่ยถึง งานแต่งของจางเจิ้งจีกับหวังหวั่นเป็นงานไม่ใหญ่นัก เรือนสกุลจางเต็มไปด้วยของขวัญจากสหายในสำนักมือปราบ หัวหน้าจางไม่อาจจะจัดงานโดยเอิกเกริกเพราะเงินเก็บมีจำกัด อู๋จือเตรียมเงินและของขวัญให้คู่บ่าวสาวอย่างสมน้ำสมเนื้อ ในแต่ละเดือนนางแบ่งเก็บเบี้ยหวัดไว้ส่วนหนึ่งเผื่อใช้ในยามฉุกเฉิน แม้งานแต่งงานของหัวหน้าจางก็จัดอย่างรวดเร็วแต่นางก็มีเงิน “มือปราบอู๋ อย่ามัวเหม่อมองคู่บ่าวสาวเลย มาดื่มสุรากับพวกเราทางนี้เถอะ ได้ยินว่าเจ้าคอแข็งมาดวลกับข้าหน่อยปะไร” เฉินหรงโบกมือร้องเรียก อู๋จือกวาดตามองไปรอบๆ นางกลัวจะได้พบกับฮัวหยาง พอเห็นว่ากลุ่มสหายมือปราบหน่วยที่สามนั่งอยู่โต๊ะริมสุดก็พยักหน้าพอใจ “ได้ๆ วันนี้ไม่เมาไม่เลิกรา” คุณชายใหญ่ฮัวปรากฏตัวในชุดผ้าไหมสีฟ้า บนศีรษะมีกวานทองคำ ใบหน้าผุดผ่องงดงามราวเทพเซียนของเขาก็ทำให้คนทั้งงานลุกขึ้นยืนชะเง้อมองด้วยความสนใจ “คุณชายใหญ่ฮัวรูปงามสมคำร่ำลือ พวกเจ้าดูสิ สตรีทั้งงานแทบจะไม่เป็นอันรับประทานอาหารแล้ว” เฉินหรงมองไปยังฮัวหยางด้วยชื่นชมแกมอิจฉา “คนบางคนก็ช่างมีวาสนาสูงส่ง เกิดมาสมบูรณ์พร้อม” “มือปราบเฉิน ถ้าเจ้าอยากเป็นเหมือนคุณชายใหญ่ฮัวก็คงต้องไปเกิดใหม่แล้วล่ะ” สหายร่วมโต๊ะเย้า “ไม่ไหวๆ ไม่รู้ว่าชาติหน้าข้าจะได้เกิดหรือไม่? เอาเป็นว่าเกิดมาแล้วก็ทำชาตินี้ให้ดีที่สุดก็แล้วกัน” “ได้ยินว่าวิชาแพทย์ของคุณชายใหญ่ฮัวล้ำเลิศแต่กลับไม่ยอมรักษาคน เอาแต่คิดค้นปรุงยาอยู่เรือนลับ ที่เก็บซ่อนตัวเช่นนี้อาจจะเป็นอย่างข่าวลือ” “เจ้าหมายความว่าอย่างไร?” อู๋จือได้ยินมือปราบฟูก็หูผึ่ง “ข้าได้ยินมาว่าคุณชายใหญ่ฮัว “อู๋จือ เจ้าว่าท่านหมอฮัวผู้นี้ใช่เทพเซียนแปลงกายมาหรือไม่?” “ไม่! นั่นเป็นปีศาจจำแลงต่างหาก” “เอ๋? เจ้าแค้นบุรุษรูปงามถึงเพียงนี้เชียว เจ้าเองก็เป็นสตรีนะ วันหน้าต้องออกเรือน เห็นคนอย่างคุณชายใหญ่ฮัวแต่กลับไม่สนใจ ช่างน่าแปลกจริง” “หึ! อย่าพูดถึงเขาเลยดีกว่า พวกเรามางานแต่งงานของหัวหน้าจางนะ จะมัววิจารณ์ผู้อื่นอยู่ทำไม? มาดื่มกันเถอะ คืนนี้ไม่เมาไม่เลิกรา” *****************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD