ตอนที่ 12 คำทำนาย

2047 Words
เชิงเขาหลิงซาน บริเวณค่ายทหารกองทัพต้าฮั่น กระโจมที่ประทับของรัชทายาทแห่งต้าฮั่นในยามนี้ บริเวณด้านนอกเต็มไปด้วยทหารองครักษ์ตั้งแถวรักษาการณ์อย่างเข็มงวด ภายในกระโจมพระวรกายใหญ่ของรัชทายาทหลิวจินซานนอนนิ่งสนิทอยู่บนฟูกพระบรรทม ชุดเกราะจอมทัพถูกถอดออกพร้อมฉลองพระองค์ถูกฉีกเผยให้เห็นแผ่นอกกว้างยังคงมีลูกธนูเสียบคาอกล้วนเข้าจุดตายด้วยกันทั้งสิ้น ไม่มีทางที่ผู้ใดจะสามารถรอดชีวิตได้อย่างแน่นอนเพราะจุดตายที่ฉกรรจ์กว่าที่ใดก็คือบริเวณใต้ราวนมซ้าย ซึ่งเป็นตำแหน่งของหัวใจ ลูกธนูฝังแน่นเสียบทะลุเข้าถึงหัวใจเหลือเพียงส่วนที่หักปลายทิ้งเพียงน้อยนิดเท่านั้น ทว่าบาดแผลฉกรรจ์ดังกล่าวปรากฏแสงเรืองรองวูบวาบกำลังรักษาบาดแผลด้วยตัวของมันเอง บาดแผลค่อยๆ สมานเข้าหากันก่อนจะเรียบเนียนสนิทไม่เหลือร่องรอยของการถูกยิงด้วยลูกธนูแต่อย่างใดพร้อมชิ้นส่วนของลูกธนูค่อยๆ สลายก่อนจะเลือนหายไปเพียงชั่วพริบตา ท่ามกลางสายพระเนตรของจอมมารเฟิงหยางทรงยืนทอดพระเนตรร่างตรงหน้าเขม็ง เมื่อหินสามภพของพระองค์จัดการบาดแผลกับร่างที่เข้าไปสถิตเป็นการชั่วคราวในขณะนั้น และกำลังแสดงตำแหน่งที่ตั้งว่าสถิตอยู่บริเวณส่วนใดในร่างดังกล่าว แสงสว่างเรืองรองวูบวาบปรากฏขึ้นมาทันใดเมื่อฝ่าพระหัตถ์ของจอมมารผู้เป็นเจ้าของกำลังพาดผ่านสำรวจร่างรัชทายาทต้าฮั่น และหยุดลงบริเวณตำแหน่งหน้าท้อง “หินสามภพของข้าแตกหักเหลือเพียงครึ่งเดียวหรือนี่ มิหนำซ้ำมีพลังบำเพ็ญและพลังเวทย์เหลือเพียงสามส่วนเท่านั้น พลังอีก 9 ส่วนพร้อมหัวใจของข้าอยู่อีกครึ่งซีกที่หายไป!”จอมมารหนุ่มรับสั่งพึมพำ ฉับพลันประตูทางเข้ากระโจมถูกเปิดออกติดตามด้วยร่างของหมอหลวงและผู้ช่วยเข้ามาภายใน “นั่นเจ้าจะทำอะไร! เอามือออกไปจากองค์ไทจื่อเดี๋ยวนี้! อย่ามาเกะกะขวางทางการรักษาของข้า! ทหาร! ทหาร!”หมอหลวงปากเปราะส่งเสียงร้องเรียกหาทหารหลวงเป็นการใหญ่ “เจ้านั่นแหละที่จะต้องไสหัวออกไป!”จอมมารรับสั่งสุรเสียงเย็นยะเยือก ฟิ้วววว!!!! ลมเย็นยะเยือกไม่รู้ว่าล่องลอยมาจากทิศทางใดพาดผ่านหน้าหมอหลวงผู้นั้นและผู้ช่วยโดยพลัน เป็นเหตุให้ทั้งสองต่างขนหัวลุกเกรียวขึ้นมาทันที “นะ...นี่..นี่เจ้า!”หมอหลวงเอ่ยเสียงตะกุกตะกัก “ยังไม่ออกไปอีกอย่างนั้นเหรอ!”รับสั่งพร้อมหันกลับไปทอดพระเนตรมนุษย์ทั้งสองร่างที่ยืนอยู่ด้านหลังของพระองค์ พระเนตรสีนิลกาฬจ้องมนุษย์สองร่างตรงพระพักตร์เขม็ง ในขณะที่พระหัตถ์ของจอมมารยังคงยกค้างไว้อยู่ตรงบริเวณหน้าท้องของรัชทายาทต้าฮั่น หินสามภพเมื่อพบเจ้าของแม้ไม่ได้สัมผัสแต่พลังเวทย์ของจอมมารที่อยู่ภายในนั้นสามารถส่งมาถึงพระองค์ได้เช่นกัน เพียงแต่ไม่เต็มที่เท่านั้นเอง พรึบ!!! พระเนตรสีเลือดวาววับลุกโชนอย่างน่าสะพรึงกลัว ตุบ! ร่วมยาของหมอหลวงร่วงหล่นตกจากมือด้วยความตกใจสุดขีด ครั้นได้พบเห็นดวงตาของราชาปีศาจเป็นครั้งแรกในชีวิต หากแต่เพียงครู่กลับต้องนิ่งงันไปโดยพลัน เมื่อจอมปีศาจทรงร่ายเวทย์จากอำนาจของหินสามภพที่แผ่มาถึงผู้เป็นเจ้าของ “ออกไปข้างนอกและยืนรอตรงหน้าประตู บอกกับทุกคนว่าข้ากำลังรักษาอาการบาดเจ็บให้กับไทจื่อของพวกเจ้า ห้ามไม่ให้ผู้ใดเข้ามาภายในกระโจมนี้จนกว่าจะได้รับคำสั่งจากข้า!”ราชาปีศาจรับสั่งสุรเสียงเย็นยะเยียบ ใบหน้าของหมอหลวงและผู้ช่วยต่างพยักหน้าขึ้นลงติดๆ กัน รับพระบัญชาจากจอมมารอย่างว่าง่าย พร้อมหันหลังกลับเดินออกไปจากกระโจมด้านนอก พร้อมเสียงเอ็ดอึงดังขึ้นนอกกระโจมเพื่อสอบถามอาการกันจ้าละหวั่น ทันทีที่อยู่เพียงตามลำพังจอมมารหันกลับไปทอดพระเนตรหินสามภพที่เหลืออยู่อีกครึ่งซีกยังคงส่องแสงออกมาจากหน้าท้องของรัชทายาทต้าฮั่น “ยังดีที่จดจำข้าผู้เป็นเจ้าของได้นะเจ้าหินสามภพ แม้จะฝังร่างอยู่ในมนุษย์ผู้นี้ก็ยังสามารถแผ่พลังเวทย์มาถึงข้า แต่พลังเวทย์เพียงแค่สามส่วนใช้ร่ายเวทย์ธรรดาเท่านั้นกลับดินแดนปีศาจยังไม่ได้เลย แต่อย่างน้อยก็ยังสามารถใช้เป็นเกราะคุ้มภัย รวมไปถึงเอื้อประโยชน์ที่จะทำให้ข้าติดตามชิ้นส่วนที่เป็นหัวใจกลับคืนมา”รับสั่งพร้อมปิดพระเนตรลงทันใด จอมมารใช้พลังบำเพ็ญที่ยังคงหลงเหลืออยู่เล็กน้อยของพระองค์เรียกหินสามภพออกจากร่างของรัชทายาทต้าฮั่นอย่างไม่ชักช้า ฝ่าพระหัตถ์ทาบทับลงบนหน้าท้องของหลิวจินซานซึ่งทำให้หินสามภพสามารถแผ่พลังเวทย์โดยผ่านทางฝ่าพระหัตถ์ พลังบำเพ็ญและพลังเวทย์ของจอมมารสามส่วนค่อยๆ ถูกดูดกลับคืนเข้าสู่ผู้เป็นเจ้าของอย่างช้าๆ ติดตามด้วยหินสามภพลอยออกมาจากร่างดังกล่าวมาปรากฏอยู่ในพระหัตถ์ของจอมมาร หินสามภพบัดนี้มีสภาพไม่ต่างอะไรไปจากก้อนหินธรรมดาเท่านั้น เมื่อราชาปีศาจเรียกพลังบำเพ็ญและพลังเวทย์ที่อยู่ภายในนั้นกลับคืนไปจนหมด บัดนี้จอมมารเฟิงหยางทรงมีพลังเวทย์สามส่วนเพียงพอที่จะใช้ประโยชน์เพื่อค้นหาหินสามภพส่วนที่เป็นหัวใจและขุมพลังเวทย์ตลอดจนถึงพลังบำเพ็ญอันมหาศาลของพระองค์อีก 9 ส่วนกลับคืนมาได้ดั่งเดิม พรึบ! เปลือกพระเนตรเปิดขึ้นทันใด ดวงเนตรสีเลือดของราชาปีศาจลุกโชนแรงกล้า บริเวณหน้าผากสัญลักษณ์ของราชาปีศาจลุกแดงวาบขึ้นมาโดยพลันพร้อมหินสามภพกลายเป็นผงธุลีก่อนจะสูญสลายไปเพียงชั่วพริบตา “พลังบำเพ็ญและพลังเวทย์สามส่วนของข้ากลับคืนมาแล้ว ทว่าการใช้พลังเวทย์ในดินแดนมนุษย์แต่ละครั้งสะเทือนพลังบำเพ็ญของข้าเป็นอย่างยิ่ง มีเวลาเพียงแค่สามวันที่จะต้องนำหัวใจกลับคืนสู่ร่างเทียบกับเวลาของแดนมนุษย์เท่ากับสามปี ในทางกลับกันหากในยามนี้ข้ามีพลังบำเพ็ญ 9 ส่วนและได้หัวใจกลับคืนเพียงเท่านี้ก็เพียงพอที่จะกลับคืนดินแดนปีศาจได้แล้ว ที่เหลืออาศัยเข้าญาณอีกสามพันปีเพียงเท่านี้ข้าก็สามารถกลับคืนเป็นปกติ แต่นี่อะไรกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง”รับสั่งบ่นพึมพำพร้อมสะบัดพระหัตถ์ไปที่ร่างของรัชทายาทต้าฮั่น พรืดดด!! ร่างใหญ่ประหนึ่งถูกคนจับลากดึงเข้าไปจนชิดฟูกพระบรรทม เหลือพื้นที่บริเวณด้านหน้าพร้อมพระวรกายสูงใหญ่ของจอมมารทรุดลงประทับเข้าญาณ เปลือกพระเนตรปิดลงทันทีเพื่อค้นหาหินสามภพส่วนที่หายไป เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งก้านธูปเปลือกพระเนตรพลันเปิดขึ้น ครั้นญาณของพระองค์ไม่สามารถจับทิศทางหินสามภพส่วนที่เหลือได้เลยนำพาซึ่งความแปลกใจให้แก่จอมมารเป็นยิ่งนัก “เป็นไปได้หรือนี่ เหตุใดจึงไม่สามารถจับทิศทางหินสามภพส่วนที่เป็นหัวใจของข้าได้ เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น”รับสั่งพร้อมปรายสายพระเนตรไปยังร่างของรัชทายาทของต้าฮั่น พลันครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไป “นับว่าเจ้ายังโชคดีมากที่ไม่ได้เดินทางไปพบกับเจ้าโลกันตร์ หินสามภพของข้าทำให้เจ้ารอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด หาไม่แล้วบาดแผลที่ได้รับซึ่งล้วนเข้าตำแหน่งจุดตายด้วยกันทั้งสิ้นย่อมทำให้เจ้าจบชีวิตไปนานแล้ว”รับสั่งพร้อมทอดพระเนตรรัชทายาทต้าฮั่นอยู่เพียงครู่ ในยามนั้นทรงนึกถึงหนุ่มน้อยที่พบในหลุมปีศาจขึ้นมาโดยพลัน “จริงสิเจ้าหนุ่มน้อยผู้นั้นเป็นอีกผู้หนึ่งที่รอดชีวิตจากการทำลายล้างของหินสามภพ..หรือว่า”สิ้นพระสุรเสียงพระวรกายของจอมปีศาจเลือนหายไปโดยพลัน จุดหมายที่กำลังเสด็จไปคือสถานที่ได้พบกับเด็กหนุ่มหน้าสวยซึ่งเป็นมนุษย์คนแรกที่พระองค์ลงมาดินแดนมนุษย์อย่างไม่คาดฝันและได้พบกันด้วยความบังเอิญท่ามกลางความเข้าใจผิดหลายอย่างของเด็กหนุ่มผู้นั้นที่มีต่อจอมมาร บริเวณสนามรบ พรึบ!!! พระวรกายใหญ่ของจอมมารเฟิงหยางปรากฏขึ้นอยู่บนเหนือหลุมขนาดเท่ากับพระราชวังซางเป่ยของไท่หยวน ในขณะนั้นพระอาทิตย์สาดแสงไปทั่วผืนแผ่นดิน ทันทีที่ทรงทอดพระเนตรสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยซากศพของมนุษย์นับหลายหมื่นนอนตายเกลื่อนกลาดเมื่อไม่กี่ชั่วยามที่ผ่านมา ทว่าบัดนี้ร่างไร้วิญญาณมิเหลือสิ้นแม้แต่เพียงศพเดียว “สลายไปจนหมดสิ้นแล้วหรือนี่”รับสั่งพึมพำพร้อมครุ่นคิดถึงใบหน้าของเด็กหนุ่มผู้นั้น “หนุ่มน้อยผู้นั้นไม่ได้มีหินสามภพสถิตอยู่ในกายดั่งที่ข้าคาดการณ์เอาไว้อย่างนั้นเหรอ แต่เหตุใดจึงรอดชีวิตจากการทำลายล้างของหินสามภพมาได้ ดูท่าจะไม่ได้อยู่ในขณะที่เกิดเหตุการณ์ทำลายล้าง หรือว่าคนผู้นั้นก็เพิ่งจะมาถึงเหมือนดั่งเช่นกลุ่มทหารที่ตามมาสบทบภายหลัง หากเป็นเช่นนั้นแสดงว่าร่างได้สูญสลายไปพร้อมกับพ่อและแม่แล้ว”รับสั่งพลางถอนพระทัยด้วยความรู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้เป็นไปตามที่ทรงคาดเดาเอาไว้ “นี่ข้าต้องพำนักอยู่ดินแดนมนุษย์ต่อไปอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้เลยหรือนี่ คราแรกเข้าใจว่าหินสามภพส่วนที่เป็นหัวใจของข้าสถิตอยู่ในร่างของเด็กหนุ่มผู้นั้นแต่กลับไม่เป็นดั่งที่คิด เช่นนั้นตราบใดที่ยังค้นหาหัวใจไม่พบก็ยังกลับดินแดนปีศาจไม่ได้”รับสั่งพลางทอดพระเนตรหลุมมหึมาตรงพระพักตร์ “หลุมนี้เต็มไปด้วยพลังไอปีศาจแรงกล้า หากปล่อยทิ้งเอาไว้ต่อไปจะทำให้เหล่าปีศาจทั่วไปที่เลือกมรรคามารอาศัยประโยชน์จากไอปีศาจที่เกิดจากหลุมนี้ฝึกตนและดูดซับไอปีศาจจากสถานที่แห่งนี้ ปล่อยเอาไว้เช่นนี้ไม่ได้เป็นอันขาด”สิ้นรับสั่ง พระหัตถ์ยกขึ้นพร้อมร่ายเวทย์ปิดผนึกหลุมปีศาจขนาดมหึมาให้กลับไปเป็นดั่งเดิม แผ่นดินที่เคยเกิดหลุมกว้างเท่ากับพระราชวังซางเป่ยบัดนี้ค่อยๆ กลับคืนเป็นพื้นที่ราบเรียบดั่งเช่นกาลก่อนราวกับว่าไม่เคยเกิดหลุมเช่นนั้นแต่อย่างใด ไอดำลอยทะมึนที่แผ่ขยายออกไปเป็นวงกว้างครอบคลุมไปทั่วแผ่นดินไท่หยวน ถูกจอมมารร่ายเวทย์ดูดไอปีศาจที่แผ่ออกไปทั่วทุกสารทิศกลับเข้าไปในหลุมดังกล่าวตามเดิม ก่อนจะปิดผนึกสนิทแผ่นดินราบเรียบดุจเดิม พรืดดดด!!! พระโลหิตพุ่งออกจากพระโอษฐ์ออกมาทันทีเมื่อพระองค์ใช้พลังเวทย์ในการปิดผนึกไอปีศาจและกลบหลุมนั้นจนหมด จอมมารหนุ่มยกหลังพระหัตถ์เช็ดหยาดพระโลหิตที่เปรอะเปื้อนพระโอษฐ์ พร้อมหงายพระหัตถ์ขึ้นเมื่อฝ่าพระหัตถ์เกิดเส้นสีดำขึ้นพาดผ่าน “ใช้พลังเวทย์ในแดนมนุษย์เสียพลังบำเพ็ญไปถึงสองส่วนเลยหรือนี่ มิหนำซ้ำยังทำลายพลังปราณปีศาจของข้าไปอีกตอนนี้เหลือเพียงพลังบำเพ็ญเพียงแค่หนึ่งส่วนเท่านั้น เห็นทีต้องเก็บเอาไว้ในยามคับขันและจำเป็นจริงๆ เสียแล้ว”รับสั่งพลางหวนครุ่นคิดถึงรัชทายาทของต้าฮั่น “อยู่ในแดนมนุษย์จำต้องใช้ประโยชน์ให้ถึงที่สุด ในเมื่อไม่สามารถใช้พลังเวทย์ติดตามหินสามภพก็จำต้องพึ่งพามนุษย์ที่มีอำนาจล้นเหลือเสียแล้วในครั้งนี้”สิ้นพระสุรเสียงพระวรกายเลือนหายไปจากสถานที่ดังกล่าวโดยพลัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD