ตอนที่ 8
“คุณเอโด้! เดี๋ยวก่อน” ร่างบางวิ่งเข้าไปขวางประตูเอาไว้ได้ทัน
“มีอะไรครับ”
“คือฉัน...ฉันยังไม่ได้จัดห้องนอนให้คุณเลย คุณไปนั่งรอที่โซฟาก่อนนะคะ แล้วเดี๋ยวฉันจะเรียก” พูดจบก็ใช้สองมือเล็กดันคนตัวโตออกห่างประตูห้องนอนทันที
“ทำไมต้องจัดครับ ผมนอนห้องนี้ก็ได้” เขามองเข้าไปยังห้องนอนที่เพิ่งจะเข้าไปอาบน้ำมาไม่นาน
“คุณนอนห้องนี้ไม่ได้ค่ะ เพราะห้องนอนของคุณอยู่ห้องนี้” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังห้องเล็กที่อยู่ถัดไป
“คุณบอกผมเองว่าเราเป็นสามีภรรยากัน แล้วทำไมต้องนอนแยกห้อง” ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม สายตาก็จับจ้องร่างบางตาไม่กะพริบ
“คือก่อนหน้าที่คุณจะประสบอุบัติ เราก็แยกห้องกันนอนอยู่แล้ว เพราะว่าฉันทำงานกลับมาดึกมาก เลยไม่อยากรบกวนคุณ แล้วคุณก็ไม่มีข้อโต้แย้งอะไรสักคำเลยด้วย ไปค่ะ ไปนั่งรอที่โซฟาก่อน” ร่างบางอ้างเหตุผลที่กุขึ้นขึ้นมาด้วยสีหน้าเครียดอย่างเห็นได้ชัด เพราะกลัวว่าอีกคนจะไม่เชื่อ แต่ถึงจะไม่เชื่อเธอก็ไม่มีทางยอมให้เขามานอนร่วมเตียงแน่
“จริงหรือครับ”
“อืม” ร่างบางพยักหน้าสำทับไปอีกรอบเพื่อให้อีกฝ่ายเชื่อ
“คู่เราแปลกดีนะครับ”
“ก็คงงั้น คุณนั่งอยู่นะ เดี๋ยวฉันไปจัดห้องให้คุณก่อน” ขาดคำร่างบางก็วิ่งเข้าห้องนอนเล็กไปทันที เพราะกลัวว่าถ้าชักช้าอีกคนจะกลับเข้าไปนอนในห้องนอนของเธอ ไม่กี่นาทีต่อมาทุกอย่างก็เรียบร้อยเธอจึงได้เปิดประตูออกมาตาม
“อุ้ย!” ร่างบางอุทานเมื่อเดินผ่านประตูออกมาก็ชนเข้ากำแพงหินมีชีวิตเข้าอย่างจังจนเกือบหงายหลังล้มหากไม่มีมือของอีกคนมาคว้าเอาไว้
“ผมขอโทษที่ทำให้คุณเกือบล้ม” เสียงทุ้มดังชิดแก้มนุ่ม เพราะต่างฝ่ายต่างรีบผวาเข้าหาไว้
“มะ...ไม่ ไม่เป็นไรค่ะ แต่คุณ ปล่อยฉันก่อนเถอะ ฉันยืนเองได้แล้ว” เสียงหวานดังอ้อมแอ้ม
“ครับ” เอโด้ขานรับด้วยรอยยิ้ม แต่ก็นึกแปลกใจท่าทีหวงเนื้อหวงตัวของคนในอ้อมกอดอยู่ไม่น้อย
'ตกลง เขากับเธอเป็นสามีภรรยากันจริงหรือเปล่าเนี่ย' คิดแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมาเบาๆ เพราะต่อให้นึกจนปวดหัวเขาก็นึกไม่ออกอยู่ดี
“คุณไปนอนเถอะค่ะ” พูดจบก็เดินเบี่ยงตัวออกหนี แต่ก้าวไปได้ไม่กี่ก้าวแขนเรียวก็ถูกมือใหญ่รั้งเอาไว้ เธอหันกลับมามองด้วยสีหน้าเป็นเครื่องหมายคำถาม
“ผมจะถามว่าคุณจะเข้านอนเลยหรือเปล่า”
“ฉันยังไม่ง่วงค่ะ คิดว่าจะนั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างนอกนี่แหละ ถ้าคุณรู้สึกไม่สบายก็เรียกฉันได้ ไม่ต้องเกรงใจ” แม้ใจจริงอยากจะให้เขารู้สึกเกรงใจก็เถอะ
“ครับ”
“งั้นฉันไปละ ส่วนคุณก็ไปนอนเถอะค่ะ” พูดจบเธอก็ยื่นมือไปปลดมือหนาออกแล้วยิ้มให้เล็กน้อย ก่อนจะเดินไปหยิบหนังสือนิยายเล่มโปรดมานั่งอ่าน เพราะยังไม่รู้สึกง่วงนอนเลยแม้แต่นิดเดียว ขณะที่อีกคนก็ยืนเปิดประตูแอบมองภรรยาสาวอยู่พักใหญ่กว่าจะไปเข้านอน
กริ๊ง…
เสียงนาฬิกาปลุกตั้งอยู่บนโต๊ะข้างเตียงทำให้คนที่กำลังหลับสบายคว้าหมอนมาปิดหน้าปิดตา สักพักก็พลิกตัวไปมาคล้ายคนเกียจคร้าน
“ทำไมมันเช้าเร็วจัง” เจ้าของเสียงวาดมือไปกดปิดนาฬิกาปลุกก่อนจะผุดลุกขึ้นนั่งบิดขี้เกียจ ก่อนจะเบิกตาโตเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเธอไม่ได้อยู่ตามลำพัง
'ป่านนี้อีตาบ้านั่นจะเป็นไงบ้างล่ะเนี่ย หน้าก็ยังไม่ได้ล้างฟันก็ยังไม่ได้แปรง' คิดจบแล้วก็รีบดีดตัวลงจากเตียงวิ่งเข้าห้องน้ำแล้วจัดการทำธุระส่วนตัวแบบด่วนจี๋อย่างที่ไม่เคยทำได้เร็วเท่านี้มาก่อนเลยในชีวิต จากนั้นก็เดินออกจากห้องนอนมาด้วยชุดเสื้อยืดพอดีตัว กางเกงยีนสีซีดขาสั้น เมียงมองหาสามีเฉพาะกิจจนเห็นเขานั่งดูทีวีอยู่ก็พลอยโล่งใจ เพราะนึกกลัวอยู่เหมือนกันว่าจะไม่เห็นเขาอยู่ในห้อง
“ตื่นแล้วเหรอครับ” เอโด้หันมายิ้มทักทาย
“ค่ะ”
“เมื่อคืนอ่านหนังสือเพลินเหรอครับ เช้านี้ถึงได้ตื่นสาย”
“คงงั้นมั้งคะ ว่าแต่คุณหิวหรือยัง ถ้าหิวมากฉันจะได้สั่งอาหารมาทานเลย แต่ถ้ายังไม่มาก เดี๋ยวฉันจะทำให้ทานเพราะมีของสดอยู่ในตู้เย็นพร้อมอยู่แล้ว”
“ไม่มากครับ ว่าแต่คุณจะทำอะไรให้ผมทาน” ท่าทีของเขาดูสนอกสนใจมาก
“ฉันพอทำอาหารฝรั่งเป็นบ้าง ว่าแต่คุณอยากทานอะไรล่ะคะ”
“อะไรก็ได้ดีกว่าครับ ผมน่าจะเป็นคนทานอะไรง่ายๆ”
“ถ้างั้นฉันจะทำออมเล็ตให้คุณทานก็แล้วกัน” เพราะทั้งเร็วและง่าย แต่ปัญหาก็คือส่วนมากเธอจะทำทานเอง เลยไม่รู้ว่าจะถูกปากถูกใจเขาหรือไม่
“ผมตามใจคนทำครับ แต่ผมขอเข้าไปช่วย”
“ก็ตามใจคุณค่ะ” พูดจบก็เดินนำเข้าครัวไป เปิดตู้เย็นหยิบของที่ต้องใช้ทำออกมาวางบนโต๊ะแล้วหันไปบอกให้คนตัวโตนำผักไปล้าง แล้วสอนให้หั่น ก่อนจะจึงเริ่มลงมือทำที่ใช้เวลาไม่นานก็ได้ออมเล็ตมาคนละจาน อาหารมื้อแรกของมาใช้ชีวิตแบบสามีภรรยาแต่แค่ในนามก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
แต่ขณะระหว่างที่สองหนุ่มสาวกำลังช่วยกันเช็ดจานชามอยู่นั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น รุ้งตะวันจึงวางมือจากสิ่งที่ทำแล้วรีบเดินไปหยิบโทรศัพท์มากดรับสายจากป้าผึ้ง
“ป้าผึ้งมีอะไรกับฉันเหรอจ๊ะ โทร.มาแต่เช้าเลย”
“แม่เอ็งถูกจับอีกแล้วนังรุ้ง”
“อะไรกันเนี่ย ก็ไหนเมื่อวานแม่บอกว่ายังไม่หายดีนี่”ไ
“เมื่อคืนป้าไม่ได้อยู่เฝ้า เพราะลูกป้ากลับมาเยี่ยม แต่แม่เอ็งนี่ก็เหลือเกิน ป่วยจนหน้าซีดยังจะมีแรงลุกออกไปเล่นไพ่ได้อีก ป้าว่าปล่อยแม่เอ็งนอนคุกอีกสักคืนสองคืนไปเถอะจะได้หลาบจำ”