ตอนที่ 13
“คุณ! ระวัง!” รุ้งตะวันร้องห้ามเสียงหลงเมื่อเห็นหนึ่งพวกอันธพาลหยิบปืนออกมา
ปัง!
เอโด้หลบกระสุนปืนได้แบบหวุดหวิดก่อนจะเงยหน้าหันไปมองภรรยาที่ก้มหมอบต่ำอยู่ข้างรถ แล้วจึงหันไปทางพวกอันธพาลแล้วเข้าไปเล่นงานพวกมันก่อนที่มันจะยิงปืนใส่เขาหรือไม่ก็ภรรยาของเขา
“คุณเอโด้พอได้แล้ว เดี๋ยวพวกมันตาย” รุ้งตะวันเข้ามาห้ามทั้งที่ยังตกใจกับเสียงปืนไม่หาย
“แต่พวกมันทำร้ายคุณ”
“คุณก็อัดพวกมันจนหน้ายับแล้วนี่ ไปกันเถอะคุณ เร็วๆ เลย” รุ้งตะวันลากแขนพาคนตัวโตไปที่รถแล้วรีบขับรถออกไปทันที กระทั่งขับรถมาได้สักระยะเธอก็ใช้ให้อีกคนโทรหาเพื่อนว่าให้รีบกลับคอนโดฯ ส่วนจิรันธรก็กำลังฟังเด็กในร้านพูดกันว่าเมื่อครู่มีคนทะเลาะกันที่ลานจอดรถ
“แน่ใจเหรอว่าเป็นคุณอังกรูจริงๆ ” สีหน้าจิรันธรกังวลอย่างเห็นได้ชัดหลังได้ฟังว่าคนไปมีเรื่องกับหลานชายนักการเมืองก็คือคุณเอโด้
“แน่ใจสิพี่” เด็กเสิร์ฟหนุ่มยืนยันเสียงหนักแน่น เพราะตนเข้าไปเห็นพอดีตอนออกไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ติดกับลานจอดรถ
“ขอบใจจ้ะ” จิรันธรยิ้มเล็กน้อยก่อนจะไล่ให้เด็กหนุ่มกลับไปทำงานต่อ ส่วนเธอก็เดินออกมาเมียงมองที่ลานจอดรถแต่ก็ไม่เห็นมีหลานชายนักการเมืองกับพวกเลยสักคน เธอจึงเดินไปที่รถตัวเองเพื่อกลับไปพักผ่อน โดยที่ใจก็ยังนึกห่วงเรื่องที่เกิดไม่เลิก เพราะเธอกลัวว่าถ้าหากเป็นหลานชายของนักการเมืองจริงเรื่องมันคงไม่จบลงแค่นี้
ขณะที่จิรันธรกำลังขับรถกลับที่คอนโดฯ ด้วยสีหน้าเครียดๆ เพราะเป็นห่วงกลัวเรื่องจะบานปลายอยู่นั้นภายในรถอีกคันก็กำลังตกอยู่บรรยากาศน่าอึดอัดอย่างที่สุด เมื่อคนที่ทำหน้าที่ขับรถอยากรู้จะแย่แล้วว่าเขาหายไปไหนตั้งนานสองนาน
“คุณเอโด้ คุณหายไปไหนเหรอ”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไปไหนมา”
“ไม่รู้!” รุ้งตะวันทำหน้าเหมือนจะฆ่าคนขึ้นมาเมื่อฟังคำตอบจากคนที่นั่งข้างๆ
‘อีตาบ้า ตอบแบบนี้มันน่าปล่อยให้โดนฆ่าตายไปซะ’
“อืม” เอโด้ขานรับในลำคอ พลางหวนนึกถึงภาพที่ซ้อนวนเวียนเข้ามาในหัวในระหว่างที่เขาเดินไปอย่างไร้จุดหมาย แต่จู่ๆ เขาก็รีบเดินกลับมาทางเดิมเหมือนมีอะไรดลใจให้กลับมาและทันได้เห็นว่าภรรยากำลังถูกคนถูกคุกคาม
รุ้งตะวันตื่นเช้ากว่าทุกวันและรีบอาบน้ำแต่งตัวออกจากคอนโดฯ เมื่อน้องชายโทร.มาบอกว่าบิดาอยากพบ และเมื่อแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเธอก็เปิดประตูห้องนอนออกมาพอดีกับที่เสียงออดหน้าห้องก็ดังขึ้น
'ใครมาแต่เช้า' เธอบ่นพึมพำในใจแล้วเดินเร็วๆ ไปที่ประตูมองผ่านตาแมวพอเห็นเป็นเพื่อนรักก็ยิ่งสงสัยหนักเข้าไปอีกที่เพื่อนรักมาหาแต่เช้า
“ฉันนึกว่าแกยังไม่ตื่นซะอีกยัยรุ้ง” จิรันธรพูดแค่นั้นก็เดินไปนอนบนโซฟา
“น้องชายโทร.มาปลุกฉันเลยตื่น ว่าแต่แกมีเรื่องอะไรหรือเปล่าเนี่ย ถึงได้มาแต่เช้า” ถามจบแล้วก็เดินเข้าครัวเปิดตู้เย็นรินน้ำมาสองแก้วแล้วเดินกลับมาส่งให้เพื่อนหนึ่งแก้ว ก่อนจะมองเลยไปยังห้องนอนเล็กที่ไม่รู้ว่าอีตาบ้าจะตื่นหรือยัง
“ฉันจะมาบอกแกว่าคนที่ผัวแกไปมีเรื่องด้วยเมื่อคืนก็คือคุณอังกรู เด็กในร้านบอกแบบนั่นนะ” จิรันธรบอกเสียงเครียด
“ก็ว่าอยู่หน้าคุ้นๆ” รุ้งตะวันเองก็มีสีหน้าไม่ต่างจากเพื่อน เพราะชายหนุ่มคนดังกล่าวเป็นถึงหลานชายนักการเมือง แล้วยังมีลุงเป็นนายตำรวจใหญ่อีกด้วย ซึ่งเธอก็ได้แต่หวังว่าฝ่ายนั้นจะไม่คิดแค้นที่คุณเอโด้
“รุ้ง แกต้องไปเตือนผัวแกด้วยนะ แล้วทางที่ดีแกอย่าพาผัวไปที่ผับอีกเลย เดี๋ยวจะมีเรื่องกันอีก”
“ฉันรู้แล้ว แต่เมื่อคืนคนที่เริ่มก็คือพวกนั้นจะมาทำร้ายฉัน แล้วคุณเอโด้มาเห็นเลยซัดไปคนละหมัดสองหมัด แถมพวกมันยังมีปืน แล้วยิงคุณเอโด้ด้วย แต่โชคดีที่หลบทัน”
“ที่ลานจอดรถมีกล้องวงจรปิดนี่ เราไปขอไว้ก่อนดีไหมยัยรุ้ง” ว่าแล้วก็รีบล้วงหาโทรศัพท์แล้วรีบโทรหาเด็กในร้านที่คุ้นเคยกันดี ทว่าคำตอบที่ได้กลับมาทำให้ใบหน้าที่มีความหวังสลดลงทันตา
“จีจี้ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า” รุ้งตะวันที่รอฟังอยู่ถามกลับไปเมื่อเห็นสีหน้าเพื่อนไม่ค่อยดีนัก
“น้องมันบอกว่ากล้องตรงลานจอดรถเสียมาสามวันแล้ว”
“อะไรจะพอเหมาะพอเจาะขนาดนั้น” เสียงถอนหายใจดังสลับกันออกมา โดยที่สองสาวไม่รู้ว่าตอนนี้คนในห้องนอนเล็กแง้มประตูออกมาเล็กน้อยเพื่อฟังเสียงสนทนาด้วยใบหน้าเรียบเฉย หากแต่ในท่าทีนิ่งเฉยนั้นเขากำลังครุ่นคิดอย่างหนัก ทั้งเรื่องภาพซ้อนที่เขานั่งอยู่ในผับแล้วก็คุยกับผู้ชายคนหนึ่ง แล้วก็ภาพของสองสาวที่เขาเคยเห็นในที่ไหนสักแห่งซึ่งมันไม่ใช่ในผับ
“แล้วนี่ คุณเอโด้ยังไม่ตื่นอีกเหรอ” เสียงนั้นทำให้คนที่แอบแง้มประตูฟังอยู่ปิดประตูได้ทัน ก่อนที่ทั้งสองสาวจะหันไปมอง
“ไม่รู้เหมือนกัน” ไหล่มนไหวเล็กน้อยเหมือนจะไม่ใส่ใจ แต่ความเป็นจริงเธอก็อยากรู้จะแย่ว่าเขาตื่นหรือยัง หลังจากเมื่อคืนมีการเถียงกันนิดหน่อย เพราะเขาก็สั่งให้เธอลาออกจากงานแล้วก็พาเขากลับไปที่รีสอร์ท จะได้ไปรื้อฟื้นความจำที่นั่น แต่เธอก็ยืนยันว่าไม่ลาออกเลยเถียงกันไปหลายยก สุดท้ายเธอเลยเดินหนีเข้าห้องนอนยุติการถกเถียงไว้แค่นั้น แต่เมื่อคืนเธอก็คิดเรื่องลาออกอยู่เหมือนกัน เพราะทำงานที่ผับมาจนรู้สึกอิ่มแล้ว จากนั้นก็พาเขาไปรีสอร์ท เผื่อจะทำให้เขาจำอะไรขึ้นมากได้กว่าทุกวันนี้ แล้วจะได้ไปตามทางของแต่ละคน
'แต่ผมไม่ชอบให้คุณไปยืนเต้นยั่วผู้ชายคนอื่น' น้ำเสียงและสีหน้าไม่พอใจของคนบางคนวนเวียนเข้ามาอีกครั้ง จนเธอยังนึกแปลกใจ เพราะเขาทำเหมือนหึงหวงเธอ