ตอนที่ 12

1180 Words
ตอนที่ 12 “ยัยรุ้ง ไปกันได้แล้ว” จิรันธรเร่งเร้า ก่อนจะหันไปยิ้มกับอีกคนที่ไม่รู้ว่าเพื่อนรักไปพูดอิท่าไหนกันถึงได้ออกมานั่งอยู่ตรงนี้ทั้งเธอก็บอกแล้วว่าให้รออยู่ในห้องแต่งตัว “ฉันต้องไปทำงานแล้ว ส่วนคุณ ห้ามไปไหน ห้ามคุยกับใคร แล้วก็ห้ามบอกด้วยว่าชื่ออะไร โอเค้!” “โอเค” เอโด้จำใจรับปากแล้วก็มองหน้าภรรยาสาวด้วยสายตาไม่พอใจเช่นเดิม เพราะยังนึกเคืองที่ภรรยาไม่ยอมไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนรุ้งตะวันก็สะบัดหน้าใส่ก่อนจะเดินเตรียมตัวขึ้นเวทีพร้อมเพื่อนรักที่ตอนนี้ดีเจประจำผับเรียกแล้ว ไม่นานเสียงโห่ร้องก็ดังแข่งกับเสียงเพลงตามมาด้วยสองสาวโคโยตี้ ที่แค่ปรากฏตัวก็เรียงเสียงดังกึกก้อง ทำเอาฉัตรลดาและพาฝันที่เดินออกจากห้องพักมาพอดีถึงกับเบ้ปากใส่อย่างหมั่นไส้ระคนอิจฉา ส่วนคนที่นั่งอยู่ด้านในสุดของผับก็เกิดอาการตาค้างอีกครั้ง เมื่อเห็นคนที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยากำลังเต้นท่ายั่วยวนใส่ผู้ชายนับสิบที่พากันส่งเสียงโห่ร้องชอบใจ ความไม่พอใจฉายชัดบนหน้าที่รกครึ้มด้วยหนวดเครา สักพักเขาก็ผลุนผลันเดินออกจากผับ เอโด้เดินวนไปวนมาอยู่หน้าผับด้วยใบหน้าเคร่งขรึม ภาพภรรยาเต้นด้วยท่าเซ็กซี่และยั่วยวนอยู่บนเวทียังคงวนเวียนอยู่ในหัว แต่จู่ๆ ก็มีภาพบางอย่างซ้อนขึ้นมา 'เขาเคยมาที่นี่' “โอ๊ย!” ร่างสูงใหญ่ทรุดลงกับพื้น ยกมือกุมศีรษะที่ปวดจนแทบระเบิด ผู้คนบริเวณนั้นพากันหยุดมองด้วยความสงสัย แต่ไม่มีใครเข้าไปสอบถามหรือช่วยเหลือแม้แต่คนเดียว ผ่านไปเกือบสิบนาทีเขาจึงลุกขึ้นเดินเซๆ ไปตามทางเดิน หน้าตาก็เต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดโต ส่วนคนที่เต้นอยู่บนเวทีก็ใจไม่ดีเมื่อจู่ๆ คนที่สั่งให้นั่งรอมาลุกหายไป “จีจี้” “ฉันเห็นแล้ว แกออกไปเลย เดี๋ยวทางนี้ฉันจัดการเอง” จิรันธรหันไปยิ้มให้กับนักเที่ยว ที่ต่างก็นึกสงสัยว่าสาวสวยอีกคนลงจากเวทีไปทำไม ส่วนคนที่ลงจากเวทีไปกำลังยืนอยู่หน้าเฮียเจตและเจ๊มณีด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน “เธอจะไปไหน รุ้งตะวัน” เจ๊มณีถามเสียงด้วยสีหน้าไม่พอใจ “รุ้งมีธุระด่วนค่ะเจ๊” “ถึงจะมีธุระด่วนแค่ไหน เธอก็ไม่ควรลงจากเวทีทั้งที่ยังเต้นไม่จบ” “รุ้งขอครั้งนี้ครั้งเดียวค่ะเจ๊ ขอตัวก่อนนะคะ รุ้งรีบจริงๆ” “ถ้างั้นเธอก็ช่วยจำที่พูดไว้ด้วยแล้วกันล่ะ แล้วอย่าให้มีเรื่องแบบนี้อีก” “ค่ะเจ๊” รับปากแล้วเธอก็เดินกลับเข้าห้องไปคว้ากระเป๋า สวมเสื้อคลุมแล้วก็รีบร้อนออกจากผับตามหาคนที่ไม่รู้ว่าหายไปไหนแล้ว 'หายไปไหนของเขานะ' รุ้งตะวันเดินวนหาอยู่หน้าผับหลายรอบแล้วแต่ก็ยังไม่พบ กระทั่งหันมาเจอเพื่อนรักที่พอทำงานเสร็จก็รีบออกมาช่วยเพื่อนตามหาสามี “ยัยรุ้ง! แกหาผัวเจอหรือยังเนี่ย” “ยังเลย ฉันเดินวนหาหลายรอบแล้วไม่เห็นมีเลย ว่าแต่อีตานั่นคิดอะไอยู่นะถึงได้เดินออกมา ทั้งที่ฉันก็สั่งแล้วว่าห้ามไปไหน” รุ้งตะวันบ่นด้วยสีหน้าหงุดหงิดระคนเป็นห่วงคนที่หายไป “คุณเอโด้คงทนมองแกเต้นยั่วผู้ชายอื่นต่อหน้าตาไม่ไหวละมั้งเลยลุกหนีออกมา” “ถ้าเจอตัวคราวนี้ แม่จะอัดให้สลบอีกสักเดือนเลย ชอบหาเรื่องดีนัก” “แกอย่าเพิ่งบ่นเขาเลย ฉันว่าตอนนี้เราแยกย้ายกันหาก่อนเถอะ ถ้าเกิดคุณเอโด้ไปเจอพวกอันธพาลตีหัวอีกที ฉันว่าคราวนี้คงได้สมองเสื่อมแบบถาวรแน่” จิรันธรพูดติดตลกหวังให้เพื่อนรักคลายเครียดลงบ้าง “ถ้างั้นแกรออยู่ที่นี่นะจีจี้ ส่วนฉันจะลองขับรถเลาะหาแถวๆ นี้ดู แต่ถ้าใครเจอกันรีบโทรบอก” รุ้งตะวันเดินไปยังลานจอดรถด้วยท่าทางรีบร้อน ทว่าก่อนจะถึงตัวรถก็มีสามหนุ่มเดินมาดักหน้าเธอเอาไว้ “สวัสดีครับคนสวย” หนึ่งในสามหนุ่มเอ่ยทักทาย พลางมองสำรวจสาวสวยตั้งแต่หัวจรดเท้า “หยิ่งซะด้วย” หนุ่มหน้าละอ่อนสุดในกลุ่มพูดขึ้น “หยิ่งๆ แบบนี้สิดี กูชอบ” ชายหนุ่มที่หน้าตาดูดีกว่าสองคนแรกพูดขึ้นก่อนจะใช้สายตามองอย่างโลมเลีย รุ้งตะวันเดินถอยหนีสามหนุ่มอย่างระมัดระวัง ตาก็คอยมองหาเด็กรับรถที่ไม่รู้ว่าหายไปไหนกันหมด “ขอโทษค่ะ ฉันรีบมาก ขอตัวก่อนนะคะ” รุ้งตะวันเดินแกมวิ่งไปที่รถของตัวเองทันทีหลังจากเบี่ยงตัวออกจากวงล้อมของสามหนุ่มมาได้ จากนั้นเธอก็เปิดประตูรถเข้าไปนั่งแต่ยังไม่ทันได้ปิดประตูหนึ่งสามหนุ่มก็ยื่นมือจับประตูรถของเธอไว้ “กรุณาปล่อยเอามือออกไปด้วยค่ะ” รุ้งตะวันพยายามพูดดีๆ เพราะถ้าเธอไปด่าว่ามีหวังพวกมันสามคนต้องทำร้ายเธอแน่ “คนสวยจะรีบร้อนไปไหนล่ะ อยู่คุยกับพวกพี่ก่อนได้ไหม” “ฉันไม่ว่าง ขอโทษนะคะ” เธอปัดมือของอีกฝ่ายออกจากประตูรถ “เล่นตัวจริงนะคนสวย” มันกระตุกยิ้มเหี้ยม ก่อนจะหันไปมองเพื่อนให้เดินเข้ามาใกล้ๆ เพราะเขาจะจับแม่สาวโคโยตี้หยิ่งยโสคนนี้ปล้ำจูบคารถของหล่อนนี่แหละ แล้วดูสิว่าหล่อนยังจะเล่นตัวอีกไหมถ้าเจอจูบของเขาเข้าไป “มึงรีบจัดการเลย กูสองคนจะได้ทำบ้าง” สองหนุ่มที่เดินเข้ามาใกล้เร่งให้เพื่อนลงมือ “กูจัดการอยู่...” พูดไม่ทันจบประโยคก็ทรุดลงไปกองอยู่กับพื้น ก่อนที่เพื่อนสองคนที่กำลังตกใจกันอยู่ก็โดนทั้งหมัดและลูกเตะล้มแบบไม่ทันตั้งตัว “มึงเป็นใครวะถึงได้กล้ามีเรื่องกับกู” มันชี้ตวาดใส่เจ้าของหมัดหนักหน่วง ก่อนจะพยุงตัวลุกขึ้นมายืนประจันหน้าแม้ความสูงจะสู้อีกฝ่ายไม่ได้ “แล้วมึงล่ะเป็นใคร มายุ่งอะไรกับเมียกู” เอโด้ตวาดกลับอย่างไม่เกรงกลัว “เมียมึงแล้วไงวะ!” “พวกมึงก็ห้ามมายุ่งกับเมียกูไง ไสหัวไปหมด แล้วอย่ามายุ่งกับเมียกูอีก” ชี้หน้าไล่พวกอันธพาลจบแล้วเอโด้ก็เดินไปหาภรรยาที่รถ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD