ยัยเด็กแสบ 60%

1304 Words
“เฮ้ย!!” เสียงแหลมเล็กที่ดังออกมาจากในตู้เสื้อผ้าทำเอาภัทรดนัยสะดุ้งโหยง พอตั้งสติได้ชายหนุ่มจึงรีบหันไปหาต้นเสียงแทบจะทันควัน มีตัวประหลาดทะเล่อทะล่าออกมา นี่ถ้าเขาขวัญอ่อนคงได้วิ่งหนีไปแล้ว “ผีหรือคนวะเนี่ย” …สิ่งแปลกปลอมที่โผล่ออกมาอยู่ในสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิงปิดหน้า มือข้างหนึ่งปิดตาเอาไว้ ส่วนอีกข้างง้างไม้แขวนเสื้อ ภาพที่เห็นทำเอาคนมองเลือกไม่ถูกว่าจะปั้นหน้าให้อยู่ในอารมณ์ไหน แต่ที่แน่ๆ เขาสรุปได้ว่ายัยผีจูออนนี่เป็นคน แม้ว่าจะเป็นคนที่สภาพไม่ต่างจากผีเท่าไรก็ตาม ชายหนุ่มเดินไปหยิบผ้าขนหนูมาพันเอวไว้ลวกๆ ก่อนมาหยุดยืนตรงหน้าผู้บุกรุกแล้วจ้องมองอย่างเอาเรื่อง “เอ้า จะยืนปิดตาอีกนานไหม” “คุณก็ไปใส่เสื้อผ้าก่อนสิ คนไร้มารยาท” “แล้วไอ้คนที่บุกเข้าบ้านคนอื่น แอบเข้าห้องนอนผู้ชายแล้วมาด่าเขาฉอดๆ นี่มันมีมารยาทมากเลยเนอะ” เป็นโจรแล้วยังจะมาชี้หน้าด่าเจ้าของบ้าน ให้ตายเถอะ ภัทรดนัยสวนกลับทันควัน เสียงเหวใส่ของจอมโจรตัวเท่าเมี่ยงไม่รู้เขาคิดไปเองหรือเปล่าว่ามันคุ้นหูแบบแปลกๆ “อะ… ไอ้คนลามก” “ต่อให้แก้ผ้านอนแต่นี่มันก็ห้องของผม ว่าแต่คุณเถอะ ลืมตาแล้วบอกมาว่าเข้ามาในบ้านผมทำไม” …เพราะเมื่อกวาดสายตาสำรวจไปรอบๆ ทั้งห้องไม่มีร่องรอยของการถูกรื้อค้น ของมีค่าไม่ได้หายไปเลยสักชิ้น หรือว่ายัยนี่จะเป็นพวกนกต่อเข้ามาดูลาดเลาเอาไว้ก่อน “ลืมก็ได้ แต่คุณไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนสิ” ผู้บุกรุกออกคำสั่งด้วยใบหน้าแดงจัด เฟญารินมองรอดผ่านนิ้วมือออกมาเหลือบตาขึ้นสูง แต่พอเห็นสายตาเรียวคมที่กำลังมองมา ช่องว่างระหว่างนิ้วก็ต้องรีบหุบลงฉับ แม้เขาจะหล่อจนผู้หญิงค่อนประเทศแทบกรี๊ดสลบ แต่หน้าตาขึงตึงเหมือนจะงับหัวกันให้ได้นั่นมันไม่น่ามองเลยสักนิด แล้วที่สำคัญ… ไอ้หมอปากหมา ผู้ชายแห่งความซวยกำลังยืนตรงหน้าเธอ!! และเหมือนอีกฝ่ายจะรู้ตัว แทนที่จะจับคนร้ายส่งตำรวจ ภัทรดนัยกลับทำในสิ่งตรงกันข้ามคือขยับเข้าไปใกล้ เสียงห้าวที่อยู่ๆ ก็โพล่งขึ้นมาทำเอาคนอายจนหายใจติดขัดแทบจะกรี๊ดออกมาดังๆ “ชอบก็ไม่บอกจะได้ถอดโชว์ซะเลย” คนพูดพูดไม่พอ มือยังดึงผ้าเช็ดตัวที่พันไว้ในระดับหมิ่นเหม่ออกไปเป็นชิ้นแรก และก่อนที่อีกชิ้นจะตามมา…. “พอแล้ว!! ฉันไม่ได้อยากดูสักหน่อย” เฟญารินรีบเอามือออกจากใบหน้าตัวเองแล้วจับหมับไปที่ข้อมือของเขา “แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าเป็นฉัน” คนร้อนตัวถาม สถานการณ์พลิกกลับเมื่อตอนนี้เป็นข้อมือของเธอที่ถูกฝ่ามือใหญ่กว่าล๊อกเอาไว้แน่น เขายิ้มมุมปากมองมาด้วยสายตาไม่แปลกใจเลยสักนิด “ตอนแรกก็แค่สงสัย เพิ่งมาแน่ใจก็คงพร้อมๆ กับเธอนั่นล่ะ” ชายหนุ่มเฉลย “แต่นี่ติดใจถึงขนาดต้องลงทุนบุกบ้านเลยเหรอน้อง มากไปหรือเปล่า เด็กสมัยนี้ไม่ไหวจริงๆ” คำกล่าวหากับสายตาที่มองมาราวกับเธอเป็นเด็กใจแตกเป็นพิษภัยของสังคม ทำเอาคนโดนตราหน้าโกรธจนเถียงออกไปแทบไม่ทัน “คุณน่ะสิไม่ไหว เป็นหมอประสาอะไรพฤติกรรมส่วนตัวโคตรแย่ ไม่รู้จักเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสังคม แล้วอีกอย่างฉันก็อายุยี่สิบสาม ไม่ใช่เด็กอายุสิบเจ็ดสิบแปด อย่ามากล่าวหา” ตามด้วยการผลักแผงอกแข็งๆ ของคนยืนทำหน้ากวนอารมณ์ตรงหน้าให้ห่างออกไปจากตัว เพราะเพิ่งรู้ตัวว่าทำอะไรผิดพลาดบางอย่าง เธอจึงอยากหนีออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด “วู้ กล่าวหาที่ไหน ตัวก็เตี้ย ขาก็ตัน แถมแบนหน้าแบนหลังขนาดนี้ ดูดิ้ ใครจะไม่คิด” คุณหมอพฤติกรรมโคตรแย่ขึ้นเสียงสูงต้นประโยค ก่อนสายตายั่วอารมณ์จะกวาดตามองตั้งแต่หัวจรดเท้า โดยเฉพาะขาตันๆ ของเธอ!! ผู้หญิงตัวเล็กน่ารักน่าเอ็นดูจะตาย ไม่เคยได้ยินบ้างหรือไง!! “จะเตี้ยจะตันมันก็เรื่องของฉัน” แล้วมันเรื่องอะไรที่เธอต้องมาซ้ำเติมตัวเอง บ้าไปแล้ว แล้วต่อให้จะแบนจะสั้นอะไรมันก็เรื่องของเธอไม่เกี่ยวอะไรกับเขา เฟญารินอดคิดอย่างหัวเสียไม่ได้ ไอ้หมอปากหมา ไอ้ผู้ชายหื่นกาม พกถุงยางทีเป็นสิบกล่องขนาดนั้น คงต้องอกคัพดี หุ่นสะบึ้มอย่างนั้นสินะถึงจะถึงอกถึงใจ “อ่าว พอพูดแทงใจดำเข้าหน่อยทำเป็นเดินหนีเลยเหรอน้อง แล้วนั่นจะไปไหน มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนดิ” “อยากคุยก็คุยไปคนเดียว ฉันไม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับคุณ!!” คนตัวเล็กกว่ารวนกลับ แม้รู้ว่าไม่มีเหตุผล แต่เธอก็จำเป็นต้องออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด แล้วดูเอาเถอะ ยิ่งว่าก็เหมือนยิ่งยุ เธอยิ่งดิ้นยิ่งแกะเท่าไรกลับยิ่งถูกข้อมือใหญ่พันธนาการแน่นเข้าไปอีก “คุยคนเดียวก็บ้าดิน้อง” “ปล่อยฉัน!!” “ไม่-ปล่อย” เฟญารินเอี้ยวตัวหลบแทบไม่ทัน เมื่อเขายื่นหน้าเข้ามาอย่างถือดี “ไม่ปล่อยเหรอ งั้นก็ได้ ฉันจะตะโกนให้ลั่นไปเลยว่าคุณเป็นโจรขโมยกางเกงใน” …พอคิดขึ้นมาได้ว่าใช้กำลังไปเท่าไรผู้หญิงตัวเท่ามดอย่างเธอก็ไม่มีทางชนะผู้ชายตัวใหญ่เป็นยักษ์อย่างเขา แถมสู้กับคนมีหมาอยู่ในปาก จะแก้เผ็ดได้ก็ต้องใช้วิธีเดียวกัน “ในบ้านตัวเองเนี่ยนะแม่นางหื่นศรี” เสียงห้าวสวนกลับด้วยความเร็วทันกัน ท่าทางเลิกคิ้วกวนอารมณ์ของเขา เป็นเหมือนชนวนชั้นดีจุดระเบิดอารมณ์ในตัวเธอและมันคงปะทุออกมาในอีกไม่ช้า “บ้านฉัน!!” ต่อให้รู้ว่าตัวเองผิด แต่เวลานี้เฟญารินขอเถียงขาดใจ ยิ่งข้อมือของเขากระตุกดึงตัวเธอให้เข้าไปใกล้ ตอนนี้เธอมีทางเลือกแค่ทางเดียวคือสู้สุดตัว “บ้านพี่โว้ย” “บ้านพี่มิ้นท์ที่เขาให้ฉันมาอยู่ต่างหาก” หญิงสาวหน้าเชิดบอกอย่างไม่ยอมแพ้ คำพูดที่ได้ยินทำให้ภัทรดนัยเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง “อ้อ ที่แท้ก็เด็กหลงทาง บ้านมิ้นท์นั่นมันหลังนู้น แต่นี่น่ะบ้านพี่” ชายหนุ่มสรุป เขาได้รับโทรศัพท์จากมินตราเมื่อเช้าและกำลังจะอธิบายให้เธอฟัง แต่พอดีจังหวะกับที่สายตาเหลือบไปเห็น… เร็วทันกัน ภัทรดนัยถลาเข้าไปกระชากร่างบางเข้ามาหาตัวเมื่อเห็นคนตั้งท่าจะเถียงคอเป็นเอ็นขยับถอยหลังจะไปชนโต๊ะที่เขาวางเตารีดทิ้งไว้ มันยังร้อนหรืเปล่าไม่แน่ใจเพราะเพิ่งผ่านการใช้งานไปประมาณครึ่งชั่วโมง แต่ที่น่าโมโหคือความหวังดีของเขากลับโดนยัยเด็กแสบตีความเป็นอีกอย่าง ขาสั้นพยายามยกเท้าคู่แตะกะเอาตำแหน่งตรงกลางระหว่างขาของเขา นี่คิดอยากจะให้เขาเป็นหมันไปจริงๆ เลยหรือยังไง โครม!!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD