ถึงวันหยุดแล้ว กว่าจะผ่านไปแต่ละอาทิตย์โคตรเหนื่อยเลยโว้ย ฉันเปิดเฟซบุ๊กขึ้นมาเขี่ย ๆ เลื่อน ๆ ตามประสาคนไม่น่าสนใจ แจ้งเตือนไอ้คิมขึ้นเยอะแยะไปหมด ขอส่องหน่อยก็แล้ว
กันฉันเลื่อนดูหน้าเฟซบุ๊กของไอ้คิมจนไปเจอกับ... รูปหนึ่งเข้า...
"น่ะยั๊กที่สวด พี่คิมมี่เลี้ยงหนัง"
ภาษาบ้าบอคอแตกอะไรของมันวะเนี่ย เฮ้อ... เนี่ยน้องมินอาน้องข้างห้องมันนั่นแหละ เห็นชื่อมินอานี่ไม่ใช่เกาหลงเกาหลีอะไรนะ น้องเขาชื่อมิน ชื่อจริงชื่อ อารยา เพื่อนเลยเรียกมินอา (คิมมันเล่าให้ฟัง) จริง ๆ ที่มันถ่ายรูปกับน้องเขามันก็ไม่แปลกหรอก
แต่ที่ฉันน้อยใจ คืออาทิตย์ที่แล้วชวนมันดูเรื่องนี้ มันบอกไม่น่าดู ไม่ไป แล้วนี่อะไร แต่เอ๊ะ... ฉันเลื่อนกลับมาดูเวลาที่โพสต์
เมื่อวานนี้ เวลา 13.07 น.
เอ่อ... นี่มัน... ที่ผิดนัดกับฉันก็เพราะไปดูหนังนี่สินะ ทำไมชอบโกหกอยู่เรื่อยเลยวะ รู้นะเว้ยว่าไม่ใช่คนสำคัญ รู้ว่าไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่ถ้ามึงเห็นกูเป็นเพื่อนจริง ๆ จะโกหกทำไม ความน้อยใจมันเพิ่มทวีคูณขึ้น จนในที่สุดน้ำตามันก็หลั่งไหลออกมา หลายครั้งแล้วทำไมยังไม่ชินอีก นึกถึงตอนที่เขาดีกับเราบ้างดิ เพื่อนก็แบบนี้แหละ จะต้องแคร์อะไรมากมายล่ะรัก
ครืดดด ครืดดด
-คิม-
ฉันปาดน้ำตาแล้วตั้งสติก่อนจะกดรับสาย ไม่อยากให้มันรู้ว่ากำลังงอแงฟูมฟายกับเรื่องที่มันไม่เป็นเรื่อง ยิ่งเรื่องเกี่ยวกับไอ้คิมแล้วด้วย ยิ่งไม่สมควร
"อืม ว่าไง" ฉันพยายามบีบเสียงให้มันปกติที่สุด
"เสียงมึงฟังดูแปลก ๆ นะ เป็นอะไรหรือเปล่า” แต่แค่รับสาย มันก็ถามขึ้นมาแบบนี้ ไม่ต้องมาอยากรู้เลย กูร้องไห้ไง เพราะมึงนั่นแหละ ไม่ต้องมาถามย้ำถามซ้ำเพื่ออะไรทั้งนั้น ไม่อยากได้ยิน
"เปล่านี่ มึงนั่นแหละ มีอะไรหรือเปล่า" ฉันไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืดกับมัน
"เป็นอะไร ตอบกูมาก่อนดิ” น้ำเสียงมันเข้มขึ้น กลับเป็นมันที่ไม่ยอมจบ จะให้บอกไหมล่ะว่าร้องไห้เพราะมึง โกหกกูแล้วไปเที่ยวกับผู้หญิงคนอื่น ทั้งที่นัดกับกูไว้แล้ว
"..."
ฉันยังคงเงียบ ไม่ได้พูดอะไรและฟังมันอย่างเดียว ฉันยังไม่อยากพูดอะไรตอนนี้น่ะ พูดออกไปก็พาลจะร้องไห้เปล่า ๆ
"ใครทำอะไรมึงรัก บอกกูดิ กูจะได้รู้"
ก็มึงไง ไม่รู้บ้างเลยเหรอวะ
"กู... เป็นหวัด"
ขอโกหกบ้างก็แล้วกัน มึงก็ทำกับกูหลายครั้งแล้วนี่
"อ๋อ ไม่สบายหรอกเหรอ แล้วเป็นอะไรมากหรือเปล่า กินยาหรือยัง ไปหาหมอหรือยัง หรือจะไปหาหมอไหม เดี๋ยวพาไป"
ทำเป็นมาห่วง ทีเมื่อวานปล่อยกูรอไม่เห็นจะนึกเป็นห่วงเลยสักนิด
"กินยาแล้ว" ฉันก็ตอบไปส่ง ๆ งั้นแหละ จะกินยาทำไม ร้องไห้เพราะแอบรักเพื่อนนี่มันมียารักษาที่ไหนกัน
"มึงกินข้าวยัง ให้ไปเยี่ยมไหม"
กูไม่ได้อยากเจอมึง ทีตอนนัดกันล่ะไม่เป็นนัด
"ไม่ต้องหรอกกูอยากนอนพัก แค่นี้นะ" พูดจบฉันก็กดวางสายเลย รู้สึกเหมือนจะร้องไห้ว่ะ
-Line-
คิม : ถ้ามีอะไรให้โทรหากูเป็นคนแรกนะ
มือที่ถือโทรศัพท์อยู่มันสั่นไปหมด น้ำตาระลอกที่สองไหลพราก กูอะ นอกจากครอบครัวแล้วก็มีแต่มึงนี่แหละที่นึกถึง มึงต่างหากที่ไม่เคยให้กูเป็นคนแรกบ้างเลย
-Line-
เลโอ : โย่ว ๆ เป็ด
เป็ดอะไรของมันวะ ชื่อไลน์ฉันเหรอ
ฉัน : ไง
เลโอ : (ส่งรูปแคปหน้าจอโพสต์ที่ฉันแชร์มา)
เลโอ : ไปดูมาหรือยัง
ฉันแชร์หนังเรื่องที่ไอ้คิมมันไปดูกับน้องมินอามาน่ะ นี่ก็ยังไม่ได้ไปดูเลย
ฉัน : ยังเลยอะ
เลโอ : ว่างไหม ไปดูไหม หาเพื่อนไปแต่ลืมไปเพื่อนไม่คบ
อารมณ์ไหนของมันวะเนี่ย ทีวันนัดเห็นว้าก ๆ อย่างกับหมา
ฉัน : ไปดิ
ดีเหมือนกันอยากดูมาก เรื่องนี้อะ ชวนไอ้คิมไปก็แห้ว มันดันไปดูกับคนสวย ๆ ก็อย่างว่าล่ะนะ ไอ้รักเอ๊ย แกดันเกิดมาไม่สวยเองนี่หว่า
เลโอ : อีกชั่วโมงหนึ่งไปรับนะ
จะว่าไป มันเช็กรอบหนังแล้วเหรอ มานัดสุ่มสี่สุ่มห้าแบบนี้
ฉัน : เค
ฉันลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว ไม่ได้สวยอะไรหรอกนะแค่หวีผมทาครีมทาแป้งแค่นั้น คำว่าแต่งตัวของฉันคือการทำให้ตัวเองดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาก็เท่านั้นเอง
-Line-
-เลโอ-
เลโอ : ถึงแล้วนะ
ฉันเปิดม่านดูเห็นเลโอนั่งคร่อมรถรออยู่ แต่เห็นแวบๆ เหมือนจะแต่งตัวมาเลยหล่อแฮะ ฉันเดินลงไปหาเลโอข้างล่าง
"แหม ไปดูหนังแค่นี้แต่งตัวเบอร์นี้เลยเหรอ?"
"เปล่านะ นี่อะธรรมดา ชุดอยู่บ้าน” ฉันพยักหน้ารับ
แหมชุดธรรมดาอยู่บ้าน กางเกงยีนแบรนด์แท้ รองเท้าก็แบรนด์ อากาศร้อนอย่างกับอยู่ในนรกยังสะเหล่อใส่แจ็กเก็ตมาอีก แต่ตอนที่กำลังจะขึ้นรถ ก็มองเห็นบางคนขี่รถตรงมาทางพวกเราพร้อมกับห้อยถุงอะไรพะรุงพะรังไปหมด
"อ้าว" มันมองมาที่ฉันสลับกับเลโอไปมาก่อนจะทำหน้าไม่พอใจ
"มาทำไมอะ" ฉันถอยออกจากรถของเลโอก่อนจะหันไปถามมัน
"ก็มึงบอกมึงไม่สบายกูเลยมาเยี่ยม" มันพูดด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้น
"อ้าวรัก ไม่สบายเหรอ" เลโอมันเลยหันมาถามฉันบ้าง
"ปวดหัวเฉย ๆ หายแล้ว" ก็เพราะโกหกไงเลยหายง่าย ๆ แบบนี้
"ตกลงมึงจะไปไหน" คิมแทรกขึ้น
"เลโอชวนไปดูหนัง"
"อ๋อ เรื่องอะไรล่ะ กูว่างไปด้วยดิ”
สะเหล่ออยากดูขึ้นมาเลย ทีกูชวนทำเป็นไม่อยากดู
"เรื่องที่มึงดูเมื่อวานตอนบ่ายอะ"
พอพูดไปแบบนั้น มันหน้าเหวอไปเลยอะ คิดว่ากูไม่รู้ล่ะสิ หึ เป็นไงล่ะมึง แบบนี้คงจะไม่ตามไปแล้วล่ะมั้ง
"เออ สนุกดีกูชอบ เดี๋ยวไปดูด้วย"
อะไรของมันวะตอนชวนไปไม่ไป ทีงี้อยากไปใจจะขาด ดูแล้วก็ยังจะดูอีก
"ตามใจมึงนะ" ฉันจะไปว่าอะไรมันได้ล่ะ อีกอย่างก็อยากไปดูกับมันอยู่แล้วด้วย
"งั้นไปกันเถอะ เดี๋ยวไม่ทัน" เลโอพูดขึ้นมา ดูจากหน้าแล้วเหมือนมันไม่ค่อยชอบไอ้คิมเลยอะ ฉันเดินไปจะซ้อนรถเลโอแต่โดนคิมคว้าแขนเอาไว้ก่อน
"เอาของกินไปเก็บก่อนแล้วไปกับกู เลโอจะไปก่อนก็ได้นะ เจอกันหน้าโรงหนังเลย บ๊ายบาย" เลโอหันมามองหน้าฉัน ฉันจึงพยักหน้าตอบเป็นอันรู้กันแล้วเดินเอาของขึ้นไปเก็บ แต่พอกลับลงมา คิมมันก็ทำหน้าทำตาเหมือนกับจะหักคอฉันอย่างงั้นแหละ
"ขึ้นรถ กูมีเรื่องจะคุยกับมึงเยอะเลย"
ฉันซ้อนรถมากับคิม ตลอดทางมันเงียบไม่พูดอะไรเลย แถมดูแล้วไม่ได้มุ่งหน้าไปที่นัดหมายด้วย
"มึงจะไปไหน"
มันต้องถามแหละ มันไม่ได้ไปตามทางที่จะไปจริง ๆ ฉันรู้สึกได้เลย
"เออ นั่งเงียบ ๆ ไปเถอะ กูเรียบเรียงคำพูดอยู่"
ฉันส่งข้อความไปบอกเลโอว่าน่าจะสายหน่อย มันก็บอกโอเค เช็กรอบหนังแล้วยังพอมีเวลา คิมขับรถมาถึงสวนสาธารณะซึ่งอยู่ไม่ไกลจากห้างที่พวกเราจะไปมากนัก
"มีอะไร" พอลงจากรถฉันก็รีบถามเลย กลัวไปไม่ทันนัด ฉันไม่อยากผิดนัดเหมือนที่มันทำกับฉัน
"มึงรู้จักมันดีแค่ไหน มึงเพิ่งรู้จักมันเองนะเว้ย จะไปไหนมาไหนกับมันง่ายๆ แบบนี้ได้ไง มันมาหลอกมึงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ผู้ชายรักจริงมันน้อยนะเว้ย"
มึงเนี่ย ไม่ใช่แล้วหนึ่ง เป็นบ้าอะไรขึ้นมาอยู่ ๆ ถึงได้มาพูดเรื่องนี้
"กูก็แค่มาดูหนังกันป่าววะ"
ก็ฉันไม่ได้คิดอะไรจริง ๆ
"แล้วถ้ามันพามึงไปที่อื่นที่ไม่ใช่โรงหนังล่ะ มึงจะทำไง มึงจะไปไหน จะทำอะไรบอกกูก่อนได้ไหมวะ เกิดอะไรขึ้นกูจะได้ไปทันเวลา" สีหน้ามันดูจริงจังมาก
"มึง… คิดมากไปปะเนี่ย"
"คิดมากดิวะ ก็กูเป็นห่วงมึง"
ใจมันเต้นไม่เป็นจังหวะเลยว่ะ มันจะรู้บ้างไหม คำว่าเป็นห่วงของมันทำให้ฉันหวั่นไหวแค่ไหน
"กูเข้าใจนะว่ามึงโสดมานาน ไม่เคยมีใครมาจีบ ไม่เคยมีแฟน พอมีคนมาคุยมันก็เป็นอย่างงี้แหละ มึงจะมีแฟนกูไม่ได้ว่าอะไรหรอก แต่อยากให้มึงดูดีๆ ว่าเขาเข้ามายังไง เขาดีหรือเปล่า เพื่อนสนิทกูมีแค่คนเดียวนะเว้ย"
เพื่อนสนิทเหรอวะ ไอ้ที่มึงพูดมาทั้งหมดคือมึงแค่เป็นห่วงเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้นเหรอวะ หัวใจที่มันเต้นแรงจนแทบจะกระเด็นออกมาจากอกนิ่งสงบราวกับหยุดเต้นทันที
"ถ้าเรื่องนั้นมึงไม่ต้องห่วงเลย มันไม่ได้มาจีบหรอก แค่คุยกันตามประสาสายรหัสปะวะ" คิมมันยกมือขึ้นมาจับหัวฉันพร้อมกับขยี้เบา ๆ
"กูแค่ไม่อยากให้มึงเสียใจ ไปเถอะไอ้เลโอมันจะรอนาน"
คนที่ทำให้กูเสียใจตลอดก็มึงเนี่ยแหละคิม ช่วงนี้ก็แทบทุกวัน กูไม่เคยเสียน้ำตาให้คนอื่นเลย
-ที่หน้าโรงหนัง-
ฉันเดินไปหาเลโอที่กำลังนั่งกอดตุ๊กตาเหมือนเด็กเอ๋ออยู่ที่โซฟารับรองแขกหน้าโรงหนัง
"เล่นตุ๊กตาด้วยเหรอเนี่ย"
"จะบ้าเหรอ พอดีเบื่อ ๆ เลยลองไปหนีบตุ๊กตาเล่นมา ได้ตัวหนึ่ง เอาไหม" มันพูดพร้อมกับยื่นตุ๊กตาให้ฉัน
"ไม่เอาอะ เก็บไปให้แฟนเถอะ"
ฉันไม่ใช่สายตุ๊กตาของน่ารักอะไรพวกนั้นหรอก ดูหน้าสิ มันได้ไหมล่ะ
"มีที่ไหน ปากแบบนี้คงมีหรอกแฟนน่ะ รักเอาไปเถอะ" มันยังคงยัดเยียดให้ไม่หยุด ฉันเลยต้องรับมาไว้เป็นมารยาท
"อีกนานไหมกว่าหนังจะเริ่ม" อยู่ ๆ ไอ้คิมก็แทรกขึ้นมา
"สักครึ่งชั่วโมง"
"กินอะไรก่อนไหมที่รัก" มันพูดพร้อมกับโอบไหล่ฉัน อะไรของมันอีกเนี่ย
"นี่เป็นแฟนกันเหรอ" เลโอหันมาถามฉัน
"บ้า ไม่ใช่ เพื่อนกัน" ฉันรีบปฏิเสธพร้อมกับแกะมือไอ้บ้าคิมหันต์ออก
"อ้าว ก็เห็นเรียกที่รัก"
"จริง ๆ เราชื่อที่รักอะ"
"อ๋อ" เลโอพยักหน้ารับ ก่อนจะหันไปมองหน้าไอ้คิม
"เดี๋ยวมานะที่รัก"
ไอ้คิมมันเป็นบ้าอะไรของมันวะ
"อะไรของมึงเนี่ย" คิมเดินไปไหนก็ไม่รู้ แต่ฉันกับเลโอนั่งคุยกันรอมันอยู่สักพักหนึ่งถึงรู้ว่ามันหายหัวไปไหนมา
"อะ ไอติม" มันยื่นไอติมให้กับฉันโดยในมือก็ถือของตัวเองอยู่อันหนึ่ง
"แล้วของเลโอล่ะ"
"อ้าว! ลืม เชี้ยเอ้ย นึกว่ามากันสองคน"
ไม่เนียนค่ะ โคตรไม่เนียน ฉันหันไปค้อนให้มันประมาณ เฮ้ย อย่ามาเนียน กูรู้ว่ามึงแอ๊บ รออีกไม่นานหนังก็เริ่มฉาย เราเดินเข้าไปในโรงหนังแล้วหาที่นั่งของตัวเอง ได้ที่นั่งติดทางเดินพอดิบพอดี
"กูไม่ชอบนั่งติดทางเดินอะ ขอแลกที่กับมึงได้ไหม"
ไอ้คิมนี่มันเรื่องเยอะจริง ๆ
"อะไรของมึงอีกล่ะ" ฉันหันไปกัดฟันพูดกับมันด้วยความโมโห
"กูอยากนั่งตรงกลางไง"
เรื่องมากจริงโว้ย
"เรื่องมากฉิบหายเลยมึงเนี่ย โว้ย!!! " แต่สุดท้ายก็ต้องยอมแลกที่กับมัน กว่าหนังจะจบ ไอ้คิมพากย์จนไม่อยากดู รำคาญมาก หนังจบพวกเราก็หาอะไรกินกันต่อแถวนี้เลยเพราะออกมาก็หิวพอดี
"หนังสนุกเนาะ"
ยังมีหน้ามาพูดอีกเหรอไอ้คิม ไอ้เวร
"น่าจะสนุกกว่านี้ถ้าไม่มีใครเคยดูมาก่อน" เลโอมันดูไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ ก็แหงล่ะ คิมมันเล่าทุกฉากขนาดนั้น สงสารมันว่ะ
"เอ่อ... กินกันดีกว่าเนาะ ดูแล้วน่าจะกำลังหิว" ฉันเริ่มลงมือกินก่อนที่ไฟสงครามมันจะปะทุขึ้น คิมตักกุ้งให้ฉันตัวเบ้อเริ่มจากจานของมัน ไอ้คิม ใจเย็นก่อนนะเพื่อนนะ
"กูแพ้กุ้ง" ฉันรีบบอกมันทันที
"กูฝากวางในจานมึง"
มึงเป็นอะไรวะเนี่ย แปลก ๆ
"อะ เอาอันนี้ดีกว่า วันนั้นเห็นชอบกิน" เลโอตักข้าวโพดอ่อนใส่จานให้ฉันบ้าง ไม่ต้องแดกกันแล้ว มา นั่งป้อนกูเลยดีกว่า
"มึงไม่ชอบกินผักนี่ มากูกินเอง" ไอ้คิมรีบเอาช้อนมาตักผักที่เลโอวางในจานฉัน แต่ฉันก็รีบห้ามไว้ก่อน
"กูชอบกินข้าวโพดอ่อนและผักทุกชนิด" ฉันแย่งมันตักข้าวในจานตัวเอง วันนี้มันแปลก ๆ จริง ๆ นะ
"ไอ้คิม แล้วมึงไม่แดกจานตัวเองอะ"
"ข้าวมึงอร่อยกว่าข้าวกูอะ" เลโอมองไอ้คิมด้วยสายตาโคตรจะสงสัยอะไรสักอย่าง คงจะคิดว่ามันบ้าล่ะมั้ง
ในที่สุดก็กินข้าวกันเสร็จสักที เราสามคนเดินออกมาตรงที่จอดรถ แต่ระหว่างทางมันดันเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น วันนี้ฝนตกค่อนข้างหนักแต่หยุดไปแล้ว ริมถนนเลยมีน้ำขังอยู่เยอะพอสมควร และใช่ รถมันขับมาอย่างเร็วจนน้ำกระเด็นอาบร่างฉันแบบชุ่มฉ่ำเลยทีเดียว แล้วปัญหาคือเสื้อที่ฉันใส่มันเป็นสีขาวไง บางด้วยตายๆๆ
"โทษ ๆ มัวหลบ เลยดึงมาไม่ทันอะ” เลโอหันมาพูด
"ไม่เป็นไรแต่ว่า…." ฉันไม่ได้พูดอัไรต่อ แล้วเลือกที่จะยกมือขึ้นมากอดอกเอาไว้แทน
"ระวังหน่อยดิวะ" ไอ้คิมรีบต่อว่าฉันใหญ่ ก็รถมันมาข้างหลังไหมวะแล้วจะให้ระวังยังไงได้
"รถมันมาข้างหลังไม่ทันเห็นหรอก" เลโอพูดพร้อมกับถอดเสื้อคลุมมาคลุมให้ฉัน ฉันเหลือบไปเห็นอะไรแวบ ๆ เลยหันไปดูทางไอ้คิม
"คิม ม...มึงถอดเสื้อทำไม" ฉันถามอย่างงง ๆ อยู่ดีดีมันถอดเสื้อทำไมล่ะ
"กู… กลัวจะมีรถขับมาเร็วแล้วทำน้ำกระเด็นใส่เสื้อกู"
ไอ้บ้า ฉันส่ายหัวกับอาการร้อนรน ๆ ของมัน ของขาดแค่นี้เป็นขนาดนี้เลยเหรอวะ น่ากลัว...