6

1192 Words
นางร้ายเสียท่า ตำหนักหมอดูนอกเมืองซิงซาน ฟ่านจื่อรั่วต้องเสี่ยงอันตรายอีกครั้ง ยิ่งรู้ว่าหลี่สิงหยางมาถึงชิงซาน และเป้าหมายเขาอย่างที่นางได้ยินจากมารดาก็คือต้องการบุตรสาวของคนสกุลฟ่านไปเป็นพระชายา ตัวเลือกในยามนี้เหลือเพียงนาง นั่นเป็นเพราะฟ่านหรันซีนางกลายเป็นสตรีปัญญาอ่อน ทว่ายามนี้ คนที่เบาปัญญาอย่างแท้จริงกลับเป็นตัวนางเสี่ยนี่ ด้วยพาชีวิตของตนก้าวสู่หายนะ โดยมีผู้อื่นวางหลุมพรางเอาไว้ “คุณหนูให้บ่าวเข้าไปตรวจสอบความปลอดภัยก่อนดีหรือไม่เจ้าคะ” ซ่งเทาสาวใช้ของนางกล่าว และฟ่านจื่อรั่วพยักหน้าให้ ราวๆ หนึ่งอึดใจ ก็มีเสียงดังขลุกขลัก ยามนั้นฟ่านจื่อรั่วใจคอไม่ดีเอาเสียเลย นางต้องการความช่วยเหลือ ทั้งอยากพบหมอดูตาบอดคนนั้นอีกครั้ง อนิจจาสิ่งที่สาวใช้เห็นด้านในคือ หมอดูตาบอดถูกฆ่าตาย และมีสตรีนางหนึ่งสวมชุดขาว แต่งหน้างดงามทาปากสีแดงสดราวกับดื่มกินเลือดเข้าไป ศีรษะประดับด้วยมงกุฎดอกไม้ที่ชวนให้เกิดความรู้สึกคลื่นเ**ยน มากกว่าจะหอม “ที่นี่ปิดแล้ว หากนายเจ้าต้องการความช่วยเหลือ ย่อมต้องพึ่งพาข้า”คนที่เอ่ยคือไต้เชี่ยนเฟย ตำแหน่งนางคือธิดาเทพ สตรีที่อยู่ในความดูแลขององค์ชายสาม ยามนี้นางรับหน้าที่กำจัดพวกหมอดูนอกรีต ที่ไม่ได้ขึ้นตรงต่อสำนักดารา สักพักซ่งเทาถูกผลักออกมา ส่วนคุณหนูของนางยืนตัวสั่น ด้วยข้างกายนอกจากฉางหัวอี้ซึ่งอยู่ในอาการคล้ายคนไม่มีสติ ก็คือหลี่เสิ่นหลัว “สตรีนางนี้คือ คุณหนูฟ่านอีกคนสินะ ใบหน้าพอใช้ได้ เสียดายดูตื่นกลัวมากไปหน่อย” หลี่เสิ่นหัวกล่าวแล้วจึงหัวเราะน้อยๆ เขาคือองค์ชายสามผู้ว่างงาน และชอบความสำราญที่สุด เหนืออื่นใดเขานิยมเรื่องทำนายพยากรณ์ ดังนั้นสำนักดาราจึงมีเขาควบคุมอยู่ และธิดาเทพเห็นในนิมิต ตัวเขาจะได้ก้าวขึ้นเป็นใหญ่ ขอเพียงได้พบกับสตรีตระกูลฟ่าน มีความสัมพันธ์กับนางอย่างลึกซึ้ง ทั้งหมดนั้นง่ายดายด้วยมาถึงเมืองชิงซานไม่ทันไรฟ่านจื่อรั่วก็ปรากฏตัวให้เขาเห็น “คุณชายฉาง หมายความอย่างไรกัน ทะ ท่านติดตามข้ามา แล้วยังมีผู้อื่นด้วย” ฟ่านจื่อรั่วเสียงสั่น อย่างไรนางก็เป็นสตรีที่ยังไม่ออกเรือน และพอมองไปยังใบหน้าหล่อเหลาของหลี่เสิ่นหลัว พบว่าเขากระหายในราคะอย่างไม่ปิดปัง “คุณหนูจื่อรั่ว คนอื่นที่ไหน วันนี้ข้าจะเป็นสามีเจ้าอีกคนอย่างไรเล่า” ฟ่านจื่อรั่วไม่สนว่าเขาจะเป็นใคร มีตำแหน่งยิ่งใหญ่เพียงใด นางรู้แต่ว่าจะไม่มีความสัมพันธ์กับองค์ชายห้า และสำหรับฉางหัวอี้ในยามนี้ ก็ดูเหมือนว่าตนคงขอความช่วยเหลือไม่ได้แล้ว ส่วนหลี่เสิ่นหลัว คนผู้นี้คือองค์ชายที่ไร้ค่า ไม่มีขุนนางคนใดอยากสนับสนุน ยามนั้นนางล้วงเข้าไปอกเสื้อ ได้มีดสั้นเล่มหนึ่งมา ก่อนใช้มันจี้ที่ลำคอระหงของตน “ถอยไป มิเช่นนั้น ข้าจะตายเป็นผีเฝ้าสถานที่แห่งนี้ และอย่าคิดว่า ใครจะรอดพ้นกฎหมายชิงซาน บิดาข้าไม่ยอมปล่อยพวกท่านแน่” “ข่มขู่ข้าหรือ ฮ่าๆ ๆ บิดาแก่ๆ เจ้า หากได้รู้ว่า ลูกสาวพลีกายให้ชายอื่น ก่อนจะได้เข้าหอ ย่อมอับอายขายหน้า ที่สำคัญฉางหัวอี้ผู้นี้ เขาเป็นสหายร่วมเรียนข้า เมื่อครั้งอยู่ที่สำนักศึกษาเมืองทางใต้ และพวกเราไม่มีความลับต่อกัน” ฟ่านจื่อรั่วติดกับดักเข้าแล้ว นางมองไปยังสาวใช้ ต้องการให้อีกฝ่ายส่งสัญญาณให้คนของบิดาเข้ามาช่วยเหลือ ขณะเดียวกันฟ่านจื่อรั่วก็ประเมินว่าผู้ชายทั้งสองคนนี้ มิได้เป็นวรยุทธ์ หากจะเหนือกว่านางก็เพียงแต่ร่างกายสูงใหญ่เท่านั้น มือเรียวจับมือสั้นอย่างมั่นคง จากนั้นเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ร่างกายของฉางหัวอี้ ฝ่ายฉางหัวอี้ที่ถูกยากล่อมประสาทหวิดถูกแทงที่หน้าอก ส่วนหลี่เสิ่นหลัวได้แผลที่หลังฝ่ามือ องค์ชายสามเดือดดาลจัด เขาอยากสั่งสอนนางให้เข็ดหลาบ ยามนั้นผู้ติดตามเขาจึงเผยตัวออกมา และหมายรวบตัวฟ่านจื่อรั่ว ดวงตากลมโตเห็นภาพเหล่านั้นชัดเจน และขนหลังต้นคอลุกซู่ ฟ่านหรันซีเป็นห่วงลูกพี่ลูกน้อง แม้เหตุการณ์ในอดีตพลิกผลันไปอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แจ้งชัดว่านี่เป็นต้นเรื่องที่ทำให้นางต้องไปเป็นพระชายาของหลี่สิงหยางแทนอีกฝ่าย ด้วยต่อมาฟ่านจื่อรั่วกลายเป็นศพเปลือยลอยไปตามน้ำ ใบหน้าเสียโฉมจนแทบจะจดจำเค้าเดิมไม่ได้ กระทั่งไปติดอยู่กับด้านข้างอารามศิลาแดง คดีนางนี้ยังเกี่ยวโยงถึงฟ่านอันเฟิงพี่รองของหญิงสาวด้วย เมื่อฟ่านหรันซีเตรียมซัดอาวุธลับเม็ดทับทิมเงินช่วยฟ่านจื่อรั่ว ทว่ามือเรียวสวยไม่ทันได้กระทำในสิ่งที่ใจมุ่งหวัง ก็กลายเป็นว่ามีมืออุ่นๆ ที่ทั้งหนาและใหญ่ ของใครบางคนมารวบร่างนางไว้จากทางด้านหลัง “โอ้ เด็กสามขวบ ตระกูลฟ่านซุกซนเสียจริง” เขาพูดจบก็หมุนตัวนางไปเผชิญหน้ากัน ร่างกายหญิงสาวแข็งขืน สองแก้มแดงระเรื่อ นางไม่ได้ขัดเขิน หากกำลังโกรธจัดเลยทีเดียว “น้องสาว เจ้าออกมาเล่นไกลเกินไปหรือไม่ หรือที่จวนไม่มีใครสั่งสอน!” เขาไม่ว่าเปล่าหากบีบนิ้วมือนางที่กำเม็ดทับทิมเงินแรงขึ้น จนฟ่านหรันซีตาแดง และริมฝีปากเล็กๆ เบ้เบะ “เจ็บก็ปล่อย และจะเจ็บกว่านี้ ถ้าครั้งหน้ามาแอบถ้ำมองผู้อื่น แล้วคิดทำเรื่องเหลวไหล โดยไม่รู้จักว่ามีอันตรายรออยู่” “เจ็บ...ตะ แต่ ข้า จะช่วยพี่รั่วรั่ว!” “เฮอะ นางรนหาที่ตายเอง ดูเหมือนสตรีแซ่ฟ่าน ชอบก่อเรื่อง ทั้งยังอ่อนด้อยการใช้ชีวิต” ฟ่านหรันซีรังเกียจทั้งคำพูด การแสดงออกของหลี่สิงหยาง และไม่รู้เหตุใด นางได้ย้อนเวลามาเกิดใหม่อีกครั้ง แต่เขายังตามติดตอแยไม่เลิก หญิงสาวถลึงตาใส่อีกฝ่าย ปากอยากพ่นคำร้ายๆ ใส่เขา หากในยามนั้นที่ทำได้ ให้เหมาะสมกับสตรีเบาปัญญาอย่างที่เขาบอกก็คือ “อื้อ... อ๊ะ... โอ๊ย... เจ้า…ปีศาจ” ชั่วประเดี๋ยวเดียวที่นางจู่โจมเขาด้วยการกัดติ่งหูอีกฝ่าย และทำให้หลี่สิงหยางทั้งอึ้ง ทั้งฉงน เอาล่ะเขาเกือบเชื่อแล้วว่า นางเสียสติ “หรันซี หยุด...” เป็นโมงยามนั้นเองที่ทั้งเขาและนางต่างตกอยู่ในภวังค์ หรันซี เยี่ยงนั้นหรือ... คำเรียกเช่นนี้ ทั้งการใช้น้ำเสียง มันบีบรัดหัวใจของฟ่านหรันซีเหลือเกิน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD