ตัดสินใจครั้งใหม่

1117 Words
วันถัดมา หมอติณณ์ที่ได้เบอร์วิลาวัลย์มาแล้ว ก็ไม่อยากให้รอนาน อยากได้คำตอบจากปากสาวสวยเร็วๆ ช่วงกลางวันวันนั้น หมอจึงจัดการโทรหาวิลาวัลย์ทันที "ฮัลโหล สวัสดีครับ" วิลาวัลย์ที่อยู่ในสายเธอไม่คุ้นชินหรือเคยเห็นเบอร์นี้มาก่อน ถึงกดรับก็ยังเงียบอยู่ไม่ได้พูดอะไร เธอรอฟังอย่างเงียบๆ "ฮัลโหล ได้ยินไหมครับ" เมื่อปลายสายเงียบคุณหมอก็ยกหน้าจอขึ้นมาดูพลางขมวดคิ้วพร้อมกับพูดขึ้นอีกครั้ง "เบอร์คุณวิลาวัลย์หรือเปล่าครับ ผมหมอติณณ์ เป็นพี่ชายของหมอจิณณ์นะ!" วิลาวัลย์ที่ได้ยินเธอก็นึกออก รีบกล่าวทักทายคุณหมอใหญ่ทันที (สวัสดีค่ะ คุณหมอ ขอโทษด้วยนะคะ หนูคิดว่าแก๊งคลอเซ็นเตอร์ เบอร์แปลกปกติหนูจะไม่รับ) หมอติณณ์ที่ได้ยินถึงกับยิ้ม นี่เพื่อนของงามวิไลน้องสะใภ้คิดว่า หมอเป็นแก๊งคลอเซ็นเตอร์ไปแล้ว "โอโห ขนาดแก๊งคลอเซ็นเตอร์เลยหรอแบบนี้ งานที่จะคุย ผมคงไม่กล้าคุยแล้วสิ" คุณหมอหนุ่มใหญ่พูดแล้วก็ยิ้ม คิดถึงน้องสะใภ้ที่น้องชายเคยเล่าว่า เมื่อก่อนคิดว่า หมอจิณณ์เป็นเกย์ นี่ละน่าเขาถึงว่า เพื่อนกัน หมอติณณ์ที่ยกโทรศัพท์แนบใบหู แต่ใบหน้าก็ประดับไปด้วยรอยยิ้ม ส่วนปลายสายก็คงไม่ต่างกันนัก ก่อนที่เสียงหวานของปลายสายนั้น จะแก้ต่างให้ตัวเอง "ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ คือช่วงนี้มีเบอร์โทรมาก่อกวนบ่อยๆ เวลารับก็มีแต่แก๊งหลวกลวง หนูเลยไม่รู้ว่าเบอร์ไหนของใคร อีกอย่างเบอร์คุณหมอก็พึ่งโทรเข้ามาด้วย" หมอติณณ์ ที่ยกหูค้างไว้ นั่งฟังเงียบๆ พอวิลาวัลย์เธอพูดจบ หมอก็เริ่มเข้าเรื่องของตัวเองทันที "อืม พอดีงามให้เบอร์ผมมา บอกว่าคุณสนใจอยากย้ายโรงบาลใช่ไหม" "ใช่ค่ะ" เธอตอบเพียงสั้นๆ รอฟังคุณหมอว่าจะพูดอะไรต่อไป แต่หมอติณณ์ก็เกร็งไม่น้อย ก่อนจะเริ่มสอบถาม จุดประสงค์ของเธอ "คือ ผมก็ยังอยากรู้ว่า ที่ย้ายเพราะอยากได้ฐานเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นใช่ไหม รู้สึกว่างามจะเล่าสิ่งที่ผมเสนอไปให้คุณฟังแล้ว ใช่ไหมครับ" "ค่ะ" วิลาวัลย์เธอตอบสั้นๆเหมือนเดิม พร้อมกับเงียบไปจนกระทั่งหมอติณณ์เริ่ม อธิบายรายละเอียดอีกครั้ง " คือ ผมต้องการผู้ช่วยประจำคลินิกที่กรุงเทพ ส่วนเงินเดือนนั้นผมให้เท่าโรงบาลเอกชน อีกทั้งมีค่าล่วงเวลาให้ ส่วนวันหยุดก็หยุดวันเสาร์-อาทิตย์ได้ แต่ถ้าไม่หยุดผมมีพิเศษให้ ผมเข้าใจว่าคุณอยากย้ายมาเอกชน แต่ถ้ามาทำที่คลินิกผม แล้วผมให้เท่าเอกชน คุณจะสนใจไหมครับ" วิลาวัลย์ที่เงียบไปคงคิดตามคำพูดของหมอ ที่จริงเธอแค่คิดว่าจะย้ายไปเอกชน ไม่คิดว่าจะไปทำที่คลินิก แต่เงินเดือนถ้าบวกลบคูณหารได้เท่ากันก็น่าสน เมื่อเห็นปลายสายยังไม่ยอมตอบอะไรกลับมาคุณหมอก็จัดการพูดต่อทันที "อีกอย่างไม่ต้องไปสมัครแข่งกับคนอื่นด้วย แค่คุณรับปากว่าจะมา ผมยินดีเป็นธุระเรื่องที่พักให้" วิลาวัลย์เธอยังไม่ได้ตอบหมอติณณ์ด้วยซ้ำฝ่ายนี้ก็รัวมาไม่ยั้ง จนกระทั่ง เธอต้องพูดขึ้นบ้าง (แล้วคลินิกคุณหมออยู่แถวไหนของกรุงเทพละคะ) เมื่อได้ยินปลายสายพูดแบบนั้น หมอติณณ์ถึงกลับยิ้ม คงมีความหวังบ้าง หมอบอกที่อยู่พิกัด จนชัดเจนก็รอแค่สาวพยาบาลทางนั้นตัดสินใจ (งั้น หนูขอคิดดูก่อนนะ) "ได้ครับ แล้วผมจะรอ" เมื่อคุยธุระกันแล้ว ต่างคนต่างวางสายด้านวิลาวัลย์ เธอก็คิดตามถ้าคลินิกก็ดีไปอย่างดูไม่วุ่นวายเท่าโรงบาล เงินเดือนเท่าเอกชนให้ทุกอย่างเท่าเอกชนถ้าแบบนี้มันก็น่าไป ฝั่งคุณหมอก็ใจดีอุตส่าห์จะเป็นธุระเรื่องที่พักให้อีก เมื่อคิดได้แบบนั้นก็อยากจะโทรคุยกับเพื่อนรักอย่างงามวิไล เธอหยิบมือถือขึ้นมาพร้อมกดโทรออกหาเพื่อน "งาม แกว่างคุยหรือเปล่า" (เอ่อ ทำไมจะเล่าเรื่องผู้บ่าวครูหรือไง) ทันทีที่รับสายเพื่อนก็ไม่วายจะแซวเรื่องครูแม็ก ครูหนุ่มที่เข้ามาขายขนมจีบให้เพื่อน "ยัยบ้องเอ่ย ฉันจะโทรมาเล่าเรื่องพี่ชายผัวแก" (พี่ติณณ์นะหรอ สรุปเขาโทรหาแกแล้วสิ) "อืม" เมื่อเพื่อนตอบแบบนั้น งามวิไลก็เงียบไปสักพัก รอฟังว่าวิลาวัลย์เพื่อนรักจะเล่าอะไรต่อ "คุณหมอ โทรมาก็จริง แต่ไม่ได้คุยเรื่องโรงบาลที่คุณหมอทำอยู่หรอกนะ คือ..คุณหมออยากให้ฉันไปประจำคลินิกให้" วิลาวัลย์พูดเสียงเรียบ เล่ารายละเอียดให้เพื่อนรักฟัง (แล้วแกตอบว่ายังไง ตกลงเลยไหม) งามวิไลถามกลับ อยากรู้ว่าเพื่อนจะตกลงในทันทีหรือไม่ "ก็ยัง..ขอคิดดูก่อน" (จะคิดอะไรอีก คิดนานจัง ตอบตกลงไปเลยก็สิ้นเรื่อง พี่ติณณ์เสนอมาขนาดนั้นแล้วแกห่วงอะไร อย่าบอกนะว่าห่วงผู้บ่าวครู ระหว่างครูกับหมอแกจะเอาอะไร) ยังอุตส่าห์จะถามเพื่อนอีก ยังอุตส่าห์หาทางเลือกให้เพื่อนอีกด้วย ทั้งๆที่หมอติณณ์ยังไม่เอ่ยปากด้วยซ้ำว่าจะจีบเพื่อนของตัวเอง "แกก็พูดไป ครูกับหมออะไรพูดไปทั่ว คุณหมอเป็นผู้ใหญ่แล้ว ส่วนฉันกับแม็กยังไม่ได้เป็นอะไร พึ่งเริ่มคุยกันด้วยซ้ำ แกนี้ประจำเลย" (นั้นแหละ ยังไงหมอก็ดีกว่า พี่ติณณ์โสดอยู่นะ) "ยัย งามวิไล ถ้าขืนแกพูดอีกนะฉันจะไม่ตกลงไปทำงานกับหมอ" เมื่อโดนเพื่อนเอ็ด เธอก็เงียบกลัวว่าวิลาวัลย์จะไม่ตอบตกลงปรงใจไปทำงานกับหมอติณณ์ "ฉันจะคิดดูสักคืน ถ้าหากว่าตัดสินใจแล้วฉันจะโทรหาคุณหมอเอง" เมื่อบอกเพื่อนแบบนั้นแล้ว โทรศัพท์ที่แนบอยู่ที่หูก็ลดลง พร้อมกับกดวางก่อนจะนั่งคิดชั่งใจกับการตัดสินใจครั้งใหม่ ที่จะไปอยู่คลินิกก็ต้องออกจากรัฐบาล แต่เงินก็ดีไม่น้อย แต่...คุณหมอจะจ้างชั่วคราวหรือถาวร นั้นสิอีกเรื่อง **คอมเม้นเป็นกำลังใจให้เรื่องนี้บ้างนะคะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD