Jochou Talk : สวัสดีครับผม ‘โจชัว’ ผู้ชายที่เพื่อนผมต่างให้สมญานามว่าเป็นผู้ชายที่เย็นชาและนิ่งเฉยกับทุกเรื่องที่เข้ามาและเพระหน้าตาของผมที่หวานจนทำให้บางทีมีผู้ชายมาจีบผมด้วยนะ คงจะคิดว่าผมเป็นเกย์ละมั้ง? แต่ก็โดนผมจัดการเพราะผมไม่ชอบเรื่องแบบนี้ ผมเป็นเจ้าของบริษัทหนังสือชื่อดังที่เป็นหนังสือขายดีตลอดเพราะผมก็เคยขึ้นปกของตัวเองนะ ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวรวมถึงเพื่อนสองหน่อของผม ‘เซฟ’ เจ้าของผับชื่อดัง กับ ‘ริว’ เจ้าของโชว์รูมรถที่ใหญ่ที่สุด เราสามคนเคยขึ้นปกหนังสือของผมโดยชื่อว่านักธุรกิจหนุ่มไฟแรง จนเราเป็นที่รู้จักของทุกคนเช่นกัน ตอนนี้เซฟเพื่อนผมก็มีเมียไปแล้วเรียบร้อย ส่วนผมกับริวก็ยังคงควงหญิงมั่วไปเรื่อยเพราะยังไม่มีวี่แววจะมีครอบครัวแบบเซฟสักที ผมเป็นคนที่เก็บความรู้สึกเก่งและมักจะไม่ค่อยสนใจใครเป็นพิเศษ แต่เว้นอยู่คนเดียวที่ทำให้หัวใจของผมเต้นแรงทุกครั้งที่เจอกัน..’มินญา’ ใช่?? เมียเซฟ ผู้หญิงที่ผมแคร์และบอกตรงๆ เลยว่าชอบ!! เหอะ ผมชอบเมียเพื่อนตัวเองอ่ะ ปกติผมไม่เคยยุ่งกับผู้หญิงคนไหนเกินนึ่งวันนะ ผู้หญิงที่ให้ความสุขบนเตียง ผ่านมาและก็ผ่านไปเท่านั้น แต่สำหรับมินญามันมากกว่านั้น ผมชอบเธอ..ชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน ครั้งแรกที่เซฟเริ่มทำลายเธอ ผมเสียใจที่ไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้เลย จนกระทั่งทุกอย่างเปลี่ยนเซฟรักเธอ รักมากจนแทบตายให้เธอได้ ดังนั้นผมก็เลยกลายเป็นคนอกหักที่ชอบเธอแต่บอกออกไปไม่ได้ น่าสมเพช!! โจชัวหนุ่มหล่อไฟแรง หญิงติดตรึมกลับต้องมาแอบชอบเมียเพื่อนตัวเองอย่างสุดใจ เฮ้อออ..ชีวิตมันน่ารัดทด
“พี่โจค่ะ”
“….”
“พี่โจค่ะ!!!”
“อะ ครับๆ มีอะไรครับน้องมิน”
“เป็นอะไรเปล่าค่ะ นั่งเหม่อๆ ป่วยเหรอ?” ผมมองเธอที่มองหน้าผมด้วยสายตาเป็นห่วง ทุกครั้งที่ผมว่างผมจะมานั่งอยู่ที่ร้านกาแฟของเธอทุกวันเพื่อที่จะได้เห็นเธอ ให้หัวใจแข็งกระด้างดวงนี้ได้มีเลือดไปหล่อเลี้ยงหัวใจ..โหยยย!! น้ำเน่าจริง โจเอ๋ยยย..
“เปล่าครับ ว่าแต่มีอะไรล่ะถึงเรียกพี่?”
“อ๋อ คือมินหัดทำเค้กนะค่ะ อยากให้พี่โจลองชิมนะคะๆ ลองชิมให้หน่อยนะ แล้วพูดความจริงด้วยนะ ห้ามโกหก” เธอชี้หน้าผมอย่างยิ้มๆ พร้อมกับส่งจานเค้กครีมสดให้ผม ก่อนที่ผมจะหัวเราะออกมาแล้วตักเค้กกิน อืมๆ..อร่อยแหะ ผมทำหน้าตาแล้วมองมินญาที่จ้องมองผมอย่างลุ้นๆ แกล้งหน่อยดีกว่า
“เป็นไงค่ะพี่โจ?”
“พี่ว่า…”
“ว่าไงค่ะ อร่อยไหม?”
“อืมพี่ว่า…” เธอเขย่าแขนผมอย่างร้อนรน จนผมผุดยิ้มออกมาอย่างขำๆ
“พี่ว่าอร่อยดีนะครับ”
“โหยย..แล้วก็ไม่ยอมพูด มินใจหายหมดเลยนะ” ผมหัวเราะออกมากับท่าทีของเธอที่ทำหน้าบูดๆ ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อมองเค้กในมือ เพราะแบบนี้แหละ ใบหน้าหวานที่รอยยิ้มสามารถสะกดหัวใจของผมให้พองโตได้
“มินจะทำเค้กให้พี่เซฟ พี่โจและก็พี่ริวนะ..แต่พี่โจได้ชิมคนแรกเพราะงั้นก็เอาเค้กไปทานเลยนะคะ มินให้ค่ะ” เธอหยิบกล่องเค้กที่บรรจุอย่างสวยงามส่งให้ผมทันที จนผมที่ได้ฟังก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจ คนแรกเหรอ? เหอะก็ได้แค่นี้ล่ะ
“แล้ววันนี้ไอ้เซฟมารับไหมครับ?”
“อืม น่าจะไม่นะคะเห็นบอกว่ามีปัญหาที่ท่าเรือให้มินไปรอที่ผับนะค่ะ”
“อ๋องั้นเดี๋ยวไปกับพี่แล้วกันนะครับ”
“ได้ค่ะ” ผมมองมินญาที่ตักเค้กชิมพร้อมกับทำหน้าแบบอร่อยมาก เธอทรมานมานานเพราะไอ้เซฟ แต่ตอนนี้เธอกำลังมีความสุขและใช่ผมอยากให้เธอยิ้มและมีความสุข ไม่อยากเห็นน้ำตาของเธอแม้แต่นิดเดียวเลยล่ะ
กริ๊ง!!
“กินกาแฟร้านนี้แล้วกัน เยล” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นเดินเข้ามาในร้านด้วยกันสองคน แต่งตัวสวยราวกับดารา ผมมองผู้หญิงที่ตัดผมบ๊อบเทสั้นสีแดงพร้อมกับแต่งตัวด้วยชุดเดรสสีดำสั้น ก่อนจะถอดแว่นสีชาออกไป ใบหน้าสวยแต่งหน้าอย่างเปรี๊ยวจี๊ดกวาดตามองไปทั่วแล้วนั่ลงไขว่ห้างอย่างหยิ่งๆ
“เดี๋ยวมินไปรับออร์เดอร์ก่อนนะค่ะ”
“ครับ เดี๋ยวพี่ช่วยนะ” มินญาพยักหน้าแล้วเดินไปรับออร์เดอร์กับผู้หญิงสองคนนั้นส่วนผมก็ไปยืนรอที่หน้าเคาร์เตอร์
“รับอะไรดีค่ะ?”
“เยลแกเอาอะไร”
“อืม ลาเต้แล้วกัน”
“ลาเต้และก็กาแฟดำ…”
“ค่ะ สักครู่นะคะ” ผมมองมินญาที่ยิ้มให้ผมแล้วจัดการชงกาแฟตาที่สั่ง ส่วนผมก็ช่วยเธอหรือมาเป็นภาระก็ไม่รู้นะ เหอะ!!
“นี่รัน แกไม่ไปถ่ายแบบเหรอเดี๋ยวผู้จัดการก็ปรี๊ดแตกอ่ะ”
“หึช่างสิ ใครสนล่ะ..”
“เฮ้ยแต่แกได้ลงปกนิตยาสารดังเลยนะ..อืมรู้สึกว่าจะเป็นหนังสือของบริษัทโจชัวกรุ๊ป” ผมขมวดคิ้วแล้วมองผู้หญิงผมสีแดงที่เบ้ปากอย่างหงุดหงิด นี่หนังสือผมจ้างยัยคนที่ไม่รู้จักรับผิดชอบงานคนนี้นะเหรอ? เดี๋ยวต้องโทรถามเครนซะหน่อยดิ ผมอาสาช่วยมินญาเอากาแฟไปเสิร์ฟเพื่อนยัยนี่ก็มองผมอย่างหยาดเยิ้ม แต่ผมนะเหรอ หึไม่มีทางชายตามองเด็ดขาด!!
“ยี้..ทำไมกาแฟมันขมแบบนี้ล่ะ!!”
“อะค่ะ ก็คุณสั่งกาแฟดำ?” มินญาเดินมาทันทีที่ยัยนี่โวยวายพร้อมกับวางแก้วกาแฟลงอย่างแรง
“แล้วไงย่ะ จะไม่คิดใส่น้ำตาลให้หน่อยเหรอ!!”
“ตะ แต่…”
“ห่วยแตกสิ้นดี ขายแบบนี้ปิดร้านไปเหอะ!!” ผมขมวดคิ้วทันทีแล้วหันไปมองมินญาที่ก้มหน้าลงอย่างนิ่งๆ ยัยนี่!!
“นี่คุณ ก็คุณสั่งกาแฟดำ..ย้ำนะว่ากาแฟดำ!! จะให้ใส่น้ำตาลได้ไง และถ้าใส่มาคุณก็จะด่าแบบนี้หรือเปล่า? เป็นลูกค้าอย่าคิดว่าจะมาเอาแต่ใจแบบนี้นะ อีกอย่างร้านนี้อ่ะไม่เคยขาดลูกค้า!!”
“นะ นี่นาย!!”
“ทำไม??”
“พี่โจค่ะ พอเถอะค่ะ..ขอโทษด้วยนะคะเดี๋ยวฉันจะทำให้ใหม่?” มินญาก้มหน้าลงแล้วจับแขนผมแน่นไม่โผล่ไปบีบคอยัยหัวแดงนี่ เหอะ
“ไม่ย่ะ ร้านห่วยแตก..พนักงานห่วยแตก ฉันไม่กิน!!!” ยัยบ้านี่วางเงินแล้วเดินหมุนตัวออกไปแต่…
“ว๊ายยย!!”
หมับ!!
“เป็นอะไรเปล่าครับ?” เซฟที่เดินพรวดพราดเข้ามาเปิดประตูอย่างแรงจนยัยนี่เสียหลักเกือบล้มลง แต่เซฟก็ประคองเอวของยัยนี่ไว้
“อะ อะ เปล่าค่ะ ขอบคุณ..” ผมมองยัยนั่นที่มองเซฟด้วยสายตาหวานหยด ก่อนที่เซฟจะพยักหน้าให้แล้วเดินตรงมาหามินญาแล้วหอมแก้มทันที
“คิดถึงเมียจังเลย..”
“พี่เซฟ ทำอะไรคนเยอะแยะ”
“ทำไมอ่ะ คนมันคิดถึงเมียนี่น่า..อ้าวแล้วแกมาอยู่กับเมียฉันได้ไงว่ะ?”
“ก็ว่างอ่ะ”เซฟเบ้ปากแล้วกอดมินญาอย่างอ้อนๆ ผมเลยส่ายหน้าไปมาแล้วมองยัยหัวแดงที่ยังคงมองเซฟอย่างอึ้งๆ ก่อนจะแสะยิ้มแล้วเดินออกไป
“แล้วไงค่ะ ไหนบอกว่าไม่ว่าง?”
“ก็บอกแล้วไงว่าคิดถึงเมียก็เลยสั่งให้เนโรจัดการไป แล้วพี่ก็รีบบึ้งรถมาหามินเลยไงครับ จุ๊บๆ” ผมมองเซฟที่จูบแก้มมินญาอย่างแรงจนผมที่เห็นจี๊ดนิดหน่อยอะนะ
“เฮ้ยฉันกลับก่อนดีกว่า เจอกันที่ผับ”
“เออๆ โทรหาริวด้วย” ผมพยักหน้าแล้วเดินออกจากร้านทันทีก่อนจะเปิดประตูรถแล้วขับออกไป เฮ้อออ..
“เมียเพื่อนนะเว้ยโจ..คิดบ้าอะไรว่ะ?”