CHAPTER 1 “รับตำแหน่ง”
เสียงส้นรองเท้าหนังกระทบพื้นดังเป็นจังหวะอย่างสม่ำเสมอ เรียกสายตาของเจ้าหน้าที่ที่อยู่บริเวณนั้นให้หันมามองสารวัตรหน้าใหม่ที่กำลังเดินเข้ามาในอาคารกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด
‘สารวัตรนัท’ อยู่ในชุดเครื่องแบบนายตำรวจเต็มยศ สำหรับการรายงานตัวเพื่อเข้ารับตำแหน่งครั้งแรกในหน่วยงานใหม่ หลังจากที่ได้รับการปรับยศจากผลงานที่โดดเด่นหลายคดีในช่วงที่ผ่านมา
การรายงานตัวต่อผู้บังคับบัญชาถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการทำงานวันแรกในตำแหน่งใหม่และสังกัดใหม่ สารวัตรนัทเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องผู้บังคับบัญชา สูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อเรียกสติและลดความตื่นเต้นลง แล้วจึงยกมือเคาะประตูเพื่อขออนุญาตเจ้าของห้องเข้าไปด้านใน
นายตำรวจใหญ่เจ้าของห้องยืนขึ้น เพื่อต้อนรับผู้ใต้บังคับบัญชา เมื่อสารวัตรหยุดยืนทำความเคารพ
“ผม พันตำรวจตรีชนรรทน์ อัศวโกศล สารวัตรสืบสวน สังกัดกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด รายงานตัวครับ” สารวัตรนัทกล่าวรายงานตัวกับผู้บังคับบัญชา
“สวัสดี ไม่ต้องมากพิธี เชิญนั่งก่อน” พันตำรวจเอกชัชชัย ผู้บังคับบัญชาคนใหม่เอ่ยอย่างเป็นกันเอง พร้อมกับผายมือเชิญให้สารวัตรนั่งลงตรงข้ามโต๊ะทำงานของตน
“ไม่คิดว่าสารวัตรคนใหม่ของทีมเราจะยังหนุ่มยังแน่นขนาดนี้ ได้ข่าวว่าผลงานเป็นที่เลื่องลือทั้งที่อายุยังน้อย ผมหวังว่าสารวัตรจะมาช่วยเป็นกำลังสำคัญให้ที่หน่วยเราได้เป็นอย่างดีนะ” พ.ต.อ.ชัชชัยกล่าว
“ผมจะทำงานอย่างเต็มความสามารถครับ” สารวัตรนัทตอบด้วยความมั่นใจ
“ผมเชื่อว่าจะเป็นอย่างนั้น แล้วท่านรองกับคุณหญิงสบายดีใช่มั้ย ไม่ได้เจอทั้งสองท่านนานแล้วเหมือนกัน” พ.ต.อ.ชัชชัย เอ่ยถามถึง พล.ต.ต.ชนธรรม อัศวโกศล พ่อของสารวัตร
“คุณพ่อคุณแม่สบายดีครับ ช่วงนี้คุณพ่อเองก็งานยุ่ง ผมเองก็อยู่ในช่วงย้ายสังกัด คุณแม่บ่นแทบทุกวันที่ไม่เห็นหน้าผมกับคุณพ่อ” สารวัตรตอบ
“แบบนี้แหละ เรื่องปกติ ท่านรองเองก็โหมงานหนักมาแต่ไหนแต่ไร ส่วนลูกชายคนเดียวของท่านก็ทุ่มเทกับงานจนได้เลื่อนยศไวขนาดนี้ คุณหญิงจะบ่นก็ไม่แปลกนะ หาลูกสะใภ้ไปอยู่เป็นเพื่อนท่านซักคนสิ เผื่อจะได้หายเหงา” ผู้บังคับบัญชาเอ่ยแนะนำ
“คนไม่ค่อยมีเวลาให้ใครแบบผม ไม่รู้ว่าผู้หญิงเค้าจะทนได้แค่ไหนนะครับ” สารวัตรตอบยิ้ม ๆ
“เอาน่า วัยนี้กำลังรุ่ง โหมงานไหวก็สู้ไป เดี๋ยวอีกหน่อยก็สบายแล้ว” ผู้บังคับบัญชายิ้มให้กำลังใจ “ไป เดี๋ยวผมจะพาไปแนะนำให้รู้จักทีมที่สารวัตรจะต้องทำงานด้วย” พ.ต.อ.ชัชชัย ลุกขึ้นเดินนำหน้าสารวัตรออกจากห้องไป
สารวัตรเดินตามผู้บังคับบัญชามาหยุดอยู่ที่ห้องทำงานของกองปรามปราบยาเสพติด กองกำกับการ 1 นายตำรวจที่อยู่ในห้องพร้อมใจกันยืนทำความเคารพผู้มาใหม่ทั้งสองคน
“ผมพาสารวัตรคนใหม่มาแนะนำให้รู้จักนะ นี่สารวัตรชนรรทน์ อัศวโกศล จะมาทำงานกับหน่วยเราตั้งแต่วันนี้ ทีม 1 เดี๋ยวตามผมเข้าไปในห้องประชุมนะ ที่เหลือก็ทำงานกันต่อตามสบาย” พ.ต.อ.ชัชชัยเอ่ย
พ.ต.อ.ชัชชัย เดินนำสารวัตรไปที่ห้องประชุมเล็ก พร้อมเอ่ยเชิญให้สารวัตรนั่งลง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ทีม 1 ทั้งหมด จะเดินตามเข้ามายืนเรียงกันอยู่ตรงข้ามสารวัตร
“ต่อไปนี้ทั้ง 4 คนนี้จะทำหน้าที่เป็นกำลังสำคัญให้กับทีมสืบสวนของสารวัตร ทำความรู้จักกันไว้ วันนี้วันแรกคงยังไม่มีอะไรมาก เดี๋ยวพวกคุณก็แนะนำตัวกันไป ผมฝากหมวดพาสารวัตรไปดูห้องทำงานด้วยนะ มีอะไรก็ถามผมได้ ขาดเหลืออะไรก็แจ้งผมมาได้เลย” พ.ต.อ.ชัชชัย กล่าวก่อนที่จะขอตัวกลับออกไป
“เชิญนั่งตามสบายครับ เราทีมเดียวกัน ไม่ต้องมีพิธีอะไรหรอก จะได้ไม่ต้องเกร็ง” สารวัตรเอ่ยกับทุกคน ทั้งสี่หันมองหน้ากัน ก่อนจะพยักหน้าเป็นสัญญาณให้นั่งตามที่สารวัตรเชิญ
“งั้นพวกผมขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมร้อยตำรวจโทเมธียุทธ์ เรียกหมวดเม่น ก็ได้ครับ” หมวดเม่นเอ่ยแนะนำตัวคนแรก เพราะถือว่ายศสูงกว่าคนอื่น ๆ ในทีม
“ผมร้อยตำรวจตรีสุรชัช ครับ เรียกสั้น ๆ ว่าหมวดเสือ เรียกยาว ๆ ว่าหมวดเสือสุดหล่อ” สารวัตรหลุดขำกับการแนะนำตัวอย่างเป็นกันเองของหมวดเสือ
“มั่นหน้ามากหมวด ตอนนี้หมวดไม่ได้หล่อที่สุดที่นี่แล้ว สารวัตรหล่อกว่าหมวดเยอะ หมวดชิดซ้ายไปเลย สวัสดีครับสารวัตร ผม ดาบตำรวจนิติพัฒน์ หรือดาบนิวครับ ที่หน่วยเรามีนิวเดียว และทุกคนรู้จักผมหมด” ดาบนิวแขวะหมวดเสือก่อนจะหันมาแนะนำตัวกับสารวัตร
“ผม จ่าสิบตำรวจกรชัยครับ เรียกจ่ากรก็ได้ เรียกจ่าชัยก็ได้ แต่คนอื่น ๆ ที่นี่เรียกผมว่าจ่ากร ยินดีที่ได้ร่วมงานกับสารวัตรนะครับ” จ่ากรแนะนำตัวเป็นคนสุดท้ายของทีม
“สวัสดีครับทุกคน ผมพันตำรวจตรีชนรรทน์ เรียกสารวัตรนัทก็ได้เช่นกันครับ ยินดีที่ได้ร่วมงานกับทุกคน ฝากตัวด้วยนะครับ มีอะไรก็แนะนำกันได้เลย” สารวัตรยิ้มทักทายคนในทีม
“ผมขอถามหน่อย สารวัตรอายุเท่าไหร่ครับ หน้ายังเด็กอยู่เลย” ดาบนิวเอ่ยถามหลังจากสารวัตรแนะนำตัว
“ผม 28 แล้วครับ” สารวัตรตอบพร้อมรอยยิ้มขัน เมื่อทั้งสี่ทำหน้าตกตะลึง
“หมวดเม่น สารวัตรเด็กกว่าหมวดอีกนะ หมวดแก่ไปเลยอ่ะ” ดาบนิวหันไปแซวหมวดเม่น ก่อนจะถูกฝ่ามือหมวดเม่นประทับรอยเข้าที่ไหล่อย่างแรง
“ไม่ต้องย้ำมั้ย ไม่ได้แก่กว่าเยอะซะหน่อย ยังไงสารวัตรก็เป็นหัวหน้าผมอยู่ดี” หมวดเม่นสวนกลับดาบนิว
“ว่าแต่ สารวัตรสนใจเลี้ยงต้อนรับทีมมั้ยครับ ก่อนที่จะไม่มีเวลาว่าง ผมว่าไปกับสารวัตรนี่สาว ๆ ตรึมแน่นอน ยกเว้นแต่ว่าสารวัตรมีเจ้าของแล้ว ถ้าไปนี่ต้องขออนุญาตก่อนมั้ยครับ” หมวดเสือเอ่ยชวน
“เดี๋ยวนะหมวด ผมว่าเราต้องเลี้ยงต้อนรับสารวัตรมั้ย สารวัตรมาใหม่ ไม่ใช่ให้สารวัตรมาเลี้ยงพวกเรา” จ่ากรเอ่ยขัดหมวดเสือขึ้น
“เอ้า!! จ่าอย่าขัดดิ สารวัตรเลี้ยงอ่ะถูกแล้ว ตำแหน่งใหญ่กว่าไง เงินเดือนเยอะกว่า เพราะฉะนั้นตำรวจเงินน้อยแบบพวกเราก็ต้องประหยัดไว้ก่อน จริงมั้ยหมวด” ดาบนิวหันไปขอความเห็นหมวดเสือ
“ใช่จ่า หรือจ่าจะเลี้ยง ได้นะ ผมไม่ติด ว่าไงครับสารวัตร สรุปมีเจ้าของรึยัง” หมวดเสือถามย้ำ
“เอ๊ะหมวด สารวัตรจะมีเจ้าของมั้ย มันเป็นประเด็นด้วยรึไง” หมวดเม่นถามด้วยความสงสัย
“เป็นดิหมวด ถ้าสารวัตรไม่มีเจ้าของ หมายความว่าถ้าเราไปด้วยกัน สาว ๆ ก็เสร็จสารวัตรหมด ไม่ตกมาถึงพวกเราแน่นอน แต่ถ้าสารวัตรมีเจ้าของ เราก็อาศัยหน้าสารวัตรเป็นตัวดึงดูดสาว ๆ เข้ามา แต่เราก็ทำคะแนนได้เต็มที่ เพราะสารวัตรเล่นด้วยไม่ได้ไง” หมวดเสืออธิบายให้ทุกคนฟัง สารวัตรเองก็ได้แต่ยิ้มขำให้กับความคิดของหมวดเสือ
“ไม่ต้องเถียงกันครับ เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง ถือว่าเป็นการกระชับสัมพันธ์ของทีมเรา ส่วนเรื่องสาว ๆ ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมมีเจ้าของหัวใจแล้ว ไม่ไปแย่งทำคะแนนกับหมวดแน่นอน” สารวัตรยืนยันเสียงหนักแน่น
“นั่นไง ว่าแล้ว เบ้าหน้าฟ้าประทานขนาดนี้ ไม่เหลือรอดแน่นอน ไม่เหมือนหมวดเสือ ชื่นชมตัวเองว่าหล่อ แต่ไม่ยักมีแฟนเป็นตัวเป็นตน” ดาบนิวหันไปแขวะหมวดเสือต่อ
“อ่าว ผมอยู่เป็นสมบัติของกรมตำรวจไงครับ ถ้ามีเจ้าของแล้วแบบสารวัตรนี่ สาว ๆ ก็จะพลอยเศร้า เราต้องอยู่ครองตัวเป็นโสด เป็นสามีมโนและเป็นรอยยิ้มให้สาว ๆ” หมวดเสือยืดอกด้วยความภูมิใจ
“สารวัตรอย่าไปใส่ใจพวกนี้เลยครับ วัน ๆ ไม่ได้มีสาระอะไรหรอก เดี๋ยวผมพาสารวัตรไปดูห้องทำงานดีกว่าครับ เผื่อมีอะไรขาดเหลือจะได้จัดการให้ทัน” หมวดเม่นลุกขึ้นเตรียมตัวพาสารวัตรไปดูห้องทำงาน
“ขอบคุณครับ นำไปเลยครับ ที่เหลือแยกย้ายไปทำงานเลยก็ได้นะครับ เดี๋ยวผมให้หมวดเม่นนำไปได้” สารวัตรหันไปบอกคนอื่น ๆ ในทีม
“ครับ ถ้ามีอะไรเรียกพวกผมได้เลย พวกผมนั่งอยู่หน้าห้องสารวัตรนั่นแหละครับ” จ่ากรลุกขึ้นเอ่ย
หมวดเม่นเดินนำสารวัตรนัทไปที่ห้องทำงานที่ถูกจัดตกแต่งใหม่ ภายในห้องถูกจัดวางด้วยโต๊ะทำงานตัวใหญ่ 1 ตัว พร้อมทั้งตู้เก็บเอกสารและเสาสำหรับแขวนเครื่องแบบ ทุกอย่างภายในห้องดูสะอาดตาและได้รับการตกแต่งมาเป็นอย่างดี
“ห้องนี้ผู้กำกับให้คนจัดให้ใหม่เลยครับ หลังจากที่หัวหน้าทีมคนเก่าย้ายออกไป สารวัตรอยากได้อะไรเพิ่มเติมมั้ยครับ ผมจะได้จัดการให้” หมวดเม่นถามเมื่อเดินเข้ามาด้านในห้องแล้ว
“ไม่น่ามีอะไรนะครับหมวด แล้วปกติประชุมทีมกันที่ไหนครับ หรือใช้ห้องประชุมร่วมกันทุกทีม” สารวัตรเดินดูรอบ ๆ ห้อง พลางหันไปถามหมวดเม่นเพิ่มเติม
“ห้องที่เรานั่งกันเมื่อกี้เป็นห้องประชุมรวมครับ ส่วนใหญ่จะใช้กรณีที่ต้องสรุปคดีใหญ่ที่ทำร่วมกันมากกว่า 1 ทีม หรือคดีที่ผู้กำกับลงมาคุมเอง ส่วนถ้าเป็นประชุมทีม เรามีห้องประชุมแยกต่างหากของแต่ละทีม ซึ่งจะเข้าได้เฉพาะคนในทีมเท่านั้นครับ เดี๋ยวผมจะพาสารวัตรไปบันทึกลายนิ้วมืออีกที” หมวดเม่นอธิบาย
“ได้ครับ งั้นไปกันเลยจะได้ไม่เสียเวลาหมวดด้วย” สารวัตรและหมวดเม่นพากันเดินออกจากห้องไปที่ห้องประชุมทีม เพื่อบันทึกลายนิ้วมือสำหรับเข้าใช้งานภายในห้องประชุม ก่อนหมวดเม่นจะพาสารวัตรนัทเดินแนะนำสถานที่ทั้งภายในและภายนอกอาคารกองบัญชาการ
สารวัตรนัทกลับเข้ามาในห้องทำงาน ก่อนจะถอดเครื่องแบบออกเหลือเพียงเสื้อยืดสีขาวด้านใน แล้วสวมทับด้วยแจ็คเก็ตสีดำ พร้อมกับคล้องบัตรประจำตัวติดตัวไว้
วันแรกสำหรับการทำงานในสังกัดใหม่ยังคงไม่มีอะไรให้ทำมากนัก สารวัตรหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา เมื่อเห็นว่าใกล้เที่ยงแล้ว จึงตัดสินใจกดโทรออกหาเจ้าของหัวใจ เพื่อรายงานเรื่องที่จะไปสังสรรค์กับทีมคืนนี้
‘สวัสดีค่ะ’ เสียงปลายสายงัวเงียขึ้นมารับโทรศัพท์ ไม่ต้องเดาสารวัตรก็รู้ว่าอีกคนยังหลับอยู่แน่นอน
“ยังไม่ตื่นหรอคะเด็กแสบ ทำไมวันนี้ตื่นสายคะ” สารวัตรเอ่ยถามปลายสายออกไป
‘เมื่อคืนหนูกลับดึกค่ะ ปวดหัวนิด ๆ ด้วย ตื่นมากินข้าวกินยาแล้วก็เลยนอนต่อ’ ปลายสายตอบเสียงอ่อน
“เป็นอะไรมากมั้ยคะ ไปหาหมอมั้ย” สารวัตรถามออกไปด้วยความเป็นห่วง
‘ไม่เป็นอะไรมากค่ะ น่าจะเครียดเรื่องงานด้วย เมื่อคืนก็มีเรื่องนิดหน่อย นี่ก็ดีขึ้นแล้วค่ะ พี่นัทโทรมาหาหนูมีอะไรรึเปล่าคะ’ ปลายสายพยายามไม่ให้สารวัตรกังวล
“พี่ว่าจะโทรบอกหนู ว่าวันนี้พี่ต้องไปกินเลี้ยงกับทีมใหม่นะคะ ยังไม่รู้จะเลิกกี่โมง ถ้าดึกพี่อาจจะไม่ได้แวะไปหา ช่วงนี้คุณแม่บ่นว่าไม่ค่อยเห็นหน้าพี่เลย พี่ว่าจะกลับไปให้แม่เห็นหน้าหน่อย” สารวัตรนัทเอ่ยเข้าเรื่องที่จะโทรมาบอก
‘พี่นัทจะไปเลี้ยงกันที่ไหนคะ กินข้าวหรือไปดื่ม มีสาว ๆ มั้ยเนี่ย หนูหวงนะ’ เด็กแสบถามกลับเสียงเข้ม
“น่าจะทั้งกินข้าวทั้งดื่มเลยค่ะ แต่คงไม่ได้ดื่มเยอะหรอก ไปกันแค่ 5 คน ส่วนสาว ๆ พี่ไม่ยุ่งอยู่แล้วหนูก็รู้ พี่ไม่นอกใจหนูแน่นอน ไม่เชื่อใจพี่หรอคะ” สารวัตรถามปลายสายพร้อมรอยยิ้ม เค้ารู้ว่าเธอเชื่อใจเค้า แค่ขู่เป็นแมวน้อยให้เป็นพิธีแค่นั้นแหละ
‘พี่นัทก็รู้ หนูไว้ใจและเชื่อใจพี่อยู่แล้ว แต่สาว ๆ พวกนั้นไม่น่าไว้ใจ พี่นัทอาจจะไม่ยุ่ง แต่ถ้าสาว ๆ มายุ่งกับพี่ล่ะ ไหนจะดื่มกันอีก ถ้าเมาแล้วจะขับรถยังไงคะ เป็นผู้รักษากฎหมายจะมาฝ่าฝืนกฎหมายแบบนี้ได้ยังไง ไม่ได้หรอก พี่นัทต้องให้คนขับรถไปรับแล้วก็ไปส่งที่บ้าน ไม่งั้นก็ห้ามดื่ม’ ปลายสายรัวกลับมาเป็นชุด
“งั้นพี่พากันไป MPP ดีมั้ย หนูจะได้สบายใจ เดี๋ยวพี่ให้คนในทีมไปพร้อมพี่เลย ขากลับก็ให้คนขับรถมารับกลับ แบบนี้โอเคมั้ยคะ” สารวัตรยื่นข้อเสนอกลับไป
‘แบบนั้นก็ได้ค่ะ แล้วพี่นัทจะว่างมาหาหนูมั้ย เราไม่ได้เจอกันมาหลายวันแล้วนะคะ ช่วงนี้พี่นัทยุ๊งยุ่ง’ เสียงปลายสายงอแงกลับมา
“โอ๋...ไม่งอแงนะคะ ช่วงนี้พี่ย้ายสังกัดใหม่ หลังจากนี้น่าจะมีเวลาแล้ว เดี๋ยวพี่จะแวะไปหาหนูบ่อย ๆ ดีมั้ยคะเด็กแสบของพี่” สารวัตรรับปากปลายสายไป
‘สัญญาแล้วนะคะ หนูคิดถึงจะแย่แล้ว ยังไงพี่นัทถึงร้านแล้วไลน์มาบอกหนูด้วยนะคะ’ เสียงปลายสายตอบกลับมา ทำสารวัตรยิ้มกว้างอย่างมีความสุข
“พี่ก็คิดถึงหนูค่ะ เดี๋ยวถ้าถึงแล้วพี่ไลน์บอกนะ หนูพักผ่อนเถอะ ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องฝืนนะคะ นอนไปเลย พี่เป็นห่วง ดูแลสุขภาพด้วย อย่าโหมงานหนักเกินไป” สารวัตรกำชับเสียงเข้ม
‘ค่า...หนูดีขึ้นแล้ว สัญญาว่าจะไม่ฝืนตัวเองค่ะ’ ปลายสายรับคำ ก่อนทั้งคู่จะเอ่ยลาแล้ววางสายไป
สารวัตรลุกออกจากห้องเพื่อไปแจ้งทีมด้านนอกเรื่องร้านและการเดินทางตามคำสั่งของเด็กแสบที่บ่นกลับมาชุดใหญ่เมื่อกี้
“จ่ากร คืนอื่น ๆ ไปไหนกันหมดครับ” สารวัตรเอ่ยถามจ่ากรที่นั่งอยู่ที่โต๊ะคนเดียว
“อ่อ ออกไปพักแล้วครับ สารวัตรอยากได้อะไรรึเปล่าครับ” จ่ากรลุกขึ้นมารอรับคำสั่ง
“ไม่มีอะไรครับ ผมแค่จะมาบอกว่า เย็นนี้ผมจองโต๊ะที่ MPP ไว้นะครับ ส่วนรถเดี๋ยวไปรถผมพร้อมกันเลย ขากลับผมจะให้คนขับรถขับไปส่ง เมาไม่ขับครับ จะได้ดื่มกันเต็มที่ ฝากบอกคนอื่น ๆ ด้วย” สารวัตรเอ่ย
“ได้ครับ เดี๋ยวผมแจ้งคนอื่น ๆ ให้” จ่ากรรับคำสั่ง
“แล้วจ่าไม่ไปพักหรอครับ นี่ก็จะเที่ยงแล้วนะ ไปกินข้าวพร้อมผมมั้ย” สารวัตรเอ่ยชวน
“ไม่รบกวนดีกว่าครับ พอดีเมื่อวานทำกับข้าวกินตอนเย็น เลยทำเผื่อไว้วันนี้ด้วย เชิญสารวัตรตามสบายเลยครับ ขอบคุณที่ชวน” จ่ากรตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม
“โอเคครับ งั้นเดี๋ยวเจอกันตอนบ่ายครับ” สารวัตรยิ้มให้จ่ากร ก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานไปพักกินข้าวกลางวัน