INTRO
คืนวันแต่งงานที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝันว่าจะมีความสุข มีความรัก ความอบอุ่นจากสามีที่พวกเธอตัดสินใจแต่งงานด้วย แต่ไม่ใช่เธอ...
ตั้งแต่ที่เธอจำความได้เธอหลงรักเจ้าบ่าวของเธอตั้งแต่ที่เธออายุ 16 ครั้งนั้นมันเป็นความรักที่เธอมีความสุขที่สุดในชีวิตการที่ได้แอบมองว่าคนที่แอบรักทำอะไรอยู่ มีความสุขดีหรือเปล่า มันช่างเป็นอะไรที่มีความสุขสำหรับเธอ
ครอบครัวเธอและเขารู้จักกันมานานแต่แล้วเหมือนโชคชะตาก็เล่นตลกทุกคนในครอบครัวของเธอตัดสินใจฆ่าตัวตายเพียงเพราะอับอายว่าทำธุรกิจผิดกฎหมายจนกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งของประเทศ
เด็กสาวที่กลับมาจากโรงเรียนก็ต้องใจสลายเมื่อผู้เป็นบิดาและมารดาตัดสินใจจบชีวิตตัวเองเพื่อหนีความผิดจนทำให้เธอต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า เด็กสาวที่มีชีวิตราวกับนางฟ้าแต่ก็ต้องตกสวรรค์เพียงเพราะความโลภมากของบิดามารดา
เด็กสาวไม่เหลือให้ในชีวิตทุกอย่างถูกทางการยึดไปแต่แล้วชีวิตของเธอก็เหมือนได้มีโอกาสเติบโตขึ้นมาอีกครั้งเมื่อหญิงชราแสนใจดีกับลูกสาวขออุปการะเลี้ยงดูเธอมาอย่างดีและรับเป็นลูกสาวบุญธรรมจนเธอได้มีชีวิตขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลกกันเธออีกครั้งเมื่อเธอต้องแต่งงานกับซาตานร้ายนายน้อยของบ้านตามประสงค์ของคุณหญิงย่าผู้ที่รับเธอเป็นลูกเป็นหลานจนเธอเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้
"อะไรนะครับคุณย่าจะให้ผมแต่งงานกับเด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบนี้หน่ะหรอครับ!!" มาเฟียหนุ่มนายน้อยของตระกูลโวยวายคัดค้านเสียงแข็งกร้าวว่าจะไม่ยอมแต่งงานกับเด็กสาวที่มีศักดิ์เป็นน้องสาวบุญธรรมของตัวเอง
"ตาคาลแม่ไม่เคยสอนให้ลูกดูถูกผู้หญิงแบบนี้นะ!!" หญิงวัยกลางคนเอ่ยปรามลูกชายคนโตของตัวเองอย่างไม่พอใจเมื่อดูถูกน้องสาวตัวเอง
"ให้ตายยังไงผมก็ไม่แต่ง แม่ก็รู้ว่าผมมีคนที่รักอยู่แล้ว" ชายหนุ่มพูดอย่างไม่ยอมเด็ดขาดต่อให้มารดาของเขาจะหาร้อยแปดพันเหตุผลมาอ้างเขาก็ไม่มีทางยอม
"ถือว่าเห็นแก่ย่าเถอะลูกย่าอยากเห็นเราเป็นฝั่งเป็นฝาและน้องคือคนที่ดีที่สุดแล้วลูก เห็นแก่คนแก่ที่กำลังจะตายเถอะลูก" หญิงชราพูดเสียงแผ่วเบาเชิงขอร้องหลานชายคนโต
"ได้ไงครับจะให้ผมเอาผู้หญิงที่เป็นน้องบุญธรรมของตัวเองทำเมียเนี้ยนะ!?" นี่มันยุคสมัยไหนแล้วที่จะคลุมถุงชนตามต้องการใครก็ได้
"คุณย่าค่ะ หนูว่า เอ่อ" เธอกระอักกระอ่วนใจที่จะพูดอะไรออกมาเพราะถ้าหากพูดไม่เข้าหูใครบางคนเธอนั่นแหละจะซวย
"หึ ไปพูดอะไรไว้หล่ะแม่กับย่าฉันถึงอยากได้เด็กไม่มีกัวนอนปลายเท้าแบบเธอมาเป็นเมียฉัน" เขายังคงพูดดูถูกเธอ
"ผมไม่แต่ง แม่ก็ให้น้องแต่งเองดิ" เขาปรายตามองดูเด็กสาวตรงหน้าอย่างไม่ชอบใจ
"ผู้หญิงแบบนี้หน่ะหรอที่ผมจะเอาทำเมีย เฉิ่มๆ เชยๆ วันๆ อยู่กับแต่หนังสือทำตัวปัญญาอ่อน" เด็กสาวเองรู้สึกเสียใจไม่น้อยกับคำพูดดูถูกของผู้ชายที่เธอแอบรักมาตลอดหลายปี
"ตาคาลนี่ลูกเริ่มพูดไม่รู้เรื่องแล้วนะ น้องไม่ดีตรงไหนทำไมลูกถึงจงเกลียดจงชังน้องนัก น้องเองก็น่ารักนิสัยดีมีกิริยามารยาท" นางเอกก็แทบไม่ไหวกับคำพูดของลูกชายที่ดูถูกเด็กสาวที่เป็นน้องสาวตัวเอง
"มะไม่เป็นไรค่ะคุณแม่ มิเกลไม่ได้โกรธพี่ชายหรอกค่ะ" เธอกระพริบตาเพื่อให้น้ำตาที่จะไหลออกมาหายไป
"ฉันไม่ใช่พี่ชายเธอและฉันก็ไม่เคยนับเธอเป็นน้องสาวสักนิด ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาเธอมันก็เป็นส่วนเกิน" เมื่อเธอเข้ามาทุกคนในบ้านก็เอาอกเอาใจเธอจนลืมไปหมดว่าเขาก็เป็นลูกชายอีกคน
"เฮ้อ มิเกลมาหาพี่มาค่ะ" ชายหนุ่มผู้เป็นน้องชายเดินเข้ามาปลอบน้องสาวคนเล็กที่เหมือนจะร้องไห้ออกมาจนน่าสงสาร
"โอเคๆ พี่ไม่แต่งใช่มั้ยงั้นผมแต่งแทนเองก็ได้" มาเฟียหนุ่มใจกระตุกอยู่ไม่น้อยเมื่อได้ยินว่าน้องชายจะแต่งงานกับเด็กนี่แทน
"อยากแต่งงั้นหรอ หึ ได้ฉันจะแต่งแต่เธอก็ต้องยอมรับผลที่ตามมาได้หล่ะ" ตั้งแต่ที่เขาพูดวันนั้นมันก็เป็นจริงทุกอย่าง
"คุณไม่ทานข้าวก่อนหรอคะ" เธอที่เป็นภรรยาของเขาเต็มตัวมาได้เดือนกว่าๆ เอ่ยถามสามีหนุ่มที่เย็นชาทุกวันตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่เพนเฮ้าส์ด้วยกัน
"อยู่บ้านก็ใช่ว่าจะอยู่เฉยๆ หล่ะ อย่าคิดว่าเป็นเมียฉันจริงๆ อยู่บ้านก็อย่าลืมทำความสะอาดบ้านด้วย" เขาพูดเสียงเย็นชาก่อนจะเดินออกไปเมินประโยคคำถามของเธอ
หญิงสาวใช้เวลาทั้งวันในการทำตามสะอาดบ้านให้เขาก่อนจะอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมอาหารเย็นให้เขาอย่างเช่นทุกวันแม้จะรู้ว่าเขาไม่เคยทานก็ตาม
"นี่เธอ เธอเป็นใคร" เสียงเล็กแหลมของผู้หญิงที่มากันเขาเอ่ยถามเธอ
"เป็นคนใช้หน่ะไปเถอะ" เธอมองตามแผ่นหลังของสามีหนุ่มที่เดินโอบเอวของสาวสวยเข้าไปในห้องนอนของเขาด้วยแววตาที่เศร้าหมองเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา
ริมฝีปากเล็กขมเม้มแน่นกลั้นเสียงร้องไห้ก่อนจะเดินไปเก็บอาหารเอาไว้และเดินเข้าห้องนอนเพราะเธอเองก็ไม่ได้อยากเห็นภาพตรงหน้าที่บาดตาบาดใจ
ก็อก!!! ก็อก!!
เธออยู่ในห้องร่วมสองชั่วโมงแต่ก็ต้องเดินมาเปิดประตูห้องนอน
"มีอะไรหรือเปล่าคะ" คนที่มาเคาะห้องเธอคือผู้หญิงที่สามีของเธอพามานั่นแหละ
"ฉันหิวมีอะไรกินบ้าง" คงมีอะไรกันแล้วมาหัวทีหลังสินะ
"เอ่อ.."
"ไปหามาให้เธอ" น้ำเสียงเรียบนิ่งของสามีเธอกดดันเธอทางอ้อม
"ค่ะ" เธอกลั้นความเสียใจเอาไว้ข้างในก่อนจะเดินออกไปหาอาหารมาให้ทั้งสองนั่งทานในขณะที่เธอเองก็ยังไม่ได้ทานข้าวเช่นกัน