6
หยางจงหมิงเดินออกมาจากนอกห้องในสภาพที่เปลือยท่อนบนเอาไว้ สวมเพียงแค่กางเกงตัวเดียวเท่านั้น ผมยาวของเขาแผ่สยายปกคลุมลงมากลางแผงอก เขาเดินอย่างระมัดระวังมาที่ประตู เพราะได้ยินเสียงของญาติผู้น้องร้องไห้ “อวี้เฟยใครทำอะไรเจ้า” น้ำเสียงขึงขังดังขึ้นมา ด้วยเพราะมองไม่เห็นว่าใครกันช่างกล้าบังอาจมาทำร้ายคนของเขา
ไป๋เหม่ยเจินเพิ่งรู้ตัวว่านางถูกโม่อวี้เฟยใส่ร้ายเข้าให้เสียแล้วเสียรู้อีกฝ่ายเข้าให้ ช่างน่าเจ็บใจเสียเหลือเกินพลางจะอ้าปากบอกกล่าวความจริงกับเขาแต่ไม่ทันจะได้พูดมันออกมา อีกฝ่ายรีบเติมเชื้อไฟสุมนางเข้าให้อีกครั้ง
“ท่านพี่ พี่สะใภ้เมื่อครู่เห็นข้าออกจากห้องของท่าน นางผลักข้าล้มเจ้าค่ะ” โม่อวี้เฟยแสร้งบีบน้ำตาร้องไห้สะอึกสะอื้นกล่าวขึ้นมาทันใด ดวงตาของนางกำลังยิ้มเยาะเย้ยอย่างเย้ยหยันเหยียดหยามไป๋เหม่ยเจินขึ้นมาด้วยใบหน้าอันไร้เดียงสา
“ข้าเปล่านะ” ไป๋เหม่ยเจินคล้ายทุกอย่างที่นางคิดกลับพลิกไปหลายตลบจนนางคาดไม่ถึง คนที่จวนนั้นว่าร้ายกาจแล้ว ที่จวนนี้ยิ่งกว่าอสรพิษเสียอีก ให้ตายเถิดนางไปทำบาปกับใครเขาเอาไว้มากมายขนาดนี้นะ
“เจ้าโกหก” เขาไม่เชื่อเด็ดขาด โม่อวี้เฟยน่ารักและไร้เดียงสานัก “อวี้เฟยเจ็บตรงไหนหรือไม่” น้ำเสียงของลดลงมาด้วยความห่วงใย เมื่อครู่เขาเองที่ทำร้ายขืนใจนาง และตอนนี้นางยังถูกสตรีหน้าด้านรังแกอีก
“ท่านพี่” เสียงหวานกล่าวขึ้นอีกครั้ง พลางเดินไปหาชายหนุ่มกอดแขนเอาไว้แน่น แสร้งหวาดกลัวจนตัวสั่น พ่อบ้านได้ยินเสียงเอะอะจึงได้เดินมาดู เมื่อเห็นภาพเบื้องหน้าทำให้เขาตกตะลึงแทบจะหงายท้องไปทีเดียว คนที่ควรจะเข้าหอเป็นนายท่านกับเจ้าสาว แต่เหตุใดกลับกลายเป็นเช่นนี้ไป
“ท่านแม่ทัพ ข้าหลงนึกว่าท่านเพียงแค่ตามืดบอด แต่จิตใจของท่านยังมืดบอดยิ่งกว่าดวงตาของท่านเสียอีก” เหม่ยเจินหมุนตัวกำลังจะกลับเรือนนอน พลันเสียงกังวานดังขึ้นมาอีกครั้ง
“อีกสามวันข้าจะแต่งงาน พ่อบ้านฉางจัดการงานแต่งให้ข้ากับอวี้เฟย” กล่าวจบก็ถูกหญิงสาวประคองเข้าไปข้างใน ไป๋เหม่ยเจินคล้ายว่าถูกสายฟ้าฟาดลงมาลงมากลางศีรษะ
พ่อบ้านฉางเหงื่อเม็ดโตผุดพรายขึ้นมาบนหน้าผากอีกหลายเม็ด “ฮูหยิน ข้าไม่รู้จะกล่าวอันใดได้ ข้าน้อยต้องทำตามคำสั่งของนายท่าน ขออภัยด้วยขอรับที่พวกข้าน้อยดูแลท่านไม่ดี” พ่อบ้านฉางเพียงแค่มองก็รู้แล้วว่าใครกันแน่เป็นนางปีศาจ หาใช่สตรีที่เพิ่งแต่งงานไม่ กลับเป็นโม่อวี้เฟยมากกว่าที่แผนของนางสำเร็จลุล่วงแล้ว
“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านลุง” เหม่ยเจินกล่าวขึ้นมาใบหน้าของนางยังคงซีดเมื่อครู่นางตกใจนักกับเหตุการณ์อันรวดเร็ว คล้ายว่าวางแผนเอาไว้ หากเป็นพี่สาวของนางแต่งงานมา แน่นอนว่าสตรีคนเมื่อครู่ต้องถูกอะไรสักอย่างแน่น ๆ ด้วยเพราะนิสัยของพี่สาวที่นางเสแสร้งแกล้งเป็นคนดี จิตใจงดงามนั่น ย่อมมีความร้ายกาจเกินจะคาดเดา
ดูเหมือนว่าการที่เสียสละตนเองเพื่อชายอันเป็นที่รักทำให้เจ็บปวดได้มากมายภายในระยะเวลารวดเร็ว วันแต่งงานแทนที่นางกับเขาจะมีความสุขได้ร่วมหอทำข้อตกลงกัน แต่ทว่าสิ่งที่นางคิดและคาดหวังเอาไว้กับพังทลายลงมาไม่เหลือชิ้นดี
“ท่านลุง พรุ่งนี้นำยาในขวดนี้เพียงแค่เม็ดเดียวผสมในน้ำชาให้ท่านแม่ทัพดื่ม มันช่วยพอให้ท่านแม่ทัพกลับมาหายเร็วขึ้น แต่อาจใช้เวลาสักนิด หากข้าเข้าไปดูแลเองก็คงจะยาก” นางตัดสินใจแล้วว่าจะช่วยเขารักษาดวงตา ถึงแม้เขาจะพูดจาไม่ดีและหักหน้านางก็ไม่ถือสา นึกเสียว่าตอบแทนบุญคุณที่เขาช่วยชีวิต
แต่หากหัวใจดวงนี้มันเจ็บแปลบนัก ผิดหวังตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่ม เกรงว่าคงจะอยู่ที่นี่ต่อไปอีกไม่นาน สักวันเขาก็ต้องเฉดหัวนางออกจากจวนเป็นแน่ อย่างไรเสียสตรีนางนั้นก็คงไม่เก็บนางเอาไว้เป็นเสี้ยนหนามทิ่มแทง
“ฮูหยินช่างน้ำใจงามนัก” พ่อบ้านฉางรับขวดกระเบื้องเคลือบมา ด้านบนมีผ้าปิดเอาไว้ เขาเปิดออกเป็นกลิ่นยาสมุนไพรที่ฉุนจนแทบจะเป็นลม
เหม่ยเจินเห็นสีหน้าของท่านพ่อบ้านก็เดาออก เขาคงระแวงไม่น้อย “ยานี่ปลอดภัยไม่มีพิษ ไม่เชื่อท่านก็ให้ท่านหมอมาตรวจก่อนได้ เป็นตำราของท่านยายของข้าให้มา ข้าช่วยเขาได้เพียงแค่นี้” นางระบายยิ้มอ่อน
“ท่านลุงอย่าเพิ่งบอกเขาว่าเป็นข้าให้ยานี้ แต่รับรองว่ามันปลอดภัยไม่ทำให้เขาตายแน่ ๆ” หากท่านพ่อบ้านรู้ว่ายาที่เขาถือแม้แต่ฮ่องเต้ยังไม่ได้เสวย บัวหิมะพันปีหายากที่สุดในใต้หล้าแต่ท่านยายของนางมีไว้ในครอบครอง อีกทั้งยังมีโสมหมื่นปีอีกด้วย ตัวยาสำคัญหายากและสุดแสนจะราคาแพง หากไม่มีบุญวาสนาอย่าคิดว่านางจะยื่นมือมาช่วยเด็ดขาด
บุญคุณย่อมทดแทนแค้นต้องชำระ!
ไป๋เหม่ยเจินเดินกลับมายังเรือนนอนของนางอยู่ห่างจากเรือนใหญ่พอสมควร ค่อนข้างเล็กพออาศัยอยู่ได้ ดีกว่าห้องพักเหล่าคนรับใช้ในจวนนี้กระมัง นางไม่ได้คิดมาก เมื่อกลับมาก็พบว่าท่านน้าอาชุนหน้าตาบูดบึ้งมิพอใจ “เหตุใดจึงไปหาเขาที่เรือนหลังนั้นเจ้าคะ”
“ข้าแค่อยากไปพบกับเขาทำข้อตกลง แต่นึกไม่ถึงว่าเขากำลัง...เอ่อ...” นางจะพูดอย่างไรดีรู้สึกกระดาก
“อะไรเล่าเจ้าคะ” คนอยากรู้จึงได้ชักสีหน้า เพียงแค่นั้นเหม่ยเจินจึงได้กระซิบกระซาบยกมือขึ้นป้องปากเกรงว่าจะมีใครได้ยิน “พวกเขาเป็นถึงขนาดนี้คุณหนูยังใจดีจะรักษาดวงตาเขาอีกหรือเจ้าคะ ช่างน้ำใจงามนัก” อาชุนกล่าวต่อว่าเหน็บแนมเข้าให้ เหม่ยเจินหน้าเศร้าสลดลงเล็กน้อย
“เหอะ” อาชุนแค่นหัวเราะพอเดาออกว่ามีหรือสิ่งที่คุณหนูของนางอยากจะตอบแทนน้ำใจอีกฝ่ายมิมอบยาล้ำค่าให้ไปแล้วกระมัง “หากเป็นข้าจะไม่มอบยาให้เขาเด็ดขาด แต่จะให้ยาพิษแทน!”
รุ่งอรุณรับวันใหม่มาเยือนอีกครั้ง แต่ทว่าแทนที่อากาศจะสดใสกลับดูอึมครึมมืดมนด้วยเพราะเมฆฝนกำลังตั้งเค้ามาแต่ไกล ภายในจวนแม่ทัพหยางกำลังจัดเตรียมงานมงคลให้กับคุณหนูโม่ที่ฝันตัวเองจากญาติผู้น้อง เป็นฮูหยินของแม่ทัพหยางได้ดั่งใจปรารถนา