บทที่ 1_2 คืนเดียว

1504 Words
“เหล้าค่ะ” เสียงหวานหูเอ่ยเรียกสติของสิงหราชให้ต้องลืมตาขึ้นช้าๆ ดวงตาสีดำคู่คมหันมองหญิงสาวใบหน้าหวาน ซึ่งที่มือบางกำลังยื่นแก้วมาตรงหน้า เขายื่นเอื้อมมือออกไปรับแก้ว เป็นเวลาเดียวกับที่ดวงตากลมโตนัยน์ตาฉายแววว่ากำลังหวาดระแวงและตื่นกลัวสบกับดวงตาของเขาพอดี มุมปากหนากระตุกยิ้มน้อยๆ “ใครให้เอาเด็กคนนี้มานั่งกับกูวะ” สิงหราชมองดวงหน้าสวยหวานอย่างถูกอกถูกใจ พชร และจิรายุที่กำลังให้ความสนใจอยู่กับผู้หญิงข้างกายต้องละสายตามาดูเด็กที่เพื่อนว่าแล้วพากันทำหน้าแปลกใจ “เด็กใหม่ร้านมึงเหรอภาค ทำไมคนนี้กูไม่เคยเห็นหน้า” พชรหันไปเอ่ยถามเจ้าของสถานบันเทิง พร้อมกับเอ่ยแซวตามหลัง “ระวังนะมึง เอาเด็กต่ำกว่าสิบแปดมานั่งรับแขก จะโดนพ่อมึงรวบเข้าสักวัน” “เดี๋ยวนี้ร้านมึงมันไม่มีมาตรฐานแล้วเหรอวะ” จิรายุเองก็หันไปเอ่ยถามบ้าง “ร้านกูได้มาตรฐานทุกอย่างเว้ย บริสุทธิ์และใสสะอาดแน่นอน เพราะกูเก็บกวาดซุกเอาไว้ใต้พรมหมดแล้ว มึงอย่ามาปรักปรำร้านกูนะไอ้เพชร ไอ้ยุ” คนโดนเพื่อนใส่ร้ายรีบแก้ตัว ภาคภูมิหันไปหรี่ตามองเด็กใหม่ที่นั่งข้างๆ สิงหราชอย่างพิจารณา “สงสัยจะเป็นเด็กพี่ปราย” ก่อนนึกไปถึงพี่สะใภ้สาวที่ร่วมเป็นหุ้นส่วนร้านด้วยอีกคน สิงหราชได้ยินแบบนั้นก็ต้องหันกลับมาที่หญิงสาวข้างกายที่นั่งตัวเล็กลีบไม่ยอมพูดจากับใคร แล้วหันไปคุยกับเพื่อน “ถ้าเป็นเด็กซ้อปราย งั้นก็ถูกแล้วละ” พูดจบก็เอื้อมแขนไปโอบรั้งร่างบางเข้ามาซบลงที่อก พรพิรุณไม่ทันได้ตั้งตัวที่จะถูกท่อนแขนแข็งแรงโอบเอวไว้ แรงรั้งจากท่อนแขนกำยำทำให้เธอตัวเอนล้มลงไปอยู่ในอ้อมอกอุ่น จนหน้าซบอยู่กลางอกแกร่งและได้กลิ่นหอมจางๆ จากบุรุษเพศ ก่อนจะรับรู้ได้ถึงสัมผัสร้อนๆ จากฝ่ามือใหญ่ที่ลูบไล้อยู่บริเวณเอว ดวงตากลมโตช้อนสายตาขึ้นมองปลายคางของคนตัวใหญ่ พลันหัวใจดวงน้อยก็สั่นไหวอย่างแปลกประหลาด เมื่อขณะกำลังถูกดวงตาร้อนแรงจับจ้องด้วยสายร้อนแรงระคนเสน่หาจนต้องรีบเบือนหน้าหนีทันที “ทีเรื่องแบบนี้ เร็วนักนะมึง” จิรายุส่ายหน้าให้เพื่อนอย่างรู้กัน “ปกติพี่ปรายหาแต่เด็กเซ็กซี่ ร้อนแรง เร้าใจมาประเคนมึงไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมครั้งนี้มาแปลกไปวะ...” ภาคภูมิยังคงสงสัยไม่เลิกกับเด็กใหม่ อีกอย่างหนึ่งสเป็กของสิงหราชไม่ใช่สาวหวานแบบคนในอ้อมกอดเลยสักนิด พชรพยักหน้าเห็นด้วยกับภาคภูมิ มองหญิงสาวข้างกายเพื่อนอย่างสนอกสนใจ “แต่ถ้ามึงไม่ถูกใจ ยกให้กูก็ได้นะเพื่อน” สิงหราชตวัดสายตาดุดันค้อนใส่เพื่อน มุมปากหนากระตุกยิ้มร้ายกาจ ล้วงน้ำแข็งในแก้วออกมาแล้วปาใส่เพื่อนที่เอ่ยปากขอรับผู้หญิงในอ้อมแขนแทนเขา พชรหลบเลี่ยงก้อนน้ำแข็งพัลวัน “ไอ้สิงห์มันเปียกนะเว้ย” ก่อนจะปัดก้อนน้ำแข็งออกจากตัว ภาคภูมิ และจิรายุหันมองพชรแล้วพากันหัวเราะขำ จากนั้นทั้งห้องก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปเรื่อยๆ ตามประสาเพื่อนที่นานๆ ทีจะว่างมาเจอกัน เพราะต่างคนต่างก็ต้องบริหารธุรกิจของตัวเอง “ได้ข่าวว่ามึงไปดูตัวว่าที่คู่หมั้นมาเหรอ เป็นไงบ้างวะ คนนี้จะให้ผ่านเข้ารอบไฟนอลไปเป็นสะใภ้เจ้าได้หรือยัง” จิรายุเอ่ยถามสิงหราชที่เพิ่งจะกลับมาจากดูตัวว่าที่คู่หมั้นคนที่ร้อย ตามคำสั่งของหม่อมอัปสร วชิรจักร สิงหราชทำหน้าเซ็งๆ ทันที เมื่อนึกถึงหลายวันก่อนไปดูตัวหญิงสาวมากหน้าหลายตาที่หม่อมอัปสรผู้เป็นย่าสรรหามาให้เขาได้เลือกสรร “น่าเบื่อจะตายชัก คุณย่าคิดจะจับสิงโตยัดใส่กรงอย่างเดียวเลย กูละปวดหัว” เพียงเท่านั้นก็ได้ยินเสียงหัวเราะของทั้งสามหนุ่ม พวกเขากันส่ายหน้าตามๆ กัน “มึงพูดแบบนี้กูชักอยากจะเห็นวันที่สิงโตโดนถอดเขี้ยวถอดเล็บ แล้วทำหน้าหงอยๆ ในกรงเลยว่ะ” ภาคภูมิพูดขึ้น สิงหราชทำหน้าเหยเกแฝงบูดบึ้งกับคำพูดของเพื่อน เพียงแค่คิดถึงวันที่ต้องหมดอิสรภาพก็ชวนให้ขนลุกขนพองขึ้นมาทันที “สิงโตอย่างกู ต้องเป็นนักล่าเท่านั้น เพราะฉะนั้นกูจะไม่มีวันยอมเป็นเหยื่อให้ใครล่าเด็ดขาด” “แต่วันนี้มึงก็มุดรั้ววังหนีหม่อมย่าของมึงออกมาจนหางจุกตูดเลยไม่ใช่เหรอ” พชรว่าให้คนที่สถาปนาตัวเองเป็นสิงห์โตเข้าให้ สิงหราชตวัดสายตาไปมองเพื่อนตาขวาง เมื่อถูกพูดลดความน่าเกรงขามลง ก่อนจะรับเหล้าแก้วใหม่จากคนข้างๆ มากระดกทีเดียวจนหมด จากนั้นทั้งสี่ก็พูดคุยเล่นคลายเครียด และพาดื่มกันต่อไปเรื่อยๆ พรพิรุณนั่งตัวเกร็งมาสักพักใหญ่ พอเอวบางคอดหลุดจากลำแขนแกร่งเป็นอิสระถึงได้รู้สึกหายใจได้โล่งขึ้น ขณะเดียวกันมือบางชงเหล้าอีกครั้ง ส่งให้คนข้างกาย “ดื่มให้หมด” แต่ทว่าครั้งนี้มือหนากลับไม่ได้รับแก้วไปถือไว้เองเหมือนเคย ดวงตาคู่สวยหลุบสายตามองมือหนาที่ตอนนี้ทาบทับอยู่บนหลังมือของเธอ แล้วจึงเลื่อนสายตาขึ้นมาสบกับดวงตาสีดำสนิทที่จ้องอยู่พร้อมกับส่ายหน้าปฏิเสธทันที แต่ถึงกระนั้นดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้สนใจ เวลาไม่กี่วินาทีต่อมาแก้วทรงสวยถูกมือหนายกขึ้นมาจ่ออยู่ที่ริมปากสวยคราบด้วยลิปติกสีแดงสด ก่อนที่น้ำสีอำพันจะถูกเทเข้าปากอย่างไม่ทันตั้งตัว แอลกอฮอล์ยี่ห้อดีไหลผ่านลำคอขาวอย่างเลี่ยงไม่ได้ “แค่กๆ” พรพิรุณกลืนไปได้เพียงอึกเดียวก็รีบเบือนหน้าหนพลางยกมือดันแก้วเหล้าให้ออกห่าง น้ำหูน้ำตาพานจะไหลออกมาเพราะรสชาติขมบาดคอที่ได้สัมผัสเป็นครั้งแรก สิงหราชกระตุกยิ้มอย่างชอบใจ กระนั้นก็ยอมดึงแก้วกลับมาแล้วจัดการดื่มเองจนหมดแก้วเพียงครั้งเดียว ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง หันหน้าไปมองเพื่อน “กูจะกลับแล้วนะ” “เออ” ภาคภูมิแม้จะแปลกใจ ได้แต่มองตามยิ้มๆ ซึ่งไม่ต่างกับพชรและจิรายุที่ดูจะแปลกใจกับการกระทำของเพื่อนเมื่อครู่ ทั้งสองหนุ่มพยักหน้าให้เป็นอันเข้าใจสิ่งที่เพื่อนบอก สิงหราชพอบอกลาเพื่อนเรียบร้อยแล้วก็คว้ามือบางออกแรงดึงเบาๆ แต่ดูเหมือนว่าคนตัวเล็กจะขืนตัวเอาไว้ “จะไปไหนคะ” เสียงหวานใสรีบร้องถาม ขณะที่ดวงตากลมโตเป็นประกายระยับจ้องเขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ ชายหนุ่มที่ได้ยินคำถามนั่นและเห็นสีหน้าใสซื่อก็ยิ้มมุมปาก เขาโน้มตัวลงมาหาคนตัวเล็กช้าๆ โดยเอามือเท้าพนักโซฟา และกดริมฝีปากหนักๆ ลงมาจูบบนหน้าผากสวยอย่างใจหวัง ก่อนจะถอนใบหน้าออกมาช้าๆ จ้องตากลมโตตื่นกลัวด้วยสายตาแพรวพราวแล้วหลุดหัวเราะออกมา “ไปหาความสุขกันไงครับคนสวย” เสียงทุ้มแหบพร่า ชายหนุ่มพูดจบเพียงเท่านั้นก็อาศัยจังหวะทีเผลออย่างเป็นต่อทั้งทางรูปร่างและเรี่ยวแรง ออกแรงดึงเพียงนิดเดียวร่างบางสั่นเทาน้อยๆ ก็ปลิวเข้าสู่อ้อมอก พรพิรุณหัวใจกระตุกวูบกับการกระทำอันแสนรวดเร็วของคนตัวใหญ่กว่าไม่ทันได้ตั้งตัว มารู้ตัวอีกทีก็ถูกเขาพาเดินออกจากผับหรูมาหยุดยืนอยู่ที่ลานจอดรถของผับหรู แล้วร่างของเธอจะถูกปล่อยออกให้เป็นอิสระ “ซ้อบอกรายละเอียดแล้วใช่มั้ย” เสียงทุ้มราบเรียบผิดกับก่อนหน้าเอ่ยถามขึ้น เธอมองคนที่กำลังถอดเสื้อสูทออกมาคลุมไหล่ให้ด้วยสายตาสั่นไหวน้อยๆ เม้มปากเป็นเส้นตรงกับคำถามของคนที่ยืนกอดอกมองอยู่ตรงหน้า ดวงหน้าหวานพยักหน้ารับ “ค่ะ” “ดี งั้นก็ขึ้นรถได้แล้ว” สิงหราชพูดเพียงแค่นั้นก็เดินไปฝั่งคนขับ พรพิรุณหลับตาลงอย่างกลั้นใจและตัดสินใจเพียงเสี้ยวนาที ลืมตาขึ้นพร้อมกับระบายลมหายใจยาวๆ เปิดประตูแล้วแทรกตัวเข้าไปนั่งในรถยนต์คันหรูราคาหลายสิบล้าน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD