Un - 7

2267 Words
"เฮ้อ คิดถึงจังเลย" ทิ้งตัวลงบนเตียงนอนหนานุ่มและกว้างขวาง หงายหน้ามองเพดานสีฟ้าอ่อนที่มีระบายรูปดวงจันทร์ทั้งเต็มดวงและครึ่งเสี้ยวห้อยย้อยลงมาหลายสิบเส้น 'เจ้าจันทร์ชอบสีฟ้า' 'เฮียชอบสีน้ำเงิน' 'สีฟ้ากับสีน้ำเงินไม่เหมือนกันเหรอคะ' 'ไม่เหมือนสิ สีฟ้าก็คือท้องฟ้า ส่วนสีน้ำเงินคือผืนทะเลสีเข้ม ๆ' มุมปากฉันยกสูงขึ้นเมื่อคิดถึงอดีตที่นานแสนนาน ฉันราว ๆ สิบขวบกว่า ๆ แม่เลยพาไปเที่ยวทะเลที่หนึ่ง ตอนนั้นมีครอบครัวเฮียราชย์ไปด้วย เราที่อายุห่างกันเจ็ดแปดปีวิ่งเล่นกันที่ชายหาดอย่างมีความสุข จนฉันมองท้องฟ้าที่วันนั้นสวยเป็นพิเศษ มีเมฆจับกลุ่มก้อนสีขาวเป็นรูปนั้นรูปนี้ให้จินตนาการเล่น ผืนฟ้าในเวลานั้นเป็นสีฟ้าอ่อน ๆ มองแล้วรู้สึกสบายตา ตั้งแต่วันนั้นฉันก็รู้ตัวว่าชอบสีฟ้าของท้องฟ้าจึงโพล่งออกมาจนคนข้าง ๆ ทำตาปริบ ๆ ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะเห็นรอยยิ้มขำของเขาในวันนั้นตบท้ายด้วย "จะมีอีกไหมนะ ความรู้สึกอบอุ่นในวันนั้น" ยิ่งคิดถึงอดีตของฉันกับเขาในวัยเด็กมากเท่าไหร่ ความรู้สึกเจ็บปวดตรงอกข้างซ้ายยิ่งทวีมากขึ้นเท่านั้นเมื่อสิ่งเหล่านั้นมันไม่มีให้รู้สึกอีกแล้ว ครืด ครืด เสียงสั่นของมือถือทำให้หลุดออกจากภวังค์ทั้งหมด "ค่ะแม่" เป็นคนที่เพิ่งห่างกันไม่ถึงชั่วโมงที่โทร.มา [พี่เขาส่งเราถึงบ้านแล้วใช่ไหมลูก] แม่ถามด้วยความเป็นห่วง "ค่ะ ถึงสักพักแล้ว งานที่นั่นโอเคไหมคะ" [ใกล้เสร็จแล้วลูก แต่คืนนี้แม่อาจจะได้ค้างที่ออฟฟิศ] "ให้เจ้าจันทร์ไปอยู่เป็นเพื่อนไหมคะ" [ไม่เป็นไร แม่อยู่กับโสภาแล้วก็ศศิ] ฉันจำคุณโสภาได้ เธอเคยเป็นเลขาเก่าของแม่ แต่หลังจากคลอดลูกเธอก็ขอลาออกไปเลี้ยงลูก ตอนนี้แม่เอ่ยชื่อคุณโสภาออกมาแสดงว่าเธอกลับมาทำงานกับแม่แล้วสินะ เฮ้อ ห้าปีที่ไปอยู่ที่นู่น มีอะไรที่นี่เปลี่ยนไปเยอะแยะเลย แต่ทำไมใจของคนบางคนถึงได้มั่นคงจนฉันเริ่มรู้สึกท้อแบบนี้ [เจ้าจันทร์ได้ยินแม่ไหมลูก] "ได้ยินค่ะ เมื่อกี้สัญญาณไม่ดี แม่ว่าอะไรนะคะ" เผลอใจลอยอีกแล้วเรา... [เดี๋ยวหนูช่วยจัดชุดให้แม่สักสองชุดแล้วให้คนที่บ้านเอามาให้แม่หน่อยนะ] "เรื่องแค่นี้เอง เดี๋ยวเจ้าจันทร์ขับรถเอาไปให้ก็ได้ค่ะ" [แม่อยากให้เราพักผ่อนเยอะ ๆ เมื่อคืนก็นอนดึก ไม่อยากให้ขับรถตอนร่างกายเพลีย ๆ] ได้แต่ยิ้มให้ความคิดมากที่ออกมาจากความเป็นห่วงของแม่คนสวย "เจ้าจันทร์ไหวค่ะ" ฉันรู้จักร่างกายตัวเองดี ไหวก็คือไหว [เอางั้นก็ได้ แต่ยังไม่ต้องมาตอนนี้ก็ได้นะ พักผ่อนไปก่อน สักเย็น ๆ ค่อยแวะมา] "ได้ค่ะ เดี๋ยวเจ้าจันทร์แวะเอามื้อเย็นเข้าไปฝากด้วยเลย" [จ้าลูก งั้นแม่กลับไปเคลียร์งานต่อก่อนนะ] "อย่าหักโหมนะคะ" [จ้า ๆ แค่นี้นะลูก] สัญญาณดับไปเพราะแม่วางสายไปแล้ว ตอนนี้แม่ก็เริ่มจะอายุเยอะแล้ว ฉันคงต้องเริ่มเข้าไปเรียนรู้งานขนส่งที่ท่าเรือบ้างแล้วล่ะ เผื่อจะได้แบ่งเบาภาระของท่านได้บ้าง ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปนานแค่ไหน พอลืมตาอีกทีห้องที่ไม่ได้เปิดไฟไว้ก็มืดสลัวแล้ว "ตายจริง!" อุทานด้วยความตกใจเมื่อดูเวลาที่นาฬิกาตรงเตียงนอน สิบแปดนาฬิกากับอีกสิบห้านาที... ป่านนี้แม่ไม่หิวไส้กิ่วแล้วเหรอก็ดันไปบอกว่าจะซื้อมื้อเย็นติดมือเข้าไปด้วย ครืด ครืด... คนกำลังรีบ ๆ น้ำท่ายังไม่อาบตั้งแต่กลับมาจากบ้านป้าขจี เสียงสั่นของเครื่องมือสื่อสารก็สั่นรัว "สวัสดีค่ะ" เพราะเห็นเป็นเบอร์แปลกเลยรีบแบบมีมารยาทเล็กน้อย [นี่เจ๊เอง] ฉันจำเสียงได้แต่ก็แอบแปลกใจเล็กน้อยที่เธอมีเบอร์มือถือฉัน "เจ๊แยมได้เบอร์เจ้าจันทร์จากไหนคะ" [คุณป้าให้มา] อา... แบบนี้นี่เอง "แล้วโทร.มาตอนนี้มีอะไรหรือเปล่าคะ" แอบสงสัยเล็กน้อยว่าเจ๊แยมโรลโทร.มาหาฉันทำไม [คืนนี้ว่างไหม] "ค่ะ" [เจ๊จะพาไปเปิดหูเปิดตา] "ที่ไหนคะ" ชวนกันซะดิบดี สุดท้ายจะได้ไปหรือเปล่าก็ไม่รู้ ขนาดเมื่อคืนจะแดนซ์ให้ลืมคนเย็นชา ยังไม่ได้ทำเลย เบื่อคนมีคู่ เจ้าจันทร์ไม่ชอบเลย (พาลค่ะทุกคน) [ไม่บอก เดี๋ยวไม่เซอร์ไพรส์] ทำเป็นมีความลับนะคุณพี่ "แต่เจ้าจันทร์ต้องเอาเสื้อผ้าไปให้แม่ที่ท่าเรือก่อนนะคะ" นี่ก็มัวแต่เมาท์จนทำเวลาหล่นหายไปหลายนาทีแล้ว [บ้านเจ้าจันทร์เป็นทางผ่านเจ๊พอดี อีกสิบนาทีก็ถึงแล้วเดี๋ยวเจ๊แวะไปรับ] "จะดีเหรอคะ" [ดีสิ ทางเดียวกันไปด้วยกันลดมลภาวะโลกร้อน] ก็ช่างคิดเนอะ "งั้นเดี๋ยวเจ้าจันทร์รีบไปเตรียมของให้แม่ก่อนนะคะ" [ตามนั้นจ้า] คุยกับเจ๊แยมโรลทีไรลืมตัวทุกทีนึกว่าคุยกับพี่สาวแท้ ๆ หรือว่ายัยลิซที่เป็นเพื่อนสนิท เพราะนิสัยน่ารักและกันเองแบบนี้หรือเปล่านะ เฮียกิเลนถึงได้หวงหนักหวงหนา "แล้วจะซื้ออะไรไปฝากแม่ดีเนี่ย" ถ้ายิ่งแวะซื้อนู่นซื้อนี่อีกคงนานน่าดู แต่ถ้าไม่ซื้อเลยแล้วแม่รอทานนี่สิ แย่กว่า สุดท้ายฉันก็มาถึงออฟฟิศที่ท่าเรือขนส่งในเวลาเกือบจะทุ่มครึ่งเพราะรถติดมาก "เที่ยวให้สนุกนะลูก น้าฝากหนูแยมดูแลน้องด้วยนะ" แม่เดินมาส่งที่รถเจ๊แยมโรลหลังจากฉันขออนุญาตท่านเที่ยวกลางคืน "ขอโทษนะคะหนูนอนเพลินไปหน่อย" รู้สึกผิดที่สุดท้ายแม่ต้องให้คุณโสภาแวนซ์มอเตอร์ไซค์ออกมาซื้อกับข้าวที่ร้านประจำกินกันก่อน "คิดมากลูก หนูเพิ่งลงเครื่อง แล้วไหนจะต่องานเลี้ยงเมื่อคืนอีก ร่างกายก็เพลียเป็นธรรมดา" แม่ก็คือแม่ ไม่เคยโกรธหรือโทษลูกสาวคนนี้สักครั้งเดียว "รีบไปกันเถอะ เดี๋ยวจะดึกแล้วเที่ยวได้น้อย" เข้าใจวัยรุ่นจริง ๆ คุณจันทร์เพ็ญเนี่ย "ถ้ากลับไม่ดึกมาก เจ้าจันทร์จะโทร.หานะคะ" "ไม่เป็นไร ส่งข้อความมาก็พอ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าแม่เปิดอ่านจะได้รู้ว่ากลับกี่โมง" แหม เหมือนกำลังโดนสั่งว่าอย่ากลับดึกยังไงไม่รู้ "บายค่ะ แม่ก็อย่าทำงานดึกเกินไปนะคะ" "จ้า ไป ๆ พี่เขารอแล้วนั่น" หันหลังกลับไปมองเห็นเจ๊แยมโรลยืนรอที่ประตูฝั่งคนขับแล้ว ฉันไม่อยากเสียเวลาให้คนอื่นรอเลยรีบเข้าไปสวมกอดแม่แล้ววิ่งมาขึ้นรถยุโรปสีเหลืองสะดุดตาทันที "เรากำลังจะไปไหนคะ" ขึ้นรถได้ คาดเบลล์เสร็จจึงเอ่ยถาม "ที่ที่มีคนในหัวใจเจ้าจันทร์อยู่ไง" เล่นแซวตรง ๆ แบบนี้ฉันก็เขินแย่สิ แต่พอมาคิดถึงความเป็นจริง ถ้าไปที่นั่นเขาเจอหน้าฉันแล้วใช้สายตาเดิม ๆ มองมาจะทำยังไงนะ "อย่าคิดมากสิ" "ไม่ให้คิดมากได้ไงคะ ญาติคนนี้ของเจ๊น่ากลัวจะตาย" "น่ากลัว แต่ไม่เห็นเราจะล้มเลิกเลยนี่" "ก็รักแล้วนี่ค่ะ จะตื๊อจนกว่าจะเหนื่อยกันไปข้างเลย" อยู่กับเจ๊แยมโรลรู้สึกเป็นตัวของตัวเองมาก ๆ เหมือนเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันที่คุยกันได้ทุกเรื่อง "ไม่ต้องห่วง เจ๊จะคอยเป็นเจ๊ดันให้เราเอง น้องสะใภ้เจ๊ต้องเป็นคนที่เจ๊เห็นด้วยเท่านั้น" ฟังแล้วก็ชื่นหัวใจ รู้สึกดีต่อใจเจ้าจันทร์มาก ๆ ว่าแต่... ดันกันขนาดนี้ถ้าเขาไม่เอาจะเป็นยังไงนะ ให้ทายว่าตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหน? "เร่งมือหน่อยสิ เช็กความเรียบร้อยให้ดี ๆ ละ วันนี้นัดสำคัญนะพวกมึง" "เฮียเบิ้ม อะไหล่จัดชุดใหญ่ของแพงเลยใช่ไหมครับ" "ก็เออสิ นี่รถลูกพี่มึงนะเว้ย!" "ฮ่า ๆ ผมล้อเล่นน่า รถเฮียราชันย์ใครจะจัดอะไหล่ถูกให้กัน" "มึงรีบ ๆ ทำ ปากพูดได้มืออย่าหยุด เดี๋ยวเจ้าของแม่งมาพวกมึงก็แข็งเป็นตอ" "เออ เร่งมือพวกเรา เดี๋ยวพญาน้ำแข็งมาจะซวย" "ปากดีนะไอ้ม่อน เดี๋ยวเฮียแกมาได้ยินโดนเด้งนะมึง" ฉันกับเจ๊แยมโรลที่นั่งรอคนที่ถูกช่างทั้งหลายแหล่พูดถึงต่างมองหน้ากันแล้วยิ้มเห็นด้วยกับประโยคที่ว่า 'พญาน้ำแข็ง' ช่างสรรหามาเปรียบเปรยได้เหมือนเอกลักษณ์เขาจริง ๆ นั่นแหละ "อีกนานไหมเฮีย กว่าสองคนนั้นจะกลับมา" เจ๊แยมโรลถามคนที่ร่างออกท้วม ใส่สร้อยทองหนักไม่ต่ำกว่าสามบาทกำลังเดินมาทางที่พวกเรานั่งอยู่ "ออกไปได้สักพักแล้วนะ ถ้าช้าแบบนี้สงสัยไปลากคอไอ้ลัคกี้ออกมาจากผ้าห่มเมียอยู่แน่ ๆ" คนตอบคำถามพูดเองก็ขำเอง "ไม่คิดว่าโตขึ้นจะสวยขนาดนี้นะเรา" เจ้าของสนามแข่งเอ็กซ์ซี้ดเอ่ยแซว "เมื่อก่อนเจ้าจันทร์ขี้เหร่มากเหรอคะ" ฉันถามออกไปแบบไม่ได้จริงจัง "ไม่ใช่ ๆ เมื่อก่อนสวยแบบเด็ก ๆ แต่ตอนนี้เป็นสาวแล้ว สวยขึ้นเยอะ" ก็กำกวมอยู่ดี เห็นฉันคุยกับเฮียเบิ้มเหมือนรู้จักกันเพราะเมื่อก่อนฉันเคยมาที่นี่ครั้งหนึ่ง น่าจะสักมัธยมต้นมั้ง ตอนนั้นติดรถเฮียราชย์กลับบ้านแล้วสนามแข่งเกิดเรื่องขึ้นเล็กน้อยเขาเลยต้องพาฉันมาด้วย มันก็นานมากแล้วฉันเลยจำเฮียเบิ้มที่เมื่อก่อนไม่ได้อ้วนขนาดนี้ไม่ค่อยได้ ส่วนเฮียแกเองก็จำฉันแทบไม่ได้เหมือนกัน "นั่นไงมาแล้ว กูว่าแล้ว ไปแยกผัวแยกเมียออกจากกันมาอีกจนได้" พวกเรามองตามแสงไฟหน้าของรถคันหรูสองคัน สีน้ำเงินเข้มคันหนึ่ง สีแดงเพลิงคันหนึ่ง จอดควบคู่อยู่ตรงหน้าอู่ "มานานยัง" เฮียกิเลนรีบลงจากรถมาหาภรรยาคู่ใจที่นั่งข้างฉัน โอ๊ย! เจ้าจันทร์อิจฉา เมื่อไหร่จะมีโมเมนต์แบบนี้กับคนในหัวใจบ้างนะ "ไม่นาน แต่ตอนนี้หิวมาก" คิดเหมือนกันเด๊ะเลย ฉันยังไม่ได้ทานอะไรอีกตั้งแต่กลับจากบ้านเฮียราชย์เลย "แล้วไม่สั่งเด็กที่นี่ไปซื้อมาให้" คนผมสีเงินมองดุสาวในอ้อมกอดเล็กน้อย ก่อนจะหันไปถามคนอื่น ๆ "มีใครเอาอะไรไหม" "แดกไม่ลง" "อย่ามาทำหน้าเหมือนตูด เมียมึงไม่หายไปไหนหรอกไอ้ลัค" "ทีมึงยังเร่งไอ้เฮียให้รีบขับเพราะกลัวเมียหายเลย ทำไมทีกูพูดหมา ๆ แบบนี้วะ" "ก็กูคิดถึงเมีย" "กูก็เหมือนมึง เสือกไม่เข้าใจ" "พอ ๆ เลยพวกกลัวเมีย" ทั้งเฮียกิเลนและเพื่อนเขาที่กำลังเถียงกันเงียบกริบทันทีที่เสียงทุ้มดังขึ้นเพียงประโยคเดียว "มันไปกินรังแตนที่ไหนมาวะ" เฮียเบิ้มมองเจ้าของผมแดงเพลิงที่ทำหน้าพร้อมไฝว้คนอื่นอย่างงง ๆ ฉันได้แต่กำมือแน่นอยากจะตอบคำถามนั้นมากว่า เขาไม่ได้ไปกินรังแตนที่ไหนมาหรอก แต่เพราะเห็นฉันนั่งเสนอหน้าอยู่ตรงนี้มากกว่า "มีใครอยากได้อะไรไหมคะเดี๋ยวเจ้าจันทร์ไปซื้อให้" เมื่อรู้ตัวว่าอยู่ไม่ถูกที่เลยอยากไสหน้าสวย ๆ ไปที่อื่นแทน "จะไปคนเดียวได้ยังไง อันตรายนะ" เจ๊แยมโรลรีบห้าม "ร้านอยู่แค่ด้านหลังนี่เอง คงไม่มีอะไรมั้งคะ" จำได้ว่าตอนเดินมาที่อู่จากทางเข้าด้านหลังเห็นร้านค้าที่ไว้สำหรับขายอาหารและเครื่องดื่มต่าง ๆ อยู่ร้านหนึ่ง "ถึงไม่ไกลก็อันตราย งั้นเดี๋ยวเจ๊ไปด้วย" "ฉันพาไป" "อยู่นี่แหละกิล ให้เวลาผู้หญิงเขาเฉิดฉายกันบ้าง" "อยากตายคาเตียง?" "ชิ!!" ดูท่าแล้วจะให้คู่ข้าวใหม่ปลามันแยกกันตอนนี้ไม่น่าเวิร์กแล้วล่ะ "ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวรีบไปรีบกลับ" "แน่ใจนะ" "ค่ะ เจ้าจันทร์โตแล้วนะคะ" "ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นบอกว่าเป็นคนของเฮียเบิ้มแล้วกัน" "ได้ค่ะเฮีย" ทุกคนดูเป็นห่วงฉันมาก อาจจะเพราะฉันเพิ่งมาครั้งแรกในรอบหลายปีและไม่ชินทางละมั้ง "เจ๊ขออะไรแซ่บ ๆ" "ขออะไรแรง ๆ มาล้างคอด้วย" คนที่มาใหม่ที่เพิ่งเถียงกับเฮียกิเลนเอ่ยขึ้น ถ้าจำไม่ผิดเขาชื่อเฮียลัคกี้ "คอแข็งใช่ไหมคะ" ฉันแซวเล่น ๆ ก็เคยบอกแล้วว่าฉันน่ะคอแข็งกว่าผู้ชายบางคนซะอีก "จะดวลไหมล่ะ" อา... สายตาแบบนี้น่ากลัวจัง ฉันก็แค่หยอกเล่นแค่นั้นเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD