Un - 2

1237 Words
ซ่า~ สายน้ำเย็น ๆ ไหลลงบนร่างกายเรียกความสดชื่นกลับมา ตอนแรกจะนอนแช่ในอ่างแล้วแต่เกรงใจ กลัวว่าเราจะเหมือนใช้ของใช้ร่วมกัน แค่คิดมันก็เขินจนตัวแทบแตกเลยเลือกอาบน้ำจากฝักบัวดีกว่า รอบนี้ฉันหยิบชุดเป็นจั้มสูทแบบกางเกงขายาวผ่าข้างแหวกสูงถึงขาอ่อน ส่วนด้านบนเป็นแขนตุ๊กตาเว้าลึกตรงอกแต่ไม่ได้ดูโป๊จนน่าเกลียด ชุดนี้ซอฟต์สุดแล้วนะ ถ้าปกติอยู่ที่นู่นสไตล์ฉันนี่เป็นฝรั่งจ๋าเลย เปิดบนปิดล่าง เปิดล่างปิดบน เน้นเซ็กซี่ขยี้ใจชาย แต่อย่างว่าที่นู่นสาว ๆ ส่วนใหญ่ก็แต่งแบบนั้นทำให้ผู้ชายไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ ปึง! ปิดประตูห้องเรียบร้อย สองขาก้าวเดินกลับไปที่บ้านหลังใหญ่อีกครั้ง เริ่มเห็นผู้คนกำลังขวักไขว่แลดูชุลมุน "มีอะไรให้ช่วยไหมคะ" ฉันถามผู้หญิงคนหนึ่งที่น่าจะอายุเยอะกว่านิดหน่อย "คุณเป็นแขกของนายหญิง เข้าไปนั่งด้านในเถอะค่ะ" เธอพูดกับฉันอย่างนอบน้อม แม้จะเคยเข้าออกบ้านป้าขจีตั้งแต่ยังจำความไม่ได้แต่เพราะหายไปเรียนเมืองนอกหลายปีทำให้จำใครที่นี่ไม่ได้สักคน หมายถึงคนใช้น่ะ "อ้าว ตื่นแล้วเหรอหนูเจ้าจันทร์" เสียงติดแหบของผู้ชายวัยกลางคนน่าจะอายุราว ๆ ห้าสิบปลาย ๆ ถามขึ้น ท่านนั่งไขว่ห้างจิบกาแฟอ่านหนังสือพิมพ์รอบเช้าวันนี้อยู่ "สวัสดีค่ะคุณลุง" คนตรงหน้าแม้จะอายุเกือบจะเข้าเลขหกแล้วแต่ใบหน้าท่านยังหล่อเหลาฉบับรุ่นเก๋าอยู่ ซึ่งนั่นไม่แพ้กับลูกชายของท่านที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้สักนิดเดียว เอาจริง ๆ ถ้าให้เฮียราชย์มานั่งคู่กับพ่อของเขาคงจะเรียกแฝดคนละช่วงวัย "ไปอยู่ที่นู่นตั้งนาน ลุงนึกว่าจะไม่กลับมาเยี่ยมเยือนฝั่งนี้ซะแล้ว" ลุงจอมศักดิ์ เจ้าของธุรกิจสายการบิน TPs-airlines และเป็นนายใหญ่ของบ้านทวีทรัพย์ไพศาลเอ่ยแซวเล่น "เจ้าจันทร์ต้องกลับมาอยู่แล้วค่ะ" มาตามหาหัวใจเจ้าจันทร์ ต่อท้ายประโยคในใจเมื่อเหลือบเห็นรูปถ่ายของคนเย็นชาตั้งคู่กับครอบครัวอยู่ที่ตู้โชว์ใบเขื่อง "แล้วมีแพลนจะอยู่นี่ยาวหรือกลับไปที่นั่นอีกล่ะ" "คงอยู่ที่นี่ค่ะ เจ้าจันทร์เรียนจบแล้ว" ไม่มีข้ออ้างที่จะหนีไปที่ไหนได้อีก ยกเว้นว่าฉันจะย้ายหนีหัวใจตัวเองไปตลอดชีวิต "ดีแล้วลูก แม่ของหนูมาบ่นคิดถึงเรากับขจีทุกวัน" ได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ กลับไป แม่นะแม่ ขนาดฉันคอลฯ หาท่านทุกวัน วันละแทบจะสามเวลายังจะมาบ่นกับคนอื่นเหมือนลูกสาวปล่อยทิ้งงั้นแหละ "หิวหรือยัง เดี๋ยวลุงให้เด็กตั้งโต๊ะให้ ลุงเพิ่งทานข้าวเที่ยงเสร็จเมื่อกี้เอง" เวลาผ่านไปกี่ปี สมาชิกบ้านหลังนี้ยังอบอุ่นกับฉันเช่นเดิม "ยังค่ะ แล้วป้าขจีไปไหนคะ" ปกติถ้าสามีอยู่บ้าน ป้าขจีก็ต้องอยู่ข้าง ๆ ด้วย "ไปบ้านหนูไง" ป้าขจีไปบ้านฉัน? "คืนนี้มีงานเลี้ยงวันเกิดคุณจันทร์เพ็ญแม่ของหนู ขจีเลยแวะไปคุยเล่นจะได้ไม่มาที่นี่ให้เสียแผน" อ้อ ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง แต่เอาจริง ๆ แม่ฉันจะเซอร์ไพรส์อยู่ไหมเนี่ย ก็ป้าขจีมักจะจัดเลี้ยงวันเกิดให้แม่ฉันแบบนี้ทุกปี พูดให้ถูกคือผลัดกันจัดงานเมื่อถึงวันคล้ายวันเกิดของกันและกัน "งั้นเจ้าจันทร์ขออนุญาตเดินดูรอบ ๆ บ้านได้ไหมคะ" "เอาสิ ตามสบายเลย คิดซะว่าเป็นบ้านตัวเอง" ลุงจอมศักดิ์ส่งยิ้มมาให้ ฉันเลยได้แต่ก้มหัวให้ท่านเพื่อมารยาทแล้วปลีกตัวออกมา ตุ้บ! "โอ๊ย!!" เดินมายืนรับลมเย็น ๆ ข้างบ้านได้ไม่ถึงห้านาที กิ่งไม้ก็หล่นลงมาใส่หัว ซวยแต่วันเชียว "เมี้ยววว" เสียงต้นเหตุที่ทำให้กิ่งไม้หล่นใส่หัวฉันร้องขึ้น เงยหน้าตามเสียงเห็นเจ้าแมวขนปุกปุยนอนกระดิกหางไปมาอยู่บนกิ่งไม้ขนาดใหญ่ ใต้ร่างของมันมีร่างหนานอนราบไปกับความยาวของกิ่งไม้นั้น ใบหน้าหล่อเหลากำลังหลับตาพริ้มอย่างสบายอารมณ์ เมี้ยวววว~ "ว้าย!!" ให้ตายเถอะฉันเกือบล้มแหนะ เจ้าแมวอ้วนขนปุกปุยสีขาวจู่ ๆ ก็กระโดดจากกิ่งไม้ด้านบนลงมาให้ฉันอุ้ม "อย่ามาอ้อนนะ รู้จักกันเหรอเรา" แมวตัวนี้ดูเชื่องดีนะ ขี้อ้อนซะด้วย "เหมี๊ยวววว" มีการร้องตอบฉันอีก "ชื่ออะไรคะสุดหล่อ" เมื่อกี้เห็นพวงไข่เล็ก ๆ ของเจ้าอ้วนเลยรู้ว่าเป็นเพศอะไร "แคท" เสียงทุ้มของคนที่คิดว่าหลับอยู่ตอบ "ชื่อเจ้าแคทเหรอเรา" ฉันไม่ได้สนใจคนบนต้นไม้ ที่ไม่สนใจเพราะเขาไม่ได้ใส่กระดุมเสื้อ แล้วพอเขานอนโดยที่ไม่มีเจ้าแมวอ้วนทับอยู่ซิกซ์แพ็กเขาก็เลยโชว์เด่นแก่สายตา ยิ่งถ้ำมองฉันยิ่งรู้สึกร้อนที่ใบหน้าเลยไม่กล้าเงยมองเขาอีกเลย "เมี๊ยวววว" คราวนี้ร้องเสียงสูงพร้อมเอาหน้ามาไซ้ซอกคอฉันอีก "ไม่เอาสิ จักจี้นะ" ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ เจ้าแมวอ้วนเอาแต่ถูไถขนปุย ๆ ของมันตามร่างกายฉัน นี่คิดอะไรกับเจ้าจันทร์ไหมเรา? ตุบ!! เสียงเหมือนมีอะไรหล่นลงมาอีก พอหันไปมองเป็นร่างสูงผมสีแดงอมชมพูยืนอยู่บนพื้นห่างฉันไม่กี่ก้าว "มานี่" ลงมาจากต้นไม้เสร็จก็เรียกแมวตัวเองกลับทันที คนอะไรใจร้ายจัง... "ไปสิเจ้าแคท เจ้าของแกเรียกแล้ว" ฉันนั่งยอง ๆ ลงเพื่อวางแมวอ้วนส่งคืนเจ้าของ แต่ดูเหมือนแมวตัวนี้จะติดฉันแล้วล่ะ "อย่าดื้อ" เสียงเข้มกึ่งดุดังขึ้น เขาใช้สายตาเรียบนิ่งมองมาทางฉัน เอ่อ... มองแมวหรือมองฉันกันล่ะนั่น "แง้วววว" ครั้งนี้เหมือนมันกำลังขู่เจ้าของมันแล้วกันมาซุกอกฉันใหญ่เลย "แปรพรรค?" คนถูกเมินกำลังทะเลาะกับแมว "งั้นแกก็เตรียมอายุสั้นได้เลย" เสียงเย็นชาดังขึ้น ถ้าคนอื่นฟังคงงงกันว่าเขาหมายความว่ายังไง แต่เพราะเป็นเจ้าจันทร์คนนี้ถึงรู้ความหมายแฝงของคำว่า 'อายุสั้น' นั้นได้ "เจ้าจันทร์คงไม่ใจร้ายถึงขั้นฆ่าสัตว์ตัดชีวิตหรอกค่ะ" ทนไม่ไหวเลยตะโกนไล่หลังออกไป คนตัวโตชะงักขาที่กำลังจะก้าวต่อแล้วเอียงองศาใบหน้าหันมามองฉันเล็กน้อย "ใครจะรู้ ถ้าฉันบอกว่าแมวตัวนั้นคนที่ฉันรักให้มา มันอาจจะชีวิตสั้นลงก็ได้" เจ็บ! เป็นประโยคสนทนาที่เจ็บปวดที่สุดเท่าที่ได้คุยมา เขากำลังตีตราว่าฉันเป็นคนพาล เป็นผู้หญิงจิตใจโหดเหี้ยมโดยการเอาความผิดพลาดในอดีตมาตัดสินว่าฉันจะทำลายข้าวของทุกอย่างที่เป็นของคนรักเขา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD