“ลืมวันเวลาได้ แต่ลืมว่าตัวเองมีสามีแล้วไม่ได้”
ดวงตาคู่คมวูบไหว ขณะลืมมันขึ้นมองใบหน้าสวยที่ถูกแต่งแต้มจัดจ้านมากกว่าปกติ เมื่อก่อนเขาไม่คิดจะเปิดเผยตัวตนของตัวเอง แต่พอรู้ข่าวจากสายของตัวเองที่ทำงานอยู่ในนี้เขาก็เปลี่ยนความคิด เมื่อภรรยาที่เขาเองยังไม่เคยครอบครอง ถูกชายอื่นจ้องและแอบย่อง หวังจะตีท้ายครัว
การแต่งงานของเขากับเธอไม่ใช่ความลับ เพียงแต่คนในนี้ไม่รู้ และเพราะไม่รู้ คนพวกนั้นถึงคิดว่าเธอยังโสด และพยายามเข้าหาเธอ ส่วนเธอก็ไม่ระวังตัว ซ้ำยังไม่เคยบอกใครว่าตัวเองมีสามีแล้ว จนผู้ชายพวกนั้นเข้าใจผิด คิดว่าเธอเล่นหูเล่นตาให้
“ไม่เคยลืมสักหน่อย”
อิริยาพูดความจริง แค่ไม่พูด ไม่ได้หมายความว่า เธอลืมว่าแต่งงานแล้วสักหน่อย เธอดีใจด้วยซ้ำที่ได้แต่งงานกับเขา อยากป่าวประกาศไปทั่วประเทศด้วยซ้ำ แต่จะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไรล่ะ!
“ให้มันจริง!”
“ก็จริงนี่ค่ะ อายไม่เคยลืมหรอก ว่าเราแต่งงานกันแล้ว และไม่เคยลืมด้วยค่ะ ว่าแต่งกันเพราะอะไร”
“พูดถึงเรื่องนั้นขึ้นมาทำไม?”
ใบหน้าหล่อเหลาที่ปกติจะอ่อนโยนอยู่ตลอด ฉายแววไม่พอใจขึ้นเพียงครู่ ก็รีบข่มอารมณ์ของตัวเองไว้ มองใบหน้าสวยด้วยสีหน้าอ่อนโยนดังเดิม
“แค่ย้ำตัวเองไว้ค่ะ ว่าเหตุผลที่อายเป็นภรรยาพี่ก๊อต มันคืออะไร”
“เห้อ! ถ้าสบายใจแบบนั้นก็แล้วแต่ ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป เตรียมตัวมาทำงานช่วยพี่ แล้วก็ ใบหน้าแบบนั้น ไม่เอานะ”
“ทำไมคะ?”
อิริยาลืมตัวเดินไปมองหน้าตัวเองในกระจกเงา ที่ตกแต่งอยู่ภายในห้องทำงาน สำรวจจนทั่วเมื่อไม่เห็นว่ามันผิดปกติ ก็หันกลับไปมอง คนที่บอกเธอ ว่าไม่เอาใบหน้าแบบนี้
“มันแรด!”
“คะ?”
“มันดูไม่เหมาะสม”
“ก็ไม่เห็นไม่เหมาะสมตรงไหนเลยนี่คะ ออกจะสวย”
อิริยายอมรับว่าเพิ่งจะเคยเห็นใบหน้า ที่แสดงออกว่าไม่พอใจเธอจากสามี มันไมได้ทำให้เธอรู้สึกแย่ เพราะเธอเห็นแววหึงหวงในสายตา ขณะที่เขาด่าว่าเธอแรด!
ผัวหวงก็ต้องดีใจใช่ไหม
“ทำงานโรงแรมนะครับ ไม่ใช่งานตามผับตามบาร์ ไม่ต้องแต่งหน้าหนาขนาดนั้นหรอก ปากก็ไม่ต้องแดง แก้มก็ไม่ต้องชมพู ตาบนตาล่างก็ด้วย เส้นดำๆนั้นด้วยไม่ต้องเขียน เพราะต่อให้ไม่มีของพวกนั้น อายก็สวยอยู่แล้ว”
อิริยาตาโต ไม่คิดว่าเขาจะพูดแบบนั้นด้วยสีหน้าแบบนั้น ถ้าพูดชมเธอด้วยรอยยิ้ม เธอจะดีใจมาก แต่เขาพูดและทำสีหน้าเหมือนกำลังอ่านทำนองเสนาะให้ครูฟัง เขาทำมันได้ยังไง
“ทำไม? พูดไม่เข้าใจ หรือไม่เข้าหู”
กฤษฎาลุกขึ้นเดินมาใกล้คนที่ยืนเงียบมองเขา ดวงตากลมโตเบิกกว้างกว่าปกตินิดหน่อย ขยับเท้าเข้าไปใกล้ ในขณะที่เธอถอยหลังหนี เมื่อต้อนเธอมาจนถึงกำแพง ก็ยกแขนทั้งสองข้างขึ้น กังขังเธอไว้ไม่ให้หนีไปได้
“เข้าใจ! อายเข้าใจแล้วค่ะ”
อิริยาหลับตาปี๋ อยู่ดีๆก็ถูกสามีรุกแบบไม่ให้ตั้งตัว ปกติเขากับเธอไม่เคยอยู่ใกล้กันขนาดนี้มาก่อน ถ้าไม่อยู่ต่อหน้าผู้หลักผู้ใหญ่ของแต่ละบ้าน เธอกับเขาแทบไม่อยู่ใกล้กันเลย เจอรุกกะทันหันแบบนี้ เธอทำตัวไม่ถูกจริงๆ
“หลับตาทำไม? หน้าตาพี่มันน่ารังเกียจ จนไม่อยากมองเลยเหรอ”
กฤษฎาพูดอย่างคนไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง มองคนที่หลับตาอยู่ ด้วยความรู้สึกที่ถูกเก็บซ่อนไว้ จับคางเล็กไว้เบาๆ เพราะกลัวว่าถ้าจับแรงกว่านั้น มันจะทำให้เธอเจ็บ
“ไม่ใช่ค่ะ พี่ก๊อตถอยไปก่อน”
อิริยาบอกเสียงสั่นอย่างคนที่พยายามคุมตัวเองอยู่ กฤษฎารีบปล่อยเธอให้เป็นอิสระ เมื่อเจอท่าทางหวาดกลัวของเธอ ขยับไปยืนมองห่างๆ อย่างไม่กล้าเข้าใกล้ และเขาทำแบบนี้ตลอด ตั้งแต่แต่งงานกับเธอมา เขาไม่กล้าแตะต้องเธอ เพราะเธอดูหวาดกลัวเขามาก
อิริยาลืมตาขึ้นมองช้าๆ เมื่อเห็นว่าสามียืนอยู่ห่าง ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก สงสัยเธอต้องเตรียมตัวรับมือสิ่งที่เปลี่ยนไปมากกว่านี้ รวมทั้งต้องเตรียมตัวทำงานอยู่ข้างๆเขาด้วย
“อายต้องเริ่มงานพรุ่งนี้เลยเหรอคะ แล้วเวลามาทำงาน เราต้องมาด้วยกันหรือเปล่า”
อิริยารีบโฟกัสสมาธิให้อยู่ที่เรื่องงาน เพราะไม่อยากให้เขาล่วงรู้ความลับน่าอาย ภายในจิตใจของเธอ
“อืม ก็ต้องเป็นงั้น เพราะประกาศไปแล้วว่าเราเป็นสามีภรรยากัน”
กฤษฎาเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม หมุนเก้าอี้หนีจากใบหน้าสวยของเธอ เพื่อซ่อนความรู้สึกเหมือนเช่นทุกที เขารู้สึกผิดหวัง เมื่อเจอท่าทางเมื่อสักครู่ของเธอ
“งั้นวันนี้ก็ต้องกลับด้วยกันเหรอคะ” อิริยาถามในสิ่งที่ตัวเองสงสัย ไม่เคยเดินทางไปไหนมาไหนกับเขา ยกเว้นตอนไปซื้อของเข้าบ้าน เธอกลัวว่าจะวางตัวไม่ถูกในสถานการณ์ที่มันต่างออกไปจากที่เคย
“หรือมีนัดกับคนอื่นแล้ว?”
“ไม่ใช่นะคะ คืออายแค่ถามเพราะอยากรู้”
อิริยาที่เคยมาดมั่นมาตลอด ดูหงอไปเลยเมื่ออยู่ลำพังกับสามี ไม่ได้สิ ถ้าเป็นแบบนี้เธอจะถูกคนที่นี่หัวเราะเอาได้ ว่าพี่อายสายมั่น กลัวสามีจนตัวสั่น
“อายขอเดินทางมาทำงานเอง และกลับเองนะคะ”
เมื่อคิดได้แบบนั้น อิริยาก็รีบรักษาระยะห่างระหว่างสามีทันที อยู่ใกล้เขามากไม่ได้ไง เดี่ยวเผลอเป็นแบบเมื่อกี้อีก เธอต้องรักษาภาพลักษณ์เดิมไว้ เพราะมันมีผลดีต่อการทำงานมากกว่าผลเสีย ถ้าเธอทำตัวอ่อนปวกเปียกแบบนี้ มีหวังคุมคนที่นี่ไม่ได้แน่ พนักงานแต่ละคนนิสัยใช่ย่อยซะที่ไหน