“ตอนฮานะร้องเพราะมากเลย” เบนจิโร่เอ่ยขึ้นมาก่อนในขณะที่กำลังฟังเพลงที่ดังขึ้นมาไปทั่วห้องนิทรรศการ
“แล้วที่ได้ยินตอนนี้ไม่เพราะเหรอ” ฮารูนะแสร้งถามออกมาไปอย่างแกล้งคนตรงหน้าด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
“เพราะเหมือนกันครับ แต่ตอนฮานะร้องมันได้ความรู้สึกของอารมณ์เพลงมากกว่าที่ได้ยินตอนนี้” เบนจิโร่บอกออกไปตามความรู้สึก
“นอกจากจะเก่งเรื่องงานบริหารแล้ว เบนยังรู้จักอารมณ์เพลงด้วย เดี๋ยวนี้ไม่ธรรมดาแล้วนะ ไปรู้เรื่องแบบนี้มาจากใคร บอกฮานะได้มั้ย” ฮารูนะที่ได้ยินคำบอกเล่าของอีกฝ่ายก่อนหน้านี้ถึงกับเกิดความประหลาดใจขึ้นมาที่เขามีอารมณ์แบบนี้กับคนอื่นด้วยเพราะภายนอก ทุกคนจะเห็นเขาในมุมของชายหนุ่มผู้ใจเย็นแต่ไม่ได้ใจดี จนหลายคนเรียกเขาว่า คนเยือกเย็น ในบางที
“ไม่มีครับ” เบนจิโร่ตอบหญิงสาวออกไปตามความจริงก่อนจะมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาอบอุ่นจนทำให้คนที่ถูกมองต้องเบือนสายตาไปมองรูปวาดตามผนังด้วยอาการประหม่าเมื่อเจอสายตาแบบนี้ของอีกฝ่าย
“เบนอยากไปไหนมั้ย คราวนี้เป็นเบนเลือกสถานที่บ้าง” ฮารูนะเปลี่ยนเรื่องคุยด้วยการเปลี่ยนที่เดินเพราะหญิงสาวคิดว่าพวกเขาอยู่ที่นี่มานานพอสมควรแล้ว
“ผมไม่มีที่อยากไปเป็นพิเศษครับ” เบนจิโร่บอกคนตรงหน้าตามความจริง เพราะสำหรับที่นี่เขาแทบไม่ค่อยมีความทรงจำดีๆ ด้วยสักเท่าไหร่นัก
“งั้นไปที่นี่กันดีกว่า” ฮารูนะเมื่อได้ยินคำตอบและสีหน้าของชายหนุ่มจึงนึกไอเดียเลือกสถานที่ได้ก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือชายหนุ่มแล้วพากันเดินออกจากหอศิลป์กรุงเทพในเวลาต่อมา
เวลาต่อมา @บ้านของเบนจิโร่ ประเทศไทย
“ที่นี่มัน” เบนจิโร่เอ่ยออกมาเมื่อมายืนตรงหน้าสถานที่ต่อมาที่หญิงสาวไม่ยอมบอกว่าจะพาเขามาที่ไหนด้วยประหลาดใจพอสมควรเมื่อเห็นสถานที่ตรงหน้าไม่ได้ดูทรุดโทรมอย่างที่เขาคาดคิดไว้เลย
“เข้าไปด้านในกันเถอะ” ฮารูนะจูงมือชายหนุ่มเข้าไปภายในบ้านที่เปิดรั้วหน้าบ้านไว้เหมือนเปิดรอใครอยู่
“สงสัยล่ะสิว่าทำไมที่นี่ไม่เป็นบ้านร้างแถมยังเหมือนบ้านที่มีคนอยู่อาศัยใช่มั้ย” ฮารูนะเอ่ยถามชายหนุ่มอย่างรู้ทันความคิดของเขาเมื่อเห็นสีหน้าสงสัยของอีกฝ่ายที่แสดงออกมา
“ครับ”
“คุณแม่ให้คนดูแลที่นี่เป็นอย่างดี ทำทุกอย่างให้เหมือนกับว่าคุณป้าและเบนเคยอยู่ที่นี่ คุณแม่บอกว่าเผื่อว่าวันนึงเบนอาจจะอยากกลับมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่” คำตอบของหญิงสาวทำให้เบนจิโร่รู้สึกซาบซึ้งในสิ่งที่ผู้เป็นแม่ของหญิงสาวได้ทำให้กับเขาเป็นอย่างมาก
“ผม...คงไม่กลับมาอยู่ที่นี่” เบนจิโร่บอกออกไปอย่างมั่นใจเมื่อนึกถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับตนเอง
“งั้นเอาไว้เรามาเที่ยวเมืองไทยกันอีกเมื่อไหร่ เรามาพักที่บ้านหลังนี้บ้างกันดีมั้ย อ้อ ปีหน้าตอนมาไหว้อัฐิของคุณป้าก็น่าจะดีนะ ถ้านากิกับนาโตะมาด้วยคงชอบที่นี่แน่ๆ สองคนนั้นชอบอะไรที่เป็นธรรมชาติ ยิ่งนาโตะนะชอบทุกอย่างที่เป็นแบบชาติไทยอยู่ด้วย ทุกคนยังคิดกันเลยว่าเนื้อคู่ของนาโตะต้องเป็นหญิงไทยแน่เลย” ฮารูนะบอกออกไปก่อนจะเดินเข้าไปภายในตัวบ้านที่ทุกอย่างตั้งแต่หน้าประตูรั้วบ้านจนถึงข้างของภายในบ้านนั้นสภาพยังดูดีทั้งที่ผ่านมาหลายสิบปี แสดงถึงการดูแลรักษาเป็นอย่างดีทั้งที่ชายหนุ่มคิดว่าบ้านหลังนี้เขาคงไม่ได้มีโอกาสกลับมาเหยียบมันอีกครั้ง แม้ว่าตัวเขานั้นมาไหว้อัฐิของผู้เป็นแม่ทุกปีก็ตาม
“ถ้าฮานะชอบที่นี่ ไว้ครั้งหน้าเรามาพักกันที่นี่ ดีมั้ยครับ” เบนจิโร่บอกออกไปด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน จนหญิงสาวที่ได้ยินคำพูดนั้นถึงกับหันหลังมามองก่อนจะพูดออกไป
“เบนพูดเพราะอยากมาด้วยกัน หรือพูดเพราะต้องการเอาใจฮานะ” ฮารูนะเอ่ยถามคนตรงหน้าอย่างอยากรู้ความจริงเพราะเธอรู้นิสัยของอีกฝ่ายดีว่ายอมเธอทุกอย่างหากว่าเธอต้องการอะไร ซึ่งไม่ใช่สิ่งนี้ที่เขาจะต้องตามใจเธอ เพราะเธอต้องการให้อีกฝ่ายได้ทำตามความรู้สึกของตนเองบ้าง ไม่ใช่ว่าอะไรก็ตามใจแต่เธอ
“ผม...” เบนจิโร่พูดไม่ออกเมื่อเห็นสีหน้าคาดคั้นเอาคำตอบของอีกฝ่ายที่แสดงออกมา เพราะคำพูดที่เขาเอ่ยออกไปนั้นเพราะต้องการเอาใจคนตรงหน้ามากกว่าอยากจะมา
“เราคุยกันแล้วไง อะไรที่เบนไม่ชอบในสิ่งที่ฮานะทำ...เบนบอกฮานะได้” ฮารูนะลดเสียงของการพูดให้อ่อนลงเมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายก็รับรู้ได้ว่าเขาไม่ต้องการให้เธอไม่พอใจ
“ครับ” เบนจิโร่รับคำก่อนจะยิ้มให้โดยแววตาไม่ได้ยิ้มตามสีหน้าเลยแม้แต่น้อย ทำให้ฮารูนะรู้ว่าที่คงสร้างแผลในใจให้ชายหนุ่มมากพอสมควร เพราะไม่เห็นชายหนุ่มรู้สึกดีใจเลยสักนิดเดียวเมื่อเธอพามาที่นี่
“สัญญาได้มั้ย ว่าอะไรที่ฮานะทำลงไปแล้ว ทำให้เบนไม่พอใจ โกรธหรือเสียใจ เบนจะพูดความรู้สึกนั้นออกมาให้ฮานะได้รู้”
“ผมขอโทษที่ทำให้ฮานะรู้สึกไม่ดี ทั้งที่ฮานะอุตส่าห์พาผมกลับมาที่บ้านของตัวเอง” เบนจิโร่เอ่ยออกมาอย่างรู้สึกผิดที่ไม่ได้แสดงความดีใจที่อีกฝ่ายเซอร์ไพรส์เขาด้วยการพากลับมาบ้านที่เคยอยู่กับผู้เป็นแม่เมื่อครั้งยังเด็ก
“ฮานะต่างหากที่ต้องขอโทษเบนที่ทำให้เบนรู้สึกไม่ดี ฮานะขอโทษนะคะ ฮานะนึกว่าเบนจะดีใจที่ได้มาเห็นบ้านหลังนี้ ต่อไปฮานะไม่ชวนเบนมาที่นี่อีกแล้ว”
“สักวันนึงผมอาจจะชอบที่นี่ก็ได้ครับ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้”
“งั้นเรากลับกันเถอะ” ฮารูนะบอกออกไปก่อนจะยื่นมือไปทางชายหนุ่มเพื่อหวังว่าอีกฝ่ายจะยื่นมือมาจับมือของตน
“วันนึง ผมจะสร้างบ้านที่มีแต่ความทรงจำที่ดีและความรู้สึกดีๆ ...เพื่ออยู่กับฮานะ” เบนจิโร่พูดออกไปก่อนจะยื่นมือไปจับมือหญิงสาวตรงหน้าที่ยื่นมือมาทางเขาด้วยความรู้สึกหวงแหนคนตรงหน้าเป็นอย่างมาก
“แล้วฮานะจะรอวันนั้นค่ะ” ฮารูนะบอกคนตรงหน้าออกไปจากความรู้สึกตอนนี้ก่อนจะยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างดีใจ
หลังจากที่พูดคุยกับอย่างเข้าใจ ฮารูนะและเบนจิโร่จึงเดินจูงมือกันเดินออกจากบ้านหลังนี้ด้วยความรู้สึกที่ต่างกัน
คนหนึ่งเดินออกจากบ้านด้วยความรู้สึกที่ตั้งมั่นว่า สักวันหนึ่งเขาจะสร้างบ้านที่เกิดจากความรักที่จะมีเขาและหญิงสาวข้างกายอยู่ด้วยกัน
คนหนึ่งเดินออกจากบ้านด้วยความรู้สึกเป็นกังวลกับอนาคตข้างหน้าที่จะมาถึง ซึ่งตัวเธอเริ่มไม่มั่นใจว่าในอนาคตข้างหน้า เธอยังคือความสุขของอีกฝ่ายอยู่หรือไม่