@ Puso Café
“ทำหน้าดีๆ ให้มันเนียนๆ หน่อยสิวะ ถ้าลูกค้าปูโน่หายหมดฉันจะหักค่าขนมแก”
ทันทีที่เสียงโหดสนิทกระซิบจากด้านหลัง ผมก็รีบสวมวิญญาณปูโน่ ทำหน้านิ่งๆ แต่ยิ้มละไมให้ลูกค้าสาวกลุ่มใหญ่ที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาในร้านกาแฟของป๊าทันที เพราะรู้แน่ว่าแกพูดจริง! ทำจริง!
เรื่องทิ้งลูกชายอะขอให้บอก -*-
ป๊าผมเป็นเจ้าของบริษัทกาแฟส่งออกรายใหญ่ระดับประเทศ ปกติก็ไม่ค่อยเข้าออฟฟิศเท่าไหร่หรอก ปล่อยให้แม่ผมบริหาร (แม่ผมเก่งนะ เวิร์คกิ้งวูแมนตัวจริงเสียงจริงอะ =w=) ส่วนตัวป๊าชอบหลบมาสิงอยู่ร้านกาแฟเล็กๆ ในสวนสาธารณะแถวโรงเรียนผมนี่แหละ
แต่ผมเข้าใจป๊านะ ได้ทำตามความฝัน แกคงมีความสุขดีกว่าใส่สูทเข้าออฟฟิศเป็นไหนๆ
และเพราะป๊าผมเป็นชายไทยร่างใหญ่ หน้าโหดประหนึ่งเดอะฮัลค์ตอนแปลงร่าง ขัดกับลักษณะนิสัยที่เป็นคนพิถีพิถันละเอียดอ่อนอย่างรุนแรง ป๊าเลยจำเป็นต้องจ้างบาริสต้าหน้าตาดีมาประจำหน้าร้านหลายคน แล้วจิกปูโน่มาช่วยด้วยอีกแรง ใช้ความหล่อระดับเทพ (เหมือนผม) บวกกับหน้านิ่งๆ มึนๆ ที่พวกสาวๆ กรี๊ดกร๊าดกันว่ามันเคร่งขรึม (ตรงไหน -*-) มาเรียกลูกค้าจนตอนนี้ไม่มีใครในโรงเรียนผมไม่รู้จักร้านป๊าแล้ว
แต่ถ้าวันไหน อย่างเช่นวันนี้ - -^ ปูโน่มันเกิดปวดไส้ติ่ง วิงเวียน จวนเจียนจะเป็นไข้ จนต้องขอกลับไปนอนพักผ่อนที่บ้าน ป๊าก็จะโทรตามให้ผม ‘ปลอม’ เป็นมันมาอยู่หน้าร้านแทน
แต่ผมว่าหมอนั่นมันก็ไม่ได้ป่วยจริงหรอก อยากกลับบ้านไปซุ่มอ่านหนังสือละไม่ว่า!
กริ๊ง~
“เชิญครับ”
ผมหันไปฉีกยิ้มธุรกิจทันทีที่ได้ยินเสียงกระดิ่งหน้าร้าน เห? เอฟา หมีโหดพากระต่ายน้อยมาหาผมถึงที่นี่เลยอะ! *0* แต่ทำไมต้องเป็นตอนนี้ฟะ ผมกำลังสวมวิญญาณปูโน่อยู่นะ
แล้วจะขอโทษกระต่ายน้อยยังไงล่ะครับเนี่ย T^T!
“เหนื่อยมั้ยปูโน่”
กระต่ายน้อยเดินมานั่งหน้าเคาน์เตอร์พร้อมกับยิ้มทักผมอย่างเริงร่า ขณะที่เอฟาเดินตามมาด้วยใบหน้านิ่งเฉย พอทิ้งตัวลงนั่งข้างคิวริเรียบร้อย หมีโหดก็เงยหน้าขึ้นมองสบตาผม ก่อนจะเลิกคิ้วนิดๆ แล้วเรียวปากบางเฉียบก็กระตุกรอยยิ้มแบบที่เป็นอันรู้กัน เอฟาไม่เคยทักผมกับปูโน่ผิด ต่อให้ผมปลอมตัวเนียนแค่ไหนก็เถอะ
แต่กรณีนี้เธอก็จำเป็นต้องแกล้งโง่อะนะ เพื่อธุรกิจของป๊าผม -O-
“คิวริ”
พอผมเอ่ยเรียก ใบหน้าเนียนใสของสาวน้อยที่กำลังเงยมองป้ายเมนูด้านหลังผมก็หันมองกลับมา พร้อมรอยยิ้มไร้เดียงสาที่ทำให้ผมอิจฉาปูโน่โคตร!
ทำยังไงเธอถึงจะยิ้มแบบนี้ให้ผมบ้างนะ...
“เอ่อ เอสโซ่ฝากบอกว่าขอโทษมากๆ เลยน่ะ” ผมบอกเธอแบบนิ่มๆ เย็นๆ ตามสไตล์คุณชายคาปูชิโน่เป๊ะ -_-+ เฟกเก่งเหมือนใครวะผม?
แต่พอฟังจบ รอยยิ้มของกระต่ายน้อยก็ค่อยๆ จางลง จนกลายเป็นบูดบึ้งในพริบตา
“อย่าพูดชื่อหมอนั่นอีกนะปูโน่ ได้ยินแล้วฉันจะอาเจียน!”
T^T
กระต่ายน้อยของผมโหดร้ายเกินไปแล้ววว
“ปูโน่”
“...”
“คาปูชิโน่!”
“ฮะ ผมเหรอ? เออ ก็ผมสิเนอะ”
ผมชี้นิ้วเข้าหาตัวเองพร้อมกับหันไปถามป๊าที่กระซิบเรียกด้วยอาการรั่วนิดๆ แต่ยังพยายามทำหน้านิ่งๆ มึนๆ ไว้ไม่ให้หลุดจากบุคลิกพี่ชายฝาแฝด จนยัยหมีโหดเบือนหน้าหนีไปแอบยิ้มเยาะ -_-^ ส่วนกระต่ายน้อยของผมไม่ทันมองมา เพราะกำลังเงยหน้ามองเมนูของร้านบนกำแพงด้านหลังอีกรอบ
“มัวทำอะไรอยู่ ไปรับออเดอร์ลูกค้าโต๊ะนั้นหน่อย”
ผมปฏิบัติตามคำสั่งของป๊าอย่างเคร่งครัดด้วยหัวใจที่แหลกสลาย T_T และปล่อยให้บาริสต้ามือฉมังของร้านออกมารับออเดอร์ของกระต่ายน้อยกับเอฟาแทน พอเดินกลับมาที่เคาน์เตอร์ก็เห็นเอฟากำลังคุยโทรศัพท์กับใครสักคนแบบอือๆ ออๆ ก่อนจะกดวางสาย แล้วหันมองหน้าผม
“นายจะกลับได้เมื่อไหร่?”
ผมก้มมองนาฬิกาข้อมือ เข็มสั้นเกือบจะชี้ที่เลขเจ็ดอยู่แล้ว
“อีกเดี๋ยวก็กลับ ทำไมเหรอ?”
“ฝากไปส่งคิวริที่บ้านหน่อยนะ ฉันจะไปดู... ไปดูเอสโซ่หน่อย”
ฟันธงได้เลยว่าปูโน่มันต้องโทรมาอ้อนอะไรหมีโหดของผมแน่!
ไม่อย่างนั้นทำไมยัยนั่นถึงต้องรีบไปโดยเอาชื่อผมมาอ้างตอนผมปลอมตัวอยู่แบบนั้นด้วยล่ะ... อ๊ะ! ไม่ใช่สิ! หมีโหดเป็นของผมเมื่อไหร่ เฮ้อ! ผมนี่ท่าจะประสาท... ตอนนี้ผมกำลังเดินไปส่งคิวริที่บ้านตามที่อยู่ที่หมีโหดแอบจดใส่เศษกระดาษมายัดใส่มือผมก่อนกลับออกไป ไม่อยากบอกเลยว่าลัลล้าโคตรๆ แต่ต้องเก๊กหน้านิ่งแกล้งทำตัวเป็นปูโน่ โอ๊ย! อึดอัด จะบ้าตาย
อยากกลับไปเป็นตัวเอง T^T
ส่วนกระต่ายน้อยก็เอาแต่เอ๋อๆ งงๆ ปล่อยให้เอฟาเดินออกจากร้านไป แล้วผมก็สวมรอยปลอมตัวเป็นปูโน่ต่อ แต่แบบ...น้ำตาตกในอะ ต้องมาฟังกระต่ายน้อยด่าตัวเองตรงๆ แบบนี้
‘ฉันจะอาเจียน!’
เหมือนโดนคมแฝกตีแสกหน้า
เจ็บซ้า…
หลังจากเดินด้วยกันมาได้พักใหญ่ เราสองคนก็ปล่อยให้สายลมพัดผ่านรอบกายไปแบบนั้นโดยไร้คำพูดจาใดๆ แค่หันไปมองหน้าเธอผมยังไม่กล้าเลย ให้ตายสิ! เอาไงดีเนี่ย
“ไม่อยากมาส่งฉันเหรอ?”
เสียงถามนั่นทำเอาผมแอบสะดุ้งลึกๆ ในใจ เอาแล้วไง โจทย์แรกวิ่งเข้ามาตีแสกหน้าแล้ว
“เปล่านี่” เก๊กขรึมไว้ก่อน ไอ้เฟกบันลือโลกมันสอนไว้ T.T
“ทำไมไม่พูดกับเราเลยล่ะ”
“เปล่า แค่สงสารเอสโซ่”
หนึ่งดอก! เพิ่งรู้การมีฝาแฝดก็ดีเหมือนกันแฮะ
“สงสาร?” คิวริทำเสียงสูงขึ้นจมูก แล้วหันมามองหน้าผมตรงๆ “นายเองไม่ใช่เหรอที่บอกให้ฉันอยู่ห่างๆ หมอนั่นเข้าไว้ นายเองนี่ที่บอกว่าเอสเพรสโซ่น่ะ คบไม่ได้!”
ไอ้เลวคาปูชิโน่ -_-^