คลับหรูใจกลางกรุงฯ ภายในคับคั่งไปด้วยผู้คน นักท่องเที่ยวที่หนาแน่นนี้ทำให้เกิดการเบียดเสียดกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ อนาวินสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงสแล็กส์ขายาวสีเบจ เขาปลดกระดุมทางด้านบนหนึ่งเม็ดเผยแผ่นอกแกร่งสู่สายตาของผู้พบเห็น ข้อมือหนากับนาฬิกาเรือนหลายสิบล้านยิ่งทำให้เขาดูดีเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
ชายหนุ่มยืนอยู่ท่ามกลางผู้คน ด้านข้างของเขาเป็นเพื่อนสนิทสมัยเรียนมหา’ลัยด้วยกัน อนาวินมักนัดเพื่อนออกมาดื่มแบบนี้แทบทุกวัน
“คนมองมึงเยอะเลยว่ะ”
“มึงก็ใช่ย่อย” ทั้งสองหัวเราะ เอ่ยชมกันว่าเป็นหนุ่มฮ็อตที่ใคร ๆ ต่างต้องหันมามอง ดวงตาคมสาดส่องมองหาสาวสวยที่จะมานอนกับเขาค่ำคืนนี้ เขาสนุกที่ได้ใช้ความหล่อ เท่ หุ่นดีของตัวเองในการล่อลวง ความสนุกเหล่านี้เป็นมาตั้งแต่แตกเนื้อหนุ่ม
“เดี๋ยวกูมานะ” ปรวีร์ตบไหล่เพื่อนเล็กน้อย เขามองเห็นผู้หญิงที่ถูกตาต้องใจแล้ว ทำเอาอนาวินหงุดหงิด
“เดี๋ยวดิ นี่เพิ่งสองทุ่ม”
“เออ...สวยว่ะ” เขามองตามสายตาของเพื่อน เห็นผู้หญิงหน้าคุ้นถึงกับชะงักไป เธอคนนี้คือคนเมื่อวาน
“กูเอาไปแล้วคนนี้”
“อ้าว...”
“จำไม่ได้หรือไงวะ” เขาหันมองเพื่อน ก่อนที่ทั้งสองจะหัวเราะออกมา “เดี๋ยวนี้แม่งผู้หญิงหน้าเหมือนกันหมด อย่างกับตุ๊กตา”
“หึ แหงสิ...หมอเดียวกันมั้ง”
“เออ หาธรรมชาติยากแล้วว่ะ ยังดีนะที่มึงได้เมียสวย” อนาวินชะงักเล็กน้อย เลื่อนสายตาสบตากับเพื่อน
“แอบมองเมียกูหรือไง”
“เอาน่า...หวงไร ไหนบอกไม่ได้รัก”
“_” อนาวินกลืนน้ำลายลงคอ บ่ายเบี่ยงยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม แต่ก็ไม่วายคำพูดของคนเป็นเพื่อนทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด
“แต่สวยจริงนะแพรน่ะ ตอนเรียนมึงจำได้ปะที่กูบอกว่าน้องน่ารักน่ะ ตอนนั้นฮ็อตใช่ย่อย แต่ก็ไม่ใช่สเป็กมึง”
“_”
“หึ จนถึงตอนนี้กูยังไม่เข้าใจว่าทำไมมึงถึงแต่งงานกับน้องเขา น่าเสียดายว่ะ”
“เสียดายไรวะ มึงพูดดี ๆ นะไอ้วี”
“ฮ่า ๆ” เห็นเพื่อนออกอาการแบบนี้แล้วก็ขำ อนาวินเห็นแก่ตัวที่รักสนุก ขณะเดียวกันก็กักขังภรรยาสาวของตัวเองไว้ “แพรรักมึงมากนะ ไม่เคยสงสัยอะไรในตัวมึงเลย”
“_” อนาวินไม่ได้ตอบ เพียงแค่ไหวไหล่ขึ้นเบา ๆ เพราะจริง ๆ เธอสงสัยเขามาโดยตลอด แต่เพราะทักษะการโกหกได้อย่างแนบเนียนต่างหากที่ทำให้เขารอดมาได้ถึงทุกวันนี้ โกหกแถมชอบทำหน้าเข้มใส่เธอ และที่สำคัญเพราะเธอรักเขามากเลยมองข้ามหลายสิ่งหลายอย่างไป เชื่อใจ ไว้ใจเขาทุกอย่าง
“เออ ช่างเถอะมึงเอาแล้วกูเอาต่อก็คงไม่เป็นไร ไม่มีคนสวย ๆ ละ” ปรวีร์ว่าแล้วก็ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มหนึ่งอึก ก่อนที่เขาจะเดินไปหาเป้าหมายที่เพ่งเล็งไว้
“มาคนเดียวเหรอครับ คนสวย” เสียงของเขาทำให้สาวสวยคนนี้หันมามอง ผู้ชายตรงหน้าเป็นหนุ่มตี๋จัดได้ว่าหน้าตาหล่อเหลามาก แต่เธอมีหนุ่มที่หมายปองอยู่แล้วนี่สิ
“ค่ะ มาคนเดียว” เธอยิ้มให้อีกฝ่ายบาง ๆ ก่อนจะเลื่อนสายตามองหนุ่มมาดเข้มไม่ไกลจากโต๊ะที่นั่งอยู่ ส่วนปรวีร์นั้นก็รู้สึกเสียหน้าไม่น้อยที่สาวเจ้าไม่ชวนเขานั่งด้วย แถมยังมองไปที่อื่นอีก กระนั้นก็ไม่อยากยอมแพ้ ขืนเดินกลับก็โดนเพื่อนล้อน่ะสิ
“ผมขอนั่งด้วยคนนะครับ”
“เอ่อ เดี๋ยวฉันจะต้องไปแล้วน่ะค่ะ” เธอรีบปฏิเสธ ก่อนจะลุกขึ้นยืนทำเอาคนที่กำลังหย่อนสะโพกลงนั้นชะงักค้างกลางอากาศทันที ปรวีร์รู้สึกเสียหน้า เขากัดฟันกรอดพร้อมกับกำมือเข้าหากัน มองตามแผ่นหลังบางที่เดินไปหาผู้ชายคนหนึ่ง ไอ้หน้าหนวดนั้นมันมีอะไรดีกว่าเขา ชายหนุ่มกำมือแน่นก่อนจะต้องตกใจเมื่อเพื่อนชายที่ยืนมองก่อนหน้านี้เดินเข้ามาใกล้
“ไงวะ ฮ่า ๆ เห็นนะเว้ย!”
“บ้าฉิบ...” เขาสบถออกมาอย่างคนหัวเสีย ทำเอาอนาวินกลั้วขำกุมหน้าท้อง อยากหัวเราะให้ดังลั่นแต่ดูเพื่อนนั้นจะหัวเสียมากจริง ๆ
“เอาน่า...” ฝ่ามือหนาตบไหล่เพื่อนเบา ๆ แต่ดูเหมือนจะไม่ช่วยให้ปรวีร์อารมณ์ดีขึ้นเลย “เดี๋ยวกูแก้มือให้”
“ไรวะ” ชายหนุ่มไม่ตอบคำถามเพื่อน เพียงแค่ขยิบตาให้ ก่อนที่อนาวินจะเดินไปที่โต๊ะหนึ่งที่มีผู้หญิงคนเมื่อวาน และผู้ชายตัวสูงใหญ่พอ ๆ กับเขานั่งอยู่
“ไง...” เขาเดินไปทักเจ้าหล่อนต่อหน้าผู้ชายหน้าเข้มคนนี้ ทำเอาเธอตกใจดวงตาแทบถลน
“คุณ!!” ยังเคืองไม่หายที่อีกฝ่ายฟาดเธอด้วยเงิน แต่ก็ตั้งหลักได้ “เอ่อ คุณภูเมฆคะ ฉันไม่รู้จักเขาเลยนะคะ”
“ครับ?” เขาไม่ได้อยากรู้หรอกว่าหล่อนนั้นรู้จักอีกฝ่ายไหม ชายหนุ่มแค่มาดื่มเหล้าแค่นั้น ไม่ได้อยากมาหาผู้หญิง
“หึ ผู้หญิงคนนี้นอนกับผมเมื่อคืน” อนาวินเอ่ยพูดพร้อมกับกระตุกยิ้มมุมปาก เขาคิดแค่อยากแก้เขินให้คนเป็นเพื่อน ส่วนภูเมฆนั้นถึงกับขมวดคิ้ว มองไอ้หน้าตัวเมียคนนี้อย่างคนไม่อยากจะเชื่อ
“นี่! พูดอะไรน่ะ” เธอเองก็ไม่พอใจ
“ให้เกียรติผู้หญิงด้วยครับ ผู้ชายที่คอยป่าวประกาศว่าตัวเองได้นอนกับใครแล้วบ้างผมเคยเห็นแต่ไอ้พวกขี้แพ้” เสียงของอีกฝ่ายนั้นทำเอาอนาวินโกรธจัด เขากัดฟันจนกรามสั่นไหว
“นี่มึงไม่รู้หรือไงว่ากูเป็นใคร” ไม่วายขู่อีกฝ่ายไปด้วย ภูเมฆบึนปากอย่างคนนึกหมั่นไส้ ดูจากหน้าตาสะอาดสะอ้าน ผิวขาวอย่างกับจิ้งจกไม่เคยโดนแดดก็พอรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นร่ำรวยมากแค่ไหน
“หึ ถ้ามึงรู้แล้วมึงจะไม่กล้าพูดอย่างนี้กับกู” ชายหนุ่มไม่หยุด เกิดมาชาตินี้ไม่เคยมีใครกล้าพูดจาถากถางเขาเช่นนี้มาก่อน “มึงชื่อไรนะ ภูเมฆใช่ไหม”
“พอเถอะค่ะ ทำไมถึงตามตอแยแบบนี้คะ”
“ฮะ...” ได้ยินอย่างนั้นอนาวินถึงกับต้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ เขาไม่ได้ต้องการตามอะไรหล่อนเลยสักนิด
“หึ คงกะมาแก้เขินให้เพื่อนล่ะมั้ง” ภูเมฆเลื่อนสายตาไปมองปรวีร์ที่อยู่ไม่ไกล ซึ่งอีกฝ่ายก็มองอยู่พอดีเช่นกัน
“หมายความว่าไง...ให้ตายสิ คุณมันหน้าตัวเมียจริง ๆ”
“นี่เธอ!!” เขาตะคอกเสียงออกมา ก่อนที่ภูเมฆจะทนไม่ไหว ผุดลุกขึ้นยืนพร้อมกับผลักไหล่ของอนาวินอย่างแรง
“มึงเป็นใครกูไม่รู้ แต่อย่ามาทำตัวกร่างกับผู้หญิง” ว่าเสียงเข้ม สบตากับอีกฝ่ายไม่วางตา ส่วนสูงที่พอ ๆ กันนั้นทำให้องศาสายตาของทั้งคู่สบกันอย่างไม่มีใครยอมใคร กระทั่งปรวีร์เข้ามาห้าม
“เฮ้ย...ใจเย็น เดี๋ยวเป็นข่าว” เพื่อนกระซิบที่ข้างหู คนรวยอย่างเขาก็ไม่ต่างจากดาราเท่าไรนัก อนาวินเป็นเซเลบที่นักข่าวตามติดยิ่งกว่าดาราเสียอีก ด้วยความรวยของเขารวมถึงอำนาจเงินที่สามารถเปลี่ยนขั้วการเมืองได้ ไม่แปลกที่จะเป็นที่สนใจของประชาชนคนทั่วไป เพราะอย่างนี้เขาถึงถามไอ้หน้าหนวดคนนี้ว่าไม่รู้จักเขาหรือ
“โธ่เว้ย...มึงมันเป็นคนดีตายแหละ” ไม่วายทิ้งท้ายไว้ด้วย ส่วนคนถูกว่าก็แค่ส่ายหน้าเบา ๆ ไม่คิดว่าคนในเมืองจะมีนิสัยแบบนี้ เขาไม่ได้ใช้ชีวิตที่กรุงเทพฯ เลย ทำงานอยู่บนไร่ เรียนก็เรียนที่ต่างประเทศ พอกลับมาทำงานที่ไร่ก็ไม่ได้มาที่กรุงเทพฯ เลย ไม่คิดว่าคนเมืองกรุงฯ จะถ่อยได้มากถึงเพียงนี้
“อย่าไปสนใจเลยนะคะ คุณคนนี้แต่งงานแล้วแต่ยังมาเที่ยวผู้หญิงอีก”
“หืม...” เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเลวได้มากขนาดนี้
“เฮ้อ...แถมยังเอามาขู่ด้วยนะคะว่าถ้าฉันโวยวายอาจจะโดนข้อหาฟ้องชู้ ฉันก็เลยต้องเงียบไป” ไม่คุ้มเสี่ยงหากจะโวยวาย ใครต่างก็รู้ว่าอนาวินนั้นมีอำนาจชี้เป็นชี้ตายมากแค่ไหน แม้แต่อำนาจในการให้รัฐบาลแก้กฎหมายเพื่อเอื้อนายทุนเขายังทำได้เลย กะอีเรื่องปิดปากผู้หญิงที่นอนด้วยทำไมเขาจะทำไม่ได้
“แบบนี้ไม่ไหวเลย”
“ใช่ค่ะ ถึงฉันจะชอบคนหน้าตาดี แต่ถ้ามีเมียแล้วบอกตามตรงว่าไม่เอาค่ะ ว่าแต่คุณภูเมฆ...มีเมียยังคะ”
“หึ...” เขาหัวเราะเบา ๆ อายุสามสิบห้าแล้วแต่ยังไม่มีเมียเลย ไม่เคยมีแฟนด้วย เขาทำงานในไร่เจอแต่ชาวไร่ ส่วนตอนเรียนก็มีมาจีบบ้างแต่บอกตามตรงว่าเขาไม่ชอบฝรั่งเท่าไรนัก
“หัวเราะแบบนี้...มีแล้วแน่เลย” เธอว่าหน้าเศร้า แต่ถึงมีหรือไม่มีเขาก็ไม่ได้สนใจเธอคนนี้ ส่วนคนที่เขาสนใจน่ะหรือ...เธอแต่งงานแล้ว
ชายหนุ่มยังไม่ลืมรอยยิ้มของเธอเลย มันเข้ามาประทับในใจของเขาเสียแล้ว คุณแพรไหมนั้นน่ารัก ตรงสเป็กของเขาทุกอย่าง เป็นผู้หญิงตัวเล็ก ตาโตผิวขาว ใบหน้าจิ้มลิ้มนั้นน่ารักมากเลยทีเดียว
“คุณภูเมฆคะ!!”
“คะ ครับ...” เขาเหม่อเลยทีเดียว
“ฉันเรียกตั้งนาน เหม่ออะไรคะเนี่ย ปฏิเสธฉันมาเลยตรง ๆ ยังดีกว่าตีมึนแบบนี้นะคะ” เธอว่าเสียงงอน ๆ หน้าตาเหมือนกับลูกแมวขี้อ้อน คิดว่าเขาคงแพ้ลูกอ้อนของเธอเหมือนกับผู้ชายคนอื่นที่ผ่านมา แต่ทว่า
“งั้นผมปฏิเสธเลยแล้วกันครับ” เขากลับตอบกลับมาหน้าตาย ทำเอาคนที่แบกความมั่นใจมาเต็มร้อยนั้นหน้าหดเหลือสองนิ้วเลยทันที หญิงสาวกัดริมฝีปากล่างก่อนจะสะบัดตูดเดินหนีไป ทิ้งให้พ่อหนุ่มมาดเข้มนั่งดื่มเหล้าเงียบ ๆ เพียงลำพัง ขณะเดียวกันนั้นสมองของเขาก็กำลังเพ้อฝันถึงรอยยิ้มของเธอคนนั้นมิจางหาย...
อนาวินกลับบ้านด้วยอารมณ์หงุดหงิดสุดขีด เขาไม่ได้ออกไปไหนกับผู้หญิงในค่ำคืนนี้ เพราะไอ้หน้าหนวดคนนั้นคนเดียวที่ทำให้เขาอารมณ์เสีย
“อ้าว!...ไหนบอกว่ากลับดึกไงคะ” เดินเข้ามาบ้านก็เป็นจังหวะพอดีที่ภรรยาสาวเดินลงบันไดชั้นสอง เธอตกใจมากที่เห็นเขา
“ประชุมยกเลิกน่ะ” เขาโกหก หน้าตาบอกบุญไม่รับของคนเป็นสามีนั้นทำให้แพรไหมรู้สึกเป็นห่วง เธอเดินเข้าไปใกล้เขา
“งานเครียดเหรอคะ” พร้อมกับช่วยเขาปลดกระดุมเสื้อ ดูท่าเขาจะร้อนมาก มาถึงก็ปลดกระดุมเธอจึงช่วยเขา
“นิดหน่อย” ว่าพร้อมกับมองเธอไม่วางตา จริงอย่างที่ปรวีร์ว่า ภรรยาของเขาไม่ตรงสเป็กเขาทุกอย่าง เขาชอบผู้หญิงเซ็กซี่ ไม่ใช่ผู้หญิงตัวเล็กแบบนี้
“อาบน้ำเหรอ” ได้กลิ่นสบู่อ่อน ๆ จากตัวเธอ อนาวินขยับเข้าไปใกล้ โน้มหน้าลงหอมเธอที่ซอกคอขาว เล่นเอาคนตัวเล็กขนลุกเกรียว
“พะ เพิ่งอาบค่ะ” เธอตอบเสียงสั่นเลยทีเดียว
“หอมดีนะ” เอ่ยพูดพร้อมกับยิ้มกรุ้มกริ่ม ทำเอาแพรไหมเขินอาย แต่พอจะเอ่ยพูดอะไรขึ้นมาอีก คนเป็นสามีก็ใช้โอกาสนี้ช้อนเธอขึ้นแนบอก
“ว้าย!! ตกใจหมดเลยค่ะ” เธอร้องเสียงหลงพร้อมกับยกแขนขึ้นโอบรอบคอแกร่งของเขาไว้ ส่วนคนเป็นสามีพอเห็นเธอมีสีหน้าตกใจก็หัวเราะออกมา เขาพาเธอขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน แม้นวันนี้จะไม่ได้นอนกับผู้หญิงคนอื่น...ได้นอนกับเมียก็ดีเหมือนกัน