บ้านพักวายุ
แกรก แอด
เสียงเปิดประตูบ้านที่ดังขึ้นทำให้เพลิงที่นั่งดื่มไวน์อยู่ยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ น้องชายสุดที่รักของเขากลับมาแล้วสินะ เมื่อประตูเปิดขึ้นวายุมองใครบางคนที่นั่งอยู่บนโซฟากลางห้องรับแขกด้วยความแปลกใจ
มือใหญ่ค่อย ๆ หยิบปืนที่เหน็บอยู่ที่เอวออกมา แล้วเดินเข้าไปหาผู้ชายที่นั่งหันหลังให้ตัวเองช้า ๆ ศัตรูเขามีเยอะจนไม่รู้ว่าใครเป็นใครบ้าง เขาจึงต้องพกปืนติดตัวตลอดเวลาที่เดินทางไปทำงานและก็หลังเลิกงานเสมอ
กริ๊ก
“ใครส่งมึงมา” น้ำเสียงแข็งกร้าวถามผู้ชายที่นั่งนิ่งไม่ขยับไปไหน พร้อมกับเตรียมลั่นไกปืนก่อนที่เพลิงกัลป์จะหันมาช้า ๆ แล้วค่อย ๆ จับมือที่ถือปืนของน้องชายให้เล็งมาที่หัวใจของตัวเอง
ส่วนวายุเมื่อเห็นหน้าของพี่ชายดวงตาก็เบิกกว้างด้วยความตกใจราวกับเห็นผี ด้วยไม่คิดว่าพี่ชายเขาจะมานั่งจิบไวน์เซอร์ไพรส์เขาที่เมืองไทยแบบนี้
“เรียวอิจิส่งฉันมา ทำไม จะยิงพี่ชายตัวเองเหรอเอาสิ” เพลิงกัลป์แสยะยิ้มร้ายให้น้องชายก่อนที่จะดึงปืนมาจ่อตรงหัวใจของตัวเอง ส่วนวายุรีบสะบัดมือที่ถูกพี่ชายจับเอาไว้ออกทันที พี่ชายเขาบ้าบิ่นเกินไปแล้ว
“เล่นบ้าอะไรวะเนี่ย ปืนลั่นขึ้นมาจะทำอย่างไร” ว่าให้พี่ชายด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ก่อนที่จะเดินอ้อมมานั่งลงตรงข้ามกับพี่ชาย ดวงตาคมกริบจ้องมองพี่ชายที่ยกไวน์ขึ้นจิบอย่างสบายอารมณ์พร้อมกับคำถามมากมายที่ตีกันวุ่นวายในหัว
“มาได้ไง” วายุถามเพลิงกัลป์อย่างเป็นงานเป็นการก่อนที่เพลิงจะยักไหล่น้อย ๆ อย่างทะเล้นแล้วยกไวน์ขึ้นมาดื่มรวดเดียวหมดแก้ว
“คิดถึงน้องชายเลยมาหาน่ะ ไม่ได้ไง” ตอบวายุด้วยสีหน้าและท่าทางที่ชวนเท้ากระตุกมาก นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นพี่ชายที่ออกมาก่อนแค่ไม่กี่นาทีนะ เขาจะยกขาขึ้นถีบให้หงายหลังแน่นอน ไม่ต้องรอให้มานั่งกวนเบื้องล่างแบบนี้หรอก
“ขอสาระเพลิง” บอกพี่ชายด้วยความจริงจังก่อนที่เพลิงจะกระตุกยิ้มมุมปากน้อย ๆ แล้วเทไวน์ใส่แก้วอย่างชิล ๆ กับคำถามที่เป็นงานเป็นการของน้องชาย
“หนีมาทำไมไม่บอก มาอยู่ที่นี่คนเดียวคิดว่าเก่งหรือไง พลาดท่าเป็นศพขึ้นมาฉันไม่มารับแกกลับหรอกนะจะปล่อยให้นอนตายศพเน่าอยู่คนเดียวไปเลย”
น้ำเสียงเย็นชาว่าให้น้องชายที่เงียบไปทันทีที่ได้ยินพี่ชายพูดแบบนี้ก่อนที่วายุจะยิ้มกว้างออกมาช้า ๆ ทำมาเป็นปากดีแล้วที่ตามเขามานี่ไม่ได้ห่วงเลยใช่ไหม
“แล้วที่มาโผล่ในบ้านคนอื่นเขานี่ไม่ได้เตรียมมาเก็บศพไง” ตอบกลับพี่ชายอย่างหยอกล้อก่อนที่เพลิงจะหยิบถั่วขึ้นมาแล้วเขวี้ยงใส่น้องชายด้วยความหมั่นไส้ที่รู้ทันเขาไปเสียทุกเรื่อง
“เรามีกันสองคนพี่น้อง ฉันจะทิ้งแกได้อย่างไรล่ะวายุ แกอยู่ไหนฉันอยู่นั่นเพราะเราคือพี่น้องกัน”
ถอนหายใจก่อนที่จะบอกน้องชายด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใย ทำเอาวายุรู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูกที่พี่ชายฝาแฝดเพียงคนเดียวของเขาไม่เคยทิ้งเขาไปไหนเลย แม้ว่าบางครั้งที่พวกเขาสองคนจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายจนแทบเอาชีวิตไม่รอด แต่พี่ชายก็ไม่เคยทิ้งเขาเลยสักครั้ง
“แล้วมานี่ใครดูแลพ่อล่ะ” วายุถามเพลิงด้วยความกังวลใจ เพราะศัตรูของตระกูลซาโต้อิชิบะมีไม่น้อย มีทั้งศัตรูในที่ลับและศัตรูในที่แจ้งที่พร้อมจะลอบฆ่าเรียวอิจิ ซาโต้อิชิบะทุกเมื่อ
“นายคิดว่าพ่อจะดูแลตัวเองไม่ได้หรือไง อยู่มา 56 ปีแล้วจะอยู่ยงคงกระพันไปอีกสักร้อยปี จะเป็นไรไป”
เพลิงบอกน้องชายยิ้ม ๆ ในขณะที่วายุได้แต่ยิ้มขำกับคำตอบของพี่ชาย ตั้งแต่ที่แม่ของเขาถูกยิงตายพ่อของเขาก็ดูแลตัวเองและพวกเขาอย่างรัดกุม รอบตัวพวกเขาเต็มไปด้วยลูกน้องที่เป็นนักฆ่าคอยดูแลไม่ให้พวกเขาได้รับอันตราย
“แล้วกะจะมาอยู่ที่นี่กี่วัน” วายุถามพี่ชายเพราะเขาคิดแค่ว่าเพลิงจะมาดูเขาว่าอยู่ดีมีสุขหรือเปล่าแค่นั้น คงไม่ได้คิดที่จะอยู่ถาวรหรอกใช่ไหมนะ
“น้องชายพี่กลับญี่ปุ่นตอนไหนพี่ก็กลับตอนนั้นแหละ” บอกน้องชายสุดที่รักด้วยสีหน้าชื่นมื่นส่วนวายุถึงกับหน้าเหวอไปทันทีที่ได้ยินคำตอบจากปากของพี่ชาย
“อย่าบอกนะว่าจะมาอยู่ที่นี่จนกว่าฉันจะยอมกลับไป” เพลิงพยักหน้ารับทันทีกับคำถามของน้องชาย ส่วนวายุได้แต่กุมขมับด้วยความปวดหัว นี่กะจะไม่ปล่อยให้เขาได้ใช้ชีวิตสบาย ๆ เลยหรืออย่างไรกันนะ
“แล้วจะอยู่ที่ไหน อย่าบอกนะว่าจะมาอยู่กับฉันที่นี่” เงยหน้าขึ้นมาถามพี่ชายอีกครั้งก่อนที่เพลิงจะส่ายหน้ายิ้ม ๆ ทำเอาวายุแอบถอนหายใจอย่างโล่งอกที่พี่ชายไม่ได้มาพักกับตน
“พักที่คอนโดไม่ไกลจากที่นี่ แต่ซอรี่นะน้องรักเราทำงานที่เดียวกันแค่คนละแผนก” ประโยคแรกวายุรู้สึกยินดีแต่ประโยคหลังเหมือนพี่ชายของเขาทิ้งระเบิดลงกลางบ้านจนพังไปทั้งแถบเลย นี่พี่ชายหรือเจ้ากรรมนายเวรตามติดยิ่งกว่าวิญญาณศัตรูก็พี่ชายเขานี่แหละ ริว ซาโต้อิชิบะ
“ทำไมไม่ไปทำงานที่อื่น โรงพยาบาลอื่นก็มีตั้งเยอะตั้งแยะจะมาทำงานที่เดียวกับฉันทำไม” แยกเขี้ยวถามเพลิงด้วยความไม่พอใจ ส่วนเพลิงทำปากมุบมิบเลียนแบบน้องชายจนวายุต้องหยิบหมอนที่วางอยู่ข้าง ๆ
เขวี้ยงใส่พี่ชายซึ่งยกมือขึ้นมารับไว้อย่างไม่สะทกสะท้าน
“ทำงานที่อื่นก็ไม่สนุกสิ ทำงานที่เดียวกันนี่แหละมีเรื่องสนุกให้ดูให้ทำอีกตั้งเยอะ หึหึ ไปละน้องรักฝันดีน้า คิส”
ส่งจูบให้น้องชายอย่างกวน ๆ ก่อนที่เดินออกไปจากบ้านพักของวายุอย่างอารมณ์ดี เมื่อเดินพ้นขอบรั้วมาแล้วเคนจิกับเคนตะก็ขับรถมารับเจ้านายทันทีก่อนที่จะขับรถจากไปทิ้งให้วายุมองตามผ่านม่านที่ส่ายไหวไปมาเพราะแรงลม
การมาเยือนของพี่เพลิงกัลป์ขออย่าให้มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับคนที่นี่เลย ที่นี่ไม่มีใครรู้จักพวกเขาสองคนพี่น้อง ขอให้พวกเขามีชีวิตที่สงบสุขด้วยเถอะอย่าให้มีใครต้องเดือดร้อนเพราะพวกเขาอีกเลย
คฤหาสน์ของกฤษฎิ์
“วันนี้ลูกสาวพ่อขาไปโรงพยาบาลทำไมคะ”
บนโต๊ะอาหารแก้มใสกำลังตักข้าวทานด้วยความหิว แต่พอกฤษฎิ์ถามลูกสาวแค่นั้นแหละช้อนที่กำลังจะส่งข้าวเข้าปากก็ชะงักทันที ส่วนเก้าทัพหันมามองพี่สาวด้วยความสงสัย ที่รักที่นั่งข้าง ๆ กฤษฎิ์ก็พลอยมองแก้มใสอย่างรอคอยคำตอบด้วยเช่นกัน
ก่อนที่แก้มใสจะส่งข้าวเข้าปากแล้วเคี้ยวต่อ เมื่อเคี้ยวจนละเอียดเรียบร้อยแล้วก็ค่อย ๆ ไล่มองหน้าทีละคนช้า ๆ ตั้งแต่แม่ขา พ่อขา น้องชายที่ต่างจ้องมองมาที่เธอเพื่อรอฟังคำตอบ
“พอดีแก้มใสไปช่วยเพื่อนที่โดนรุ่นพี่ปีสามตี เพื่อนเจ็บหนักก็เลยพาไปส่งที่โรงพยาบาลพ่อขาค่ะ”
ตอบคำถามกฤษฎิ์ด้วยท่าทีสบาย ๆ ก่อนที่จะตักกับข้าวฝีมือแม่ขาทานต่ออย่างเอร็ดอร่อย เคี้ยวข้าวเสร็จยังไม่ทันได้ตักกับข้าวคำต่อไปกฤษฎิ์ก็ถามลูกสาวขึ้นมาอีกครั้งกับคำถามที่เขายังไม่ได้คำตอบ
“แล้วรู้จักกับหมอวายุได้อย่างไร” คำถามนั้นของกฤษฎิ์ทำเอาแก้มใสนิ่งไปอึดใจใหญ่ก่อนที่นึกหาคำตอบที่โดนใจพ่อขามากที่สุดจะให้พ่อขารู้ไม่ได้ว่าเธอกำลังวางแผนจะขโมยหัวใจผู้ชายอยู่
“ก็พอดีพี่หมอเขามาตรวจเพื่อนแก้มใสไง เลยได้ทำความรู้จักกันไว้ ไม่มีอะไรหรอกค่ะพ่อขา” แถจนสีข้างถลอกบอกกฤษฎิ์ว่าเพิ่งรู้จักกัน ขืนบอกว่าเธอชอบพี่หมอพ่อขาคงไม่เป็นอันทำงานทำการแล้วสั่งให้พี่ชินคุงกับเรียวคุงตามประกบเธอไม่ห่างแน่นอน
เต๊าะผู้ชายมาเป็นแฟนให้ได้ก่อนเดี๋ยวพอพ่อขาเห็นหน้าหลานน้อย เอ๊ย!! ว่าที่แฟนของแก้มใสเดี๋ยวพ่อขาก็ใจอ่อนเอง เพราะพี่หมอของเธอออกจะแสนดีเหมาะสมกับแก้มใสคนนี้ที่สุด คิดไปก็ยิ้มไปจนเก้าทัพที่นั่งข้าง ๆ ถึงกับสะกิดพี่สาวให้ดูหน้าพ่อขาด้วย กฤษฎิ์กำลังส่งสายตามองมาที่ลูกสาวอย่างจับผิดสุด ๆ
“รู้จักกันธรรมดา แล้วทำไมต้องยิ้มแฉ่งขนาดนั้น” กฤษฎิ์ถามลูกสาวอย่างรู้สึกไม่วางใจก่อนที่แก้มใสจะยิ้มหวานให้ผู้เป็นพ่ออย่างอ้อน ๆ อ้อนไว้ก่อนพ่อขาแพ้ลูกอ้อนเธอตลอดแหละ
“ไม่มี้ ไม่มีเลยค่ะ แค่คิดถึงน้องเกรซหลานสาวสุดที่รักแค่นั้นเอง” ยิ้มแฉ่งโชว์ลักยิ้มสวยบอกพ่อขาว่าคิดถึงเกรซหลานสาวที่แสนน่ารักของเธอ ลูกสาวที่แสนสวยของพี่อลิสกับพี่กาย
“หึ อย่าให้พ่อขารู้นะว่ากำลังไปตามจีบใครอยู่ ไม่งั้นมีเฮแน่นอน” คำพูดที่เหมือนจะรู้เป็นนัย ๆ ของพ่อขาทำเอาแก้มใสถึงกับเสียวสันหลังวาบ ใจแอบกลัวว่าพ่อขาจะจับได้ว่าเธอแอบไปเต๊าะพี่หมอ แต่เอาวะเล่นของสูงมันต้องลอง ความลับแตกวันไหนเธอจะเอาหลานมาอ้อนพ่อขาก็แล้วกัน
อ๊าย!! ยังไม่ทันได้จีบนี่เธอคิดไปถึงมีลูกกับพี่หมอแล้วเหรอเนี่ย คิดคนเดียวอยู่ในใจอย่างมีความสุขก่อนที่จะกินข้าวต่ออย่างอารมณ์ดี ส่วนคุณพ่อก็ยังไม่วางใจเรื่องของลูกสาวกับหมอวายุสักเท่าไร ยิ่งลูกสาวตัวดีมองหมอวายุตาเชื่อมจนแทบจะกลืนกินแบบนั้น เขายิ่งไม่มีทางไว้ใจแก้มใสเด็ดขาด สงสัยต้องจับตาดูทุกฝีก้าวเสียแล้ว มองลูกสาวตัวน้อยที่กินข้าวอย่างอารมณ์ดีก่อนที่จะกระตุกยิ้มร้ายออกมา
คิดว่าคนอย่างหมอกฤษฎิ์มาเฟียตัวพ่อแบบเขาจะไม่รู้ทันลูกสาวหรือไงกัน เป็นห่วงก็แต่หมอวายุนั่นแหละ ถ้าลูกสาวเขาเกิดชอบขึ้นมาบอกได้คำเดียวเลยว่า โคตรบันเทิง อะ แถมอ**บรรลัยด้วยแล้วกัน หึหึ