Ep7 : หอมกลิ่นดอกรำเพย

2987 Words
(หอมกลิ่นดอกรำเพย) รำเพยรู้สึกสิ้นหวังหมดทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว เธอโซซัดโซเซวิ่งกลับมาปิดประตูนอนร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรอยู่ราวสามวันก่อนจะกัดฟันโผล่หน้าออกมาดูเดือนดูตะวัน โดยรำเพยยังคงรู้สึกเศร้าเสียใจ พาทำเอาร่างกายซูบผอม ใบหน้าขาวซีดเผือดซูบตอบลงจนดูผิดหูผิดตา นายสุขไม่อยู่บ้านอีกเช่นเคยเพราะนางสาลีม่ายสาวแสนสวยเกิดมาล้มป่วยกะทันหัน จึงไม่รู้ว่าหลายวันมานี้ลูกสาวเพียงคนเดียวของตัวเองกำลังช้ำใจหนักมากแค่ไหน ฝ่ายทองก้อนมีเพียงมายืนด้อมๆมองๆตรงบันไดเรือน แววตาชายหนุ่มดูอมทุกข์เพราะว่าอย่างน้อยๆเขากับรำเพยก็เห็นกันมาแต่เล็กแต่น้อย เขาเองก็รู้ตัวว่าเผลอลงมือทำกับรำเพยมากเกินไป จึงรู้สึกเสียใจไม่ต่างกัน เอาไว้ถ้าได้เจอหน้ากันจะๆ เขาจะพูดขอโทษเจ้าหล่อน ส่วนสายบัวไม่ยอมปล่อยโอกาสงามให้หลุดรอด คืนแรกเจ้าหล่อนแสร้งทำทีเป็นนอนหวาดผวาร้องเรียกให้คนช่วย ทองก้อนได้ยินจึงเปิดประตูห้องมุดมุ้งเข้ามากอดปลอบประโลม สายบัวแกล้งให้ท่าด้วยการทำมือปัดป่ายไปโดนดุ้นเอ็นของทองก้อน ชายหนุ่มสะดุ้งโหยง แต่ยังข่มอารมณ์กำหนัดให้นิ่งสงบลงได้เพียงแค่ใบหน้าจมน้ำตาของรำเพยวาบเข้ามาในมโนสำนึก ทองก้อนถอนหายใจหนักหน่วง ให้ทำอย่างไรได้ในเมื่อเขาไม่ปรารถนาจะผูกข้อมือรำเพยมาตั้งแต่แรกนี่นา คืนนั้นผ่านไปเพียงแค่ได้นอนกอด แม้นสายบัวจะพยายามเสียดสีร่างกายอวบอิ่มหวังปลุกกำหนัดในตัวชายหนุ่มซักแค่ไหน ทว่าทองก้อนก็ยังคงนอนกอดเธอนิ่งเงียบ อาจด้วยเพราะหัวใจชายหนุ่มยังรู้สึกหนักอึ้งกับความผิดที่มีต่อรำเพย เขาถึงไม่เกิดความปรารถนาในตัวสายบัว เข้าคืนที่สองสายบัวต้องนอนรอเก้อเพราะนายบ้านทัพทองเรียกให้ทองก้อนเป็นคนนำชายฉกรรจ์ในหมู่บ้านสามโคกออกส่องสัตว์ในป่าแทนเจ้าตัว เหตุด้วยตอนนี้ฉกากำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ คุณพ่อผู้มีความเห่อลูกจึงไม่ยอมห่างจากเมียสาว ส่วนคืนถัดมาทองก้อนออกไปทำธุระกับมิ่งแก้วยังไม่กลับ พอสายบัวทำกับข้าวตั้งสำรับเสร็จจึงเดินออกมาชะเง้อคอคอยชายหนุ่มข้างนอก จวนกระทั่งตะวันตกดินแสงทองบนขอบฟ้าหายลับ สายบัวจึงเดินกลับขึ้นเรือน ทันใดนั้นเอง ร่างอรชรกำลังถูกกระชากจากชายฉกรรจ์รูปร่างบึกบึน “อือ...อือ...” ริมฝีปากอิ่มถูกปิดสนิท สายบัวโดนชายปริศนาลากมายังท้ายเรือนของทองก้อน ตรงบริเวณนี้จะติดกับทางเข้าป่า ปกติไม่มีชาวบ้านมาใช้เส้นทางนี้หรอก เพราะว่ามันเป็นป่าค่อนข้างรกทึบ สายบัวดิ้นรนขัดขืน หากส่วนลึกในจิตใจหญิงสาวกับร้อนรุ่ม อารมณ์สาวกระเจิดกระเจิงตั้งแต่หนีมาอยู่หมู่บ้านสามโคกสายบัวยังไม่เคยปลดปล่อยตัวเองกับใคร ยิ่งปลายจมูกโด่งเล็กรั้นได้กลิ่นเหงื่อของไอ้ชายชั่วโชยมา กึ่งกายสาวกลับผลิตน้ำคาวข้นจนเปียกแฉะ ร่างงามถูกผลักจนล้มหน้าคะมำ สายบัวเงยหน้าขึ้นมองไอ้ชายหน้าหื่น หัวคิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันจนเป็นปม ถ้าเธอจำหน้ามันไม่ผิดไอ้นี่มันเป็นคนในบ่อนของไอ้บัวผัน หนึ่งในคนที่เคยกระทำย่ำยีกับเธอมาก่อนซะด้วยสิ “เป็นไง...ยังคิดถึงผัวคนนี้อยู่บ้างหรือเปล่าเอ่ย?” ถามขณะมือปดปมกางเกงดันให้มันร่วงกองบนพื้นหญ้า แววตาหื่นกระหายจับจ้องมองสาวงามอดีตนางบำเรอของนายปานเศรษฐีหน้าโง่ เขาแอบได้ยินลูกชายไม่เอาถ่านมันบอกอีนางคนโปรดหนีออกจากเรือนมาตั้งแต่ถูกพวกมันพากันไปกระทำย่ำยี ที่แท้มันก็หนีมาอยู่หมู่บ้านสามโคก พอดีเขามีญาติอยู่ที่นี่วันนี้เดินทางมาเยี่ยมเลยเจอของดีเข้าโดยไม่ตั้งใจ “แล้วเอ็งมาทำอะไรที่หมู่บ้านสามโคก...” สายบัวถาม โดยตอนนี้ไม่หลงเหลืออาการตื่นกลัว สาวเจ้าตวัดเรียวขาขาวราวแท่งเทียนขึ้นชันเข่า เปิดเนื้อฉ่ำแฉะด้านในให้ของเคยค้าม้าเคยขี่ได้มอง ไอ้หื่นทำตาโตมองผ่านช่องผ้าถุงจนแลเห็นเนินอูม มันกำดุ้นเอ็นร้อนในมือขยับรูดจนแข็งตั้งเป็นลำโด่ สายบัวแลบลิ้นเลียริมฝีปาก ความหิวโหยแล่นพล่านไปทั่วเรือนร่าง สายบัวร่นผ้านุ่งกองไว้ตรงเอวคอด แบะเรียวขาอ้าออกจนกลีบแคมสองข้างแยกอ้า แลเห็นเม็ดทับทิมสีหวานกับเนื้อสีชมพูเข้มฉ่ำวาว สายบัววาดนิ้วมือเขี่ยเม็ดกระสันโชว์ ปากอิ่มเผยอปล่อยเสียงครวญคราง ไอ้หน้าหื่นร้องซี๊ดซ๊าดตาม มือหยาบขยำดุ้นเนื้อพ่นลาวาร้อนปริ่มอยู่ตรงส่วนหัวบานราวดอกเห็ด “เอ็งนี่ยังร่านได้ใจข้าเหมือนเดิมเลยนะอีสายบัว เสียดายไอ้บัวผันมันไม่รู้จักรักษาของดีอย่างเอ็งไว้ใกล้ๆตัว...” “พูดมาก...สรุปจะเอาหรือไม่เอา?” “เอาสิโว้ย...เอ็งไม่เห็นลำดุ้นข้าหรือไง มันปริจะแตกเพราะว่าอยากมุดเข้ากระทุ้งรูเอ็ง” สิ้นสุดคำนั้นสายบัวโผนตัวขึ้นมานั่งคุกเข่า คว้าเอาดุ้นยาวเข้าปากจัดการดูดเลียอย่างช่ำชอง มือรูดปากก็ลิ้มเลียดูดเนื้อแน่นเสียงดัง จ๊วบ จ๊วบ ทำเอาไอ้มิ่งแก้วซึ่งวิ่งตามมาหมายจ้ะเข้าช่วยต้องยืนตาโตหลังต้นสะเดาป่า ตายโหง!ไยน้องสายบัวคนงามของไอ้ทองก้อนถึงได้สมยอมไอ้ชาติชั่วนั่นเสียได้ล่ะ ถ้ามองไม่ผิดเหมือนทั้งคู่จะรู้จักกันด้วยซ้ำ แต่เอ!ถ้าจำผิด ตอนสายบัวหนีมาขอความช่วยเหลือนายบ้านทัพทอง เจ้าหล่อนบอกว่าถูกไอ้พวกสารเลวในบ่อนมันจะจับปล้ำข่มขืนมิใช่หรือไร? ให้ย้อนกลับเข้าหมู่บ้านอีกก็คงไม่ได้ เพราะว่าเรือนถูกไอ้ชั่วทั้งหลายมันเผาไหม้จนวอดวายไม่เหลือซาก ส่วนพ่อแม่พี่น้องก็ตายจาก เจ้าหล่อนเหลือเพียงตัวคนเดียวจึงมาขอพึ่งใบบุญ คนตกทุกข์ได้ยากมาเช่นนี้มีหรือนายบ้านทัพทองจะปฏิเสธ มีแต่จะรับปากยื่นมือเข้าช่วยเหลือ แล้วไอ้ทองก้อนก็ได้อานิสงส์ครั้งยิ่งใหญ่ พี่ทัพทองเห็นว่ามันยังเป็นหนุ่มโสดอยู่ตัวคนเดียวเลยโยนสาวงามทั้งรูปร่างกิริยามาให้ ไม่เหมือนกับเขาที่ได้ไอ้ฤทธิ์ชายฉกรรจ์อกสามศอกมาอยู่ร่วมชายคา พี่ทัพทองลำเอียงเหลือเกิน หากพอมาดูไอ้รูปการเช่นนี้ จะเรียกว่าเป็นการข่มขืนก็คงไม่น่าจะใช่ ให้ความร่วมมืออย่างดิบดีน่ะสิไม่ว่า แล้วไอ้ทองก้อนร่ำๆว่าอยากจะขอผูกข้อมือสาวเจ้าจนถึงขั้นต้องมาแตกหักกับนังรำเพยจะทำเช่นไร ถ้ารู้ว่าเบื้องหลังพฤติกรรมของสาวงามไม่ได้เป็นอย่างที่ตามันเห็น อยากจะรู้นักทองก้อนมันยังจะอยากผูกข้อมือรับสายบัวเป็นแม่ศรีเรือน หรือว่าจะกลับไปกินน้ำพริกถ้วยเดิมอย่างรำเพย ส่วนรำเพยน่ะเหรอ รายนั้นดูท่าอาการจะหนักไม่ใช่เล่น วันนี้เขาเลยกะว่าจะมาดูอาการมันสักหน่อย เขากำลังจะเดินเลี้ยวตรงไปยังเรือนรำเพยกลับหันมาเห็นหลังไวๆของคนคู่นี้ซะก่อน เลยตัดสินใจวิ่งมาดู แล้วเหตุการณ์ก็เป็นอย่างที่เห็น... มิ่งแก้วหมุนตัวเดินกลับมายังทางเก่า ปล่อยให้หญิงชายคู่นั้นระเริงกามกันต่อ... สายบัวเลียเอาน้ำเชื้อของไอ้ชายหื่นกลืนกินลงท้อง เงยหน้ารับแรงกระแทกจากปากร้อนชื้นรับเอาเรียวลิ้นเข้ามาตวัดไล่เลียในโพรงปากอ่อนนุ่ม เรือนร่างงดงามราวกลับหยวกกล้วยไม่เหลืออาภรณ์ติดกาย ไอ้หื่นดันให้สายบัวนอนราบกับพื้นหญ้า โดยมีร่างกำยำคร่อมทับลงมา “อืม...อืม...อืม...” ทั้งคู่กอดรัดฟัดเหวี่ยงอย่างหื่นกระหาย แลกน้ำลายกันจนหยดย้อยเปื้อนมุมปาก สายบัวดิ้นเร่าๆทุรนทุราย ขยับเนินโหนกบดบี้กับพวงดุ้นจนติ่งกระสันหวามไหว แอ่นหน้าอกทรงงามเสนอให้ไอ้หื่นบีบเคล้น หัวจะงอยแข็งตั้งชูชันสู้กับปลายนิ้วมือ ริมฝีปากร้อนลากผ่านมาจนถึงนมเต้างาม ไอ้หื่นครอบปากดูดเลีย อีกมือเคล้นคลึงจนเนื้อขาวกลายเป็นสีแดงระเรื่อ สายบัวครางเสียงกระเส่า อัดสะโพกมนขึ้นกระเด้าลำดุ้นยาว ไอ้หื่นดวงตาเปล่งประกาย เอื้อมมือมาด้านล่างจัดการเกี่ยวปลีน่องของสาวเจ้าแนบลงกับพื้นหญ้า แล้วกดสะโพกแข็งแรงสอดทะยานปลายหัวดุ้นยาวใหญ่เข้าไปพำนักในโพรงเนื้อนุ่มเพียงพรวดเดียวก็สุดปลายโคน สวบ... สายบัวตัวสั่นเกร็งหวีดเสียงร้องกรี๊ดๆ ไอ้หื่นช้อนสะโพกให้รับแรงกระแทกกระทั้นรุนแรง โพรงเนื้อตอดหนุบหนับส่งให้แรงพิศวาสของคนทั้งคู่พุ่งทะยาน ปรัก ปรัก ปรัก ... โหนกเนื้อประสานตอกตำเข้าหากันราวกับลูกสูบ สายบัวเสียดเสียวรัญจวนเอาแต่ร่ำร้องให้ไอ้หื่นขย่มเข้าหาแรงๆ เสียงหวานของเจ้าหล่อนแหบแห้งเพราะไอ้หื่นจับสายบัวกระแทกจนน้ำแตกติดๆกัน ความที่ห่างหายจากรสรักมานาน สายบัวจึงหลงลืมไปเลยว่าตอนนี้ตัวเองไม่ได้อยู่เรือนนายปาน ทองก้อนกลับขึ้นเรือนมาเห็นห้องหับของสายบัวปิดสนิทก็หลงคิดว่าเจาหล่อนคงเข้านอนไปแล้ว ชายหนุ่มจึงกลับเข้าห้องนอนตัวเอง คว้าเอาผ้าขาวม้าพาดบ่าเพื่อจะลงไปอาบน้ำ เขาได้ยินเสียงชายหญิงกำลังพูดคุยกันกะหนุงกะหนิงดังมาจากอีกฟากของเรือน ทองก้อนจึงหยุดเดินพยายามเงี่ยหูฟังให้ชัดๆ ก่อนจะแน่ใจว่าสองเสียงนั้นเป็นของใคร สายตาคมกริบเลยอดจะส่ายมองไปยังทิศทางนั้นซะไม่ได้ เขาเห็นรำเพยกับไอ้มิ่งแก้วเพื่อนเกลอกำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ตรงแคร่ไม้ไผ่ใต้ต้นมะม่วง ความรู้สึกผิดผุดพรายเข้ามากระแทกหัวใจ ทองก้อนมองคนทั้งคู่อยู่สักพักก่อนจะตัดใจเดินเลี่ยงไปอาบน้ำยังบึงหลังเรือน หมายให้น้ำเย็นช่วยขจัดความรู้สึกหน่วงในหัวอก ยังไงเขาก็ยังอยากผูกแขนสายบัวอยู่วันยังค่ำ ------------------------------------------- เรือนนายสุขได้ต้อนรับแขกผู้มาเยือนในอาทิตย์ถัดมา เป็นชายหนุ่มใบหน้าสวยหวาน รูปร่างสูงโปร่งแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสะอาดสะอ้านตา เส้นผมดำขลับจัดแต่งจนเรียบทุกกระเบียดนิ้ว ช่างถูกใจนายสุขผู้เป็นบิดานักหนา เจ้าตัวจึงดูกระตือรือร้นให้การต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี เสือกลับมาหารำเพยเพื่อมาทวงถามคำตอบซึ่งให้ไว้ก่อนเขาจะลากลับในวันนั้น อาจด้วยความถูกชะตาหรือถูกใจในความงามของสาวเจ้า เสือจึงปรารถนาอยากให้เจ้าตัวได้ร่ำเรียนหนังสือมีความรู้เฉกเช่นเดียวกันกับบรรดาหญิงสาวหลายคนในหมู่บ้านดาวเรือง ตกเย็นวันนั้นวงสำหรับบ้านนายสุขจึงเกิดเสียงสนทนาออกรสออกชาติ ของชายต่างวัย สำรับกับข้าวเองก็ล้วนเป็นฝีมือของรำเพยเลยยิ่งสร้างความประทับใจแก่เสือ พออิ่มข้าวนายสุขจึงปลีกตัวกลับเข้าห้อง หลีกทางให้สองหนุ่มสาวได้นั่งพูดคุยกันตามสบาย ความถูกใจกับความหวังอยากจะให้ลูกสาวเพียงคนเดียวได้ออกเรือนสักทีอยู่ทุกขณะจิตเลยยิ่งทำให้นายสุขมีความสุขมากมาย “ถ้าฉันสนใจอยากเรียนหนังสือ จะต้องเริ่มยังไงหรือจ๊ะ?” สุดท้ายรำเพยก็ตอบตกลงจะไปเรียนกับเสือ เหตุผลหลักๆเธอต้องการสลัดความทุกข์ในใจให้หมดสิ้น เบื่อตัวเองที่ยังคงจมจ่อมกับอารมณ์เศร้าเสียใจในขณะตัวต้นเหตุกับใช้ชีวิตแสนน่าจะอิจฉา เธอไม่ได้ตั้งใจเห็นแต่ก็มักจะเห็นคนทั้งคู่คอยพะเน้าพะนอเอาอกเอาใจกันบ่อยครั้ง พ่อบอกว่าพี่ทองก้อนจะผูกข้อมือรับสายบัวเป็นเมียภายในอาทิตย์หน้า จะมีงานเลี้ยงเล็กๆน้อยๆสำหรับญาติหรือคนสนิท รำเพยไม่มีความคิดเห็น แน่นอนว่าเธอไม่อาจไปร่วมงานเลี้ยงฉลองความรักของเขาได้แน่ๆ เสือคลี่ยิ้มมุมปาก ดีใจที่รำเพยตอบตกลง “รออยู่ที่เรือนนี่แหละ ตอนเช้าพี่จะควบม้ามารับไปหมู่บ้านดาวเรือนพร้อมกัน ส่วนตอนเย็นก็จะมาส่งให้ถึงเรือนอย่างปลอดภัยด้วย” เสือมีม้าตัวใหญ่ใช้เป็นพาหนะในการเดินทาง จึงค่อนข้างสะดวกสำหรับการอาสามาคอยรับส่งสาวในหนนี้ รำเพยยกมือไหว้ขอบคุณเขา “ฉันต้องขอบน้ำใจพี่เสือมากจริงๆนะจ๊ะ อุตส่าห์มาคอยเป็นธุระจัดการเรื่องเรียนหนังสือของฉัน” “พี่เต็มใจ และดีใจมากๆที่รำเพยใฝ่หาความรู้ใส่ตัว” โดยปกติหญิงสาวต่างหมู่บ้านมักไม่ชอบเรียนหนังสือนัก ส่วนใหญ่พอเริ่มแตกเนื้อสาวพ่อกับแม่ก็จะมองหาชายหนุ่มมาผูกแขนรับลูกสาวตัวเองไปเป็นแม่ศรีเรือน ต่างจากรำเพย เขาได้ยินนายสุขบอกว่าลูกสาวตนนั้นอายุเยอะแล้วแต่ไม่มีใครมาขอผูกข้อมือสักที คนเป็นพ่อเป็นกังวลในหนักมาก ปรารถนาอยากให้ลูกสาวได้ออกเรือน เสือจึงหลงเข้าข้างตัวเองคิดว่านี้อาจเป็นเพราะพรหมลิขิตบันดาลให้เขาได้มาเจอเจ้าหล่อนซะก่อนหรือเปล่า... “อาจเป็นเพราะว่าอายุฉันหาใช่น้อยๆ หากเวลานี้ก็ยังหาชายใดมาผูกแขนรับเป็นเมียไม่ได้สักที เลยอยากลองไปร่ำเรียนมีความรู้ติดตัวกับเขาดูบ้างเผื่อจะมีชายคนไหนเห็นคุณค่า...” ถึงคนที่เธออยากให้เห็นคุณค่าเขากำลังจะมีความสุขกับผู้หญิงที่เขารักก็ตาม เสืออมยิ้ม เอียงคอมองหญิงสาวลึกซึ้งก่อนจะเอ่ยปากลา... ชายหนุ่มกระโจนขึ้นหลังม้าตัวงาม “อีกสองวันพี่จะมารับ...” “จ้ะ...ฉันจะรอ” รำเพยยกมือโบกลาเสือ ใบหน้าสวยหวานแจ่มใสขึ้นมาจากหลายวันก่อน ใต้ขอบตาถึงจะยังทิ้งร่องรอยบวมช้ำถูกกลบด้วยดวงตาชื่นชม ร่างหนาซึ่งเมื่อสักครู่กระเด้งหลบอยู่หลังต้นมะขาม ก้าวเท้าออกมาปรากฏตัวต่อหน้าหญิงสาว รำเพยแหงนหน้าขึ้นมอง ดวงตาดำขลับแน่วนิ่งไม่ไหวติ่งต่อคนตรงหน้า ถึงแม้ภายในโพรงอกจะบีบรัดจนเธอรู้สึกอึดอัดหายใจไม่สะดวก รำเพยยังฝืนเชิดใบหน้าไว้อย่างกล้าเก่ง “ได้ยินว่าเอ็งจะไปเรียนหนังสือ” ทองก้อนเอ่ยถามเสียงทุ้มนุ่ม ผิดแผกจากแต่ก่อนไปมาก “อืม...” รำเพยตอบแค่นั้นแล้วเดินเลี่ยงเพื่อจะกลับขึ้นเรือน หัวใจที่ยังมีชายตรงหน้าครอบครองไว้เต็มดวงต่อให้เข้มแข็งแค่ไหน รำเพยก็กลัวมันจะประจานความอ่อนแอออกมาให้เขาได้เห็น ทองก้อนเดินตามมาไม่ห่าง ยังมีเรื่องค้างคาใจที่เขาต้องจัดการเคลียร์กับรำเพยให้เข้าใจ “พี่อยากจะขอโทษเอ็งสำหรับเรื่องในวันนั้น...” รำเพยเม้มกลีบปาก หัวใจเจ็บจี๊ดขึ้นมาอีกจนได้ ไม่รู้จะตามมาขุดคุ้ยให้มันเกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาอีก “ช่างเถอะ...ฉันลืมมันไปหมดแล้ว” รำเพยตัดบทเร่งฝีเท้าเดินให้เร็วขึ้น เพราะกลัวน้ำตาจะไหล ทองก้อนอยากจะคุยกับรำเพยให้กระจ่างมากกว่านี้เขาจึงคว้าแขนเรียวยึดให้หญิงสาวที่เขารู้สึกเพียงแค่น้องสาวหยุดเดิน ตอนนั้นเองเสียงตะโกนของมิ่งแก้วก็ดังขึ้น “ไอ้ทองก้อน...อ้าว...รำเพยก็อยู่ด้วยหรือ?” “จ้ะ...พี่มิ่ง...พี่มาก็ดีแล้ว ฉันมีเรื่องอยากจะปรึกษา” รำเพยสะบัดมือของทองก้อนออกแล้วปรี่มาเกาะแขนของมิ่งแก้วแทน ใบหน้าหวานอมเศร้าเงยขึ้นส่งเสียงออดอ้อน ภาพนั้นเลยทำให้ทองก้อนขัดตาชอบกล หากเพียงชั่วครู่เขาก็สลัดความรู้สึกนั้นทิ้ง คงจะรู้สึกอิจฉาเพราะเมื่อก่อนเจ้าหล่อนก็ทำนิสัยออดอ้อนแบบนี้กับเขาเสมอ “ได้สิ...แต่ขอไปคุยธุระกับไอ้ทองก้อนสักประเดี๋ยว” “จ้ะ...ฉันจะเลี้ยงขนมบัวลอยพี่ด้วย ทำไว้เยอะเลย” รำเพยเสนอขนมที่เป็นของของโปรดทองก้อน “ดี...กำลังหิว เลี้ยงข้าวพี่ด้วยก็ดีนะ เบื่อรสมือไอ้ฤทธิ์ฉิบหาย ไม่เค็มก็เผ็ดมีอยู่สองอย่าง” รำเพยหลุดเสียงหัวเราะ “ไม่มีปัญหา...ฉันจะไปหุงข้าวรอ ส่วนกับข้าวยังมีให้พี่กินอีกเพียบ” ทั้งสองพูดคุยกันเพลินจนหลงลืมว่าทองก้อนยังยืนหัวโด่อยู่ด้วยทั้งคนชายหนุ่มจึงส่งเสียงกระแอม “มึงมีธุระจะพูดกับกูไม่ใช่หรือไงไอ้มิ่ง จะไปได้หรือยัง...” “เอ่อ...ไปสิ...กูจะได้กินขนมบัวลอยรสหวานของรำเพยมัน มึงก็รู้นี่หว่าขนมบัวลอยบ้านใคร รสชาติก็ไม่หอมหวานเท่ากับบัวลอยของนังรำเพย” ทองก้อนรู้ดีเชียวแหละแต่เขาไม่ตอบ ลากคอไอ้คนพูดมากเดินมายังเรือนของตัวเอง สายบัวเพิ่งจะโผล่หน้ามาจากห้องครัวพอดี ----------------------------------------
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD