ปึกๆๆๆๆ
“อ๊ะๆๆๆ หมอคะ เบาๆหน่อย ...เสียวจังเลย” สิงห์จัดร่างของริต้าให้อยู่ในเฟรมกล้องที่วางไว้ก่อนจะเริ่มบทรักสุดร้อนแรง เขาแสดงความดิบเถื่อนออกมาเพียงแค่ครึ่งเดียว
แต่แค่นั้นริต้าก็แทบจะขาดใจตายใต้ร่างเขาอยู่แล้ว มือบางบีบหน้าอกตัวเองอย่างรุนแรงเพื่อระบายความเสียวซ่าน นี่แหละเซ็กซ์ที่เธอต้องการ
“อ้าขากว้างกว่านี้” ร่างสูงกระแทกเอวเข้าออกอย่างรุนแรงจนกลีบดอกไม้บวมช้ำ แต่แทนที่จะรู้สึกผิดเขาเลือกที่จะกระแทกเข้าไปแรงกว่าเดิมจนริต้าต้องเบ้หน้าด้วยความเจ็บ
แม้ว่าเธอจะเคยผ่านผู้ชายมาแล้วแต่ไม่เคยมีใครที่ทนและอึดเท่ากับคุณหมอใหญ่ แบบนี้เธอยอมตายถวายหัวเพื่อจะให้ได้เขามาบำเรอให้เธอแบบนี้ทุกวัน
“อ๊ะๆๆๆ แรงอีกๆ เสียวมากเลยค่ะ ริต้าจะเสร็จแล้ว กรี๊ดดดดด” เสียงหวีดร้องอย่างสุขสมก่อนที่ภายในจะบีบรัดแท่งเนื้อของเขาแล้วปล่อยน้ำหวานสีใสออกมาเคลือบถุงยางจนมันวาว
ด้านสิงห์เองก็เร่งจังหวะเพราะเสียวจากการที่ถูกริต้าบีบจนแน่นผ่านถุงยาง
ปึกๆๆๆๆๆๆๆ
“ซี๊ดด แตกแล้ว!! อ่าส์” น้ำเชื้อสีขาวขุ่นถูกฉีดเข้าไปจนเต็มถุงยางก่อนจะถูกคนตัวโตรูดทิ้งแล้วสวมอันใหม่เข้าไปก่อนจะเริ่มกระแทกริต้าต่อโดยที่ไม่มีหยุดพัก
“เบาๆ ริต้าแสบไปหมดแล้วค่ะหมอขา ซี๊ดดด อูยย” ร่างบางโก้งโค้งรอรับแรงกระแทกจนขาสั่น ...หึ แบบนี้ก็แสดงว่าเขาติดใจรสชาติเซ็กซ์ของเธอแล้วสินะ นังพยาบาลคนนั้นจะได้เลิกฝันสูงซะที
SING ON
“ซี๊ดดอ่าส์” ยิ่งคิดว่าผู้หญิงที่ผมกำลังกระแทกอยู่เป็นพยาบาลคนนั้นก็ยิ่งมีอารมณ์ มันเสียวและมีความสุขไปพร้อมๆกัน ...ผู้หญิงคนนี้คือใครก็ไม่รู้แต่ผมมีวิธีที่จะใช้งานเธอได้ก็แล้วกัน
“อ๊าๆๆๆๆ หมอขา ริต้าเสียว ...แรงอีกๆ” เธอสวนเอวกลับมาหาผม เสียงเนื้อกระทบกันดังแข่งกับเสียงเตียงที่กระแทกกำแพงลั่นไปทั่งทั้งห้อง กลีบดอกไม้ที่บวมช้ำจนแทบจะกลายเป็นสีม่วงคือสัญญาณบ่งบอกว่าควรต้องพอ
“หุบปากแล้วครางไปอย่างเดียว”
ปึกๆๆๆๆๆๆ
“กรี๊ดดด โอ๊ย เบาๆหน่อยค่ะคุณหมอ ...ริต้าเสร็จแล้ว!!!! อ๊า!!!! แตกแล้ว!!! สัสเอ้ย!” ผมรูดถุงยางทิ้งแล้วเดินไปกดหยุดบันทึกวิดีโอและไม่แม้แต่จะหันไปสนใจร่างบางที่นอนแผ่อยู่บนเตียง
“หวังว่าเสือจะรับมือกับผมได้ครับ หึๆ”
SING OFF
“อื้อ จะไปไหนล่ะคะคุณหมอ ...ริต้ายังเหนื่อยอยู่เลย” เขาปัดมือของเธอที่จับชายเสื้อออกก่อนจะมองด้วยหางตาแล้วเดินผิวปากออกไปอย่างอารมณ์ดี
ส่วนริต้าก็ไม่สามารถที่จะตามเขาไปได้เพราะช่วงล่างของเธอตอนนี้มันทั้งชาและแสบ มันทรมานเกินกว่าที่เธอจะลุกขึ้นมานั่ง
“ไง กว่าจะโผล่หัวกลับบ้านก็ปาไปเที่ยงคืนกว่าแถมยังเดินผิวปากเข้ามาอีก ...แผนแกคงใกล้จะสำเร็จแล้วสินะ” สิงห์ยิ้มเหมือนว่าสิ่งที่พ่อเขาพูดตัวเขาเองไม่รู้เรื่อง
“พูดอะไรอย่างนั้นครับ ผมเป็นคนแบบนั้นในสายตาพ่อตั้งแต่เมื่อไหร่?” เขาเดินขึ้นห้องไปแล้วยิ้มสะใจก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง
“ผมสามารถทำลายเสือได้แล้วนะครับ ฮ่าๆๆๆๆ”
“อื้อ ปวดหลังจังเลย” ม่านแก้วตื่นขึ้นมาในเช้าของอีกวันด้วยอาการปวดเมื่อยอย่างถึงขีดสุด เหมือนกับร่างของเธอโดนรัดมาตลอดทั้งคืนอย่างนั้นแหละ
“อืม ...อย่าเพิ่งขยับ” เสียงทุ้มข้างหูทำเอาม่านแก้วกรี๊ดบ้านแทบแตก
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด อุ๊บ!” มือหนาตะปบเข้าที่ปากของม่านแก้วก่อนที่เธอจะส่งเสียงดังไปมากกว่านี้แล้วจะมีคนเข้ามาเจอสองคนนอนด้วยกัน
“อื้อๆๆๆ!!!” ร่างเล็กส่งเสียงปะท้วงแต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยอยู่ดี เพราะถ้าเอามือออกมีหวังเขาโดนยัยตัวเล็กนี่บ่นจนหูชาแน่นอน
“เลิกมองด้วยสายตาแบบนั้นได้แล้วน่า ...ฮ้าวว โอเคๆยอมแล้ว” ทันทีที่เขาดึงมือออกม่านแก้วก็เตรียมตัวจะแว้ดใส่แต่เขารู้ทันเลยชิงวิ่งเข้าห้องน้ำไปก่อน
“หมอบ้า!!!” ม่านแก้วสำรวจดูตัวเองว่ามีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นหรือเปล่าแต่ก็โชคดีที่ไม่มีอะไร
“แล้วเข้ามาได้ยังไงในเมื่อเราล็อคห้องเอาไว้ ...หมอบ้า!”
“ยังไม่หายโกรธอีกเหรอ ...ก็มันปวดหลังอ่ะ นอนไม่หลับด้วย” เสือเห็นว่าครั้งนี้ม่านแก้วท่าทางจะโกรธจริงก็เลยต้องงัดสารพัดวิธีการง้อที่ไม่เคยทำกับใครเลยมาเพื่อเธอคนเดียว
“....” ม่านแก้วยกหนังสือหนีไปอีกทางไม่แม้แต่จะมองหน้าเขา ...คนน่าโมโหเธอบอกแล้วแท้ๆว่าอย่าเข้ามานอนในห้องโดยไม่ได้รับอนุญาต
“เอ๊ะ หมอเอาหนังสือคืนมานะ” ม่านแก้วจิ๊ปากอย่างไม่พอใจเพราะเขาดึงหนังสือจากมือเธอไปไว้ข้างหลังตัวเอง
“บอกให้เรียกว่าไง ...หรือต้องให้รื้อความจำก่อน?”
“หมอผิดอยู่นะ ...คนอะไรนิสัยไม่ดี”
“คนที่แก้วว่าก็แฟนแก้วนั่นแหละ”
“นิสัยไม่ดีแบบนี้ไม่อยากจะได้แล้วเมื่อก่อนไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย”
“ก็ไม่เคยบอกว่าเป็นคนนิสัยดีเลยแม้แต่ครั้งเดียว ...แก้วอ่ะเข้าใจไปเองทุกอย่าง” เธออยากจะข่วนหน้าเขาให้เป็นรอยยาวเลยทำไมถึงได้ทำตัวกวนโมโหแบบนี้นะ
“ไม่อยากคุยด้วยแล้ว ...หลีกไปสิคะ” เขายิ้มแล้วยกมือชูขึ้นสองข้างก่อนจะหลบไปอีกด้านเพื่อให้เธอผ่านทางได้สะดวก
“หิวอ่ะ หาอะไรให้กินหน่อยสิครับ” ไม่พูดเปล่า เขากอดเธอจากทางด้านหลังแล้วเอาคางเกยไว้
“มะ หมอ ปล่อยก่อนอย่ามาทำรุ่มร่ามแบบนี้” ยิ่งม่านแก้วเขินอายท่าไหร่เสือก็ยิ่งพอใจและมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นสีหน้านั้น เขามักจะยิ้มกว้างมากกว่าที่เคยทำเมื่อได้ใช้เวลาอยู่กับเธอ
“ปกติคนที่เป็นแฟนกันแรกๆนี่เขาจะต้องหวานกันหรือเปล่า ...ทำไมคู่เราถึงได้ตีกันทุกครั้งที่อยู่ด้วยกันทั้งๆที่เพิ่งจะคบกันไม่เท่าไหร่เอง?” ม่านแก้วคิดตามที่เขาพูด มันก็จริงเพราะตั้งแต่ตกลงคบกันเธอกับเขาก็มีเรื่องให้เถียงกันทุกวัน เรื่องเล็กน้อยก็เอามาเถียงกันได้
...และส่วนใหญ่ก็จะเป็นเขาที่ยอมตลอด
“ก็หมอกวนประสาทแก้วเองนี่นา” ม่านแก้วเดินหนีเข้าไปในครัวแต่ก็โดนเสืออุ้มให้นั่งอยู่บนโต๊ะกินข้าวแล้วเอาขาของเธอรัดเอวเขา
กลายเป็นว่าตอนนี้ท่าทางของทั้งคู่มันดูสุ่มเสี่ยงมากกว่าตอนที่อยู่บนเตียงเมื่อคืนอีก
“ปากเป็ดอีกแล้ว ...น่ารักแบบนี้ขอจูบหน่อยนะครับ” เธอหลับตาปี๋ตอนที่เขายื่นหน้าเข้ามาเพื่อจะสัมผัสกับริมฝปากของเธอ
...ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันเพราะว่าเธอก็โหยหามันตลอดทั้งคืน
แกร๊ก!
“ม่านแก้ว!!! เหวอ!!!! ...คุณหมอใหญ่!!!” มาแตร์เพื่อนรักของเธอกลับมาโดยที่ไม่บอกเพื่อที่จะเซอร์ไพรส์แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้ม่านแก้วหรือมาแตร์กันแน่ที่เซอร์ไพรส์
KAEW ON
ฉันถึงกับเอามือกุมขมับเลยทีเดียวเพราะรู้ว่าคงต้องอธิบายให้เพื่อนรักคนนี้ฟังอีกยาววววว แต่ตอนนี้ต้องไปบอกให้มันหยุดทำหน้าล้อฉันก่อน
“พอเลยๆ เลิกทำหน้าแบบนั้นมาแตร์ ...แล้วเมื่อไหร่หมอจะปล่อยแก้วล่ะคะ” เขาอุ้มฉันลงวางที่พื้นแล้วยืนซ้อนหลัง ฉันสังเกตุได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของหมอใหญ่เพราะเขาทำตัวสุภาพแต่ดูห่างเหินกับมาแตร์มาก
...ผิดกับตอนที่อยู่กับฉันลิบลับเลย คงเป็นอย่างที่เขาเคยพูดไว้ว่าเขาไม่ค่อยชอบทำตัวสนิทสนมกับใครมากเพราะทุกคนล้วนแต่หวังผลประโยชน์จากเขาทั้งนั้น
“กลับมาไม่บอกเลยนะ” ฉันบอกมันอย่างงอนๆเพราะปกติมาแตร์จะโทรบอกฉันเสมอว่าวันไหนที่จะกลับมาที่ไทย มันทั้งเก่งและเรียนดีแถมยังได้ทุนไปทำงานที่ต่างประเทศอีกด้วย
“ตอนแรกกะจะมาเซอร์ไพรส์แต่ดูท่าแล้วคงเป็นฉันมากกว่าที่โดนเธอเซอร์ไพรส์กลับเนี่ย ...เล่ามาเดี๋ยวนี้เลยนะว่าอะไรยังไง” ฉันส่งสายตาปรามๆมันให้ลดความอยากรู้ลงอีกหน่อย เจ้าตัวเขายังอยู่ในห้องอยู่เลยจะให้นินทาต่อหน้ามันก็คงไม่ได้มั้ง
“เธอมีคนอยู่ด้วยแล้วฉันก็สบายใจเอาเป็นว่าฉันไปทำงานก่อนแล้วกัน อย่าลืมเอาข้าวเที่ยงไปกินด้วยกันนะ ...ผมขอตัวก่อนนะครับ” เขาลูบที่หัวฉันเบาๆก่อนจะก้มลงจูบที่หน้าผากเหมือนที่เคยทำตอนก่อนที่ยังไม่เป็นแฟน
“อูย จูบหัวกันด้วย น่ารักเนอะ ฮะๆ” คุณหมอเดินออกไปพ้นประตูแล้วยัยมาแตร์ก็แทบจะกระโดดมาสิงร่างฉันเลย แถมยังทำหน้าอยากรู้มากซะเต็มประดา
“เลิกล้อได้แล้ว”
“อ๊ะๆ จะเดินไปไหนจ้ะ นั่งเดี๋ยวนี้เลยแกถ้าฉันยังไม่ได้ความจริงก็ไม่ต้องมีใครไปไหนกันแล้ววันนี้” ฉันเลยตัดสินใจเล่าเรื่องทุกอย่างให้มาแตร์ฟังแต่ก็ไม่ได้เล่าเรื่องเมื่อคืนไปเพราะเดี๋ยวเพื่อนสาวของฉันจะหัวใจวายตายไปซะก่อน
“หูย แกเขาดีงามมาก ฉันฟินไปหมดแล้วเนี่ย” มันทำหน้าเคลิ้มฝันสุดฤทธิ์แถมยังจิกหมอนจนเกือบจะขาด อะไรจะฟินขนาดนั้นเนี่ย
“อ้าว กลับมาทำไมคะ” คุณหมอเดินเข้ามาด้วยท่าทางรีบร้อนคงเพราะตอนนี้มันใกล้เวลาเข้างานมากแล้วและเขาก็ยังอยู่ที่นี่
“ลืมเอากระเป๋าเอกสารไปน่ะสิ” ฉันเดินไปหยิบให้เขาก่อนจะเดินไปส่งที่ประตู ร่างสูงก้มลงมาจูบแก้มฉันก่อนจะเดินออกไป
“จ้า ไม่ชอบเขาแม้แต่นิดเดียวเลยเนอะ ...แกรู้มั้ยว่าตอนนี้แกยิ้มจนปากจะฉีกถึงหน้าผากอยู่แล้ว” มันยิ้มอย่างรู้ทันแล้วเดินเข้าห้องนอนไป
“ก็ไม่ได้ชอบ ...มั้ง”